จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1104 ของขวัญชิ้นที่สอง
เมื่อโดโนแวนพูดจบ ด้านหลังของคฤหาสน์ บริเวณใกล้กับภูเขา มีลำแสงสีเหลืองพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า หุ่นยนต์แปลงร่างสีทองขนาดใหญ่ก็ได้เหาะเหินขึ้นมา
สายตาของทุกคนต่างจับจ้องกันไปที่ ‘หุ่นยนต์แปลงร่าง’ นี้กันทั้งหมด
เห็นเพียงแค่เงาร่างสีเหลืองทองปรากฏแวบขึ้นแล้วก็สูญหายวับไปในอากาศ จากนั้น ก็พุ่งมาจากบริเวณคฤหาสน์ที่อยู่ไกลออกไปนับพันเมตรแล้วก็มาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าของหลินหยุน
ความรวดเร็วดั่งปีศาจนี้ ต่างทำให้ทุกคนที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่นั้นถึงกับตะลึงกันเลยทีเดียว
ประชาชนสหรัฐอเมริกาที่เมื่อครู่ยังคงเสียใจและเป็นกังวล ก็มีกำลังใจฮึกเหิมขึ้นมาในทันที
พระเจ้า! ฉันมองเห็นอะไรเนี่ย? นี่คือร่างจริงของบัมเบิลบีอย่างนั้นเหรอ? โอ้วพระเจ้า ความเร็วขนาดนี้ หรือว่าฉันตาฝาดไปเอง? ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ เลย!
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นี่ก็คือภูมิหลังสิ่งสืบทอดของพวกเราสหรัฐอเมริกา! ลำพังแค่นักบู๊ชาวจีนทั่วไปคนหนึ่ง จะแข็งแกร่งทรงพลังขนาดไหนกัน? พวกเราสหรัฐอเมริกามีไพ่เด็ดแบบนี้ ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งล้ำเลิศมากเพียงใด ในที่สุดก็ต้องพบกับความตายอยู่ดี!
หุ่นยนต์นี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ! นี่คือเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเราสหรัฐอเมริกา!
แม้ว่ามันยังไม่ได้แสดงพลังในด้านอื่นออกมา แต่เพียงแค่ความรวดเร็วก็มองออกได้ว่า นักรบเมคาตนนี้มีความแข็งแกร่งทรงพลังถึงขั้นที่น่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว!
หลินชางฉองผู้นี้คงใกล้จะต้องตายอย่างแน่แล้ว! ดูกันต่อไปเถอะ!
เวลานี้ ประเทศอื่น ๆ บนโลก ต่างก็ตื่นตะลึงกันไปทั้งหมดแล้ว
ใบหน้าของชาวจีนทุกคน ไม่เหลือสภาพความตื่นเต้นดีใจอย่างกับเมื่อครู่แล้ว ต่างโดนความวิตกกังวลและหงุดหงิดใจเข้ามาแทนที่กันทั้งหมด
เมคาทองคำตนนี้ ช่างรวดเร็วยิ่งนัก!
แม้ว่ายังไม่ได้แสดงพลังทั้งหมดออกมา แต่เพียงแค่ความรวดเร็วระดับนี้ พลังความแข็งแกร่งในด้านอื่น ๆ ก็คงจะไม่ต่างกันมากนัก
แม้แต่พวกพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาอย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส อินเดีย ฯลฯ หลังจากที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ไม่เพียงแต่ไม่ตื่นเต้นดีใจ ตรงกันข้ามกลับเกิดความกังวลขึ้นเป็นอย่างมาก
ในฐานะที่เป็นพันธมิตร พวกเขาคิดว่าตนเองเข้าใจเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาอย่างถ่องแท้แล้ว
แต่จนถึงเวลานี้พวกเขาถึงพบกับความจริงว่า เดิมทีสิ่งที่ตนเองเข้าใจสหรัฐอเมริกานั้น เมื่อเปรียบ
เทียบกับสหรัฐอเมริกาที่แท้จริงแล้ว ช่างแตกต่างกันลิบลับเหลือเกิน
โดยเฉพาะพวกผู้นำของประเทศต่าง ๆ สภาพจิตใจต่างก็ตกอยู่ในสภาวะที่ขัดแย้ง
โดยไม่รู้ว่าตนเองจะสนับสนุนสหรัฐอเมริกาเพื่อลงมือต่อสู้กับจีนอีกต่อไปดีหรือไม่
หลินชางฉองผู้นี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ แต่ว่า สหรัฐอเมริกาไม่น่ากลัวอย่างนั้นเหรอ?
หากพูดกันในบางมุมแล้ว บางทีอาจจะน่ากลัวยิ่งกว่าหลินชางฉองเสียอีก!
