จักรพรรดิมังกร - บทที่ 806 อันตราย!
ทีนี้ดีละ มียาความจริงอยู่ หลี่โม่ก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากแล้ว
ชายวัยกลางคนไม่สังเกตเห็นสีหน้าของหลี่โม่ที่เปลี่ยนไป แล้วอวดผลวิจัยของตัวเองต่อ แล้วก็แนะนำผลการทำงานของสิ่งต่างๆให้หลี่โม่ฟัง
หลี่โม่หยิบยาความจริงขึ้นมา จากนั้นก็พ้นใส่หน้าของชายวัยกลางคน ตามมาด้วยชายวัยกลางคนที่พูดเป็นน้ำไหลไฟดับก็เงียบในทันที แววตาก็เหม่อลอย
หลี่โม่ลองถามว่า “จางเต๋ออู่อยู่ที่ไหน?”
“ฉันไม่รู้ ที่อยู่ของเขาลึกลับมาก เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องของเขาให้ฉันฟังมาก่อน”
“งั้นนายรู้มั้ยว่าจางเต๋ออู่พาพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงไปไว้ที่ไหน?”
หลี่โม่ทำได้เพียงเปลี่ยนคำถามอีกครั้ง
“ไม่แน่ใจ แต่ฉันรู้ว่า ปกติแล้วจางเต๋ออู่จะพาคนไปที่เมืองมืด”
“เมืองมืดอยู่ที่ไหน?”
เมื่อหลี่โม่จับประเด็นหลักได้แล้ว ก็สอบถามต่อ
“จางเต๋ออู่เคยพูดกับฉันน้อยมาก เขาบอกว่าเมืองมืดคือชีวิตของเขา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“ตำแหน่งโดยประมาณอยู่ที่ไหน”
เมื่อหลี่โม่ได้ยินอย่างนั้น ก็มั่นใจมากว่าพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงอยู่ที่เมืองมืด ไม่แน่อาจจะถูกจางเต๋ออู่จับตาดูอย่างดีแล้วก็ได้ เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามต่อ
“โดยประมาณแล้วอยู่ที่นี่”
ชายวัยกลางคนหากระดาษออกมาใบหนึ่ง จากนั้นก็เขียนออกมา
เมื่อหลี่โม่รับมาแล้ว ดูซ้ำไปมา มั่นใจแล้วว่าเมืองฮ่านมีที่แห่งนี้อยู่จริง ถึงได้จากไป
หลังจากนั้นสิบนาที ชายวัยกลางคนได้สติกลับมา เขานวดขมับแล้วพูดว่า “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคนคนนั้นถึงได้ไปแล้วละ? ช่างเถอะ ไม่สนใจอะไรมากแล้ว ทำวิจัยต่อดีกว่า”
เขาทำเป็นว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้นมาก่อน กลับเข้าสู่ห้องนอนแล้วก้มหน้าก้มตาทำวิจัยต่อไป
ในเวลานี้หลี่โม่ไม่ลืมที่จะบอกเรื่องนี้กับหัวหน้าจาง มีคนกำลังทำสิ่งประดิษฐ์อันตราย มอบหมายให้หัวหน้าจางจัดการนั้นดีที่สุดแล้ว
หลี่โม่มองดูระเบิดติดตั้งรถในมือ ไม่สนว่าอันนี้จะเอามาใช้กับใคร ในเมื่อจางเต๋ออู่ใช้ใส่คนอื่น หลี่โม่ไม่มีทางให้แผนการของอีกฝ่ายสำเร็จแน่นอน ส่วนเรื่องระเบิดติดตั้งรถ เขาจะเก็บไว้ก่อนชั่วคราว
ถึงเวลาแล้วก็คืนให้กับจางเต๋ออู่ แล้วตัวเขาได้ลิ้มรสผลของความชั่วร้ายที่เขาสร้างขึ้น
หลี่โม่มาที่ตำแหน่งของเมืองมืดตามข้อมูลในกระดาษ เมื่อตอนที่เขามาถึงเมืองมืด เขาก็พบว่าเมืองมืดแห่งนี้ไม่ได้คึกคักอย่างที่เขาคิดไว้ แต่กลับเงียบสงบมาก
และบนถนนก็ไม่มีใครสักคน แต่ละที่ต่างก็มีความมืดมน หลี่โม่บังเอิญเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งเรือข้ามฟากไปมา เหมือนกับว่ากำลังตรวจลาดตระเวนอยู่
หลี่โม่เห็นว่าที่นี่เข้มงวดขนาดนี้ ถ้าอยากจะลักลอบเข้าไป คงไม่ง่ายอย่างนั้น ในตอนที่เขากำลังทำอะไรไม่ถูก เขาก็เห็นภาษามือที่คนพวกนั้นพูดคุยกัน
เขาชะงักไปเล็กน้อย หรือว่าภาษามือนี้คือสัญญาณงั้นหรอ? เขาจึงรีบฝึกฝนภาษามือตามด้วยในทันที ก็แค่ไม่กี่ขั้นตอนนั้น
เขาเดินออกไป บังเอิญเจอกับคนกลุ่มหนึ่งพอดี คนพวกนั้นก็ใช้ภาษามือสื่อสารกันทันที หลี่โม่เองก็ใช้ภาษามือตอบไป
แต่ที่ยังดีก็คือ เขาเรียนรู้ได้ไวมาก เพียงครู่เดียวก็อำพรางไปได้ ถ้าหากว่าจางเต๋ออู่รู้ว่าภาษามือของตัวเองถูกหลี่โม่ฝึกฝนไปอย่างง่ายดายขนาดนี้ คาดว่าคงจะกระอักเลือด
“ทำไมนายถึงตัวคนเดียว?” เมื่อผ่านภาษามือไปแล้ว คนพวกนั้นถึงได้เปิดปากพูด
หลี่โม่พูดยิ้มๆว่า “ผมมีเพื่อนคนหนึ่งไปห้องน้ำแล้ว เดี๋ยวเขาก็กลับมา”
“แบบนี้นี่เอง” คนพวกนั้นเองก็เชื่อ ในตอนที่พวกเขาเตรียมจะไปตรวจลาดตระเวนต่อ หลี่โม่ก็เรียกพวกเขาไว้
“พวกนายรู้มั้ยว่าพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงถูกขังไว้ที่ไหน?”
“แค่นี้นาก็ไม่รู้ นายมาใหม่งั้นหรอ พ่อแม่ของเธอถูกขังไว้ที่ห้องประตูเหล็กตรงทางเลี้ยวขวา”
เมื่อหลี่โม่ได้ยินอย่างนั้น มุมปากก็ยกยิ้ม ข้อมูลมาเร็วจริงๆ คนพวกนี้ก็โง่เกินไปแล้ว บอกข้อมูลสำคัญขนาดนี้กับเขาง่ายๆแบบนี้
เขาเองก็ไม่เสียเวลากับคนพวกนั้น ใช้ภาษามือที่ฝึกฝนมาผ่านได้ตลอดทาง หลี่โม่ไม่ถูกขัดขวาง เขามาถึงห้องประตูเหล็กที่คนพวกนั้นบอก
เขาปีนอยู่ที่ประตูเหล็ก ด้านในว่างเปล่า แทบจะดูไม่ออกว่าด้านในมีอะไรอยู่
หลี่โม่เปิดไฟฉาย แล้วเขาก็เห็นชายหญิงวัยกลางคนคู่หนึ่งหลบอยู่ที่มุม เสื้อผ้าเก่าเสียหายไปหมด ดูแล้วน่าอนาถอย่างมาก
เมื่อหลี่โม่เห็นภาพนี้แล้ว ก็พูดเสียงเบาว่า “พวกคุณคือพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงรึเปล่าครับ?”
