จักรพรรดิมารหวนคืน - ตอนที่ 164
บทที่ 164 ค่ายเก้ามังกร
กำปั้นของเฉินจิ้น ดูเหมือนว่าจะเบาๆ ดูเหมือนหน่อมแน้มไม่ โอ้อวด ไม่มีทำทางที่ทรงพลังที่สามารถพูดได้เลย
อย่างไรก็ตาม
กำปั้นที่ออกหมัดไป มีทั้งเสียงลมและเสียงฟ้าร้อง กำปั้นนี้ของเฉินจิ้น ทำให้ทะเลเพลิงที่อยู่รอบๆ ทนไม่ไหว
กระจายออกไปด้านนอกแล้ว
ทันใดนั้นรูม่านตาของเซี่ยโหวหยุนก็หดลงทันที
เดิมที่เขายังคงคิดถึงคำสาบานที่เปี่ยมไปด้วยความ จริงใจ เป็นไปไม่ได้เลยที่เฉินจิ้นจะทำลายเทียนฝู เสินทง ของเขาได้
ถึงแม้ว่าจะแบกรับไว้ได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง นั้นก็อาจจะ เกี่ยวข้องกับพลังส่วนใหญ่ของเขาด้วย ที่พยายามคิดหาวิธี ต่อต้านทะเลเพลิงนี้
ถึงขนาดที่ว่า มีความเป็นไปได้สูงมาก สุดท้ายแล้วเฉิน นก็อาจจะโดนทะเลเพลิงนี้กัดเซาะ
ถึงอย่างไรพลังจิต ไม่สามารถต้านทานเทียน เส้นทง ของเขาได้เลย
0501
เว้นแต่ว่าจะเป็นการปล่อยพลังจิตที่แข็งแกร่งออกมาทุก นาทีททุกวินาทีอย่างต่อเนื่อง เข้าไปเสริมอย่างต่อเนื่อง นี้ถึง จะเป็นไปได้ รักษาและปกป้องพลังจิตของเขา ป้องกันเขาไว้ ข้างใน
แต่ว่า วิธีการต้านทานแบบนี้ เกี่ยวกับการใช้พลังจิต น่า กลัวอย่างมากเลยจริงๆ
ถึงแม้เฉินจิ้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน พลังจิตของเขา ก็เป็นไป ไม่ได้ที่จะไม่หมดสิ้น สุดท้ายแล้วก็จะต้องมีวันที่หมดพลังลง
เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว แม้ว่าเฉินจิ้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ทำ เพียงปล่อยให้เขาฆ่า
แต่อย่างไรก็ตาม เซี่ยโหวหยุนคิดไม่ถึงเลย เฉินจิ้น ใน ขณะที่กำลังต่อต้านทะเลเพลิงที่ลุกโชนนี้ ยังสามารถออก หมัดโต้เขากลับมาได้อีก
อีกอย่าง พลังอานุภาพ แข็งแกร่งกว่าการโจมตีออกมา ก่อนหน้านี้ของเฉินจิ้น
ในช่วงเวลานี้ ในสมองของเซี่ยโหวหยุน ก็เกิดความคิด หนึ่งออกมาเลยทันที
หรือว่า เฉินจิ้น เดิมทีแล้วไม่ได้มีจำนวนของพลังจิตที่นับ ไม่ถ้วนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าน่ากลัว เพื่อไปต่อด้านการกัดเซาะ ของทะเลเพลิง
แต่ว่า นี้จะเป็นไปได้ยังไง
ทันใดนั้นเชียวหยุนก็เขวี่ยงความคิดนี้กลับเข้าไปยัง
สมองอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น ก็ขยับร่างกายอีกครั้ง
เหวี่ยงหมัดออกไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไปปะทะกับหมัดของ
เฉินขึ้น
แตกต่างกับหมัดของเฉินจิ้น หมัดนี้ของเซี่ยโหวหยุน กลับ เป็นการรวมตัวของลมและเมฆ เสียงดังโอ่อ่า ราวกับว่าหมัด นี้ของเขา สามารถทุบให้ทั่วทั้งโลกระเบิดขึ้นได้ยังไงอย่าง
นั้น
อีกอย่าง เชี่ยโหวหยุนยังคงไม่ยอมแพ้
แม้ว่าจะเป็นการประมาท ภายใต้การเร่งรีบ ต่อต้านหมัด นี้ของเฉินจิ้น เซี่ยโหวหยุนก็ยังคงสุมไฟอย่างต่อเนื่อง ตาม ด้วยหมัดของเขา โจมตีเข้าไปยังเฉินจิ้น
“เฉินจิ้น ไม่กลัวเปลวไฟ! ”
“เทียน เดินทางของเจ้าสำนัก ทำอะไรเฉินจิ้นไม่ได้ เลย?