หลินหยุนเงยหน้าขึ้น มองไปยังเมคาทองคำขนาดใหญ่ที่กำลังลอยอยู่เหนือศีรษะของตน หลังจากรับรู้สัมผัสเล็กน้อย ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยแปลกใจขึ้น
เมคาตนนี้ ช่างน่าสนใจไม่น้อย เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยรบเมคาก่อนหน้านี้นั้น ในร่างกายของเมคาตนนี้ ฉันไม่รับรู้ถึงพลังการเคลื่อนไหวใด ๆ เลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกถึงอันตรายขึ้นบ้างแล้ว
ดูเหมือนว่าอารยธรรมไฮเทคของชาวเผ่ามายาในตำนานที่เล่าขาน สหรัฐอเมริกาได้รับการ สืบทอดมาเป็นจำนวนมาก
หลินหยุนคาดเดาได้ว่าสหรัฐอเมริกาได้รับการสืบทอดซากอารยธรรมไฮเทคของชาวเผ่ามายาใน ตำนาน แต่เขารู้เพียงว่า ระดับเทคโนโลยีของซากอารยธรรมชาวเผ่ามายานั้น อยู่เหนือกว่าอารยธรรมบนโลกใบนี้อย่างแน่นอน แต่จะแข็งแกร่งมากกว่าระดับไหนนั้น เขาเองก็ไม่รู้เลย
เวลานี้ได้เห็นเมคาทองคำตนนี้แล้ว จิตใจของเขากลับมีความรู้สึกอยากรู้รับทราบเกี่ยวกับซากอารยธรรมชาวเผ่ามายานี้มากขึ้นไปอีก
แต่ว่าตอนนี้เขาไม่มีจิตใจที่จะคิดถึงเรื่องเหล่านี้ แววตาเป็นประกายแวบขึ้น หลินหยุนก็ลงมือทันที
สิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าสยบเขา!
ร่างของหลินหยุนล่องลอยขึ้น และปล่อยพลังหมัดที่สะเทือนเลือนลั่นในทันที ต่อให้เป็นภูเขาขนาดใหญ่คับฟ้า โดนพลังหมัดนี้เข้าไป เกรงว่าคงจะหักครึ่งสองซีกในทันใด ซึ่งนี่ก็คือความน่ากลัวของท่าสยบเขา
พลังหมัดนี้ชกเข้าใส่ที่บริเวณหน้าอกที่นูนขึ้นเล็กน้อยของเมคาทองคำ จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เมคาทองคำกระเด็นลอยไปทันที ซึ่งลอยไปไกลกว่าสิบเมตร ถึงจะหยุดลง
ทันใดนั้น ก็เห็นแค่เงาร่างหายแวบไป สุดท้ายก็มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าของหลินหยุน
เวลานี้ เสียงที่เหยียดหยามของผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากด้านในของเมคา หลินชางฉอง รู้สึกอย่างไรบ้าง? ฉันรับมือกับการโจมตีของนายอย่างซึ่ง ๆ หน้า แต่แม้แต่การป้องกันของฉัน
นายก็ยังไม่สามารถทำลายได้! ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ ก็คงถึงคราวของฉันบ้างแล้ว!
เงาร่างของเมคาทองคำได้แวบหายไปอีกครั้ง กลายเป็นเศษเงาสีทอง พุ่งปะทะเข้าใส่หลินหยุน
ดาบเฮ่าเทียนในมือของหลินหยุนปรากฏขึ้นอีกครั้ง และก็เข้าต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามในทันที
หนึ่งคนหนึ่งเมคา ความรวดเร็วของทั้งคู่ถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อไปแล้ว
ทุกครั้งที่แต่ละฝ่ายใช้กระบวนท่าห่ำหั่นกัน ถึงกับทำลายชั้นอากาศ และส่งเสียงระเบิดดังขึ้น
แม้เมคาทองคำจะสูงถึงสิบเมตร น้ำหนักตัวกว่าสิบตัน ถือว่ามีขนาดใหญ่อย่างมาก แต่กลับว่องไวรวดเร็วอย่างมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับหลินหยุนแล้ว ถือว่าไม่ได้เป็นรองเลย แม้ว่ากระบวนท่า จะไม่ค่อยแพรวพราว แต่มักจะสามารถต้านทานรองรับการโจมตีของหลินหยุนได้ทุกครั้งไป
ในเวลาเพียงครู่เดียว ทั้งสองฝ่ายต่างใช้กระบวนท่าปะทะกันไปแล้วนับสิบ โดยทั้งคู่ต่างก็ต้านทานพลังหมัดที่รุนแรงกันไปอีกคนละครั้ง
ร่างของหลินหยุนกระเด็นลอยไปไกล แต่ว่า ขณะที่กำลังกระเด็นลอยอยู่นั้น เขาก็ได้ใช้พลังสิบแปดท่าต้าเต๋า ท่าห้ามสิ่งวายชนม์ออกมาอีกครั้ง
ท่าห้ามสิ่งวายชนม์ ตัดขาดยับยั้งพลังทุกสิ่งอย่าง แต่ในครั้งนี้ กลับยับยั้งเมคาทองคำได้เพียง ชั่วพริบตา ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายลงแล้ว
หลินหยุนไม่ได้แปลกใจอะไร โดยอาศัยช่วงจังหวะนี้ เงาร่างก็หายวับไปทันที
เสียงที่เฉยชาดังสนั่นขึ้นในชั้นฟ้าชั้นดิน
เทพเซียนมาเพื่อหยุดสวรรค์!
