จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 111 เหยียบเมฆมา
บทที่ 111เหยียบเมฆมา
แต่ว่า เมื่อเห็นเลขศูนย์บนจอโทรศัพท์ของพิธีกร ทุกคนก็ตกใจ
ไหนบอกหลินหยุนไม่มีเงิน แต่นี่มันร่ำรวยเกินไป
เงินในนี้ มีหลายร้อยล้าน
แม้ว่าสองพันล้านสำหรับทุกคน จะเป็นตัวเลขมหาศาล แต่สำหรับหลินหยุน มันเป็นแค่จำนวนตัวเลข
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าแหวนวงนี้เป็นของเย่เยว่จริงๆ นับประสาอะไรกับสองร้อยล้าน แม้แต่สองพันล้านหลินหยุนก็ไม่สะทกสะท้าน
สิ่งของที่เย่เยว่เหลือทิ้งไว้ อยู่ในใจของหลินหยุน มันคือสมบัติล้ำค่า
หลี่เหยนก็เห็นตัวเลขในจอโทรศัพท์ ตกใจจนใบหน้าซีด “เป็นไปได้ยังไง! หลินหยุนไอ้เศษสวะไปเอาเงินมากมายมาจากไหน!”
ทรัพย์สินรวมของตระกูลของหลี่เหยน รวมกันแล้วยังไม่ถึงสองร้อยล้าน!
และหนึ่งเดือนก่อน หลินหยุนยังคงเป็นไอ้เศษสวะที่ให้ทุกคนรังแก กล่าวอีกนัยหนึ่งหลินหยุนใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือน สามารถเทียบเท่าครอบครัวของหลี่เหยนที่ได้ทำงานอย่างหนักมาจนถึงสามรุ่น กว่าจะสะสมมาเป็นเศรษฐีในวันนี้
นี่เป็นการประชดกันขนาดไหน!
หวางเสี่ยวซีและคนอื่นๆก็ดูตกใจ สีหน้าแสดงออกถึงความเหลือเชื่อ
พวกเขาคิดแล้วคิดอีก และไม่เข้าใจ ในระยะเวลาอันสั้นหลินหยุนสามารถมีความมั่งคั่งมหาศาล
แน่นอนว่า คนที่น่าตกใจที่สุดคือเซี่ยหยู่เวย เธอเป็นภรรยาของหลินหยุน หลินหยุนมีเงินเท่าไหร่เธอย่อมรู้ดี
แต่ว่า เมื่อเห็นจำนวนตัวเลขในมือของหลินหยุนที่เยอะมหาศาล เซี่ยหยู่เวยตกใจ และประหลาดใจ
เพราะความมั่งคั่งของหลินหยุน เป็นของเธอครึ่งหนึ่ง
ตอนนี้ เซี่ยหยู่เวยรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ทัศนคติก่อนหน้านี้ของเธอที่มีต่อหลินหยุนมากเกินไปหรือไม่?
พิธีกรเห็นทุกคนตกตะลึง รู้สึกพอใจมาก
“ทุกคนเห็นชัดเจนหรือยัง มีเงินเพียงพอในการ์ดใบนี้หรือไม่!”
“การประมูลสิ้นสุดลง คุณชายท่านนี้ เชิญตามฉันไปรับสมบัติล้ำค่าได้!” ท่าทีของพิธีกรที่มีต่อหลินหยุนนั้น มีเคารพอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ในบรรดาสมบัติล้ำค่าสามชิ้น สมบัติที่หลินหยุนซื้อมามีมูลค่าสูงสุด ดังนั้น หลินหยุนจึงได้รับการต้อนรับเพียงคนเดียว
และผู้ที่ต้อนรับหลินหยุนคือหยุนเยว่
ในห้อง หยุนเยว่มีท่าทีเคารพ และสมบัติที่ได้จากการประมูลของหลินหยุนวางอยู่บนโต๊ะ
“คุณหลิน ไม่คาดคิดว่าคุณอยากได้แหวนวงนี้มากขนาดนี้ ถ้ารู้เรื่องนี้แต่แรก ฉันจะตัดสินใจยกแหวนวงนี้ให้กับคุณไป!” หยุนเยว่พูดด้วยรอยยิ้ม
หลินหยุนไม่พูด เขาไม่สนใจเงินแค่นี้เลย
หยุนเยว่พูดต่อ “แต่ถึงอย่างนั้น ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณหลินใช้เงินฟุ่มเฟือย เงินก้อนนี้พวกเราออกให้คุณหลินเอง คุณหลินสามารถเอาแหวนวงนี้ไปได้เลย!”
