จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1043 กำจัดบู๊โบราณก่อนแล้วค่อยกำจัดนาย
ความกังวลของหวางโส่วเหรินนั้น ก็คือความกังวลของพวกผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหวาง
ด้วยเช่นกัน
ลูกคนที่สี่ของตระกูลหวาง หวางเต๋อหรงที่เป็นป้าของหลินหยุนพูดขึ้นว่า: คงจะไม่หรอก ไม่ว่า
อย่างไร พี่สาวสามคงจะไม่ปล่อยให้เขาลงมือฆ่าพวกเราแน่นอน!
หวางโส่วเหรินพูดว่า: ไม่แน่ เพราะพวกเราปฏิบัติกับเขาแบบนั้น ในใจของน้องสาวสามก็คงจะ
เกลียดพวกเราเช่นกัน
หวางจิงหลงพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า: ระวังการเรียกขานของพวกนายกันหน่อย หล่อนกับพวกเรา
ตระกูลหวางไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน
หวางโส่วเหรินกับหวางเต๋อหรงก้มหน้าลง: รับทราบ
หวางจิงหลงพูดต่อว่า: เขายังไม่กล้าลงมือทำอะไรพวกเราหรอก และก็ไม่มีเหตุผลที่จะลงมือ
จัดการพวกเราด้วย
แต่ว่า เฉียนเอ๋อ ตอนนี้นายต้องออกไปจากที่นี่แล้ว
หวางเซิ่งเฉียนพยักหน้า และพูดว่า: ฉันทราบแล้ว ฉันจะเดินทางกลับเขาคุนหลุนเดี๋ยวนี้
ไปเถอะ! หวางจิงหลงพูดขึ้นอย่างใจเย็น
หลังจากที่หวางเซิ่งเฉียนแอบเดินทางกลับไปแล้ว หลินหยุนก็เริ่มลงมือ
เขาได้นำจั่วยีเจี้ยนที่ถูกชกจนกลายเป็นเค้กเนื้อ โยนทิ้งลงไปที่เบื้องหน้าของคนตระกูลหวาง
อย่างรุนแรง
เปรี๊ยะ!
จั่วยีเจี้ยนสูญเสียรูปร่างของความเป็นคนไปแล้ว
โอ้กกกก!
มองดูจั่วยีเจี้ยนในสภาพที่เป็นเค้กเนื้อ คนตระกูลหวางบางคนทนดูไม่ได้ จึงส่งเสียงอาเจียน
ออกมา
ส่วนหวางจิงหลงที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดนั้น สีหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
หลินหยุนมองไปที่หวางจิงหลงอย่างเงียบ ๆ ซึ่งก็คือคุณตาของตนเอง
ไม่กลัวเหรอ? หลินหยุนพูดขึ้น
หวางจิงหลงพูดขึ้นว่า: ทำไมจะต้องกลัวด้วยล่ะ?
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: หลายปีมานี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตระกูลหวางปฏิบัติต่อครอบครัวของฉันนั้น ต่อให้สังหารพวกนายทุกคนแล้วก็ยังไม่เพียงพอที่จะระบายความโกรธแค้นทั้งหมด
หวางจิงหลงมองไปที่เขาอย่างเย็นชา และพูดว่า: นายไม่กล้า
ทำไมไม่กล้า? หลินหยุนย้อนถามกลับ
นายกล้าที่จะลงมือต่อตระกูลหวาง นายก็จะไม่มีที่ยืนอยู่ในจีนอีกต่อไป! ตระกูลหวาง ก็คือ
ตระกูลราชาแห่งโลกมนุษย์ หวางจิงหลงน้ำเสียงหนักแน่น
นอกจากนี้ นายยังหวาดกลัว เขาคุนหลุนผู้อยู่เบื้องหลังของตระกูลหวาง
แม้ว่านายจะสังหารอาจารย์อาแห่งเขาคุนหลุนแล้ว แต่ว่า ขณะเดียวกันนายก็ได้เห็นถึงพลังความ
แข็งแกร่งของเขาคุนหลุนแล้ว
นายคนเดียว จะสามารถรับมือกับทั้งโลกบู๊โบราณได้อย่างนั้นเหรอ?
