CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 110 เขามีเงินเหรอ

  1. Home
  2. จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
  3. บทที่ 110 เขามีเงินเหรอ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 110 เขามีเงินเหรอ

จ้าวกางไม่อาจเข้าใจได้จริง ๆ เพราะทรัพย์สินทั้งหมดในครอบครัวของเขารวมกัน ก็มีห้าสิบกว่าล้านนิด ๆ เท่านั้นเอง

เว่ยเทียนหมิงมองด้วยสายตาเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำ “บางทีมันคงแค่คิดจะแสดงความปรารถนาอันแรงกล้าที่มีต่อแหวนนั่น จากนั้นก็แค่รอหยุนจินไซยกแหวนให้มันก็ได้นะ เพราะถึงยังไง เดิมทีแหวนวงนั้นก็เป็นของควีนจิน เป็นธรรมดาที่หยุนจินไซจะตัดสินใจเรื่องนี้เองได้อยู่แล้ว ”

“คุณชายเว่ยวิเคราะห์ได้ถูกต้อง ไอ้หมอนั่นคงคิดจะเล่นลูกไม้จับเสือมือเปล่าเสียมากกว่า”

หลี่เหยนยกยิ้มอึมครึมโดยพลัน “เฮอะๆ คิดจะให้หยุนจินไซยกของให้ง่ายๆงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!”

ในความคิดของหลี่เหยน เหมือนว่าเขาตั้งใจที่จะวางแผนให้ร้ายหลินหยุนเอาไว้แล้วเรียบร้อย

แต่จะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายโลกใบนี้ ก็ย่อมมีคนสักสองสามคนแหละที่ไม่ขาดแคลนเงินทอง

ผ่านไปไม่นาน ก็มีคนเรียกราคาที่สูงกว่าหลินหยุนขึ้นมาทันที

“หกสิบล้าน!”

เป็นสุภาพสตรีคนหนึ่ง ที่เห็นเพียงแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นชนชั้นสูง เธอน่าจะเป็นนายหญิงที่ร่ำรวยมหาศาลทีเดียว

หลินหยุนไม่ลังเลแม้แต่น้อย ชูป้ายในมืออีกครั้ง“ หนึ่งร้อยล้าน!”

เฮือก!

คนทั้งฮอลล์ช็อกแทบตายแล้ว!

รอบด้านปรากฏเสียงสูดลมหายใจดังเฮือกขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

ทุกคนไม่รู้ว่าจะพูดถึงหลินหยุนว่ายังไงดีแล้วในตอนนี้

ถ้าเขาไม่ใช่ลูกชายไม่เอาไหนของตระกูลไหนสักตระกูล เขาก็ต้องมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าบางอย่าง ที่จะคว้าแหวนวงนี้ไปให้ได้

สุภาพสตรีวัยกลางคนผู้นั้นโกรธจนหน้าซีดไปแล้ว เธอกำหมัดแน่น ทั้งคิดในใจว่าจะเพิ่มราคาต่อ แต่ว่าหนึ่งร้อยล้าน ก็เป็นราคาที่ยากจะเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้แล้วจริงๆ

แม้ว่าแหวนวงนี้น่าจะเป็นเครื่องรางแน่นอนแล้ว เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นเครื่องรางประเภทที่สามารถยืดอายุขัยให้ยาวนาน หรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกโรคนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่คุ้มค่ากับเงินหนึ่งร้อยล้านเป็นแน่

อย่างไรก็ตาม สุภาพสตรีวัยกลางคนยังคงเรียกราคาเพิ่ม

“หนึ่งร้อยห้าล้าน”

“สองร้อยล้าน!” หลินหยุนชูป้ายไม้ขึ้นอีกครั้ง สีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ สำหรับหลินหยุนแล้ว เงินสองร้อยล้านก็เป็นแค่ตัวเลข แต่กับแหวนวงนี้ เขามุ่งมั่นเต็มที่ที่จะเอามันมาให้ได้

“นี่ … ” นายหญิงผู้นั้นโกรธจนนิ้วมือสั่นระริก เธอแค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่พอใจขึ้นมาเสียงหนึ่ง จากนั้นค่อยนั่งลงประจำที่นั่งของตัวเองอย่างเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรอีก

เงินสองร้อยล้าน ฐานราคานี้ทำให้ทุกคนไม่กล้าเรียกราคาแข่งกับหลินหยุนอีก

ตัวเลขนี้ เทียบเท่าได้กับทรัพย์สินรวมของคนส่วนใหญ่ที่อยู่ ณที่แห่งนี้แล้ว

พวกหลี่เหยนก็เปลี่ยนจากความตกใจเป็นความตกตะลึงพรึงเพริดไปแล้ว เงินห้าสิบล้านก็เป็นอะไรที่บ้าบิ่นมากแล้ว แต่ตอนนี้ หลินหยุนกลับเสนอออกมารวดเดียวสองร้อยล้าน

“มันเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน?”