เมื่อเสียงของเขาสิ้นสุดลง เดิมทีกรีนแลนด์ที่ท้องฟ้าสว่างจ้า อากาศสดใสปรอดโปร่งนั้น ก็ถูก เมฆดำปกคลุม บดบังแสงสว่างโดยพลัน
แต่เมื่อมองอย่างละเอียดจะพบว่า นั่นไม่ใช่เมฆดำอะไรสักหน่อย แต่คือเงาร่างขนาดใหญ่คับฟ้าเงาร่างนั้นกลายร่างเป็นกระบี่ยักษ์ มองดูอย่างคลุมเครือก็คือดาบเฮ่าเทียน
เขาฟาดฟันไปที่ฟ้าดิน
ชี่กระบี่ที่สะเทือนเลือนลั่นได้ทะลุผ่านชั้นเมฆดำที่หนาแน่นลงมา ราวกับโลกใบนี้จะแตกสลายลงอย่างไรอย่างนั้น พร้อมกับเข้าล็อคตัวของเมคาทองคำทันที
เมคาทองคำเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของกระบวนท่าพลังนี้ของหลินหยุน จึงได้เริ่มบินวนไปมาอย่างรวดเร็วอยู่กลางอากาศ
จากนั้นบริเวณโดยรอบของตัวเขา ก็มีลำแสงสีทองโอบล้อมไปทั่วร่าง
ชี่กระบี่ที่สะเทือนเลือนลั่นกระหน่ำใส่ไม่ยั้ง พลันก็ฟันเข้าไปยังที่ร่างของเมคาทองคำ เมคาทองคำราวกับแหนที่ล่องลอยอยู่ในทะเล ตกหล่นจากอากาศลงมาอย่างหนักหน่วง และระเบิดตูมเสียงดังสนั่นกึกก้องขึ้น
ภายใต้เสียงที่ดังสนั่นก่อเกิดฝุ่นควันขึ้นมากมาย เมคาทองคำก็ได้จมอยู่ท่ามกลางกองควันและกองไฟในทันที
หลินหยุนลอยลงมาที่พื้น สีหน้าท่าทางไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก แล้วก็เดินเข้าไปยังบริเวณที่ฝุ่นควันลอยโขมงขึ้นนั้น
เวลานี้ ราวกับว่าโลกได้เงียบสงบลงไปชั่วขณะ
ทุกคนที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดนั้น ต่างก็เบิกตาโพลง อ้าปากค้าง จนเกือบจะลืมหายใจแล้ว
หลินหยุนได้ทำให้พวกเขาตกตะลึงอย่างมากเลยทีเดียว
ทุกครั้งที่พวกเขารับรู้ว่าหลินหยุนมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด ไม่นาน หลินหยุนก็จะทำให้พวกเขาได้ประจักษ์กับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
สำหรับคนธรรมดาทั่วไป พวกเขาอาจจะมองเห็นไม่ชัดเจน ไม่มีทางเข้าใจว่า การต่อสู้เมื่อครู่นี้นั้น ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่วิธีการต่อสู้ที่สะเทือนเลือนลั่นในช่วงสุดท้ายของหลินหยุนพวกเขาต่างได้เห็นกันทั้งหมดแล้ว ตื่นตะลึงจนถึงขั้นที่ไม่สามารถใช้คำพูดมาอธิบายได้ ทำให้พวกเขาสูญสิ้นความสามารถในการคิดใคร่ครวญไปโดยสิ้นเชิง
โลกบู๊ของจีน คนของโลกบู๊โบราณ ต่างก็กำลังจดจ้องกับการต่อสู้ในครั้งนี้
สำหรับการต่อสู้ในครั้งนี้คนทั่วไปอาจจะไม่มีทางเข้าใจ ไม่สามารถมองออกถึงเคล็ดลับวิชาที่แฝงอยู่ด้านใน แต่สำหรับยอดฝีมือที่มีวิชาบำเพ็ญเข้าสู่ขั้นแดนเทพแล้ว กลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน