จักรพรรดิมังกร - บทที่ 812 สุนัขรับใช้ของท่านเทียน
โจงจุ้นหย่วนคิดว่า ตราบใดที่สามารถที่จะจัดการกับหลี่โม่ได้ก่อนก็จะจัดการได้ง่าย ถึงเวลานั้นกู้หยุนหลันติดปีกก็หนีไม่รอด และจะเสียเปรียบให้กับเขา
“คุณชายโจง เด็กเมื่อวานซืนอย่างเขา ทำไมจะต้องให้พวกเราลุยพร้อมกันด้วย”ชายรูปร่างสูงใหญ่เหล่านั้นถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ต่างก็แสดงการดูถูกที่จะลงมือกับหลี่โม่
โจงจุ้นหย่วนโบกมืออย่างหงุดหงิดแล้วพูดว่า: “พวกนายรีบกำจัดเขาทิ้งซะ ฉันไม่อยากจะเสียเวลาอยู่ที่นี่”
เขาแทบจะระงับอารมณ์ตื่นเต้นของตัวเองไว้ไม่อยู่ ต้องการให้สาวสวยอย่างกู้หยุนหลันอยู่ร่วมกันกับตัวเองในค่ำคืนที่มีความสุข เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร
หลังจากที่ชายรูปร่างสูงใหญ่เหล่านั้นได้ยินแบบนี้ ก็เข้าใจความคิดของคุณชายโจง พวกเขายิ้มอย่างรู้เท่าทัน และพูดกับหลี่โม่ว่า: “เด็กน้อย ตอนนี้แกไสหัวออกไป ก็จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานเนื้อหนัง”
พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับหลี่โม่ด้วยซ้ำ ร่างกายของอีกฝ่ายผอมบางเกินไป ถ้าหากพวกเขาลงมือ กลับเป็นพวกเขารังแกคน
ชายรูปร่างสูงใหญ่หนึ่งในนั้นเผยให้เห็นรอยยิ้มเหยียดหยาม และพูดว่า: “พวกนายไม่อยากลงมือ งั้นก็ให้ฉันมาสั่งสอนไอ้หมอนี่สักหน่อย”
คนอื่นๆก็แสดงความเห็นด้วย พวกขาไม่มีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาไม่ได้สนใจที่จะลงมือกับหลี่โม่ กลัวว่าลงมือแล้วหมัดของตัวเองจะสกปรก
ชายรูปร่างสูงใหญ่คนนั้นเดินมาอย่างเยือกเย็น แต่เขากลับไม่รู้ว่าต่อไปตัวเองจะพ่ายแพ้ เขาชกออกไปหนึ่งหมัด พลังของหมัดนี้รุนแรงเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าทำให้คนแทบจะไม่สามารถที่จะต้านทานไว้ได้
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ราวกับเห็นฉากที่หลี่โม่ถูกชกกระเด็นออกไป
โจงจุ้นหย่วนลูบคางอย่างเย่อหยิ่ง และพูดกับกู้หยุนหลันว่า: “คุณดูให้ดีๆ สามีคนนี้ของคุณไร้ประโยชน์มากแค่ไหน”
กู้หยุนหลันรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่เธอก็ยังมีความมั่นใจต่อหลี่โม่เป็นอย่างมาก เธอไม่เชื่อว่าหลี่โม่จะพ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
โจงจุ้นหย่วนเลียมุมปาก และพูดว่า: “คนสวย วางใจเถอะ ผมจะรักคุณเป็นอย่างดี”
แต่ผลลัพธ์ต่อมาทำให้ทุกคนตกตะลึง ชายรูปร่างสูงใหญ่คนนั้นก็กระเด็นตรงออกไป ตามรอยส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบที่อยู่ในอากาศ
คราวนี้โจงจุ้นหย่วนไม่สามารถที่จะสงบสติอารมณ์ไว้ได้แล้ว เขาขยี้ตา นี่คือหลี่โม่เหรอ? ทำไมถึงได้ทรงพลังมากขนาดนี้ ชกคนที่มีน้ำหนักหนึ่งร้อยกว่ากระเด็นได้ด้วยหมัดเดียว นี่ต้องทรงพลังมากแค่ไหน
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลี่โม่จะมีความสามารถขนาดนี้ เพราะว่าสิ่งนี้โค่นล้มทัศนคติทั้งสามของเขาจริงๆ
หลังจากที่เห็นว่าเพื่อนถูกชกจนกระเด็น ทำให้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนอื่นหวาดหวั่น พวกเขาถึงได้รู้ว่าตัวเองประมาทเกินไป ในดวงตาก็พลุ่งพล่านไปด้วยความแข็งแกร่ง
“พวกแกลุยพร้อมกัน” โจงจุ้นหย่วนกัดฟันตวาด หลังจากที่เห็นคนของตัวเองถูกชกกระเด็น เขาก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างหนึ่ง ถ้าเกิดกังฟูของหลี่โม่ไม่ธรรมดา ถ้าอย่างนั้นแผนการของเขาก็ล้มเหลวไม่ใช่เหรอ?