“คุณชายเว่ย คุณพูดได้ถูกต้องที่สุด มันคิดจะจับเสือมือเปล่าชัดๆ!” สีหน้าหลี่เหยนดูชั่วร้ายเจ้าเล่ห์

“ หยุนจินไซคงจะไม่คิดเงินแม้แต่แดงเดียว ก็ยกแหวนให้มันไปแน่ๆ”

ทุกคนต่างก็เห็นว่า ท่าทีของหยุนเยว่ที่มีต่อหลินหยุนนั้น เป็นไปอย่างเคารพนอบน้อมอย่างยิ่ง เธอเอาแต่พยายามทำให้หลินหยุนพอใจอยู่ตลอดเวลา

หลินหยุนกล้าเรียกราคาที่สูงเสียดฟ้า เป็นจำนวนสองร้อยล้านออกมาตรงๆ อีกทั้งยังแสดงท่าทีที่ดูเหมือนว่า เขาจะต้องได้มันมาให้จงได้อีกด้วย อาจเป็นเพราะเขารู้ดีว่า หยุนเยว่จะไม่เก็บเงินเขาจริง ๆ ดังนั้น เขาก็เลยทำเรื่องที่ไร้ยางอายแบบนี้ออกมาก็เป็นไปได้

“สองร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง สองร้อยล้านครั้งที่สอง สองร้อยล้านครั้งที่สาม ขาย!”

“ขอแสดงความยินดีกับสุภาพบุรุษท่านนี้ ที่ได้สมบัติชิ้นที่สามไป ทั้งยังมีส่วนช่วยเหลือในการกุศลครั้งนี้อย่างมากด้วยครับ!”

พิธีกรหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น ในความคาดหวังของเขานั้น ราคาห้าสิบล้านก็นับได้ว่าสูงมากแล้ว แต่กลายเป็นว่าราคากลับพุ่งทะยานไปจนถึงสองร้อยล้าน!

“ผมขอประกาศว่าการประมูลการกุศลในครั้งนี้ได้สิ้นสุดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ขอเชิญแขกผู้มีเกียรติที่ประมูลของล้ำค่าไปได้ทุกท่านที่หลังเวที เพื่อชำระเงินด้วยครับ!” พิธีกรกล่าวสรุป

ทันใดนั้นหลี่เหยนก็ตะโกนขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อน!”

สายตาทุกคู่ ล้วนจับจ้องไปที่หลี่เหยนทันที

พิธีกรขมวดคิ้ว แต่ยังคงถามด้วยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ “สุภาพบุรุษท่านนี้ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือครับ? ตอนนี้สมบัติทั้งสามชิ้นของเรา ล้วนได้รับการประมูลออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากคุณต้องการ คุณจำเป็นต้องไปขอซื้อต่อจากแขกท่านที่ประมูลได้เท่านั้นแล้วนะครับ”

หลี่เหยียนแอบสบถด่าในใจ “ผีที่ไหนมันจะไปอยากได้ของสามชิ้นนั่นของแกกันเล่า!”

“ฉันสงสัยว่ามีคนเสนอเงินแบบมั่ว ๆ เขาไม่มีทางจ่ายเงินได้ถึงสองร้อยล้านจริง!” หลี่เหยนพูดออกมาแบบนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาตรง ๆ ว่าเป็นใคร แต่ทุกคนต่างก็หันไปมองหลินหยุนพร้อมกันเป็นตาเดียว

มีคนยิ้มหยันพลางพูดว่า “ฉันก็ว่าแล้ว เจ้าเด็กคนนี้บ้ารึเปล่า? เล่นเรียกราคาแบบก้าวกระโดดตลอด พอตอนสุดท้ายยังเรียกเพิ่มรวดเดียว จากร้อยล้านเป็นสองร้อยล้าน! แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยมีใครเรียกราคาแบบนี้มาก่อนเลย !”

