จักรพรรดิมารหวนคืน - ตอนที่ 201
บทที่ 201 จุติ
หน้า
“ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ได้นำแดนเสินอันดับสูงสุดเดินไป จนถึงจุดสูงสุด แต่อย่างมากก็อีกสิบปี ฉันก็จะโดนแดนเสิ นพันธนาการเหมือนกับพวกปีศาจแดง ยากที่จะมีความ ก้าวหน้าแม้เพียงน้อย
แต่วันนี้ก็มีโอกาสเช่นนี้ ถ้าหากสามารถจับกุมตัวเฉิน นมาได้ จะต้องได้รู้วิธีการทะลวงพันธนาการแดนเสินจาก ปากของเขา หรือไม่ก็ได้รับโอกาสเช่นนี้จากในวิมานเทพ หิมะ
นั่นบางที ไม่ถึงสิบปี ฉันก็สามารถมีโอกาสได้สอดแนมดิน แดนมหัศจรรย์ในตำนาน!”
เชี่ยโหวหยุน นอกจากเขาจะเป็นอัจฉริยะด้านยาเตำแล้ว ยังเป็นอัจฉริยะด้านบูโดอีกด้วย
มีโอกาสได้ก้าวฉันไปเหยียบย่างในเขตดินแดนมหัศจรรย์ นอกจากจะทำให้ศักยภาพของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อายุขัยเพิ่มขึ้นแล้ว ก็ยังมีโอกาสได้ไปสกัดยาในตำนาน อีกด้วย
บางทีเขาอาจจะได้กลายเป็นเย่าคนแรกในรอบหลายร้อยปีมานี้ด้วย!
เป็นเย่าเก่อผู้บุกเบิกยุคสมัยใหม่
เที่ยวหยุนนั่นก็เป็นคนทะเยอทะยาน
พูดจบ พลังจิตในร่างของเขาได้เริ่มหมุนวนสะสมพลังแล้ว
เตรียมลงมือ
หรุงชิงฉือกัดริมฝีปาก บนใบหน้างดงามที่เต็มไปด้วย เสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่ เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง
เธอจะไม่รู้ความคิดของเชี่ยโหวหยุนได้อย่างไร
แต่เมื่อก่อนเย่าเก๋อได้ตกลงสัญญากับเฉินจิ้นแล้วว่าจะไม่
เป็นศัตรูกับเฉินจิ้นอีก
แต่หากว่าพวกเขาลงมือ ถ้าวันนี้เฉินจิ้นไม่ตายล่ะก็ ใน อนาคตเย่าเก่อตกอยู่ในอันตรายแล้ว
ศักยภาพของเฉินจิ้นแข็งแกร่งมาก
อีกทั้งยังหนุ่มถึงเพียงนี้ พรสวรรค์ เกรงว่าจะหาใครเทียบ
ไม่ได้
ด้วยเป็นสตรี หรุงชิงฉือมีลางสังหรณ์หนึ่งว่า ต่อให้วันนี้ เฉินจิ้นจะพ่ายแพ้ แต่หากไม่สู้กับพวกแดนเสินมากมายที่มา รุมโจมตีก็จะไม่ตายอย่างแน่นอน
ถ้าในอนาคตกลับมาคิดบัญชีย้อนหลังกับเย่าเก๋อขึ้นมาจะทำอย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นเฉินจิ้นจะแพ้จริง ๆ หรือ
หรุงชิงฉือมองไปยังที่ไกลแสนไกล เงาร่างที่โดดเดี่ยวหา ใดเปรียบนั้น ดูไม่ชัดเจนอยู่บ้าง
พวกปีศาจแดงมองเห็นเฉินจิ้น คาดไม่ถึงว่าจะได้รับบาด เจ็บเพียงเล็กน้อย ในใจบังเกิดความหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ขึ้นมาฉับพลัน
สถานการณ์เช่นนี้ไม่น่าจะทำให้เฉินจิ้นได้รับบาดเจ็บ สาหัสได้ วันนี้หากมีใครไม่ระวังตัว หรือบางทีถ้าคนพวกนี้ ประมาทเลินเล่อ ก็อาจโดนเฉินจิ้นตีแตกกระเจิง หรืออาจจะ โดนสังหาร กลายเป็นเรื่องน่าอัปยศอดสูครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ มีการบันทึกมาในประวัติศาสตร์
แต่ว่าถึงแม้ว่าพวกปีศาจแดงจะตื่นตระหนกอยู่บ้าง แต่ก็ ยังไม่สูญเสียความเชื่อมั่น
พวกเขาทุกคนล้วนยังมีการโจมตีครั้งสุดท้ายที่เก็บเอาไว้ ยังไม่ได้ลงมือ
ไม่เพียงเท่านี้ ยิ่งกว่านี้ยังมีแดนเสินอันดับสูงสุดอีกสอง คนที่ยังไม่ได้ลงมือมาโดยตลอด
“เชี่ยโหวหยุน หรุงซิงฉือ หากพวกคุณยังไม่ลงมือ พวก คุณจะไม่มีวาสนากับในวิมานเทพหิมะอีกแล้ว!”