เมื่อชายหญิงวัยกลางคนคู่นั้นได้ยินคนกำลังเรียกพวกเขา พวกเขามองหลี่โม่อย่างป้องกันตัวเอง เมื่อหลี่โม่พูดซ้ำๆว่าตัวเองมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา พวกเขาถึงได้ปล่อยวางการป้องกันตัว
“ใช่แล้ว พวกเราคือพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถง นายมาช่วยพวกเราใช่มั้ย?” คนพวกนั้นถามอย่างตื่นเต้นดีใจมาก
หลี่โม่พยักหน้า เขาไม่พูดอะไรมาก แล้วก็เอามีดสั้นอันหนึ่งเข้าไป ประตูของห้องนั้นเปราะบางมาก ไม่นานก็ถูกหลี่โม่แยกออกแล้ว
เมื่อพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงเห็นอย่างนั้นแล้ว ต่างก็ตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าหลี่โม่จะมีความสามารถเก่งขนาดนี้ ถ้าหากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง พวกเขาคงไม่กล้าเชื่อว่าเป็นความจริง
“พวกคุณออกมาได้แล้วครับ” หลี่โม่พูด
พ่อของเฉินเสี่ยวถงรีบทำมือให้เงียบ พูดว่า “นายเงียบหน่อย อย่าได้ทำให้เขาตื่นเด็ดขาด สัตว์ประหลาดตัวนั้นกำลังนอนอยู่”
หลี่โม่ชะงักเล็กน้อย สัตว์ประหลาด? เขาเพิ่งเคยได้ยินคำนี้ครั้งแรก เขาจึงใช้ไฟฉายส่องดูห้องนี้ และแล้ว เขาเจอเข้ากับสัตว์ประหลาดที่ตัวเต็มไปด้วยขนนอนอยู่ตรงนั้น และยังมีเสียงกรนด้วย เขาเริ่มสงสัยขึ้นมาว่า สัตว์ประหลาดตัวนี้ใช่สัตว์ประเภทบิชอพหรือเปล่า
แต่ว่า ดูสภาพแล้ว ไม่ต่างอะไรกับคนเลย
แต่ว่า เพื่อลดปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาถึงได้ให้พ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงค่อยๆเดินออกมา ในตอนที่พ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงขยับเดิน ไม่ระวังแล้วไปเตะโดนโซ่ของสัตว์ประหลาดตัวนั้น
สัตว์ประหลาดตัวนั้นรีบสะดุ้งตื่นขึ้นมา ดวงตาของมันมืดลึกมาก ในเวลากลางคืนนั้นทำให้คนหวาดกลัวมาก ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดก็ส่งเสียงคำรามออกมา
เสียงคำรามแบบนี้ ทำลายความเงียบในตอนกลางคืน สายตรวจในเมืองมืดต่างก็ตกใจ พวกเขารู้ในทันทีว่าที่ไหนเกิดปัญหาขึ้น มีเพียงแค่ห้องนั้นเท่านั้นที่มีสัตว์ประหลาด!
หลี่โม่สีหน้านิ่งขรึม นี่มันอะไรที่ควรเจอก็ได้เจอจริงๆเลย เขาคิดถึงจุดที่แย่ที่สุดไว้แล้ว ถูกจับได้ก็ยังดีกว่าช่วยคนออกไปไม่ได้ละนะ
สัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยขนตัวนั้นพุ่งเข้ามาในทันใด กรงเล็บนั้นแหลมคมจนเหมือนกับว่าจะสามารถข่วนกำแพงปูนให้เป็นรอยได้
หลี่โม่รีบดึงพ่อแม่ของเฉินเสี่ยวถงมาในทันที เขามองสัตว์ประหลาดตัวนั้นอย่างเย็นชา
สัตว์ประหลาดขนตัวนั้นคำรามไม่หยุด พื้นแทบจะแยกออกแล้ว หลี่โม่ไม่กลัวไม่ขยับ ในตอนที่สัตว์ประหลาดนั้นพุ่งเข้ามา หลี่โม่ก็เหวี่ยงหมัดออกไป
สัตว์ประหลาดตัวนั้นส่งเสียงหงิงๆออกมา รับเข้ากับหมัดโดยตรง และก็แค่เซถอยออกไปสามสี่ก้าว