“ถ้าเขามาเพื่อสร้างปัญหาจริง ๆ ทุกอย่างที่เขาทำก็จะผ่านไปได้ง่าย ๆโดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยสินะ!” อีกคนหนึ่งพูดขึ้นบ้าง

“ฉันคิดว่าเด็กคนนี้น่าจะจงใจมาก่อกวนเสียมากกว่า จะทุ่มเงินสองร้อยล้าน เพื่อซื้อแหวนพังๆวงหนึ่งไปทำไมกัน ต่อให้เป็นเครื่องรางจริงแล้วยังไงล่ะ? ก็ไม่น่าจะมีมูลค่าถึงสองร้อยล้านหรอกมั๊ง!”

เมื่อฟังคำอภิปรายของทุกคน พิธีกรก็เริ่มเอะใจขึ้นมาบ้างแล้ว

จึงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลินหยุน

เด็กคนนี้ดูอายุน่าจะราวๆยี่สิบเห็นจะได้ ดู ๆ ไปเขาก็ไม่ค่อยเหมือนทายาทมหาเศรษฐีสักเท่าไหร่ด้วย นี่เขามีเงินสองร้อยล้านจริงๆหรือเปล่านะ?

หลังจากคิดไปคิดมา แม้แต่พิธีกรก็เริ่มรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ขึ้นมาแล้ว

ยังไงก็ควรถามให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยดีกว่า! เผื่อถ้ามาสร้างปัญหาจริง ๆ แบบนั้นมันจะเป็นเรื่องลำบากได้

แต่แน่นอนว่าพิธีกรจะไม่ถามหลินหยุนก่อน เพราะถ้าหลินหยุนเกิดโกรธเคืองขึ้นมาจนไม่ยอมซื้อแล้ว เขาจะต้องเสียหายหนักมากแน่ๆ

“สุภาพบุรุษท่านนี้ คุณบอกว่าสุภาพบุรุษท่านทางนี้ไม่มีเงิน คุณมีหลักฐานหรือเปล่าครับ?”

หลี่เหยียนหัวเราะเย้ยหยันเย็นชา “พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน หลักฐานขิ้นนี้ใช้ได้ไหมล่ะ?”

เพื่อนร่วมชั้น!

ถ้าอย่างนั้น นี่ย่อมเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้โดยธรรมชาติเลยน่ะสิ

ในเมื่อเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ ใครเป็นเด็กบ้านรวย ใครเป็นเด็กบ้านจน แน่นอนว่าเป็นเรื่องง่ายที่จะรู้

พิธีกรหันไปมองหลินหยุนด้วยรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า เอ่ยถามว่า “สุภาพบุรุษท่านนี้ มีคนบอกว่าคุณมาก่อกวนงานประมูล ไม่ทราบว่าคุณพอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณได้ไหมครับ?”

หลินหยุนปรายสายตาไปมองหลี่เหยนนิ่ง ๆ โยนบัตรทองม่วงสูงศักดิ์ที่จินซื่อหรงมอบให้ ไปให้พิธีกรโดยตรง

“รหัสผ่านเป็นเลขศูนย์หกตัว ลองตรวจสอบดูได้”

พิธีกรรีบโค้งขอบคุณเขาไม่หยุด จากนั้นจึงเริ่มตรวจสอบเงินในบัตรต่อหน้าหลินหยุน

ไม่ห่างออกไปนัก อีหลิงซึ่งอยู่ข้าง ๆ หานกั๋วเฉียง ก็เกิดความรู้สึกกังวลขึ้นมาบ้างแล้ว

เธอรู้ว่าหลินหยุนมีเงิน เส้เทียนหัวเคยจ่ายเงินค่าตอบแทนให้เขา แต่นั่นก็ไม่ถึงสองร้อยล้านอยู่ดี!

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นท่าทางแน่วแน่แม่นคงของหลินหยุนแล้ว อีหลิงก็บังเกิดความรู้สึกเชื่อใจหลินหยุนอย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมา

หลี่เหยียนกลับหัวเราะหยันอีกครั้ง “หลินหยุน หายนะมาจ่อรออยู่บนหัวแล้ว ยังจะเสแสร้งทำเป็นวางมาดอีกเหรอ นายคิดว่าหยุนจินไซจะมาช่วยนายหรือไง? ฉันขอเรียกร้องให้พิธีกรทำการตรวจสอบต่อหน้าสาธารณชน!”

