จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1072 สิ่งของในคลังเก็บสมบัติล้ำค่าตระกูลหลี่
หลี่เอนห้าวคุกเข่าลง คนตระกูลหลี่ทั้งหมดในห้องโถงต่างก็คุกเข่าลงไปด้วย ตะโกนทักทายเสียงดังว่า ขอคารวะเหล่าจู่
คนคนนี้ ก็คือมาสเตอร์ชาวเกาหลี เซียนกระบี่เกาหลีในปัจจุบัน หลี่ชิวต้าว
มองดูลูกหลานที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า เซียนกระบี่ก็ไม่ได้สนใจมองพวกเขาเลย เพียงแต่มองดูคิมชอมอู่แล้วพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า ลุกขึ้นเถอะ!
ขอบคุณผู้อาวุโสเซียนกระบี่ครับ!
คิมชอมอู่ลุกขึ้นยืน แล้วมายืนอยู่ข้างๆอย่างนอบน้อม
ตอนนั้นฉันได้ให้คำมั่นสัญญากับรุ่นบรรพบุรุษของคุณไว้ จะต้องรักษาสายเลือดราชวงศ์เอาไว้ให้ได้ หลี่ชิวต้าวพูดเพียงประโยคเดียวก็ไม่พูดอีกแล้ว ดูเหมือนว่าถ้าพูดอีกคำก็จะเปลืองพลังไปมาก
หลังจากนั้น หลี่ชิวต้าวก็มองไปยังหลินหยุน เขาพบว่าตัวเองยังมองพลังความสามารถของหลินหยุนไม่ออกเลย
นักบู๊หนุ่มที่มาจากเมืองจีน กลับไปเถอะ ฉันจะไม่ถือสาที่คุณฆ่าลูกศิษย์ของฉันไป
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย คิดไม่ถึงจริงๆเลยว่า ในสถานที่คับแคบเช่นนี้ ถึงกับยังมีนักบู๊แดนเทพอยู่ด้วย
แต่ว่าคุณขวางฉันไม่ได้หรอก
หลี่ชิวต้าวเงียบเฉยไปชั่วครู่ แล้วพูดว่า ฉันก็คิดอยากจะลองดู
คนทั้งหลายในห้องโถงในใจก็แอบผวา เซียนกระบี่ถึงกับพูดเช่นนี้ เห็นได้ว่าเขายังไม่มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะหลินหยุนได้เลย
คิมชอมอู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อยๆถอยหลังออกไปยังประตู
หลินหยุนก้าวขาออกไป จากนั้นก็ชกหมัดไปยังหลี่ชิวต้าวหนึ่งที
ปั้ง!
มีลำแสงกระบี่ที่แข็งแกร่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า จนหลังคาถูกแทงทะลุ
บนศีรษะของหลวงหลี่ชิวต้าว ก็มีกระบี่ยาวประมาณสามฟุตลอยอยู่ด้ามหนึ่ง
ตัวเขาเองก็ลอยอยู่กลางอากาศ ไม่ได้ทำอะไรเลย กระบี่ด้ามยาวก็ตรงเข้าไปฟันหลินหยุน
แครง!
เมื่อกำปั้นของหลินหยุนและกระบี่ด้ามยาวของหลี่ชิวต้าวปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นราวกับโลหะกระทบกัน จนทุกคนในห้องโถงต่างก็ต้องเอามืออุดหูไว้ด้วยสีหน้าที่แสนทรมาน
หลินหยุนรู้สึกเซอร์ไพรส์เล็กน้อย รวมร่างกับกระบี่!
ก็เป็นการแหวกแนวที่แปลกใหม่อีกแบบหนึ่ง แต่เสียดาย คุณยังไม่สามารถที่จะหลุดพ้นจากกรอบล้อมของนักบู๊ได้เช่นเดิม
หลินหยุนก็ชกหมัดออกไปอีกหนึ่งที ท่าสยบเขา!
