จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1054 เทพธิดาที่เขียนไว้ในบันทึกบรรพบุรุษโลหิต
หลินหยุนก็เปิดอ่านสมุดเล่มเล็กโบราณนั้น
ที่ทำให้ไม่เข้าใจก็คือ ตัวหนังสือบนสมุดเล่มเล็กนั้น ถึงกับใช้ภาษาจีนในการจดบันทึกไว้
อีกอย่าง นี่ไม่ใช่ตัวอักษรแบบตัวย่อที่ใช้กันในปัจจุบัน แต่กลับเป็นตัวอักษรแบบตัวเต็มที่ใช้เมื่อก่อนหน้านี้นานแล้ว
หลินหยุนมองดูคาร์นอตวิลเลียมแล้วถามว่า บรรพบุรุษเผ่าโลหิตเป็นชาวจีนเหรอ?
คาร์นอตวิลเลียมส่ายหน้าอย่างมั่นใจ คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? บรรพบุรุษเผ่าโลหิตเป็นคนที่สูงส่งที่สุดของพวกเราเผ่าโลหิต เป็นสายเลือดบรรพบุรุษที่แท้จริงที่สุดของเผ่าโลหิต เป็นไปได้ยังไงจะเป็นชาวจีน?
หลินหยุนมองดูสมุดเล่มเล็กแล้วถามว่า งั้นทำไมบันทึกบรรพบุรุษโลหิตต้องเขียนด้วยภาษาจีนล่ะ?
คาร์นอตวิลเลียมกลับไม่รู้สึกแปลกใจอะไร อีกทั้งยังถามหลินหยุนกลับว่า นี่จะมีปัญหาอะไรเหรอ?
ไม่มีอะไรที่บรรพบุรุษเผาโลหิตทำไม่ได้ การรู้จักภาษาจีนของพวกคุณเป็นเรื่องธรรมดามากเลย!
หลินหยุนพูดว่า ต่อให้เขารู้จักภาษาจีนก็จริง แต่ว่าเรื่องการจดบันทึกด้วยมือแบบนี้โดยทั่วไปแล้วคนส่วนใหญ่ก็จะมักใช้ภาษาที่ตัวเองถนัดในการเขียนบันทึกทั้งนั้น ก็เหมือนคุณที่รู้ภาษาจีนเหมือนกัน แต่ว่าถ้าให้คุณจดบันทึกเรื่องราวลึกลับบางอย่าง คุณจะใช้ภาษาจีนเขียนไหมล่ะ?
คาร์นอตวิลเลียมคิดดูแล้วก็ส่ายหน้า งั้นก็คงไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน
นอกจากว่าภาษาจีนจะเป็นภาษาที่ฉันถนัดมากที่สุด หรือไม่ ฉันอาจจะจดบันทึกไว้ เพื่อทิ้งไว้ให้ใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะที่ฉันต้องการให้ดูเท่านั้น
คาร์นอตวิลเลียมมองไปยังหลินหยุน แล้วถามว่า คุณกำลังสงสัยว่า บรรพบุรุษเผ่าโลหิตใช้ภาษาจีนจดบันทึก เป็นการจงใจงั้นเหรอ?
หลินหยุนพยักหน้า มีความเป็นไปได้มาก
คาร์นอตวิลเลียมไม่ชอบการเดาไปเดามาเช่นนี้ จึงพูดอย่างอดรนทนไม่ไหวว่า รีบอ่านดูข้างในว่าบันทึกอะไรไว้บ้าง อาจไม่แน่ข้างในบันทึกบรรพบุรุษโลหิตได้เขียนอธิบายอะไรไว้ก็ได้
อึม หลินหยุนพยักหน้า แล้วเริ่มอ่านดูสมุดบันทึกนั้น
ประโยคแรกเขียนไว้ว่า เธอคือผู้หญิงที่สวยที่สุดในใต้หล้านี้เท่าที่ฉันเคยเห็นมา
หลังจากนั้น ก็ล้วนแต่เป็นคำบรรยายที่ชื่นชมความงามด้วยถ้อยคำที่คมคาย
ทั้งหน้ากระดาษล้วนแต่ชมเชยความงามของผู้หญิงคนนั้นทั้งนั้น
หญิงสาวที่พูดถึงคนนั้นก็คือเทพธิดาตัวจริงแล้ว ในโลกนี้ไม่มีทางที่จะมีผู้หญิงที่งามเพียบพร้อมสมบูรณ์ได้เช่นนั้นอย่างแน่นอน
เมื่ออ่านเนื้อหาจบแล้ว คาร์นอตวิลเลียมก็มึนงงไปสักพักหนึ่ง เกิดอะไรขึ้น?
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย บรรพบุรุษเผ่าโลหิตคุณที่แท้ก็เป็นพวกโรคคลั่งรัก
อ่านต่อไปอีกเลยว่ายังเขียนอะไรอีก คาร์นอตวิลเลียมพูดเร่งเร้า
หน้าที่สองเขียนไว้ว่า เธอมาจากประเทศจีน เธอคือดวงจันทร์ที่สวยที่สุดในยามค่ำคืน
จู่ๆหลินหยุนก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้น
ดวงจันทร์ที่สวยที่สุดในยามค่ำคืน มาจากประเทศจีน
คนที่บรรพบุรุษเผ่าโลหิตพูดถึงคือเย่เยว่เหรอ?