“รีบไปดู ในเมื่อเฉินจิ้นยังกล้าต่อกรอนกับเจ้าสำนัก ริเริ่ม โจมตีเข้ามาก่อน ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ”
เมื่อบางคนเห็นฉากนี้ ต่างก็เปล่งเสียงพูดออกมาแล้ว
หลังจากนั้น ยิ่งไปกว่านั้นก็มีบางคนที่มีสายตาที่ทรงพลัง
ในเย่าเก่อ กลับว่าขมวดคิ้วแน่น
“ท่านอาวุโสรอง คุณคิดว่าการออกหมัดของเฉินจิ้นเป็น อย่างไรบ้าง? ”
ซู เย็นรีบเอ่ยปากถามอีกครั้งทันที
ท่านอาวุโสรอง ครั้งนี้กลับว่าเงียบขรึมแล้ว
เทียนฝู เดินทางของเขา ไม่สามารถทำอะไรกับเฉินจิ้นได้ เลยเปลวไฟอันโชติช่วงที่เรียกได้ว่าสามารถเผาผลาญได้ทุก สิ่ง แม้แต่พลังป้องกันตัวของเฉินจิ้นก็ยังไม่สามารถเผา ผลาญได้ หรือพูดได้ว่า เฉินจิ้นใช้พลังจิตเสริมสร้างพลัง ป้องกันตัวได้อย่างรวดเร็ว
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ล้วนแต่เห็นได้ชัดเจนแล้ว ความ แข็งแกร่งของเฉินจิ้น
เป็นครั้งแรกที่ในใจของท่านอาวุโสรองเกิดความสั่น
คลอน
เฉินจิ้นบีบบังคับให้เจ้าสำนักสำแดงเทียน เส้นทง หลัง
จากนั้นเทียน เส้นทง ไม่สามารถทำให้เฉินจิ้นได้รับบาด เจ็บได้เลย หมายความว่า เฉินจิ้น แข็งแกร่งกว่าเจ้าสำนักอีกเหรอ?