นี่เป็นการเอาใจอย่างชัดเจน!
หลินหยุนพูดเบาๆ “ไม่ต้องหรอก ฉันมีเงิน”
ครั้งที่แล้วที่รับวิลล่าที่หยุนเยว่มอบให้นั้น เป็นเพราะหลินหยุนต้องการใช้พอดี
สำหรับเงินในครั้งนี้ หลินหยุนไม่ได้สนใจเลย แล้วทำไมต้องไปเป็นหนี้บุญคุณอีก?
หยุนเยว่ไม่ได้ตามตื้อ เธอเข้าใจนิสัยตัวตนของหลินหยุน รู้ว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจแล้ว เป็นเรื่องยากที่คนนอกจะมาเปลี่ยนแปลงได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลง ท่านลองดูแหวนวงนี้ก่อน ฉันจะไปดำเนินการเอกสารให้ท่าน”
“ครับ”
เมื่อหยุนเยว่จากไป หลินหยุนก็หยิบแหวนขึ้นมา และสังเกตดู
“มันคือกลิ่นไอของวิชาสำนักต้าเต๋า”
จากนั้นหลินหยุนก็ปลดปล่อยพลังทิพย์ออกมา ทันใดนั้นก็กระตุ้นแหวนทันที
จากนั้น ใบหน้าของหลินหยุนก็แสดงความปีติยินดี “ที่แท้ก็เป็นแหวนเก็บของ!”
“แม้ว่าจะเป็นเกรดระดับต่ำมาก แต่สำหรับฉันที่ไม่สามารถแสดงวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาลได้ มันเหมาะสมมาก!”
หลินหยุนหยิบแหวนวงนี้และชื่นชอบมาก ถอนหายใจ “ไม่คาดคิด จะได้พบกับแหวนเก็บของบนโลกแห่งนี้ ช่างเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน!”
ไม่นาน หยุนเยว่ก็กลับมาจากการดำเนินเอกสาร
“คุณหลิน ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย คืนบัตรให้ท่าน!”
“อืม” หลินหยุนลุกขึ้น สวมแหวนวงนั้นบนนิ้วหัวแม่มือ และเตรียมที่จะจากไป
“ฉันจะให้คนไปส่งท่าน!” หยุนเยว่ลุกขึ้นยืนและพูด
“ก็ดีเหมือนกัน”
หลินหยุนกลับไปที่วิลล่าตึกว่างเยว่
……
…..
ชิ่งโจว ท่าเรือ
เป็นเวลาเที่ยงคืน มีเพียงเจียงจงโยวและลูกน้องอีกหลายสิบคนที่อยู่ที่ท่าเรือ
“ปรมาจารย์กู่บอกว่าเขาจะมาหลังสี่ทุ่มคืนนี้ ตอนนี้ก็รอมาสองชั่วโมงแล้ว เขาคงจะไม่ปล่อยฉันรอเก้อใช่ไหม?”
เจียงจงโยวโยนก้นบุหรี่ลงบนพื้น และขยี้ด้วยเท้าของเขา ระบายความไม่พอใจของเขา
“ลูกพี่ รออีกสักพัก พวกเขาไม่จำเป็นต้องผิดสัญญาพวกเรา!” ลูกน้องคนสนิทพูด
แต่ว่า หลังจากรออีกครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่มีเรือในแม่น้ำโผล่มา
เจียงจงโยวมองนาฬิกาที่ข้อมือ และมันเป็นเวลาตีสามแล้ว
“รออีกครึ่งชั่วโมง ถ้ายังไม่มา พวกเราก็กลับบ้านไปนอนกันเถอะ!”
เจียงจงโยวเริ่มโกรธแล้ว
ในขณะนี้ ทันใดนั้นจู่ๆก็มีลมพัดมาเหนือหัวทุกคนแบบไม่มีสัญญาณเตือน
ลูกน้องคนหนึ่งชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า และตะโกนด้วยความตกใจ “พี่ ลูกพี่ มีคนกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า!”
“พูดไร้สาระ!” เจียงจงโยวตวาดใส่ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ทันใดนั้น เจียงจงโยวตกตะลึงจนดวงตาเกือบกระเด็นออกมา
มีคนที่สวมเสื้อคลุมสีเทา ชายชราผู้นี้บริเวณหน้าผากมีก้อนเนื้อนูนออก กำลังเหยียบก้อนเมฆมา
ชายชราค่อยๆร่อนลงต่อหน้าทุกคน เจียงจงโยวและคนอื่นๆนิ่งอึ้ง ชั่วขณะยังตั้งสติไม่ได้
“คุณคือเจียงจงโยว?” ชายชราถามก่อน
จากนั้นเจียงจงโยวก็ตั้งสติขึ้นมาทันที รีบก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “เจียงจงโยวคารวะท่านปรมาจารย์กู่! โอ้ไม่ เทพเซียนกู่!”
แม้ว่าเจียงจงโยวจะไม่เคยเห็นหน้าปรมาจารย์กู่ แต่ดึกดื่นขนาดนี้ ยังสามารถเรียกชื่อของเขา นอกจากเป็นปรมาจารย์กู่ที่นัดไว้แล้ว คงไม่ใช่ใครอื่นแน่นอน
ดังนั้น ตัวตนของบุคคลนี้ไม่ต้องอธิบายก็เข้าใจชัดเจน
ปรมาจารย์กู่หัวเราะ พอใจกับการทักทายของเจียงจงโยวมาก
“ลุกขึ้นเถอะ!”
หลินชางฉองคนนั้นกล้าฆ่าศิษย์น้องของฉัน ครั้งนี้ฉันจะทำให้เขากลายเป็นศพแห้ง ไม่ได้ผุดได้เกิดไปตลอดชีวิต!”
แน่นอน การมาครั้งนี้ของปรมาจารย์กู่ ไม่ได้มาเพื่อล้างแค้นให้กับศิษย์น้องอย่างเดียว สำหรับคนอย่างพวกเขา คนตายแล้วก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไร ศิษย์น้องตายไปแล้วก็รับคนใหม่ได้
จุดประสงค์ที่แท้จริงของปรมาจารย์กู่คือ ใช้โอกาสในการรวบหลิงหนาน ใช้พลังอำนาจบนโลก เพื่อค้นหาทรัพยากรในการฝึกฝนของพวกเขา
ปรมาจารย์กู่ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ฉันจะจัดที่พักให้ท่านก่อน!” เจียงจงโยวพูดด้วยความนอบน้อมพร้อมกับโค้งตัว
ฉากเหยียบเมฆเมื่อกี้ มันช่างน่าทึ่งจริงๆ!
คนธรรมดาอย่างเจียงจงโยว นับถือปรมาจารย์กู่ราวกับเป็นเทพเจ้าทันที!
แน่นอนว่า นี่เป็นผลลัพธ์ที่ปรมาจารย์กู่ต้องการ และมันก็ไม่ไร้ประโยชน์ที่เขาใช้พลังไปมากขนาดนี้
ในหลินโจว มีรถเบนซ์สีดำของนักธุรกิจจอดอยู่ทะเลสาบเยว่หยา
หานกั๋วเฉียงและอีหลิงออกจากรถ ตามหลังพวกเขา ตามด้วยชายชราหลังค่อม
“คุณน้า พวกเราสะกดรอยตามคนอื่น มันไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่า?” อีหลิงทักท้วงอย่างไม่พอใจ
หานกั๋วเฉียงทำตาหวานให้เธอ “ถ้าไม่สะกดรอยตาม ถามเธอว่าไอ้หนุ่มคนนั้นพักอยู่ที่ไหน เธอจะบอกฉันไหม?”
อีหลิงหน้าแดง และคำตอบคือ ไม่แน่นอน
“คุณน้า ฉันเคยบอกแล้ว พวกเราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นกัน ทำไมต้องการเจอเขาทำไม?” อีหลิงพูดหน้าแดง
แม้ว่าเธอจะมีความรู้สึกแปลกๆในตัวหลินหยุน และมีความประทับใจ แต่มันก็คงไม่ใช่ความรักแบบชายหญิง
ตอนนี้โดนหานกั๋วเฉียงดำเนินการดังกล่าว อีหลิงรู้สึกเหมือนเริ่มมีความรักให้กับหลินหยุน
“เธอไม่ต้องกังวล ฉันแค่พบเขาเฉยๆ และดูว่านิสัยของเขาเป็นอย่างไร ไม่ทำให้เขาลำบากใจ!”
“ถ้าอย่างนั้นคุณน้าต้องมีขอบเขตในการพูด!” อีหลิงพูด
“ดูเธอสิตื่นเต้นกังวลใจเช่นนี้ ยังบอกว่าพวกเธอมีแค่ความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมชั้นธรรมดาๆ ถ้าเป็นแค่ความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมชั้นธรรมดา ทำไมเธอต้องตื่นเต้นขนาดนั้น?” หานกั๋วเฉียงรู้สึกว่าการกันไว้ดีกว่าแก้ของเขานั้นถูกต้อง