จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1002 ตายจริงๆ
“อีกอย่าง หลินชางฉองที่เป็นชาวจีน เขาเอาชนะกับสามยักษ์ใหญ่ในกาฬโลกด้วยตัวคนเดียว!”
“ผู้แข็งแกร่งในประกาศมืดร่วมมือกัน แต่ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับเขา!”
“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน!”
“ยากที่จะจินตนาการจริงๆ!”
“ถ้าข่าวนี้ไม่ได้ออกมาจากองค์กรข่าวกรองปีศาจผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ฉันจะเห็นว่ามันเป็นการกลั่นแกล้ง!”
“คนคนหนึ่งสามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งในกาฬโลกรวมถึงสามยักษ์ใหญ่ได้ทั้งหมด นี่ยังเป็นคนอยู่ไหม?”
“หลินชางฉองคนนั้น น่าจะเป็นเทพ เซียน หรือปีศาจที่ชาวจีนกล่าวถึง!”
ถึงแม้ว่าทุกคนจะสงสัยในความสามารถของหลินชางฉอง แต่ทว่า ในตอนที่พวกเขารู้ถึงบันทึกการขันในหมู้ชาวจีนของหลินหยุน เป็นอันดับหนึ่งในลำดับเทพ พวกเขาจึงยอมรับว่าหลินหยุนเอาชนะ ผู้แข็งแกร่งแห่งประกาศมืดและสามยักษ์ใหญ่ด้วยตัวคนเดียว
แต่ว่า สำหรับคิงคองซีซาร์ในตำนาน มีคนจำนวนมากไม่สามารถยอมรับได้ และมีบางคนฝากข้อความในเว็บมืด แสดงความสงสัยว่าเรื่องของซีซาร์เป็นเพียงนิยายหรือไม่
เวลานี้เอง จอร์จปล่อยหลักฐานสำคัญออกไป
ข้อมูลลับสุดยอดที่รัสเซียล้อมปราบปรามเผ่ามนุษย์ลิงและซีซาร์
เมืองหลวงของรัสเซีย หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางคนเห็นข้อมูลลับพวกนั้น ก็โกรธจะแทบจะทุบคอมพิวเตอร์ทิ้ง
“เสนาบดีกระทรวงกลาโหมล่ะ?ไปเรียกเขามาพบผม ผมอยากรู้ว่า ข้อมูลนี้ไปอยู่ในมือของเจ้าพ่อค้าข่าวกรองอย่างไอ้บ้าจอร์จนั่นได้ยังไง!”
ประธานาธิบดีของรัสเซีย กำลังโมโหกราดเกรี้ยวอยู่ในพระราชวังเครมลิน
หลังจากที่ได้เห็นข้อมูลลับสุดยอดเหล่านั้นแล้ว ในที่สุดทุกคนก็เชื่อถึงการมีชีวิตอยู่ของคิงคองซีซาร์
คนคนแสดงความคิดเห็นในเว็บมืดว่า
“โลกเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย?ตอนแรกคิดว่าเป็นเพียงแค่บุคคลในตำนาน แต่กลับมีตัวตนจริงๆ!ตอนนี้กลับมีหลินชางฉองบุคคลที่เป็นเหมือนเทพและปีศาจปรากฏตัวขึ้น นี่ยังเป็นโลกที่เราคุ้นเคยรู้จักอีกหรือไม่?”
มีคนแสดงความคิดเห็นว่า“สิ่งที่น่ากลับมากกว่านั้นก็คือ บุคคลที่เป็นเหมือนเทพและปีศาจ กลับถูกฆ่าด้วยเครื่องยิงจรวดและซูเปอร์บอมบ์!”
“รัสเซียผู้น่ารังเกียจ!”
“ฉันจะให้พวกมันชดใช้!”
“ใช่แล้ว รัสเซียหน้าไม่อาย ใช้วิธีสกปรกลอบโจมตีผู้แข็งแกร่งแห่งกาฬโลก จะต้องให้พวกเขาอธิบายมาให้หมด!”
สมาชิกของกาฬโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเว็บมืด โพสต์ประณามรัสเซียไปทั่วทั้งเว็บ
ข่าวที่ว่าหลินหยุน ผู้ซึ่งเป็นชาวจีนถูกฝังอยู่ในหุบเขาทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในโลกบู๊
ณ ห้องรับรองของประธานาธิบดี
หงซานเหอสีหน้าเจ็บปวด เขาดูเหมือนจะแก่ขึ้นมาก
“ท่านหงไม่ต้องเศร้าหรอก นี่เป็นแค่ข่าวลือ ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จนกว่าจะเห็นศพของหลินหยุนและสมาชิกของหลงถังสองคนนั้น”
หงซานเหอถอนหายใจ“ท่านประธานาธิบดีไม่ต้องปลอบผมหรอกครับ สามเดือนแล้วที่ไม่ได้ข่าวคราวของพวกเขา ถึงหลินหยุนจะไม่ตอบกลับ แต่ว่า สมาชิกของหลงถังสองคนนั้นก็ต้องตอบกลับมาบ้าง”
“ตอนนี้ไม่มีข่าวคราวของพวกเขา นั่นก็บอกได้แค่ว่าพวกเขาประสบอุบัติเหตุ”
ประธานาธิบดีหัวเราะหึๆ“ไม่มีข่าว เป็นสิ่งที่ดีที่สุด บางทีตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกำลังรักษาตัวอยู่ในที่ซ่อน”
หงซานเหอขจัดความโศกเศร้า แล้วพูดด้วย สีหน้าเคร่งขรึมว่า“ประธานาธิบดีครับ ทั้งๆที่รัสเซียรู้ว่าคนของเราอยู่ในหุบเขา แต่กลับไม่แจ้งเตือน แล้วปล่อยพ่อของระเบิดทั้งหมด เรื่องนี้ พวกเขาต้องหาคำอธิบายให้เรา”
สายตาของประธานาธิบดี มองไปนอกหน้าต่าง ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก“ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
“หลินหยุนพวกเขาแอบเข้าไปในทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุด ซึ่งมันเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับกลุ่มชาติพันธุ์อยู่แล้ว เกรงว่าไม่รอให้เราได้รับคำยุติธรรมจากรัสเซีย พวกเขาก็เริ่มหาทางขอคำอธิบายจากเราแล้วล่ะ”
“อีกทั้ง ทุกเผ่าพันธุ์บนโลกในตอนนี้ ล้วนกำลังความยุติธรรมจากรัสเซีย และคอยดูว่ารัสเซียจะให้การตอบรับอย่างไร!”
“เอาล่ะ งั้นก็สังเกตความเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ”ถึงแม้การทำแบบนี้จะไม่ใช่ลักษณะนิสัยของหงซานเหอ แต่ว่า หนทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือเรื่องบางเรื่องต้องนิ่งไว้เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง
หลงถัง องค์กรพิเศษที่ใหญ่ที่สุดของทางการจีน
หน่วยมังกร เป็นหน่วยที่พวกเขาบ่มเพาะ
ตอนนี้ สมาชิกของหลงถังรวมตัวกันในห้องโถง เพื่อสมาชิกไม่กี่คน
“ท่านประมุข ไปทำภารกิจที่แอฟริกาใต้ครั้งก่อน คนของเราเสี่ยงชีวิตช่วยองครักษ์ลับของรัสเซียจากหุ่นยนต์ยักษ์ของสหรัฐอเมริกา แต่ตอนนี้พวกเขากลับสังหารฉูเหอและตางอู่อย่างโหดเหี้ยม”
“ไอ้พวกเนรคุณ เราต้องทวงความยุติธรรมกลับคืนมาให้กับต่างอู่และฉูเหอให้ได้!”
“ใช่ ทวงความยุติธรรม!”
ทุกคนเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว
บนที่นั่งประมุข มีชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง รูปลักษณ์ทรงพลัง สุขุมนุ่มลึกคนหนึ่ง
มองดูผู้คนที่เต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวที่อยู่ด้านล่าง ชายหนุ่มกล่าวด้วยความเคร่งขรึม“ใจเย็นๆกันหน่อยสิ ประการแรกพวกคุณคือทหารของจีน ประการที่สองเป็นเพื่อนของฉูเหอกับตางอู่”
“หน้าที่ของทหารก็คือการเชื่อฟังคำสั่ง!”
“ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้กระทำการด้วยความวู่วาม โดยไม่ได้รับคำสั่งจากจอมพลหงและประธานาธิบดี และผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกจัดการด้วยกฎหมายทหาร!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าตางอู่กับฉูเหอตายอยู่ในหุบเขาจริงหรือไม่”
“ถ้าพวกเขาไม่ตายล่ะ?”
