จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1136 ท่านจิน
ดวงตาของเฉินชิงสุ่ยเป็นประกาย เขามองฉู่เทียนและพูดอย่างเย็นชา วันนี้คนที่จะใช้สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นท่านจินของพวกเรา ฉู่เทียน คุณแน่ใจเหรอว่าจะไม่ยอมเปลี่ยนสถานที่?
เมื่อได้ยินคำว่าท่านจิน นอกจากหลินหยุนแล้ว คนอื่นๆตกตะลึงและหายใจลึกๆทันที
แม้แต่สีหน้าของฉู่เทียนก็เปลี่ยนไปทันที
ท่านจิน!
จินอู่เซิง!
เขาเป็นราชาของโลกใต้ดินในเมืองมี่หยุน
เขาเป็นราชาใต้ดินจริงๆ
ไม่ต้องพูดถึงฉู่เทียน แม้แต่ฉู่จิงเผิงที่เป็นพ่อของฉู่เทียนและเป็นรองเจ้าเมืองของเมืองมี่หยุน เมื่อเจอหน้าท่านจินก็ต้องพูดจาด้วยความเคารพเหมือนกัน
ถ้าเป็นวันอื่นๆ ฉู่เทียนคงไม่กล้าพูดอะไรแล้ว
ถึงแม้ต้องขายหน้าบ้าง แต่เขาก็ไม่กล้าล่วงเกินผิดใจกับท่านจิน
แต่เขาในวันนี้ ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ตอนนี้เขาเป็นศิษย์สายในของสำนักสุริยัน
ถึงแม้จินอู่เซิงจะแข็งแกร่งมากๆแล้วจะยังไง?
เขาคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่าสำนักสุริยันเหรอ?
เพราะพวกเขานั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉู่เทียนพูดอย่างเย็นชา ต้องขอโทษจริงๆ ตอนนี้ท่านจินยังไม่ได้มาด้วยตัวเอง ถึงแม้ท่านจินมาด้วยตัวเอง ก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดให้ฉันเปลี่ยนสถานที่!
ฮ่าๆๆ คนนี้คือใคร ทำไมถึงกล้าพูดจาอวดดีแบบนี้?
มีน้ำเสียงเคร่งขรึมหนึ่งดังขึ้นมาทันที
ทุกคนมองไปยังทิศทางที่เสียงดังขึ้น พวกเขาเห็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าๆ เขาพาลูกน้องมาด้วย และกำลังเดินมาทางนี้
เมื่อเห็นชายวัยกลางคน ทุกคนตกใจมากๆจนหายใจเข้าลึกๆ
นอกจากหลินหยุนแล้ว ทุกคนในศาลาเก๋งจีนรีบลุกขึ้นมาทันที
จินอู่เซิงมาถึงแล้ว!
ดวงตาของฉู่เทียนกระตุกทันที เขาหายใจลึกๆและพยายามให้จิตใจสงบแล้วพูดว่า ข้าน้อยฉู่เทียน คารวะท่านจิน!
ไป๋ซิงและคนอื่นๆที่อยู่ข้างๆก็รีบพูดทักทายทันที
ท่านจินเดินเข้ามา มีลูกน้องคนหนึ่งรีบยกเก้าอี้มาเพื่อให้เขานั่งทันที
เมื่อนั่งบนเก้าอี้แล้ว ท่านจินหรี่ตาและมองไปที่ฉู่เทียน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม เด็กหนุ่ม คุณเป็นลูกของใคร?
ฉู่เทียนยกมือขึ้นมาและทำความเคารพแล้วพูดว่า ท่านจิน ฉันชื่อฉู่เทียน พ่อของฉันคือฉู่จิงเผิง!
ท่านจินพยักหน้า เป็นลูกชายของฉู่จิงเผิงนี่เอง ไม่แปลกใจเลยที่ไม่ไว้หน้าฉันเลย! ฮ่าๆๆ!
ฉู่เทียนพูดอย่างเคร่งขรึม ท่านจินพูดเกินไปแล้ว เนื่องจากฉันเป็นศิษย์สายในของสำนักสุริยัน ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ก็ต้องคำนึกถึงหน้าตาของสำนักสุริยัน!