“ถ้าพวกคุณจะรอจนพวกฉันสองคนพ่ายแพ้ย่อยยับแล้ว ค่อยมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ล่ะก็ พวกคุณหวังสูงเกินไป นะ!”
เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ปีศาจแดงและพวกนักเต๋สามชีวิตก็ พากันพูดคุยปรึกษากับเซี่ยโหวหยุน แต่ก่อน พวกเขามั่นใจว่าจะสามารถควบคุมเชี่ยโหวหยุ
นกับเฉินจิ้น ทั้งสองคนไม่ลงมือก็ช่างเถอะ ก็ดี จะได้มีข้ออ้าง กำจัดพวกเขาไปไว้ข้างนอก ถ้าหากมีของดี ๆ ก็ลดตัวหารไป ถึงสองคน
แต่ตอนนี้ สถานการณ์ชัดแจ้งแล้วว่าเกิดจากปัญญาของ พวกเขา
ได้ยินมาว่าพลังในตัวของเซี่ยโหวหยุนนั้นยอดยิ่ง
“ชิงฉือ ลงมือกันเถอะ!”
เชี่ยโหวหยุนพูดกับหรุงซิงฉือ
หรุงซิงฉือเดิมยังคิดอะไรพัวพัน แต่พอมาได้ยินที่พวก ปีศาจแดงพูดกัน หรุงซิงฉือก็ตัดสินใจ
อย่างไรก็จะสู้ไม่ได้!
ด้วยเป็นหญิง ยิ่งเป็นถึงแตนเส้นอันดับสูงสุด สัญชาตญาณของเธอจึงแม่นยำมาก
“เจ้านาย ลงมือไม่ได้”
หรุงชิงฉือในตอนนี้จริงจังเป็นอย่างมาก กระทั่งเรียกเชีย โหวหยุนว่าเจ้านาย
ฉันมีลางสังหรณ์ว่าวันนี้เฉินจิ้นจะไม่แพ้ หรืออย่างน้อยต่อ ให้เขาแพ้ เขาก็จะไม่ตาย.
หรุงซิงฉือยังพูดไม่จบ แต่เชี่ยโหวหยุนก็เข้าใจความ หมายของเธออย่างแจ่มแจ้งแล้ว
“เมื่อก่อนพวกเราตกลงกับเฉินจิ้นแล้วว่าจะไม่เป็นศัตรูกัน แต่คาดไม่ถึงว่า ช่วงเวลาแค่พริบตา เขาจะแข็งแกร่งขึ้น ขนาดนี้ กล้าหาญมากเพียงนี้ แถมยังได้รับการถ่ายทอดจาก เทพหิมะ คนแบบนี้พวกเราควรจะผูกมิตร ไม่ใช่เป็นศัตรู!”
หรุงชิงฉือส่งเสียงไปยังเซี่ยโหวหยุนอีกครั้ง
“ผูกมิตร?”
เซี่ยโหวหยุนมองหรุงชิงฉืออย่างล้ำลึก
“ไม่ผิด ผูกมิตร!”