หวางเสี่ยวซีหัวเราะเย้ยหยันพลางพูดว่า “ละครฉากนี้ หลินหยุนแสร้งเล่นได้ดูเหมือนจริงอยู่นะ! เขาโยนบัตรธนาคารให้พิธีกร ก็เพราะคิดจะให้หยุนจินไซเข้ามาช่วยล่ะสิท่า?”

“หยู่เวย เธอคุ้นเคยกับหลินหยุนดีไม่ใช่เหรอ? เธอคิดว่าเขาจะสามารถจ่ายเงินมากขนาดนี้ได้จริงๆรึเปล่า?” หวางเสี่ยวซีถามด้วยท่าทางดูถูก

เซี่ยหยู่เวยส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้หรอก เขาจะเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน!”

ชั่วขณะหนึ่ง เซี่ยหยู่เวยก็นึกไปถึงเพชรสีเลือดก้อนนั้น หากเพชรสีเลือดยังอยู่ล่ะก็ หลินหยุนก็อาจจะมีเงินถึงสองร้อยล้านจริง

แต่ในตอนนี้ เว้นแต่ว่าหลินหยุนมีเครื่องปั๊มเงินเท่านั้นแหละ ถึงจะมีเงินมากขนาดนั้น

หลี่เหยนพูดกับพิธีกรที่ยืนอยู่บนเวทีเสียงดังว่า “พิธีกร เพื่อความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย ควรให้ทุกคนในที่นี้ได้รู้ด้วยว่าเขามีเงินอยู่จริงหรือเปล่า! เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนปกปิดความจริง เพราะมีเจตนาจะทำให้เขาพอใจ!”

หยุนเยว่ที่อยู่ในห้องมอนิเตอร์หลังเวที สีหน้าเย็นชาสุดขีด

“ไอ้เวรตะไลนี่ มันเป็นเชี่ยอะไรของมัน!”

เมื่อพิธีกรเห็นเงินฝากในบัตรธนาคารของหลินหยุน รอยยิ้มที่เดิมทีฉายเด่นอยู่บนใบหน้าของเขา ในเวลานี้ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือ รอยยิ้มนั้นพลันแข็งค้างอยู่บนใบหน้าของเขาไปเรียบร้อยแล้ว

มันเหมือนกับว่า เขาได้เผชิญกับความตกใจอย่างใหญ่หลวงจนถึงกับช็อก กระทั่งใกล้จะตายเต็มทนแล้วก็ยังฟื้นตัวไม่ทัน

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ? ท่าทางของพิธีกรดูไม่ค่อยถูกต้องนะ!” คนที่ช่างสังเกตพลันค้นพบเงื่อนงำบางอย่างที่ดูไม่ชอบมาพากลเข้าแล้ว

แต่ก็มีหลายคน ที่เป็นประเภทไม่อินังขังขอบใด ๆ ตัวอย่างเช่นคนคนนี้ “ฮ่าๆๆ นี่มันยังไม่ชัดอีกเหรอว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นในบัตร! ดังนั้น พิธีกรถึงได้รู้ว่าตัวเองถูกหลอก จนช็อกตาค้างไปเลยไงเล่า!”

“พี่หวางวิเคราะห์ได้ถูกต้องเลย ผมเองก็เห็นด้วย!”

“ผมก็เห็นด้วย!”

หลายคนในงานต่างก็คิดว่า พิธีกรน่าจะถูกหลินหยุนหลอกเข้าให้แล้ว จึงได้มีท่าทางตกใจมากถึงขนาดนั้น

หลี่เหยนก็เชื่อในข้อสรุปนี้เช่นกัน ดังนั้น เขาจึงยิ่งร้องแร่แห่กระเชอหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

“พิธีกร คุณต้องให้ทุกคนเห็นผลลัพธ์ด้วยสิ! หรือคุณคิดจะเล่นพรรคเล่นพวก ปกปิดผลประโยชน์ส่วนตัวใช่ไหม?”

ในที่สุดพิธีกรก็เรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง ใบหน้าของเขาสงบนิ่งมาก เดินลงจากเวทีด้วยรอยยิ้มเบิกบานเต็มใบหน้า มายืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน แล้วยกโทรศัพท์ในมือขึ้นจนสูง บนหน้าจอปรากฏผลการสืบค้นข้อมูลอย่างชัดเจน

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 110 เขามีเงินเหรอ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์