จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1037 ของขวัญชิ้นใหญ่
ซูจื่อเหลียงกับซูหนัน จะกล้ารับคำขอบคุณของหลินหยุนได้อย่างไร จึงรีบแสดงความเคารพกลับ: ที่ไหนกันล่ะ เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นหน้าที่ของพวกเราทั้งนั้น!
หลินหยุนพยักหน้า: พลังความสามารถของพวกนายสองคน ก็ถึงระดับขั้นแดนเทพแล้ว จงตั้งใจบำเพ็ญฝึกฝนต่อไป เพื่อถึงระดับขั้นยาทอง
เมื่อพวกนายสำเร็จขั้นยาทองแล้ว ฉันจะพาพวกนายก้าวเข้าสู่หนทางการบำเพ็ญเซียนที่แท้จริง
ซูจื่อเหลียงกับซูหนันดีใจอย่างมาก ผู้บำเพ็ญเซียนแข็งแกร่งทรงพลังมากแค่ไหน พวกเขาสามารถ
เห็นได้จากตัวของหลินหยุน
ปณิธานความตั้งใจในตอนแรกของพวกเขานั้นก็เพียงแค่เป็นนักบู๊ขั้นสุงสุดคนหนึ่งเท่านั้น
แต่เวลานี้ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะกลายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่มองดูนักบู๊เป็นเพียงแค่มดแมลงเท่านั้น
โดยที่ไม่รู้ว่าจะนำคำพูดใดมาอธิบายถึงอารมณ์และจิตใจของทั้งสองคนในตอนนี้
ซูจื่อเหลียงคารวะและพูดว่า: ลูกศิษย์ ขอบคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างมาก!
ซูหนันเองก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น: ขอบคุณท่านอาจารย์!
ลุกขึ้นเถอะ! หลินหยุนพูดขึ้น
จากนั้น หลินหยุนก็มองไปที่หวางซูเฟิน และถามขึ้นว่า: พี่ฉินหลันล่ะ?
หวางซูเฟินเหลือบตาขาวใส่หลินหยุน และพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า: ไอ้เด็กคนนี้ ไม่เห็นถามถึง
คุณพ่อบ้างเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง? ถามถึงฉินหลันก่อนเลย
ในเมื่อนายเป็นห่วงเป็นใยฉินหลันมากขนาดนี้ ก็แต่งงานกับฉินหลันแล้วพาเธอกลับบ้านไปเลยสิ
หลินซื่อเฉิงที่อยู่ด้านข้างก็พูดล้อเล่นขึ้นว่า: ถูกต้อง สมควรที่จะแต่งงานพาภรรยากลับมาได้แล้ว ฉันแปลกใจอย่างมากว่า ยีนของเสี่ยวหยุน จะให้กำเนิดเด็กอัจฉริยะอย่างไร
หลินหยุนเก้อเขินเล็กน้อย: คุณแม่ คุณปู่ พวกท่านคิดอะไรไปถึงไหนแล้ว
ไม่ว่าอย่างไรคุณพ่อก็ถือว่าเป็นคนของทางการจีน ซึ่งทางการจีนมีความสามารถที่จะปกป้อง
ดูแลเขาได้
ดังนั้นสำหรับเขาแล้วฉันจึงไม่ค่อยจะเป็นห่วงสักเท่าไร
หวางซูเฟินยิ้มและพูดขึ้นว่า: วางใจเถอะ เมื่อครู่ฉันได้คุยโทรศัพท์กับฉินหลันแล้ว เธอสบายดีไม่มี
ปัญหาอะไร ซึ่งเธอเองก็คาดเดาได้ว่านายคงจะกลับมาแล้ว จึงสอบถามฉันถึงเรื่องของนายด้วย
หลินหยุนได้สังหารเจี่ยงสง รวมถึงผู้ทรยศชางฉองกรุ๊ปเหล่านั้น ซึ่งจากสติปัญญาของฉินหลันแล้ว สามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่าเขาจะกลับมาได้
ไม่มีปัญหาอะไรก็ดีแล้ว
ท่าทางของหวางซูเฟินแสดงออกถึงความรู้สึกเสียใจขึ้น: น่าเสียดายควีนจินจริง ๆ
สายตาของหลินหยุนเป็นประกายวับวาวอย่างเยือกเย็น: วางใจเถอะ เธอจะไม่ตายอย่างโดดเดี่ยว
แน่นอน ฉันจะให้ทั้งโลกบู๊โบราณตายลงไปเป็นเพื่อนพร้อมกับเธอด้วย
รู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของหลินหยุนแล้ว หวางซูเฟินเหมือนกับว่า
นึกคิดอะไรขึ้นได้ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
เสี่ยวหยุน นายคิดจะทำอย่างไรในขั้นตอนต่อไป?