หวางจิงหลงหัวเราะเยาะ
หลินหยุนพูดว่า: นายพูดได้ถูกต้อง ตระกูลหวางคือคนในโลกมนุษย์ แต่ฉันสามารถที่จะสังหาร
นักบู๊ทุกคนในตระกูลหวางของพวกนายให้หมดสิ้นได้
เดิมทีฉันก็วางแผนไว้ว่าจะทำแบบนี้ แต่ ตอนนี้ฉันเปลี่ยนความคิดนั้นแล้ว
พวกนายตระกูลหวางเลื่อมใสเขาคุนหลุนแห่งโลกบู๊โบราณใช่ไหม? อย่างนั้นฉันก็จะไปกำจัด
โลกบู๊โบราณก่อน แล้วค่อยกลับมากำจัดพวกนาย
หวางจิงหลงยิ้มเยาะ: คุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอาย!
โลกบู๊โบราณสืบทอดมายาวนานไม่รู้กี่พันปี ใช่ว่านายจะพูดว่ากำจัดก็กำจัดได้ที่ไหนกันล่ะ ต่อให้นายเป็นผู้บำเพ็ญเซียน ก็ไม่สามารถทำได้
หลินหยุนพูดว่า: เรื่องนี้คุณไม่ต้องมาเป็นห่วงหรอก ฉันจะทำให้พวกนายตระกูลหวาง รับรู้ได้ถึง
ความสิ้นหวังที่คุณแม่ของฉันได้พบเจอในตอนนั้น
หวางจิงหลงพูดขึ้นว่า: ฉันจะรอดู
แล้วหลินหยุนก็จากไป
เขาไม่ได้สร้างปัญหาความยุ่งยากให้กับตระกูลหวาง
ไม่ใช่เพราะว่าหลินหยุนพะว้าพะวังถึงข้อกำหนดของโลกมนุษย์กับโลกบู๊ แต่เพราะสิ่งที่หลินหยุน
ต้องการนั้น ไม่ใช่การกำจัดตระกูลหวาง
ไม่ว่าตระกูลหวางจะปฏิบัติย่ำแย่ต่อครอบครัวของตนเองขนาดไหน แต่ว่า ยังไงตระกูลหวางก็คือ
ครอบครัวทางฝ่ายคุณแม่
แม้ว่าหวางซูเฟินจะพูดว่าทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหลินหยุน แต่หลินหยุนเข้าใจ
ชัดเจนว่า ในใจของคุณแม่ไม่ต้องการให้ตระกูลหวางเกิดเรื่องขึ้น
หลินหยุนมาที่ตระกูลหวาง ก็เพื่อระบายความแค้นให้กับคุณแม่ ทำให้คุณแม่สบายใจ
ดังนั้น เรื่องที่ทำให้คุณแม่ต้องเป็นทุกข์เสียใจ เขาจะไม่ทำอย่างแน่นอน
หวางจิงหลงและคนอื่น ๆ ของตระกูลหวาง ยืนอยู่ด้านหน้าประตูใหญ่คฤหาสน์ตระกูลหวาง เป็นเวลานาน
หวางจิงหลงไม่เคลื่อนไหว คนอื่น ๆ ของตระกูลหวางก็ไม่เคลื่อนไหวเช่นกัน
หวางโส่วเหรินกระซิบเตือนขึ้นเบา ๆ: คุณพ่อ เขาเดินจากไปไกลแล้ว!