“เพื่อนตายนั้นหายาก ตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องทำไม่ใช่การ นิ่งดูตาย แล้วก็ไม่ใช่การรุมโจมตีเฉินจิ้น ฉันเห็นว่าควรจะออกโรงช่วยเฉินจิ้น
ก่อนหน้านี้เย็นเอ่อบอกเล่าถึงสถานการณ์ของเฉินจิ้นแล้ว มิใช่หรือ พวกเราเองก็เคยตรวจสอบมาแล้ว เฉินจิ้นเป็นพวก ของเรา ต้องให้ความสำคัญกับเขามาก ๆ และไม่เสียดายที่ จะเอาของดีให้กับพวกของเรา
ตอนนี้พวกเราออกมือช่วยเหลือเขา ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่ ได้ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเรา แต่ก็ถือว่าพวกเราได้ แสดงจุดยืนแล้ว!
เฉินจิ้นจะต้องจดจำมิตรภาพครั้งนี้ของพวกเราแน่ ๆ ถ้า หากมีวิธีที่จะทะลวงพันธนาการแดนเสิน ไม่แน่ว่าเขาอาจจะ บอกพวกเรา!
แถมวิธีการเช่นนี้สามารถได้รับวิธีการทะลวงพันธนาการ แดนเสิน เข้าท่ากว่าการรุมโจมตีเฉินจิ้นกว่าตั้งเยอะ!
ดูจากตอนนี้ เฉินจิ้นแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ พวกปีศาจแดง ล้วนยังมีทางหนีที่ไล่ แล้วเฉินจิ้นจะไม่มีทางหนีทีไล่บ้างหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากว่าเฉินจิ้นได้รับการถ่ายทอดจาก วิมานเทพหิมะ บางที่เขาอาจจะสามารถควบคุมอะไรบาง อย่างในวิมานเทพหิมะได้ มันก็ไม่แน่นะ!” หรุงซิงฉือรีบส่ง เสียงพูดให้เซี่ยโหวหยุนฟัง
เชี่ยโหวหยุนที่เกิดความกลัวรีบลงมือตกลงกับเฉินจิ้นทันที ทั้งหมดนั่นล้วนแต่เปลี่ยนกลับคืนมาไม่ได้แล้ว
หลังจากได้ฟังค่ำของหรุงชิงฉือ สีหน้าของเขี่ยโหวหยุนก็ ไม่มั่นคง
เติมเงินจิ้นก็เข้มแข็งและยิ่งใหญ่อยู่แล้วเพิ่มพวกเขา เข้าไปสองคน ครั้งนี้พวกปีศาจแดงกว่าครึ่งก็ต้องทนทุกข์กับ ความพ่ายแพ้แล้ว
แต่ว่าเช่นนี้ ต้องขอล่วงเกินอำนาจมากมายของเย่าเก๋อนี้ จริง ๆ แล้ว
โดยเฉพาะครอบครัวที่ซ่อนอยู่ของเย้นเชี่ย ถึงแม้ว่าเย่าเก๋ อจะยืนอยู่เหนือข้อพิพาทใด ๆ แต่นี่ก็ไม่ได้แสดงว่า เย่าเก๋อ จะสามารถไม่ถือเอาครอบครัวที่ซ่อนอยู่อยู่ในสายตาได้
“เซี่ยวหยุน!”
ตอนนี้นักเตะสามชีวิตออกเสียงพูดอีกครั้ง
มีเซียโหวหยุนสองคน แผนการคว้าชัยชนะของเขาจึงจะ ยิ่งใหญ่ขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ไม่สามารถทำไม่สนใจที่จะเก็บ เกี่ยวผลประโยชน์จากแดนเสินอันดับสูงสุดทั้งสองคนได้
“ดี ชิงฉือลงมือ!”
เขียโหวหยุนไม่ลังเลอีก
เพียงก้าวออกไป ร่างกายถูกปล่อยอย่างรุนแรงในทันที ว่องไวราวกับสายฟ้าแลบ
หรุงชิงฉือเห็นเชี่ยโหวหยุนลงมือก็ไม่ลังเลอีก พลังจิตใน ร่างปะทุขึ้นทันที ติดตามหลังเซี่ยโหวหยุนไป
ปีศาจแดง พวกนักเต่าสามชีวิตเห็นว่าในที่สุดพวกเขาก็ ลงมือแล้ว
ในใจผ่อนลมหายใจมาครั้งหนึ่ง
“เฉินจิ้น ถ้าคุณส่งของที่คุณได้รับมาจากในวิมานเทพหิมะ ทั้งหมดออกมา พวกเราก็จะแบ่งมันกับคุณ!”