คราวนี้ หลินหยุนใช้พละกำลังเต็มที่ในการชกหมัดนั้นออกไป จนทำให้สั่นสะเทือนไปทั้งห้องโถงใหญ่
หลี่ชิวต้าวสีหน้าเคร่งขรึม ทันใดนั้นก็หลับตาทั้งคู่ลงทันที เปล่งประกายลำแสงสีเขียวออกมา พุ่งไปยังกระบี่ยาวที่อยู่บนศีรษะนั้น
ว๊าบ!
ประกายลำแสงกระบี่ด้ามยาวเจิดจ้ามากยิ่งขึ้น ขยายออกไปอีกราวสามฟุต
หลี่ชิวต้าวลืมตาขึ้นมา ตะคอกเสียงดังว่า ฝ่าล้างใต้หล้า!
โป้ง!
คราวนี้ หลี่ชิวต้าวไม่สามารถขวางการโจมตีของหลินหยุนได้ พละกำลังของเขาเป็นเพียง แดนเทพระดับใหญ่เท่านั้น จึงไม่สามารถที่ต้านทานสิบแปดท่าต้าเต๋าได้
ทั้งร่างของเขาก็ถูกกระแทกจนกระเด็นลอยออกไปชนกับกำแพงห้อง
คุณปู่!
หลี่เอนห้าวตะโกนร้องด้วยเสียงตกใจ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ การสู้รบของยอดฝีมือนักบู๊นั้น คนธรรมดาทั่วไปจะไม่มีสิทธิ์ที่จะไปก้าวก่ายได้เลย
ท่าแยกน้ำ!
เสียงของหลินหยุนก็ดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ชกหมัดออกไปอีกหนึ่งที
หลี่ชิวต้าวกระอักเลือดออกมา ก็ยังยกกระบี่ด้ามยาวขึ้นฟันไปยังหลินหยุนอีกครั้งหนึ่ง
โป้ง!
คราวนี้ หลี่ชิวต้าวก็พ่ายแพ้อย่างยับเยินกว่าเดิมเสียอีก กำแพงถูกเขาชนทะลุออกไปเป็นรอยรูปร่างคน
ในใจหลี่เอนห้าวรู้สึกร้อนรนเหลือเกิน หลี่ชิวต้าวไม่เพียงแต่เป็นผู้ที่ปกป้องรักษา ราชวงศ์เกาหลีแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นผู้คุ้มกันที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลหลี่พวกเขาอีกด้วย
เขาไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับหลี่ชิวต้าวอย่างเด็ดขาด
ทุกคน สู้ตายเพื่อปกป้องเซียนกระบี่ตระกูลหลี่! หลี่เอนห้าวคำรามเสียงดังใส่ผู้คนทั้งหลาย
พวกบอดี้การ์ดและสมาชิกตระกูลหลี่บางส่วน ต่างก็ไปเอาอาวุธพิเศษออกมา เล็งไปยังหลินหยุน
หลี่เอนห้าวก็มายืนขวางอยู่ตรงหน้าหลี่ชิวต้าว แล้วชักปืนออกมาจากหน้าอก เล็งกระบอกปืนไปยังหลินหยุน
หลินหยุนมองดูเขาอย่างเงียบๆ แล้วพูดอย่างเรียบๆว่า ถ้าไม่ใช่เห็นแก่หน้าฉินหลันละก็ คุณตายไปนานแล้ว
หลีกไป!
หลี่เอนห้าวพูดด้วยท่าทางแน่วแน่ว่า คิดจะฆ่าเซียนกระบี่ตระกูลหลี่เรา ฝันไปเถอะ!
ดวงตาของหลินหยุนเปล่งประกายจิตสังหารออกมา งั้นแกก็ไปตายซะ!