“ถ้าหากแน่ใจแล้วว่าพวกเขาเสียสละชีวิตของตัวเองจริงๆ ถึงเวลานั้น แน่นอนว่าเราจะต้องทวงความยุติธรรมให้พวกเขาสองคน ถึงประธานาธิบดีจะไม่อนุญาต ผมก็จะทวงความยุติธรรมให้พวกเขาในนามของผมเอง”
ทุกคนที่อยู่ด้านล่าง ไม่พูดอะไรอีก ยืนตรงพร้อมกัน แล้วเคารพแบบทหาร กับชายสูงใหญ่
“เราจะเชื่อฟังท่านประมุขครับ”
“ถึงเวลานั้น เราจะไปแก้แค้นให้กับพี่น้องพร้อมกับท่านประมุข!”
ตระกูลหลินแห่งอูซู และทุกคนในตระกูลหลินก็มารวมตัวกัน ด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ดูเหมือนหลินโร่สุ่ยจะยังไม่ตื่นยังไงอย่างงั้น เธอพูดพึมพำว่า“พี่หลินหยุนตายอยู่ที่ทุ่งน้ำแข็งตอนเหนือสุดจริงๆหรอคะ?”
“เขาเป็นถึงมนุษย์ในหมู่เทพ จะตายได้ยังไงกัน?เทพไม่มีวันตายไม่ใช่หรอคะ?”
สาวน้อยพูดพึมพำเบาๆ ทำให้ตระกูลหลินที่รู้สึกเศร้าเสียใจอยู่แล้ว เจ็บปวดขึ้นไปอีก
หลินโล่เฉินเหวี่ยงหมัดไปที่กำแพง ผิวหนังบนมือปริออก เลือดค่อยๆรินไหลออกมา
สีหน้าของเขาหนักอึ้ง“ฉันคิดมาตลอดว่าจะแซงหน้านายยังไง เอาชื่อเสียงของอัจฉริยะในตระกูลหลินกลับมา ทำไมนายถึงได้ตายจากไปอย่างนี้?”
ใบหน้าของหลินโร่หลัน ซีดเผือด ใบหน้าที่งดงามขาวซีด เหมือนกับหุ่นเชิดที่ไร้วิญญาณ
“ตายแล้ว?นายจะตายได้ยังไง?นายทำให้ฉัน อับอายขายหน้าในตระกูลหลิน ฉันยังไม่ได้ทวงความยุติธรรมเลย นายจะตายได้ยังไงกัน!”
หลินตงถิงคือหัวหน้าตระกูลหลินในตอนนี้ เขามองไปที่นายท่านหลินซื่อเฉิงที่นัยน์ตาว่างเปล่า จึงกล่าวเตือนว่า“พ่อครับ หลินหยุนจากไปแล้ว ปลงเถอะนะครับ!”
“ต่อไป ตระกูลหลินของเราจะต้องเผชิญหน้ากับความกดดันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยังต้องพึ่งคุณพ่อเพื่อควบคุมสถานการณ์นะครับ!”
หลังจากที่ข่าวการตายของหลินหยุนถูกแพร่ออกไป ศัตรูเหล่านั้นของเขา รวมถึงคนพวกนั้นยอมจำนนต่อเขาเพราะชื่อเสียงของเขา จะต้องโจมตีอย่างแน่นอน
ในช่วงเวลาเหล่านี้ ตระกูลหลินอาศัยชื่อเสียงของหลินหยุน ถึงได้ทะยานขึ้นสูง กดขี่อาณาจักรของอูซู
ตอนนี้หลินหยุนจากไปแล้ว ตระกูลเหล่านั้นที่มีอำนาจมากกว่าตระกูลหลิน จะต้องไม่ยอมจำนนต่อตระกูลหลินอย่างแน่นอน
คนทั้งตระกูลหลิน รู้สึกได้แล้วว่าภูเขาและฝนกำลังมา และลมก็เต็มทั่วทั้งบรรยากาศในห้อง
รูม่านตาของหลินซื่อเฉิง ฟื้นกลับมาเล็กน้อย
ตั้งแต่ที่ได้ยินข่าวการตายของหลินหยุน นายท่านก็ไม่กินไม่ดื่มเอาแต่นั่งอยู่ตรงนั้นทั้งวัน
โชคยังดีที่ตอนนี้หลินซื่อเฉิงเป็นผู้บำเพ็ญเซียน ไม่อย่างนั้นด้วยอายุและพละกำลังของเขา เกรงว่าจะไม่สามารถแบกรับไหว
“ทางตงหัวเป็นยังไงบ้าง?”นายท่านหลินถาม