สายตาของหลินหยุนดูล้ำลึก และพูดขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชาว่า: ไปเมืองหลวง กำจัดตระกูลหวาง
หวางซูเฟินถอนหายใจ: แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็คือคุณตาของนาย และคือตระกูลบ้านแม่ของฉัน
หลินหยุนเข้าใจดีว่าหวางซูเฟินกำลังกังวลอะไรอยู่ จึงพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า: คุณแม่วางใจเถอะ ฉันจะพยายามไม่ฆ่าคน แต่ ฉันจะให้ตระกูลหวางได้รับการลงโทษอย่างสาสม กับความผิดที่
พวกเขาได้กระทำเอาไว้ก่อนหน้านี้
หวางซูเฟินรู้สึกละเหี่ยใจขึ้นโดยพลัน ถอนหายใจ และพูดว่า: ตกลง ตอนนี้นายเติบโตเป็นผู้ใหญ่
แล้ว มีความคิดเห็นของตนเอง นายคิดจะทำอย่างไร ก็ไปทำตามความคิดของนายแล้วกัน!
แต่ ฉันจะเตือนนายไว้คำหนึ่งว่า ถึงอย่างไรเลือดก็ข้นกว่าน้ำ
หลินหยุนคำนับแสดงความเคารพต่อหวางซูเฟิน: คุณแม่วางใจได้ ฉันเข้าใจ
หลินหยุนมองไปที่หลินซื่อเฉิงอีกครั้ง
หลินซื่อเฉิงพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า: ไปเถอะ ทำในสิ่งที่นายอยากจะทำ ไม่ว่านายจะตัดสินใจ
อย่างไร ฉันก็สนับสนุนทั้งหมด
ขอบคุณคุณปู่! หลินหยุนพยักหน้าให้กับหลินซื่อเฉิง ในจิตใจเกิดมีความอบอุ่นขึ้น
อย่างนั้นฉันก็ขอตัวไปก่อนแล้ว
หลินหยุนกวาดสายตามองไปที่ทุกคน แล้วทุกคนก็พยักหน้าให้กับเขา
หลินหยุนหันหลัง แล้วเอามือไขว้หลัง ท่าทางเฉยชา และย่างก้าวเดินออกไป
ขณะที่เขากำลังลงจากภูเขานั้น เด็กหนุ่มในชุดสูทสีดำคนหนึ่ง ได้ขัดขวางเขาเอาไว้
ชัดเจนว่า เด็กหนุ่มคนนี้รอคอยมาเป็นเวลานานแล้ว
ปรมาจารย์หลิน จอมพลหงต้องการพบท่าน!
เด็กหนุ่มพูดขึ้นอย่างเคารพ
โทรศัพท์ของหลินหยุนเสียในตอนที่ได้รับการสั่นสะเทือนจากการระเบิดของพ่อของระเบิดทั้งหมด จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ใส่ใจที่จะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่เลย
ท่านหงมีธุระอะไรเหรอ?