หลินหยุนประกบนิ้วใช้แทนกระบี่ แล้วชี้ออกไป หว่างคิ้วของหลี่เอนห้าวก็ถูกแทงทะลุเป็นรูพลุน ชีวิตก็มอดม้วยมรณาทันที
เลือด ไหลลงมาตามใบหน้าจนถึงลำคอ ทำให้สร้อยคอรูปดาวที่เขาใส่อยู่นั้นเปื้อนไปด้วยเลือด
ประกายแสงสีแดงจากสร้อยรูปดาวนั้นสว่างจ้าขึ้นมา สร้อยคอเส้นนั้นก็เหมือนสิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือด เริ่มดูดกินเลือดของหลี่เอนห้าวอย่างบ้าคลั่ง รวมทั้งพลังชีวิตที่จวนจะสลายของเขาด้วย
ทุกคนต่างก็ตกใจช็อกเมื่อเห็นฉากนี้แล้ว
ทันใดนั้นเซียนกระบี่หลี่ชิวต้าวก็เบิ่งตาโตขึ้น พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า ตำนานถึงกับเป็นจริงแล้ว!
ที่แท้นี่ก็คือวิธีการเปิดคลังสมบัติล้ำค่าของตระกูลหลี่นี่เอง!
หลินหยุนก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย มองดูหินรูปดาวที่เปล่งประกายแสงสีแดงเข้มมากยิ่งขึ้นเม็ดนั้นอย่างเงียบๆ
นี่ดูเหมือนเป็นเวทมนตร์คาถาของชาวจีน
แท้จริงแล้ว พลังวิเศษของชาวเกาหลีเมื่อก่อนก็คือเวทมนตร์คาถา ที่สืบทอดมาจากชาวจีนในสมัยราชวงศ์ถังนั่นเอง
หลังจากนั้น ก็มีชาวเกาหลีไปเรียนรู้วิชาบู๊ที่ประเทศจีน จึงทำให้เกิดนักบู๊เกาหลีขึ้น
หินรูปดาวนั้นดูเหมือนว่าจะกินอิ่มแล้ว หลุดออกมาจากสร้อยคอแล้วลอยไปอยู่ตรงหน้าหลี่ชิวต้าว
ส่วนหลี่เอนห้าวที่อยู่บนพื้นก็กลายเป็นศพที่แห้งเกรียมไปแล้ว
หลี่ชิวต้าวยื่นมือไปจับหินรูปดาวเม็ดนั้นไว้ จากนั้นก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ที่แท้นี่ก็คือกุญแจเปิดคลังสมบัติล้ำค่านี่เอง
ยันต์เชิญจิตวิญญาณ!
มิน่าล่ะคำสั่งสอนของบรรพบุรุษ มีคำพูดที่ว่า ยามเมื่อตระกูลหลี่เราถึงขั้นวิกฤตที่สุดเท่านั้น จึงจะสามารถเปิดคลังสมบัติล้ำค่าของตระกูลหลี่ได้
คิดไม่ถึงเลยว่า ของวิเศษที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ ถึงกับเป็นของสิ่งนี้
เพียงแค่ได้เห็นยันต์เชิญจิตวิญญาณเท่านั้น ดูเหมือนหลี่ชิวต้าวรู้แล้วว่าเป็นของวิเศษที่อยู่ในคลังเก็บสมบัติล้ำค่าของตระกูลหลี่แล้ว
ไอ้หนุ่ม ฉันยอมรับว่าแกแข็งแกร่งมาก ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแกเลย แต่ว่า แกสามารถรับมือกับหุ่นเวทต์ของตระกูลหลี่ฉันได้หรือไม่?
ฮ่าๆๆ ออกมาเลย!
หลี่ชิวต้าวยกมือขึ้น ประกายแสงสีแดงบนหินรูปดาวนั้นก็มืดสลัวลงทันที ชั่ววินาทีเดียว ก็กลายเป็นก้อนหินธรรมดาก้อนหนึ่ง
ส่วนในเวลานี้ ใต้พื้นดินห้องโถงตระกูลหลี่นั้น ก็มีเสียงโครมครามดังขึ้นราวกับแผ่นดินไหว
นี่คืออะไร!