หวางจิงหลงจึงตั้งสติกลับมาได้ สีหน้าท่าทางที่เดิมทีดูเคร่งขรึมนั้น ก็หงอยเหงาขึ้นโดยพลัน
แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจยอมรับมาโดยตลอด แต่ว่า ในใจของเขานั้นเข้าใจเป็นอย่างดี
เด็กหนุ่มที่เขาจงเกลียดจงชังคนนั้น เพียบพร้อมด้วยความสามารถในการที่จะเขย่าตระกูลหวาง
ที่ยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างแท้จริง
หากจะพูดว่าไม่เสียใจ นั่นก็คงจะเป็นการโกหก
ถ้าหากในตอนนั้น……
ไม่ ไม่มีคำว่าถ้า การเลือกและตัดสินใจในชีวิตที่ผ่านมาของเจ้าบ้านตระกูลหวางนั้น ไม่เคย
มีคำว่าถ้าอยู่แล้ว
ต่อให้มีโอกาสใหม่อีกครั้ง เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลหวางแล้ว เขาก็ยังคงที่จะขัดขวางการ
แต่งงานของหวางซูเฟินอยู่ดี
นี่ก็คือหวางจิงหลง
ทุกสิ่งทุกอย่าง ถือเอาผลประโยชน์ของตระกูลหวางเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
กลับกันเถอะ!
หวางจิงหลงพูดขึ้นคำหนึ่ง แล้วก็หันหลัง เดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์
หวางโส่วเหรินและคนอื่น ๆ ของตระกูลหวาง มองไปยังภาพเงาด้านหลังของหวางจิงหลง โดยที่
ตื่นตระหนกตกใจขึ้นเล็กน้อย
ผ่านไปชั่วครู่ หวางโส่วเหรินก็พลันพูดขึ้นว่า: คุณพ่อ แก่ชราแล้ว
หวางเต๋อหรงน้องสาวสี่พูดขึ้นอย่างเศร้าโศกว่า: ถ้าหากในตอนนั้นไม่ทำการตัดสินใจแบบนั้น บางทีตอนนี้อาจจะเป็นในอีกสภาพการณ์หนึ่งก็ได้
หวางโส่วเหรินเม้มปากกัดฟัน และพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า: ไม่มีคำว่าถ้า
กลับกันเถอะ!
คำพูดของเขา เหมือนกันกับหวางจิงหลง
หวางเต๋อหรงหัวเราะอย่างขมขื่น: ใช่ ไม่มีคำว่าถ้า ดังนั้น ก็ไม่มีถูกหรือผิด ในเมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้น
หลินหยุนออกมาจากตระกูลหวาง โดยที่ไม่ได้กลับไปยังทะเลสาบเยว่หยา แต่เดินทางไปที่
ฐานทัพกองกำลังพิเศษมังกรฟ้า
หวางซูเฟินบอกกับเขาว่า พวกคนเหล่านั้นได้มาช่วยเหลือเธอฝ่าวงล้อมออกไปได้อย่างกะทันหัน
จากความสามารถของหลินหยุนแล้ว สามารถที่จะคิดออกได้ว่าพวกคนเหล่านั้นคือใคร
ภายในฐานทัพมังกรฟ้า กองกำลังสามสิบหกคนมังกรฟ้าได้รับทราบถึงข่าวการกลับมาของ
หลินหยุนแล้ว
เวลานี้ แม้ว่าพวกเขาจะสูญสิ้นวิชาบำเพ็ญไป แต่ว่า ใบหน้าของแต่ละคนต่างก็แสดงออกถึง
ความตื่นเต้นดีใจ
ทว่า เมื่อคิดถึงพลังความสามารถเดิมที่แข็งแกร่งนั้นได้สูญสิ้นไป พวกชายฉกรรจ์เหล่านี้ ก็ยังคง
อดไม่ได้ที่จะเศร้าโศกเสียใจ
แม้ว่าจะไม่มีวิชาบำเพ็ญแล้ว แต่ พวกกองกำลังมังกรฟ้าก็ยังคงฝึกฝนอย่างต่อเนื่องทุกวัน
แม้แต่ยิ่งตงไหลที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ยังคงยืนหยัดฝึกฝนทุกวัน
แต่ว่า การฝึกฝนก็ลดระดับความหนักหน่วงลงไปไม่น้อย
เพราะว่าทุกคนต่างก็ไม่มีวิชาบำเพ็ญแล้ว
วิ่งกันหน่อย ดูสภาพที่ไม่เอาไหนของพวกนายกันสิ ไม่มีวิชาบำเพ็ญแล้ว พวกนายก็ยังคง
เป็นราชาทหาร!