สำหรับในช่วงเวลาที่หลินหยุนไม่อยู่นั้น ทางการจีนให้การเอาใส่ใจดูแลญาติพี่น้องและเพื่อน
ของเขาอย่างดี ซึ่งหลินหยุนรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นยิ่งนัก
ดังนั้น ลักษณะท่าทางที่ปฏิบัติต่อหงซานเหอนั้น ก็สุภาพเกรงใจอย่างพอสมควร
เด็กหนุ่มนั้นพูดว่า: เชิญท่านรับสายโทรศัพท์
ในขณะที่กำลังสนทนากันเมื่อครู่นั้น เด็กหนุ่มก็ได้โทรศัพท์ไปหาหงซานเหอแล้ว
หลินหยุนรับโทรศัพท์จากเด็กหนุ่มที่ยื่นส่งมาให้ แล้วก็แนบฟังไปที่ข้างหู
โทรศัพท์ฝั่งนั้น ก็มีเสียงของหงซานเหอที่ดังขึ้นอย่างเคร่งเครียด: ไอ้หนุ่ม ตระกูลหวางได้
นำพาวงศ์ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูล มาร้องเรียนบีบบังคับให้ประธานาธิบดีจีนลงโทษนาย
โดยบอกว่านายประพฤติกระทำผิดอย่างเหิมเกริม ซึ่งเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่าง
สองประเทศ
นายรีบคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาโดยด่วน ซึ่งจะให้ดีที่สุดก็ควรเหมือนกับการจัดการต่อญี่ปุ่น โดยให้ประธานาธิบดีของพวกเขาโทรศัพท์มาอธิบายชี้แจงด้วยตนเอง
สำหรับเรื่องราวที่หลินหยุนได้กระทำขึ้นที่รัสเซียนั้น หงซานเหอรับรู้และเข้าใจอย่างชัดเจนทั้งหมด
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบถึงคำพูดเหล่านั้นในตอนท้ายที่ประธานาธิบดีรัสเซียพูดคุยกับหลินหยุน แต่ว่า เขาสามารถคาดเดาได้ว่า หลินหยุนได้จัดการกำราบรัสเซียจนอยู่หมัดแล้ว
อย่าได้พูดว่าเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งหลังจากนี้ต่อไปเมื่อรัสเซีย
พบเจอกับหลินหยุน เกรงว่าคงจะยอมถอยหลังเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหา
ดังนั้น ถ้าหากหลินหยุนบอกให้ประธานาธิบดีรัสเซียโทรศัพท์มาเพื่ออธิบายชี้แจง ประธานาธิบดี
รัสเซียเองก็คงจะยินยอมพร้อมใจอย่างแน่นอน
หลินหยุนหัวเราะเบา ๆ: ไม่ต้องให้ประธานาธิบดีรัสเซียโทรศัพท์มาเพื่ออธิบายชี้แจงอะไรแล้ว พอดีเลยที่เขาได้ฝากของขวัญให้ฉันนำมามอบให้กับจีน ซึ่งคงจะสามารถทำให้สี่วงศ์ตระกูลใหญ่
หุบปากลงได้บ้าง
หงซานเหอที่อยู่ในสายนั้นเลิกคิ้วขึ้น และก็ได้แสดงรอยยิ้มอย่างเจ้าเลห์: ของขวัญ? ฉันกำลัง
ตั้งตารอเลย
หงซานเหอรู้อยู่แก่ใจดีว่า แม้หลินหยุนจะพูดว่าของขวัญชิ้นนี้คือทางประธานาธิบดีรัสเซียเป็น
ผู้มอบให้ ซึ่งก็ยังดีกว่าที่จะบอกว่าหลินหยุนเป็นผู้ที่ต้องการเอง
ในโลกนี้ของขวัญที่หลินหยุนเห็นค่าให้ความสำคัญนั้น เพียงจินตนาการก็ทำให้ทุกคนตั้งตารอแล้ว
อย่างนั้นนายก็รีบมาเมืองหลวงสักรอบเถอะ!
ตกลง!