ในขณะที่มีความคิดนี้เกิดขึ้นมาในสมอง ขนหัวของท่าน อาวุโสรองก็ลุกขึ้นเลยในช่วงหนึ่ง
หลังจากนั้น ก็รีบสลัดความคิดนี้ออกจากสมองทันที
มองไปที่กลางอากาศ
ในสายตาของผู้คนที่รอคอย รอคอยให้เจ้าสำนักจัดการ เฉินจิ้น เพื่อล้างแค้นให้กับท่านอาวุโสสามและท่านอาวุโสสี่ ยกระดับอ่านาจของเย่าเก๋อ น่าตัวเฉินจิ้นมาถลกหนังเลาะ เส้นเอ็นให้ได้
หมัดของทั้งสอง สุดท้ายก็ปะทะเข้าหากัน
“ปัง! ”
มีเสียงดังขึ้นมาในอากาศอย่างรุนแรงอีกครั้ง
แพร่กระจายไปทั่วเย่าเก๋อเลย
คลื่นพลังขนาดใหญ่ มีสองคนเป็นศูนย์กลาง ทันใดนั้นก็ เกิดเสียงดังอีกทึกไปทั่วทุกแห่งหน
ความปั่นป่วน อย่างกับคลื่นสึนามิยังไงอย่างนั้นเลย
ถึงขนาดที่ว่า นำมาซึ่งเปลวไฟที่ลุกโซน พุ่งลงไปโจมตี ด้านล่างเลย
ในเวลานี้ ที่ค่ายป้องกันของเย่าเก๋อ ก็ปรากฏออกมา ทั้งหมดแล้ว
โล่ครอบที่มีสีสันราวกับข่ายอาคม ปรากฏออกมาต่อหน้า สายตาของผู้คน นำเอาคลื่นพลังที่พุ่งเข้าใส่ทั้งหมด ด้านทานออกไปแล้ว
ค่ายป้องกันของเย่าเก๋อ เป็นคลื่นพลังช่วงเวลาหนึ่ง สิ้น เปลืองพลังอย่างมาก นี้เป็นผลพวงที่เกิดจากการโจมตีของ เฉินจิ้นและเชี่ยโหวหยุน ขวางกั้นทั้งหมดให้อยู่นอกค่าย ป้องกัน
ถึงอย่างนั้น พลังอำนาจ ยังคงทำให้ลูกศิษย์ที่ยังมีพลังไม่ แข็งแกร่งของเย่าเก๋อ สั่นสะท้านไปทั้งตัว ยิ่งไปกว่านั้น ได้ คุกเข่าลงกับพื้นไปเลย
และครั้งนี้ ภายใต้กำปั้นหมัดนี้ ร่างของเซี่ยโหวหยุน ก็ กลับว่าลอยออกไปเลย
ลอยออกไปในอากาศไกลว่าสิบเมตร ถึงจะทรงตัวได้
ในขณะเดียวกัน มุมปากของเซี่ยโหวหยุน ก็มีเลือดกระอัก ออกมาด้วย
ใบหน้าที่ขาวซีดของเขานั้น เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่ง แล้ว เห็นใต้ชัดมาก
มองกลับมาที่เฉินจิ้น ก็โดนพลังของหมัดนี้โต้กลับมา เหมือนกัน ร่างกายที่สั่นก้าวถอยหลังไป
แต่ระยะห่าง เพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเซี่ยโหวหยวนเท่านั้น อีกอย่าง สีหน้าของเฉินจิ้นเปลี่ยนเป็นขาวซีดเล็กน้อย แต่กลับ ไม่มีเลือดออกมา
แม้ว่าเฉินจิ้นจะเป็นผู้ลงมือออกหมัดนี้ก่อน แต่ในหมัดนี้ ใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอ แค่พริบตาเดียวก็รู้ได้ชัดเจนแล้ว ผลสรุปในครั้งนี้ ทำให้ผู้คนตกใจอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เจ้าสำนัก โดนเฉินจิ้นเจาะไหล่ทะลุ ก็ทำให้ผู้คน รู้สึกถึงความเหลือเชื่อแล้ว ถึงขนาดที่ว่าเหลวไหลสิ้นดี
หลังจากนั้น ตอนนี้ ในการต่อสู้อย่างลูกผู้ชายแบบนี้ เจ้า สำนัก เป็นฝ่ายที่เสียเปรียบไปแล้ว!