ถ้าเขาอาศัยฐานะที่ตัวเองเป็นลูกชายของรองเจ้าเมืองฉู่จิงเผิง เขาไม่กล้าพูดแบบนี้กับจินอู่เซิงอยู่แล้ว
ดังนั้นเขาก็เลยพูดเรื่องที่ตัวเองเป็นศิษย์สายในของสำนักสุริยันออกมา
จินอู่เซิงหัวเราะและพยักหน้าอีกครั้ง เขาพูดเบาๆว่า เป็นอย่างนี้นี่เอง มีสำนักสุริยันคอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ทำให้คุณกล้าพูดจาอวดดีแบบนี้นี่เอง!
จินอู่เซิงขมิบปากตัวเอง เขาหรี่ตาลง น้ำเสียงของเขาเย็นชาขึ้นมาทันที เด็กหนุ่ม คุณคิดว่าตัวเองมีสำนักสุริยันคอยช่วยอยู่เบื้องหลัง คุณก็กล้ามาลองดีกับฉันใช่ไหม?
ฉู่เทียนรีบพูดทันที ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!
จินอู่เซิงหัวเราะออกมา เขาโบกมือและพูด ช่างเถอะ ฉันไม่สนว่าคุณจะหมายความว่ายังไง วันนี้ฉันต้องการสถานที่แห่งนี้ พวกคุณเปลี่ยนไปสถานที่อื่นๆจะดีกว่า!
ฉู่เทียนขมวดคิ้วอีกครั้งทันที ท่านจิน เมื่อสักครู่ฉันได้พูดกับลูกน้องของคุณไปแล้ว! ฉันไม่อยากจะเปลี่ยนสถานที่! ดังนั้น ฉันต้องขอโทษจริงๆ!
สายตาของจินอู่เซิงเป็นประกายทันที
สายตาที่โหดเหี้ยมมองไปที่ฉู่เทียนอีกครั้ง
เด็กหนุ่ม คุณคิดว่าฉันพูดจาดีๆกับคุณไม่กี่ประโยค จนทำให้คุณหลงตัวเองและลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นใคร?
ฉันจะให้โอกาสพวกคุณอีกหนึ่งครั้ง ตอนนี้รีบจากไปเลย ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน!
สายตาของทุกคนต่างจ้องไปที่ฉู่เทียนทันที
ตอนนี้ คนที่มีสิทธิ์พูดคุยกับท่านจินมีเพียงเขาคนเดียว
ฉู่เทียนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาก็มองท่านจินด้วยสีหน้าจริงจังและพูด ท่านจิน ฉันเคยพูดแล้ว ฉันเสียหน้าไม่เท่าไหร่ แต่สำนักสุริยันห้ามเสียหน้า! ดังนั้น……
เมื่อท่านจินได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมทันที เขาโบกมือและพูดอย่างเย็นชา โอเค ไม่ต้องพูดแล้ว ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมจากไป งั้นก็ไม่ต้องไปแล้ว!
สุ่ย จับพวกมันเอาไว้ หาสถานที่ขังพวกมันด้วย!
แม่งเอ๊ย พญาเสือไม่ออกฤทธิ์ เด็กหนุ่มพวกนี้คงคิดว่าฉันเป็นแมวป่วย!
ใช่แล้ว เด็กผู้หญิงพวกนี้ พาไปส่งที่ห้องนอนของฉัน! คืนนี้ฉันจะกลับไปนอนกับพวกเธอ!
เมื่อเฉินชิงสุ่ยได้รับคำสั่งก็พยักหน้าทันที ได้ครับ ลูกพี่ใหญ่!
ขณะพูด เขาก็พาลูกน้องคนอื่นๆเดินมาหาฉินชิงถงกับเมิ่นหยู่ทันที
ทุกคนตกใจกลัวมากๆ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที
ถึงแม้พวกเขาจะมีพลัง แต่พวกเขาเพิ่งฝึกฝนถึงแดนฝึกพลังเท่านั้น ถ้าเทียบกับลูกน้องของท่านจิน มันยังห่างกันมากๆ
ฉู่เทียนรีบพูดทันที ท่านจิน ถึงแม้คุณจะเป็นลูกพี่ใหญ่ของโลกใต้ดินในเมืองมี่หยุน แต่พวกเราก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป! ฉันขอเตือนให้คุณคิดให้ดีๆก่อนแล้วค่อยลงมือ!
ท่านจินหัวเราะออกมา กล้าข่มขู่ฉัน? เด็กหนุ่ม คุณยังอ่อนหัดเกินไป! สุ่ย รีบลงมือได้แล้ว ยังรออะไรอยู่?
