จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1027 กลับบ้าน
เมื่อได้ยินว่าหลินหยุนแสดงอาการโกรธ ประธานาธิบดีรัสเซียที่อยู่ปลายสายก็กัดฟันสู้
ท่าน ฉันตกลง
ฉันจะให้คนจัดการข้อมูลเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของเครื่องบินรบรุ่นที่หกให้เรียบร้อย และส่งให้ถึงมือคุณทันที
หลินหยุนพูดเบาๆ ตกลง
พูดตามตรง อันที่จริงหลินหยุนไม่สนใจเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของเครื่องบินรบรุ่นที่หกของรัสเซียเลยสักนิด
เทคโนโลยีเครื่องบินรบที่เขาเข้าใจนั้น มันล้ำหน้ามากกว่าของรัสเซียหลายเท่า
ในตอนแรก เขาเคยอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงหนึ่งซึ่งตรงนั้นทางเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าโลกมาก ซึ่งเครื่องบินรบที่นั่นสามารถกระโดดข้ามดวงดาวได้
หากนำเทคโนโลยีใดๆออกมา ก็สามารถทำลายเทคโนโลยีชั้นสูงใดๆในโลกนี้ได้
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพราะว่าสิ่งที่หลินหยุนเข้าใจนั้นล้ำหน้าเกินไป ถึงแม้จะพูดออกมาเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันก็ไม่สามารถทำได้
หลังจากตกลงตามเงื่อนไขของหลินหยุนแล้วประธานาธิบดีรัสเซียก็พูดอย่างสุภาพ ถ้าอย่างนั้นท่าน ความโกรธแค้นของท่านที่มีต่อรัสเซีย ตอนนี้ยกเลิกไปหมดสิ้นได้ไหม?
หลินหยุนพูดว่า ขอเพียงจากนี้ไปอย่ามายั่วโมโหฉัน ระหว่างพวกเราก็สามารถอยู่อย่างสันติสุข
ในที่สุดประธานาธิบดีรัสเซียก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แน่นอนอยู่แล้ว
ภายในใจประธานาธิบดีรัสเซียอยากด่าแช่ง ไม่ยั่วโมโหคุณ ใครจะไปกล้ายั่วโมโหคุณ!แม้แต่ระเบิดนิวเคลียร์ยังระเบิดไม่ตาย สูญเสียกองทัพภาคเหนือระดับสูงทั้งหมดยังไม่เพียงพอเหรอ? หากยังยั่วโมโหคุณ ประมาณว่าคงต้องเปลี่ยนประธานาธิบดีแล้วจริงๆ
มีเรื่องอื่นอีกไหม? หลินหยุนถาม
ไม่มีแล้วๆ ประธานาธิบดีรัสเซียตอบ
ถ้างั้นก็วางสายแล้วนะ
โอเค ขออวยพรท่าน อืม ขอให้มีความสุขกับการเดินทางครั้งนี้! ประธานาธิบดีรัสเซียพูดเช่นนี้
หลังจากพูดเช่นนี้ เขาก็รู้สึกราวกับว่าเขาได้กินแมลงวันเข้าไป ซึ่งลำบากใจมาก และอึดอัดใจมาก
พูดตามตรง ไม่มีใครในโลกนี้เคยทำให้เขารู้สึกอัดอั้นตันใจขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะนี่คือบุคคลที่สามารถฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มีพละกำลังใดๆที่จะต้านทาน
ข้อมูลเทคโนโลยีเครื่องบินรบรุ่นที่หกก็ถูกส่งให้หลินหยุนในเวลาอันรวดเร็ว
มีหลายกล่อง
คนที่มาส่งข้อมูล เป็นนายพลใต้บังคับบัญชาที่เก่งกาจของประธานาธิบดีรัสเซีย ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีรัสเซียได้ฝากฝังเป็นพิเศษ และเขาก็ให้เกียรติหลินหยุนอย่างมาก
ท่านหลินชางฉองที่มีเกียรติ ประธานาธิบดีของเราถามท่านว่า สิ่งของเหล่านี้มีมากเกินไป ต้องการให้พวกเราช่วยส่งไปยังประเทศจีนโดยตรงหรือไม่?
หลินหยุนพูดเบาๆ ไม่จำเป็น
จากนั้น ต่อหน้านายพลที่มีความสามารถนี้ สะบัดมือ ข้อมูลในกล่องขนาดใหญ่เหล่านั้นก็หายไป
นายพลผู้มีความสามารถตกตะลึงอยู่นาน ก่อนจะอุทานออกมา ท่านเทพแห่งสว่างที่เคารพ นี่คือเวทมนตร์ใช่หรือไม่?