นี่ จะเป็นไปได้ยังไง?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่า เซี่ยโหวหยุนเป็นเจ้าสำนักเย่าเก๋อ และตำรงตำแหน่งอื่นๆด้วย ผู้คนต่างก็ต้องสงสัย เขาตั้งใจ อ่อนข้อให้อีกฝ่ายแน่ๆ
คิ้วของซู เย็น ก็ยิ่งขมวดลึกลงไปอีก
ในเวลานี้ เธอกลับว่าไม่พูดออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่พูด ออกเสียงอีกเลย
กะพริบตามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“แต๊กๆ”
หลังจากที่เซี่ยโหย่วหยุนทรงตัวได้ ก็ไอออกมา
ไอออกมาเป็นเลือดเลยนิดหน่อย
“ในเมื่อนายแข็งแกร่งมาจนถึงจุดนี้ น่ากลัวสมค่าร่ำลือไป
เลย”
“ดูแล้ว ฉันก็คงจะไม่ใช่ศัตรูคู่ปรับของนายแล้วแหละ” หลังจากที่ไอเสร็จ นัยน์ตาของเซี่ยโหวหยุนมองไปยังเฉิน
จิ้น ก็แฝงไปด้วยความกลัวอยู่ลึกๆ ไม่ว่ายังไงเขาก็คิดไม่ถึงเลย สุดท้ายแล้ว เขาแพ้เฉินจิ้น
ทันใดนั้น เซี่ยโหวหยุนโบกมือออกไป
เหนือท้องฟ้า เปลวไฟสีแดงทั้งหมด ก็พุ่งไปยังเขาทันที หลังจากนั้นก็หายไป
“นายก็แข็งแกร่งมาก หลังจากที่ฉันออกหมัดไป กลับว่าได้ บาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฉันก็คิดไม่ถึงเลย”
หลังจากที่ระเบิดจนแยกออกจากกันเมื่อกี้ เฉินจิ้นก็ไม่ได้ โจมตีอีก
กลับว่ายืนอยู่กลางอากาศ เอามือไขว้หลังไว้ เหมือนกับราชาที่ก้มลงมองสรรพสัตว์
“เรื่องที่นายคิดไม่ถึง ยังมีอีกเยอะมาก ถึงแม้ว่านายจะ เอาชนะฉันได้ แต่ก็คงเปลี่ยนแปลงจุดจบของนายไม่ได้ อยู่ดี!
เชี่ยโหวหยุนพูดด้วยน้ำเสียงที่โหดเหี้ยมออกไปอีกครั้ง
แม้ว่าเขาไม่อยากจะยอมรับ แต่ว่า ตอนนี้เขาจะไม่ยอมรับ ก็ไม่ได้ แค่เขาเพียงคนเดียว เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าเฉินจิ้นให้ ตายได้
ความแข็งแกร่งของเฉินจีน เหนือความคาดหมายของเขา จริงๆ
คนแบบนี้ ถ้าหากยอมปล่อยให้เขาเติบโตไป ถ้าหากไม่มี ประโยชน์อะไรกับเย่าเก๋อ อนาคต ต้องเป็นปัญหาใหญ่ แน่นอน
โดยเฉพาะที่ เฉินจิ้นได้ฆ่าท่านอาวุโสสามและท่านอาวุโส สี่ของเย่าเก๋อแล้ว เดิมที่เย่าเก๋อก็มีความแค้นอย่างลึกซึ้งกับ เฉินจิ้นอยู่แล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ชี่กงชั้นสูงสุดและวิธีการปรุงยาของเฉิน
ขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นข้อไหน เฉินจิ้น วันนี้ ไม่สามารถมีชีวิตรอดไป จากเย่าเกือได้
แม้ว่าเขาจะแพ้เฉินจีิ้นก็ตาม
แต่นี่เป็นถิ่นของเย่าเก่อ
อีกอย่าง ในเย่าเก่อ ไม่ใช่ว่ามีเพียงเชี่ยโหวหยุนคนเดียว
ที่เป็นแดนเส้นอันดับสูงสุด