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาก็ต้องยับยั้งไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
ชายรูปร่างสูงใหญ่เหล่านั้นได้ยินคุณชายโจงพูดแบบนี้ ก็กำหมัดจนส่งเสียงดังกรอดๆ
หลี่โม่ก็รับมืออย่างสงบเยือกเย็น ในไม่ช้า ชายรูปร่างสูงใหญ่เหล่านั้นก็กระเด็นออกไป
ทุกคนถูกจัดการในท่าทางที่แตกต่างกัน และเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ตลก
หลังจากที่โจงจุ้นหย่วนเห็นกังฟูของหลี่โม่ อดไม่ได้ที่จะใจคอไม่ดี ข่าวลือบอกว่าสามีของกู้หยุนหลันเป็นเศษสวะไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้ต่อสู้ได้ขนาดนี้?
โจงจุ้นหย่วนเริ่มตื่นตระหนกขึ้นมา เขาเห็นหลี่โม่ค่อยๆเดินออกมา ขาทั้งสองของเขาเริ่มที่จะสั่นเทา ราวกับว่าในครั้งนี้เขาเข้าใกล้ความตายมากที่สุด
หลี่โม่ไม่อยากสร้างปัญหา พอเป็นพิธีไปก็พอสมควรแล้ว ดึงกู้หยุนหลันไว้เตรียมที่จะออกไป ตอนที่โจงจุ้นหย่วนเตรียมตัวที่จะขวางไว้ เขาก็ถูกสายตาที่เยือกเย็นของหลี่โม่ทำให้กลัว
โจงจุ้นหย่วนกล้ำกลืนความโกรธแค้นนี้ไว้ไม่ได้ เขาพูดข่มขู่หลี่โม่ว่า: “ถ้าวันนี้แกก้าวเดินออกไป เมืองฮ่านก็จะไม่มีแกอยู่แล้ว”
จางชิ่งฉวยโอกาสจากสถานการณ์นี้เอนตัวลงอยู่ในอ้อมกอดของโจงจุ้นหย่วน และพูดด้วยท่าทางที่โอเวอร์ว่า: “คุณชายโจง คุณเผด็จการเกินไปแล้ว”
ในใจของโจงจุ้นหย่วนพอใจเป็นอย่างมาก ชื่อเสียงของเขาอยู่ในเมืองฮ่านนั้นดังเป็นอย่างมาก วันนี้หลี่โม่ทำให้เขาเสียหน้าเป็นอย่างมาก เขาจำเป็นต้องกำจัดหลี่โม่
ฝีเท้าของหลี่โม่หยุดชั่วคราว โจงจุ้นหย่วนคิดว่าอีกฝ่ายกลัว และพูดโอ้อวดกำลังอีกครั้งว่า: “ฉันโทรหาเฮียเปียวแล้ว เดี๋ยวเขาก็มาแล้ว แกรู้มั้ยว่าเฮียเปียวเป็นใคร? เขาเป็นลูกน้องของท่านเทียน”
หลังจากที่หลี่โม่ได้ยินแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่หน้านิ่วคิ้วขมวด แต่กลับยกมุมปากขึ้น สิ่งนี้สำหรับเขา กลับเป็นเรื่องที่ดี จำเป็นต้องบอกว่า โลกนี้เล็กเกินไป อยู่ดีๆก็เจอกับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉู่จงเทียน
ตั้งแต่ที่หลายครั้งก่อนหน้านี้เกือบจะทำให้คุณหลี่ขุ่นเคืองใจ ครั้งนี้เขาเรียนรู้ที่จะฉลาดแล้ว ตั้งใจถามในโทรศัพท์ว่าคนคนนั้นชื่ออะไร ถ้าเป็นคุณหลี่ หรือว่าเพื่อนของคุณหลี่ ตีเขาให้ตายก็ไม่ยอมไป