ตอนนี้วิ่งเพียงแค่สิบหกรอบเอง พวกนายก็ไม่ไหวกันแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ต่อไปเมื่อออกไปด้านนอกห้ามพูดว่าพวกนายคือคนของกองทัพมังกรฟ้า มันช่างน่าอับอาย
ขายขี้หน้า!
ยิ่งตงไหลวิ่งอย่างเหนื่อยหอบไปพลาง และก็ตะโกนดุด่าไปพลาง
จางเสว่หรูที่เป็นคนพูดเสียงดังได้ตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจว่า: ใคร ใครที่น่าอับอาย! ถ้าหากฉันยัง
มีวิชาบำเพ็ญอยู่ ระดับความหนักหน่วงของการฝึกฝนเท่านี้จะนับประสาอะไรล่ะ!
ยิ่งตงไหลตะโกนพูดเสียงดังว่า: อย่างนั้นก็วิ่งกันสิ หากวิ่งไม่ครบยี่สิบรอบ จะไม่ให้กินข้าว!
หลินหยุนไม่ได้เดินผ่านหน้าประตูใหญ่ แต่ยืนอยู่บนยอดตึกอาคารของฐานฝึกฝนกองทัพมังกรฟ้า
เขามองไปยังพวกชายฉรรจ์เหล่านี้ พร้อมกับรอยยิ้มอันอ่อนโยน
พวกกลุ่มคนที่ยอมสละชีพ แต่ไม่ยอมพ่ายแพ้นี้ ต่อให้ไม่มีชี่แท้แล้ว ยังคงจะฝึกฝนกันหนัก
ขนาดนี้อีก
หลินหยุนลอยตัวขึ้น แล้วก็กระโดดลงมา บนสนามวิ่งของพวกกองกำลังมังกรฟ้า
หัว หัวหน้า!
เจ้าเตี้ยโหวผิ่นเหยียนเป็นคนแรกที่พบเห็นหลินหยุน ดวงตาตี่ทั้งสองข้างเบิกโพลงขึ้น พร้อมกับ
ตะโกนเรียกขึ้นอย่างตะกุกตะกัก
จางเสว่หรูดุด่าขึ้นว่า: เจ้าโหว นายเป็นบ้าอะไรไป ตอนนี้หัวหน้าคงกำลังยุ่งอยู่กับการกำจัด
พวกคนแก่นั่นอยู่ นายพูดสุ่มสี่สุ่มห้าอะไร!
หลิวจื่อเทาผู้ที่มีอายุน้อยที่สุดได้หยุดฝีเท้าลง แล้วมองไปที่หลินหยุนและอุทานขึ้นว่า: ใช่หัวหน้า
จริง ๆ ด้วย หัวหน้ากลับมาแล้ว!
จางเสว่หรูก็หยุดวิ่งลงเช่นกัน และมองไปที่หลินหยุน: ฮ่าฮ่า ฉันพูดแล้วไงว่า หัวหน้าคงไม่มีทาง
ลืมพวกเราอย่างแน่นอน!
ยิ่งตงไหลตะโกนส่งสัญญาณ: ยืน……หยุด!
ที่จริงเขาไม่ต้องตะโกน กองกำลังทั้งหมดก็เตรียมหยุดลงกันแล้ว
ขวาหัน มองตรงไปด้านหน้า หยุดพัก!
คำสั่งยาวเป็นชุด กองกำลังทั้งหมดก็ปฏิบัติตามกันอย่างพร้อมเพรียง
จัดระเบียบกองกำลังแล้ว ยิ่งตงไหลก็หันหลังกลับมาแล้วก็แสดงความเคารพแบบทหารต่อ
หลินหยุน: ยินดีต้อนรับการกลับมาของหัวหน้า!
แปะแปะแปะแปะ……
เสียงปรบมือดังสนั่น
ปรบมือจนมือแทบจะบวมแล้ว
หลินหยุนเดินก้าวเข้ามาที่ด้านหน้าของยิ่งตงไหล แล้วก็พยักหน้าให้กับเขา: พอเถอะ หยุดลงกัน
ได้แล้ว!