วางสายโทรศัพท์ลง เด็กหนุ่มคนนั้นก็แสดงความเคารพอย่างสุภาพต่อหลินหยุน แล้วก็หันหลัง
เดินจากไป
หลินหยุนไม่ได้รีบเดินทางไปเมืองหลวงในทันที แต่ได้ไปที่สำนักงานใหญ่เดิมของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป เพื่อหาฉินหลัน
อาคารสำนักงานบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป
แม้ว่าจะคาดเดาได้ว่าหลินหยุนกลับมาแล้ว แต่ เมื่อมองเห็นหลินหยุนยืนอยู่เบื้องหน้าของตนเอง ฉินหลันหญิงสาวที่งดงามดูเป็นผู้ใหญ่ รูปร่างสูงเรียว ก็ยังอดไม่ได้ที่จะน้ำตาคลอเบ้า
ส่วนคนอื่นนั้น ต่างก็พากันดีใจเป็นพิเศษ พวกเขาโชคดีที่ในตอนนั้นได้เลือกร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ
ชางฉองกรุ๊ป
มิเช่นนั้นแล้ว เจี่ยงสงและคนอื่น ๆ ก็คือตัวอย่างจุดจบของพวกเขา
ไอ้เด็กคนนี้ นายยังรู้จักที่จะกลับมาอีกเหรอ? ฉินหลันเหลือบตาขาวใส่หลินหยุน เมื่อหญิงสาว
สวยโมโหขึ้น ก็ดูดีมีเสน่ห์น่าหลงใหลไม่เบาเลย
คราวนี้หลินหยุนไม่ได้ทะเล้นยียวน แต่พูดขึ้นอย่างเจ็บปวดใจว่า: พี่ฉินหลัน คุณผอมลงมากเลย
ถูกต้อง ฉินหลันซูบผอมลงไป แต่ว่า ก็ไม่ได้ส่งผลต่อรูปร่างที่น่าภูมิใจของเธอเลยแม้แต่น้อย กลับยังดูงดงามน่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก
ต้องโทษที่นายนั่นแหละ! ไม่มีอะไรทำไมต้องเดินทางไปสถานที่อันไกลโพ้นนั่นด้วย ทำให้ทุกคน
ต้องเป็นกังวลกันไปหมด
หลินหยุนยิ้มและพูดขึ้นว่า: วางใจเถอะ ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว
สายตาของหลินหยุน มองไปยังพวกคนเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังของฉินหลัน
ในจำนวนนั้น ยังมีคนที่คุ้นเคยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น โม่จือมิ่ง ฟางปู้ถง ฉีว่างหมิง เป็นต้น
ทุกคนเห็นว่าหลินหยุนมองมายังพวกเขา ก็รีบคำนับแสดงความเคารพ: ยินดีด้วยที่ปรมาจารย์
หลินกลับมาอย่างปลอดภัย!
หลินหยุนพยักหน้า ด้วยท่าทางที่อ่อนโยน: ช่วงที่ผ่านมานี้ ลำบากทุกท่านแล้ว
ไม่ลำบากเลย มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้ว ทุกคนรู้สึกเหมือนกับได้รับความโปรดปราน
อย่างไม่คาดฝัน จึงรีบแสดงความเคารพตอบ
หลินหยุนไม่ถนัดการทักทายปราศรัย ซึ่งหลังจากที่ได้ทักทายเสร็จแล้ว สีหน้าท่าทางก็เย็นชาลง
ควีนจินฝังอยู่ที่ไหน?
ได้ยินคำถามของหลินหยุน สีหน้าท่าทางของทุกคนต่างก็หนักอึ้งขึ้นตามไปด้วย
ฉินหลันถอนหายใจ: คุณท่านจินหยิ่งทะนงและสูงส่ง ยอมตายโดยที่ไม่ยอมเสียเกียรติ แต่น่าเสียดายที่ พวกเราล้วนเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเธอได้ จึงเห็นเธอ
เสียชีวิตลงจากการสู้รบไปต่อหน้าต่อตา
โม่จือมิ่งพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า: ปรมาจารย์หลิน คุณท่านจินตายไปอย่างน่าอเนจอนาถ!
ยอดฝีมือแดนเทพผู้นั้นที่ตระกูลหวางได้บงการมา สามารถที่จะสังหารคุณท่านจินได้ในพริบตา แต่ว่า เพื่อที่จะข่มขู่คุกคามพวกเรา จึงจงใจที่จะหักแขนหักขาของคุณท่านจินก่อน จากนั้นจึง
สังหารคุณท่านจิน