นายไปได้แล้ว หลินหยุนพูดอย่างไร้ความรู้สึก
ครับ ผมขอลา
หลินหยุนใช้เวลาอีกหนึ่งวัน เพื่อฟื้นจากอาการบาดเจ็บ พลังของกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ในร่างกาย ได้ขจัดออกจากร่างกาย
จากนั้น ก็ไปรวมตัวกับคาร์นอตวิลเลี่ยมและคนอื่นๆ
หลังจากพบคาร์นอตวิลเลี่ยม หลินหยุนถึงรู้ว่าตางอู่กับฉูเหอ ดูเหมือนจะมีเรื่องบางอย่างที่ต้องทำ และได้กลับไปประเทศจีนแล้ว
อ้อจริงสิ ตอนที่เขาสองคนกำลังจะจากไป พวกเขาฝากข้อความให้คุณ บอกให้คุณรีบกลับไปที่ประเทศจีน คาร์นอตวิลเลี่ยมพูดอย่างไม่แยแส
ดวงตาของหลินหยุนเย็นชาเล็กน้อย
ตางอู่กับฉูเหอ ทั้งสองคนเป็นคนในสำนักหลงถัง สองสามวันนี้พวกเขาจะต้องติดต่อกับคนในสำนักหลงถัง มีธุระต้องไปก่อน มันก็ไม่แปลก
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเสนอให้เขารีบกลับไปประเทศจีนโดยเร็วที่สุด และข้อความโดยประโยคที่เปิดเผยออกมาค่อนข้างผิดปกติ
ดูเหมือนว่า ต้องเป็นคนที่ได้ยินว่าฉันตายแล้ว ก็รู้สึกกระสับกระส่าย
มีค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุ แม่และคนอื่นๆคงไม่ตกอยู่ในอันตราย
พอดี ครั้งนี้ฉันจะได้รู้ว่า ในช่วงวิกฤติหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ ใครคือคนที่ภักดีต่อฉันที่สุด
คาร์นอตวิลเลี่ยมกลอกตา สัมผัสถึงออร่าสังหารอันเยือกเย็นบนร่างของหลินหยุน และยักไหล่ จะมีคนโชคร้ายอีกแล้ว
หลินหยุนเหลือบมองเขา แล้วพูดว่า ไปกันเถอะ กลับบ้าน
ไป คาร์นอตวิลเลี่ยมแสดงสีหน้าทนไม่ไหวแล้ว
ไม่ได้เจออีหลิงนานแล้ว เธอคงคิดถึงฉันมาก
ในขณะนี้ ในดินแดนประเทศจีน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประจีนได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
นับตั้งแต่หวางซูเฟินกับซูจื่อเหลียงและคนอื่นๆ ได้ซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์ตึกว่างเยว่
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพสิบแปดคน หาวิธีที่จะทำลายค่ายกลมาตลอด หลังจากค้นหายังไร้ประโยชน์ พวกเขาถึงกับจะขุดทะเลสาบเยว่หยา
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกมันจะทำลายขนาดไหน ค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์พรสวรรค์ จะซ่อมแซมเสร็จขบวนค่ายกลที่ถูกพวกเขาทำลายไปเสมอ
และค่ายกลกระบี่ล้างผลาญห้าธาตุได้สกัดกั้นการโจมตีของพวกมันมาตลอด
ค่ายกลทั้งสองรูปแบบนี้ เหมือนค่ายกลที่แข็งแกร่งที่มีทั้งการป้องกันและการโจมตี เสริมซึ่งกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบ
แดนเทพสิบแปดคนที่แข็งแกร่งไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ว่า หวางซูเฟินและคนอื่นๆก็ออกไปไม่ได้เช่นกัน
ถึงแม้ว่าหวางซูเฟินสามารถโทรศัพท์ และสั่งการชางฉองกรุ๊ป
แต่ว่า ภายใต้การคุ้มครองที่ไม่มีกองกำลัง ในเวลาอันรวดเร็วก็พ่ายแพ้ให้กับหวางเซิ่งเฉียนและคนของเขา
คนเก่าแก่มากมายในชางฉองกรุ๊ป อยู่ในสถานกาณ์บังคับ เลือกที่จะทรยศ
ในบรรดานี้ มีผู้มีอิทธิพลใหญ่ในเจียงเป่ยอย่างหูเหวยซิน ผู้มีอิทธิพลใหญ่ในหวางเซิ่งเฉียน เฉิงยู่ผู้มีอิทธิพลใหญ่ในเซียงเฉิง แม้แต่เสิ่นเหยียนผู้มีอิทธิพลใหญ่ในกว่างหนัน