“รวมถึงไม่ขัดขวางพวกเราในการสำรวจวิมานเทพหิมะ
ด้วย!”
“ถ้าไม่อย่างนั้น…”
เมื่อเซี่ยโหวหยุนและหรุงซิงฉือมาเข้าร่วม ความมั่นใจ ของหลายคนในแดนเสินอันดับสูงสุดในครั้งนี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไป อีก
ขอถึงคง ผู้นำตระกูลชื่อรีบพูดขึ้นทันที
พวกคนจากครอบครัวที่ซ่อนอยู่พวกนี้ล้วนรู้จักเฉินจิ้น
“ถ้าไม่อย่างนั้นจะทำไม”
เฉินจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ พลังโจมตีเมื่อครู่ ทำให้เขาตกอยู่ในที่นั่งลำบากอยู่เล็ก
น้อย
“เพราะครอบครองหยกงามจึงมีความผิด ไม่อย่างนั้นคุณ
ก็กำลังรนหาที่ตาย!”
จ้าวอู่เยว่ ผู้นำตระกูลจ้าวสายตาอาฆาตมาดร้าย
แดนเสินชั้นสูงของตระกูลจ้าวของเขาเพิ่งจะโดนเฉินจิ้น สังหาร ความอาฆาตแค้นที่เขามีต่อเฉินจิ้นรุนแรงอย่างที่ไม่ เคยมีมาก่อน
“ฉันว่าคุณกำลังรนหาที่ตาย!”
ทันใดนั้น ดวงตาทั้งคู่ของเฉินจิ้นก็จ้องไปยังผู้นำตระกูล จ้าว จ้าวอู่เหย
พลังหวนด้วนในร่างกายปะทุขึ้นมาทันที่ราวกับคลื่นพายุ กลางทะเล
รูปร่างของเฉินจิ้นกลายเป็นแสงสว่างโชติช่วงสีเทาใน ทันที เพียงชั่วพริบตาก็หายไปจากตำแหน่งเดิม
ในตอนนี้จ้าวอู่เยว่สั้นไปทั้งตัว
ในใจหวาดกลัวจนถึงขีดสุด
ความเร็วของเฉินจิ้นแทบจะเทียบเท่าความเร็วเสียง
ระยะห่างกว่าสิบเมตร ในตอนที่เขายังไม่มีการตอบสนอง เฉินจิ้นก็มาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
จากนั้นหมัดหนึ่งหมัดก็เหวี่ยงออกมา
เป็นไปได้อย่างไร?
ทำไมเขาถึงได้ว่องไวถึงเพียงนี้?
จ้าวอู่เหยยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
พลังหวนต้วนเปลี่ยนไปเหมือนกับกระแสน้ำขึ้นน้ำลง ม้วน เขาเอาไว้ภายใน
“ครีน!”
เสียงดังลั่นสะท้านฟ้า
จ้าวอู่เหย่เลือดท่วมทั้งตัว ระเบิดออกเป็นสองส่วนทันใด
แม้แต่กระดูกก็ยังแหลกละเอียด
โดยเฉพาะหมัดนั้นของเฉินจิ้นที่ประทับทาบลงบนหัวใจ
ของเขา
พลังหวนด้วนส่วนใหญ่เจาะทะลวงเข้าไปที่หัวใจของเขาโดยตรง
เพียงพอที่จะบ่งบอกว่าเขาคือผู้แข็งแรงแดนเสินอันดับ สูงสุดร่างกายรวมถึงอวัยวะภายในถูกฝึกฝนจนทนทาน ราวกับหินเหล็ก
อย่างไรก็ตาม ภายใต้พลังหวนด้วน หัวใจก็ยังคงระเบิด ออกเป็นสองส่วนเช่นเดิม
พลังหวนด้วนรุนแรงหาใดเปรียบ!
“ถุย!”
จ้าวอู่เหย่ถ่มเลือดออกมาหนึ่งค่า
ร่างกายลอยกลับหัวออกไปทันใด
กลายเป็นมนุษย์โลหิตตนหนึ่ง
หายใจราวกับจะสิ้นลม
แล้วค่อย ๆ สลายไป
ในตอนนี้
ผู้แข็งแรงแดนเสินอันดับสูงสุดคนที่หนึ่ง ผู้นำตระกูลจ้าว
จ้าวอู่เหย ร่างจุติลงไป