เฉินชิงสุ่ยไม่พูดอะไรอีก เขารีบเดินไปหาฉินชิงถงกับเมิ่นหยู่ทันที
ฉู่เทียนรีบตะโกนทันที รอก่อน!
ท่านจินหมดความอดทนและเอ่ยปากพูด เด็กหนุ่มตระกูลฉู่ หุบปากเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันจะฆ่าคุณให้ตายเดี๋ยวนี้เลย?
คุณคิดว่ามีสำนักสุริยันค่อยหนุนหลังอยู่ คุณก็กล้ามาอวดดีกับฉันเหรอ?
ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!
หลังจากฉันฆ่าคุณตายไปแล้ว ลองดูว่าสำนักสุริยันจะทำอะไรฉันได้?
สีหน้าของฉู่เทียนแย่มากๆขึ้นมาทันที
เขามองหน้าท่านจินด้วยสายตาที่หวาดกลัว
เขาคิดไม่ถึงจริงๆเลยว่าท่านจินไม่ไว้หน้าสำนักสุริยันเลย
เฉินชิงสุ่ยกับลูกน้องอีกสองคน กำลังจะไปจับตัวฉินชิงถงกับเมิ่นหยู่เอาไว้
ฉินชิงถงหวาดกลัวมากๆและตะโกนใส่ฉู่เทียนทันที คุณชายเทียน คุณชายเทียนคุณช่วยฉันด้วยสิ!
สีหน้าของฉู่เทียนแย่มากๆ เขามองไปที่ท่านจิน กัดฟันและพูด ท่านจิน คุณอยากจะเป็นศัตรูกับสำนักสุริยันจริงๆเหรอ? สำนักสุริยันแข็งแกร่งขนาดไหน คุณน่าจะรู้ดี!
ท่านจินพูดอย่างเย็นชา ไสหัวไปเดี๋ยวนี้! ไม่ต้องสนใจเขา เด็กหนุ่มคนนี้กล้ามากๆ! ถ้าคุณยังกล้าพูดอีกหนึ่งประโยค ฉันจะฆ่าคุณให้ตายตอนนี้เลย!
ขณะที่ท่านจินพูดอยู่ ดวงตาของเขาก็เปล่งรังสีฆ่าฟันที่โหดเหี้ยมออกมา
ชั่วพริบตา อุณหภูมิในห้องเย็นลงทันที!
ไป๋ซิงกับหลี่เสียงและคนอื่นๆ สีหน้าของพวกเขาขาวซีดทันที สายตาที่มองท่านจินเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
อ๊าก! อย่าจับฉันนะ!
อย่าจับฉันเลย!
ฉู่เทียน คุณชายเทียนช่วยฉันด้วย !
ท่านจิน พวกเราเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเมิ่นกับตระกูลฉิน ถ้าคุณกล้าทำอะไรพวกเรา ตระกูลของพวกเราไม่ปล่อยคุณไว้อย่างแน่นอน!
เมิ่นหยู่ตะโกนออกมาและพยายามดิ้นรน
ทุกคนมองหน้าเมิ่นหยู่ด้วยสายตาที่มองคนโง่
ท่านจินไม่ไว้หน้าฉู่เทียนเลย เขาจะไว้หน้าตระกูลฉินกับตระกูลเมิ่นเหรอ?
ฉินชิงถงไม่ได้ตะโกนออกมา เพราะเธอหมดหวังแล้ว
แม้แต่ฉู่เทียนกับสำนักสุริยัน เขายังไม่ไว้หน้าเลย ยังมีใครสามารถช่วยพวกเธอได้อีก
พวกเธอพึ่งฝึกฝนถึงแดนฝึกพลังเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเฉินชิงสุ่ย พวกเธอก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ พวกเธอไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย
สายตาของท่านจินมองไปที่ฉินชิงถงกับเมิ่นหยู่
เด็กผู้หญิงสองคนนี้มีรูปร่างที่เซ็กซี่มากๆ
มีหน้าอกที่ใหญ่และมีเอวที่เล็ก
โดยเฉพาะฉินชิงถง เธอสวยกว่าเมิ่นหยู่มากๆ
ทำให้เขามีไฟราคะทันที
อย่างไรก็ตาม
เดี๋ยวก่อน
ในเวลานี้
มีน้ำเสียงที่เคร่งขรึมและนิ่งสงบ
จู่ๆก็ดังขึ้น