พวกคนธรรมดาทั่วไปของตระกูลหลี่ตกใจจนหน้าขาวซีด ต่างก็รีบหนีกระเจิงออกไปข้างนอก ผ่านไปสักครู่ ภายในห้องโถงก็เหลือแต่หลินหยุนและหลี่ชิวต้าวเพียงสองคนเท่านั้น
คิมชอมอู่เมื่อเห็นท่าไม่ดี ก็ได้แอบหลบหนีไปนานแล้ว หลินหยุนก็ไม่ได้ไปขัดขวางอะไร
นักรบที่ใส่ชุดเกราะแข็งแกร่งคนหนึ่ง คลานขึ้นมาจากใต้ดิน
เขาใส่ชุดเกราะทั้งตัว มีมีดด้ามยาวห้อยอยู่ตรงเอว ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นนักรบในยุคสมัยราชวงศ์ถังของจีน
เขาฝึกฝนจนกลายเป็นหุ่นเวทต์ไปแล้ว
เมื่อหลี่ชิวต้าวเห็นนักรบคนนี้แล้ว ก็รีบคุกเข่าลงแล้วโขกศีรษะ ลูกหลานตระกูลหลี่ หลี่ชิวต้าวขอคำนับบรรพบุรุษ
หุ่นเวทต์ จะต้องเป็นคนที่มีพละกำลังแข็งแกร่งมาก ก่อนตายนั้นได้อุทิศร่างกายตัวเอง ปิดผนึกพลังแรงไว้ภายในร่างกาย หลังจากผ่านการฝึกฝนด้วยเคล็ดวิชาพิเศษแล้ว ก็จะกลายร่างเป็นพวกที่มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งราวกับหุ่นยนต์ชุดเกราะทหาร
แต่ว่า หุ่นยนต์ชุดเกราะทหารพวกนั้นก็จะต้องมีคนบังคับ แต่ถ้าเป็นหุ่นเวทต์ที่ล้ำเลิศนั้น มีความสามารถรับรู้ในการต่อสู้เองได้
คาดเดาว่าหุ่นเวทต์นี้ น่าจะเป็นบรรพบุรุษที่ก่อตั้งตระกูลหลี่ หลังจากตายไปแล้วก็กลายเป็นหุ่นเวทต์มาปกปักรักษาตระกูลหลี่
เสียดายที่ว่า ตระกูลหลี่ไปหาเรื่องกับคนที่ไม่ควรจะมีเรื่องด้วย ไม่เช่นนั้นแล้ว มีเพียงแค่ หุ่นเวทต์ตัวนี้อยู่ ก็สามารถปกป้องตระกูลหลี่ได้อย่างปลอดภัยไร้กังวลแล้ว
ยันต์เชิญจิตวิญญาณที่อยู่ในมือของหลี่ชิวต้าว จู่ๆก็กลายเป็นลำแสงแล้วพุ่งไปยังหว่างคิ้วของหุ่นเวทต์
เดิมทีดวงตาทั้งคู่ของหุ่นเวทต์สีดำมืด จู่ๆดวงตาคู่นั้นก็กลายเป็นสีแดงขึ้นมาทันที
หลังจากนั้น หุ่นเวทต์ก็ชักมีดด้ามยาวจากข้างเอวออกมา เล็งไปยังหลินหยุน
เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นหุ่นเวทต์ที่มีความสามารถรับรู้การต่อสู้ได้
หลี่ชิวต้าวรู้สึกคึกคักฮึกเหิมขึ้นมาทันที ฮ่าๆๆ ไอ้หนุ่ม แกคิดไม่ถึงว่าตระกูลหลี่พวกเราก็มีอาวุธสังหารที่ลึกลับอย่างนี้อยู่ด้วยสิ!
คิดจะโค่นตระกูลหลี่เรา ตายซะเถอะ!
หลินหยุนพูดเยาะเย้ยว่า ต่อให้เขายังมีชีวิตอยู่ ฉันยังไม่กลัวเลย อย่าว่าแต่เขาได้ตายไปแล้ว
พูดจบหลินหยุนก็ชกหมัดออกไปหนึ่งที