แม้แต่ เจี่ยงสง ก็ยอมจำนนต่อแรงกดดันของยอดฝีมือระดับสูงที่ตระกูลหวางเชิญมา
แน่นอน ยังมีอีกหลายคนที่ยอมตายดีกว่ายอมจำนน
แต่ว่า ชะตากรรมของพวกเขา สามารถจินตนาการได้
ควีนจินก็สิ้นพระชนม์ด้วยน้ำมือของผู้แข็งแกร่งแดนเทพเจ้าสูงสุด
อย่างไรก็ตาม โชคดีที่กองกำลังยับยั้งของเจ้าหน้าที่รัฐจีนยังคงอยู่ที่นั่น บุคคลนั้นสังหารเฉพาะควีนจินเพื่อเบ่งอำนาจ จากนั้นก็ไม่กล้าสังหารคนอื่นอีก
ในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่รัฐจีนทำได้เพียงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
เพราะ ควีนจินก็ถือว่าเป็นนักบู๊ท่านหนึ่งเช่นกัน
และกลุ่มคนชางฉองที่หลินหยุนก่อตั้งขึ้นมา หลังจากที่ซูจื่อเหลียงจากไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะทรยศ
เพราะว่า คนเหล่านี้จำนวนมากถูกครอบงำโดยความแข็งแกร่งของหลินหยุน ไม่ได้จงรักภักดีอย่างแท้จริง
ตอนนี้ ประเทศจีนที่มีชื่อเสียง มีเพียงชางฉองกรุ๊ปเท่านั้นที่มีความแข็งแกร่งสามารถบดขยี้สี่ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ได้ ตอนนี้เกือบจะเหลือแค่ชื่อเท่านั้น
มีเพียงไม่กี่คน ที่ยังคงต่อต้านอย่างดื้อรั้น
และตระกูลหลินในฝั่งอูซุ ก็ถูกรังแกเช่นกัน
นายท่านหลินถูกตีจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์ตึกว่างเยว่ ตระกลูที่เคยพ่ายแพ้ให้กับตระกูลหลินเหล่านั้น ด้วยการสนับสนุนจากตระกูลหวาง ได้ออกมากดดันตระกูลหลินอย่างไม่กลัวตาย
ตระกูลลู๋และตระกูลเสิ่นนั้นบังอาจที่สุด
สองตระกูลนี้และตระกูลฉิน สามตระกูลนี้แต่เดิมเป็นลูกน้องของตระกูลกู่แห่งเมืองหยุนเฉิง
เจ้าบ้านตระกูลฉินถูกหลินหยุนฆ่าแล้ว และทั้งสองก็หมดสติไปทันที หลินหยุนไม่ได้ฆ่าพวกเขา
หลังจากที่ตระกูลกู่กับตระกูลหลินได้จับมือคืนดีกัน เจ้าบ้านกู่ก็แยกตัวจากทั้งสองตระกูล
ไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลกู่ ทั้งสองตระกูลก็พ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ตระกูลหวางได้มาหาพวกเขา
เมื่อรู้ข่าวว่าหลินหยุนตายแล้ว พวกเขาก็หาผู้สนับสนุนที่ใหญ่กว่าตระกูลกู่ ทั้งสองตระกูลได้แสดงความเป็นเศรษฐีใหม่กดดันตระกูลหลินสุดชีวิต
ธุรกิจของตระกูลหลินสิ้นสุดลงแล้ว
แต่ว่า ตระกูลลู๋กับตระกูลเสิ่นไม่คิดที่จะปล่อยตระกูลหลิน
พวกเขาให้คนไปหาเรื่อง และทำให้ตระกูลหลินขายหน้า
รุ่นน้องของตระกูลหลิน ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก จะถูกทุบตี
ทำให้พวกเขาอับอายขายหน้าทุกที่ ด่าทอและใส่ร้ายป้ายสีจนคนในตระกูลหลินทั้งโกรธและอับอายจนหน้าแดง
และเมื่อพวกเขาขัดขืนเล็กน้อย ก็จะถูกเฆี่ยนตีด้วยแผนการที่วางไว้ทันที
ตอนนี้ บางคนในตระกูลหลินที่ไม่หนักแน่นพอ ถึงกับถูกบังคับจนเตรียมหลบหนี
อาจกล่าวได้พลังอำนาจที่เกี่ยวข้องกับหลินหยุน ในครั้งนี้ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
แม้แต่ผู้ที่ต่อต้านอย่างดื้อรั้นเหล่านั้น ในตอนนี้ก็ถูกกดขี่โดยผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหวาง
สำนักงานใหญ่ของชางฉองกรุ๊ป ตอนนี้ถูกครอบครองโดยตระกูลหวาง
ฉินหลันพาผู้ที่ภักดีต่อชางฉองกรุ๊ป ถอยกลับไปที่สำนักงานเดิมของบริษัทตงหวางกรุ๊ป