พูดจบ พลังที่อยู่รอบๆเซี่ยโหว หยวน ราวกับว่าเกิดการ เปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้งแล้ว
“บรรพบุรุษอยู่ด้านบน วันนี้ ฉันเชี่ยโหวหยุน จะยืมพลัง เทือกเขาของเย่าเก๋อมาใช้! ”
เย่าเก๋อล้อมรอบด้วยภูเขา ตั้งอยู่ที่ลึกเข้าไปในภูเขาของ
มณฑลซานหนาน
หลังจากที่เชี่ยโหวหยุนพูดจบแล้ว
ทุกคนที่อยู่ในเย่าเก๋อ ก็รู้สึกเหมือนว่าแผ่นดินไหวขึ้นมา
ทันที
ทันใดนั้น ท่ามกลางภูเขาที่ล้อมรอบเย่าเก๋อ ก็เกิดพลัง ของสีดินเหลืองลอยขึ้นมา
ขึ้นไปเรื่อยๆ มีมากถึงเก้าเส้น
รุ้งยาวสีดินเหลืองทั้งเก้าเส้นนี้ ทุกเส้น ล้วนแต่แข็งแกร่ง กว่าพลังสายโลหิตเส้นนั้นที่เซี่ยโหวหยุนจับไปได้ก่อนหน้านี้ ทรงพลังยิ่งกว่า
ศักยภาพของพลัง ยิ่งมหาศาลกว่า
อานุภาพ ยิ่งจะแข็งแกร่งกว่า
เห็นถึงฉากนี้แล้ว ซู เย็น ในใจก็เกิดความสั่นคลอน ท่านอาวุโสรอง กลับว่ายิ่งประหลาดใจ
“เจ้าสำนัก เริ่มใช้ค่ายเก้ามังกรแล้ว! ”
ที่นี่ เป็นฐานทัพใหญ่ของเย่าเก่อ เย่าเก๋อได้ตั้งอยู่ที่นี่เป็น เวลาหลายร้อยปีแล้ว เพื่อความปลอดภัยของเย่าเก๋อ โดย ธรรมชาติแล้วก็ต้องมีการวางแผนวิธีการไว้มากมาย
ค่ายปกป้องเก๋อของเย่าเก๋อ เป็นเพียงค่ายหนึ่งเดียวใน
นั้น
เมื่อสามร้อยปีก่อน เย่าเก่อใช้เงินจำนวนมหาศาล เพื่อใช้ จ่ายสำหรับจำนวนคนและทรัพยากรที่มหาศาล ปฏิรูปสถาน ที่นี้ เอาเย่าเก๋อเป็นใจกลาง แพร่กระจายไปทั่วทุกทิศ
ค่ายที่สร้างขนาดใหญ่
ก็คือค่ายเก้ามังกร
ค่ายเก้ามังกร เป็นการอาศัยพลังเทือกเขาของที่นี่มาช่วย
เหลือ อานุภาพ แค่คิดก็รู้แล้ว
ค่ายปกป้องเก๋อของเย่าเก๋อ ปกป้องเป็นหลัก
ค่ายเก้ามังกร โจมตีเป็นหลัก
หลายร้อยปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะประมาณหนึ่งร้อยปีก่อน050
ยุคที่วุ่นวายนั้น
มียอดฝีมือต่างชาติจำนวนมากเข้ามาเย็นเซี่ย ทำร้ายเย็น
เชี่ย
เย่าเก๋อ ก็ถูกยอดฝีมือจำนวนมากจับตามองไปโดย
ปริยาย
โจมตีกันเข้ามา อยากจะปล้นเย่าเก๋อให้ราบคาบ
หลังจากนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่มียอดฝีมีอแดนเสินนั่ง ครองเย่าเก๋อ ยอดฝีมือแดนเสินที่มาจากต่างชาติทุกคน ต่าง ก็ไม่บรรลุผลตามที่หวังและกลับไปแล้ว
หลังจากนั้น ยอดฝีมือต่างชาติจำนวนมาก รวมตัวกันมา
บีบบังคับเย่าเก๋อ ส่งมอบเทียนซ้ายดิ์เป่าจำนวนมากออก มา อยากจะปล้นเย่าเก๋อให้ราบคาบ
สุดท้ายอาศัยความช่วยของค่ายเก้ามังกร ท่าให้ยอด ฝีมือแดนเสินที่เป็นชาวต่างชาติจำนวนมาก ถูกฆ่าตายทันที แก้ไขวิกฤตของเย่าเก่อได้