เนื้อหาต่อไปก็เขียนบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับเขาเทพจันทราและเมืองปีศาจ
อ่านถึงตรงนี้แล้ว คาร์นอตวิลเลียมก็พูดขึ้นว่า ฉันก็จำข้อมูลสองอย่างนี้ได้ ดังนั้นฉันจึงไปประเทศจีนไง
ด้านหลังดูเหมือนจะเป็นภาพวาดหลายรูปอยู่ ตอนนั้นฉันก็ดูไม่เข้าใจ อ่านจบแล้วก็ลืมไปเลย
หลินหยุนก็พลิกหน้าต่อไป ด้านหลังวาดรูปภาพไว้สิบสองรูป วาดได้ค่อนข้างครุมเครือไม่ชัดเจนนัก แต่ว่าก็ยังคงดูออกว่า ทั้งหมดนี้ก็น่าจะเป็นสถานที่สิบสองแห่ง
หนึ่งในรูปภาพที่วาดนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นเกาะเล็กๆเกาะหนึ่ง บนเกาะก็ยังมีรูปปั้นรูปหนึ่งอยู่ด้วย
มุมขวาล่างสุดในหน้าสุดท้ายนั้น ยังมีตัวหนังสือเล็กๆเขียนไว้ว่า ฉันเสียใจแล้ว
ทั้งสี่คำนี้ หลินหยุนอ่านแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ฉันเสียใจแล้ว
หมายความว่าอะไร?
บรรพบุรุษเผ่าโลหิตสำนึกเสียใจแล้ว? เสียใจอะไรล่ะ?
ในเมื่อเขาเขียนบันทึกไว้ในสมุดบันทึกว่าฉันเสียใจแล้ว เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นลึกซึ้งมากพอที่จะทำให้เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
อีกอย่างถ้าหากเชื่อมโยมกับเนื้อหาก่อนหน้านั้นแล้วละก็ เรื่องราวที่ทำให้บรรพบุรุษเผ่าโลหิตสำนึกเสียใจ น่าจะเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้
สมมุติว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือเทพจันทรา เช่นนั้นแล้วเธอก็จะเป็นเทพธิดาแห่งชีวิตในตำนานเทพนิยายของโลกตะวันตกด้วยหรือไม่?
แล้วเธอกับบรรพบุรุษเผ่าโลหิตมีความสัมพันธ์อะไรกัน?
ตราประทับในตัวของชนเผ่าโลหิต จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่?
ข้อสงสัยแต่ละข้อนั้น แม้แต่หลินหยุนก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้เลย
คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างเสียดายว่า แค่นี่เองไม่มีอีกแล้วเหรอ? นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องราวของเทพธิดาแห่งชีวิตเลย แล้วพวกเราจะไปหาของที่เทพธิดาแห่งชีวิตทิ้งไว้ให้ได้จากที่ไหนกันล่ะ?
อีหลิง คุณจะต้องอดทนไว้นะ คาร์นอตวิลเลียมสีหน้าร้อนรน
จู่ๆหลินหยุนก็ชี้ไปยังหนึ่งในจำนวนรูปภาพทั้งสิบสองนั้นแล้วถามว่า สถานที่ที่นี้คุณสามารถหาได้ไหม?
คาร์นอตวิลเลียมมองดูแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย สถานที่นี้ฉันรู้สึกค่อนข้างคุ้นเคย แต่ว่าฉันก็จำไม่ได้ว่านี่เป็นสถานที่ที่ไหนกันแน่
หลินหยุนพูดว่า ลองนึกดูดีๆอีกทีสิ ถ้าสามารถหาสถานที่นี้ได้ อาจไม่แน่ก็จะสามารถสืบหาเบาะแสเรื่องที่เกี่ยวกับเทพธิดาแห่งชีวิตก็ได้
คาร์นอตวิลเลียมหลับตาครุ่นคิดสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นก็ลืมตาขึ้น แล้วส่ายหน้าพูดว่า ไม่ได้ นึกไม่ออก!
แต่ว่าพวกเราสามารถไปหาคนคนหนึ่งได้ ฉันคิดว่าเจ้าหมอนั่นน่าจะรู้ว่าสถานที่นี่อยู่ที่ไหน!
หลินหยุนสายตาลุกวาว มองดูเขาแล้วพูดว่า คุณคิดจะไปหาคนขายข้อมูลคนนั้น ยักษ์แปดนิ้วจอร์จ
ถูกต้อง เขาจะต้องรู้อย่างแน่นอน คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างมั่นใจ
หลินหยุนถามว่า แต่ว่า คุณรู้ว่าจอร์จคนนั้นอยู่ที่ไหนไหมล่ะ?
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า อันนี้ฉันแน่ใจว่าคนที่ขายข้อมูลข่าวสาร จะต้องอยากให้ทุกคนในโลกนี้รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนทั้งนั้น!