อันที่จริงแล้วโจงจุ้นหย่วนไม่รู้ว่าหลี่โม่ชื่ออะไร เขาคิดว่าหลี่โม่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ดังนั้นก็ตั้งชื่อขึ้นมาหนึ่งชื่อ แต่เขากลับไม่รู้ว่า เพราะตัวเองตั้งชื่ออย่างตามใจ กลับเกือบจะทำให้ตัวเองตาย
ตอนที่อาเปียวรีบมาถึงที่บาร์ เขาก็เห็นแผ่นหลังของหลี่โม่ เขารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก หลังจากที่ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ในใจของเขาก็กระตุกหนึ่งที ไม่น่าจะใช่คุณหลี่จริงๆใช่มั้ย
“เฮียเปียวเฮียมาแล้ว”โจงจุ้นหย่วนวิ่งไปอย่างรอคอยด้วยความวิตกกังวล ส่งบุหรี่ให้อาเปียวด้วยความเคารพ และพูดคำที่แสดงถึงความเกรงใจอย่างต่อเนื่อง
อาเปียวผลักโจงจุ้นหย่วนอย่างไม่พอใจ เขาเดินผ่านไปตรงหน้าหลี่โม่โดยไม่รู้ตัว หลังจากที่เห็นหน้าของหลี่โม่ เขาแทบจะหมดสติไป
แม่งเอ๊ย เป็นคุณหลี่จริงๆ เรื่องราวที่เขาไม่อยากเจอ ก็ยังเกิดขึ้นกับตัวของเขา
“นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย แกบอกว่าคนคนนั้นชื่อหม่าตงไม่ใช่เหรอ?”อาเปียวผลักความรับผิดชอบทั้งหมดให้โจงจุ้นหย่วน และตะโกนอย่างเย็นชา
หลังจากที่ถูกตวาดอย่างประหลาดใจ โจงจุ้นหย่วนเกาหัวแล้วพูดว่า: “เฮียเปียว ไม่ใช่ว่าเฮียรู้จักกับเขานะ”
“เหลวไหล ฉันยังจะไม่รู้จักเขาได้ยังไง เขาเป็น……”
“ฉันเป็นลูกน้องของท่านเทียน”
ตอนที่อาเปียวเตรียมที่จะพูดออกมาหมดรวดเดียว หลี่โม่ชิงตอบด้วยรอยยิ้ม
“คุณหลี่ คุณ……”อาเปียวก็มึนงงในทันที มองไปทางหลี่โม่อย่างสับสน หลังจากที่เขาเห็นสายตาที่บอกใบ้มาของหลี่โม่ เขาทำได้เพียงหุบปากอย่างว่าง่าย
“ลูกน้องของท่านเทียนเหรอ?”โจงจุ้นหย่วนกลับเชื่อเป็นอย่างมาก เมื่อกี้นี้กังฟูเล็กน้อยนั้นของหลี่โม่ กลับมีความคุณสมบัติเป็นลูกน้องของท่านเทียนได้ เขาไม่ค่อยประหลาดใจมากนัก อีกฝ่ายเป็นเพียงแค่สุนัขรับใช้ของท่านเทียนเท่านั้นเอง
เขาเป็นบ่อเงินบ่อทองของท่านเทียน แม้ว่าจะเปรียบกับบ่อเงินบ่อทองอื่นไม่ได้ แต่คุณค่าของเขา ก็ดีกว่าลูกน้องคนหนึ่ง
“เฮียเปียว แม้ว่าเขาจะเป็นลูกน้องของท่านเทียน แต่เขาทำร้ายคนของผม ก็ควรที่จะชดใช้กับสิ่งที่ได้กระทำนะ”โจงจุ้นหย่วนคิดว่าหลี่โม่มีความสัมพันธ์เป็นเพียงแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งของท่านเทียนอย่างง่ายดาย เริ่มที่จะฟ้องอาเปียว
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นลูกน้องธรรมดาที่ทำให้โจงจุ้นหย่วนขุ่นเคืองใจ บางทีอาเปียวอาจจะให้ลูกน้องคนนั้นขอโทษ แต่ว่าเป็นหลี่โม่ เขาไม่มีความกล้าหาญนั้น