มีเพียงอย่างนี้ จึงจะมีคนไปซื้อข้อมูลข่าวสารจากเขาได้
อีกอย่างเขาก็ยังอยู่ภายในฝรั่งเศส ถ้าหากโชคดีละก็ พวกเราก็สามารถหาเขาเจอภายในหนึ่งชั่วโมงได้เลย!
หลินหยุนพูดว่า งั้นก็ออกเดินทางเลยสิ!
ความจริงก็เป็นอย่างที่คาร์นอตวิลเลียมพูด คนที่ขายข้อมูลข่าวสาร เป็นคนที่หาพบได้ง่ายมากจริงๆ
อีกทั้ง ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังของจอร์จ เพียงแค่สอบถามกับผู้บำเพ็ญพิเศษคนใดคนหนึ่งก็สามารถหาพบแล้ว
แต่ว่า ระหว่างทางที่หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมไปตามหาจอร์จนั้น กลับไม่ค่อยราบรื่นนัก
มีผู้ชายผิวขาวรูปร่างสูงใหญ่สองคน ยืนอยู่บนถนนข้างทุ่งนาแห่งหนึ่ง ขวางทางเดินของหลินหยุนไว้
พวกแกเป็นใคร? กล้ามาขวางทางเดินของพวกเรา! คาร์นอตวิลเลียมตะคอกถาม
ทั้งสองคนไม่พูดอะไร อีกทั้งสายตาของพวกเขาแม้แต่มองก็ไม่มองคาร์นอตวิลเลียมเลย แต่กลับจ้องหน้าหลินหยุนอย่างเงียบๆ
เป้าหมายพวกเขาคือฉัน หลินหยุนพูด
คาร์นอตวิลเลียมขมวดคิ้ว ยังมีใครที่กล้าจะมาหาเรื่องกับคุณอีกเหรอ? อยากตายหรือไง!
หลินหยุนไม่ถามอะไรเลย รีบลงมือทันที
ท่าสยบเขา!
หมัดอันทรงพลังเท่ากับภูเขาไท่ซาน ก็พุ่งถล่มลงไปยังทั้งสองคนนั้น
ทั้งสองคนนั้นไม่รีบไม่ร้อน แต่ละคนก็วาดวงกลมวงหนึ่งอยู่ตรงหน้าอกของตัวเอง
วงกลมที่ทั้งสองคนวาดออกมานั้นต่างก็ไม่เหมือนกัน วงหนึ่งสีแดงอีกวงหนึ่งสีขาว
สีแดงคือไฟ สีขาวคือน้ำแข็ง
หนึ่งร้อนหนึ่งหนาว สุดขั้วทั้งสองอย่าง
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ประกบฝ่ามือเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
วงกลมสีแดงหนึ่งขาวหนึ่งทั้งสองวงนั้น ถึงกับหลอมรวมเข้าด้วยกัน
จากนั้นทั้งสองคนก็ผลักไปข้างหน้าอย่างแรง
โป้ง !
ทั้งน้ำแข็งและไฟที่หลอมรวมเข้าด้วยกันนั้น ก็เหมือนกับมังกรยักษ์สองสีตัวหนึ่ง ระเบิดกลิ่นอายที่รุนแรงมากขึ้นสิบเท่าตัว แล้วพุ่งไปหาหลินหยุน
โป้ง!
หลินหยุนชกหมัดขึ้นไปด้านบน มังกรยักษ์สองสีนั้นก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น แต่ว่าการโจมตีของหลินหยุนก็ถูกขัดขวางไว้ได้
ต้องเข้าใจว่า ตอนนี้คนที่สามารถต้านทานการโจมตีของหลินหยุนไว้ได้ เกรงว่าก็มีแต่ยอดฝีมือแดนเทพสูงสุดเท่านั้นที่สามารถทำได้
นั่นก็หมายความว่า พลังความสามารถของคนทั้งสองรวมกันแล้ว ถึงกับอยู่ในระดับแดนเทพสูงสุดทีเดียว
คาร์นอตวิลเลียมก็เข้าใจประเด็นนี้ดี พูดขึ้นอย่างตกใจทันทีว่า ถึงกับแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว! พวกแกเป็นใครกันแน่?
ทั้งสองคนยังคงไม่ตอบอะไร แต่เงาร่างแวบหายไปจากที่เดิมทันที
วินาทีต่อมา เงาร่างของทั้งสองคนก็มาถึงตรงหน้าหลินหยุนแล้ว
ทั้งสองคนก็ชกหมัดออกมาพร้อมกันเช่นเดิม กำปั้นของคนหนึ่งมีประกายแสงสีแดงห่อหุ้มอยู่ ส่วนหมัดของอีกคนหนึ่ง ก็ห่อหุ้มด้วยลำแสงสีขาว
คาร์นอตวิลเลียมอยู่ๆก็ตะโกนพูดด้วยความตกใจว่า ฉันนึกออกแล้ว พวกแกคือคู่สังหารไฟหนาว
แต่ว่า คู่สังหารไฟหนาวหายสาบสูญไปเมื่อยี่สิบปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ?
ทำไมจึงมาปรากฏอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?