จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1163 หล่อฐานของยาทอง
ฉินเหมยอึดอัดจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
แกนั่นแหละที่แก่หงำเหงือก!
ชาตินี้ก็ไม่มีใครเอาแก!
ยัยเด็กบ้าคนนี้ น่าโมโหจริงๆเลย!
หลินหยุนและฉินเหมยต่างมองตากันและกัน จากนั้นทั้งสองคนก็หันหลังเข้าไปในรถเมฆ
ซิงเฟยก็อึ้งไปทันที แล้วรีบวิ่งตามเข้าไป แล้วสอบถามหลินหยุนด้วยคำถามต่างๆอีกต่อไป
หลินหยุนรู้สึกรำคาญจนไม่รู้จะทำยังไงดี สะบัดแขนขึ้น สกัดกั้นเสียงของเธอเอาไว้เลย
ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรอีก ก็จะไม่มีเสียงอะไรออกมา
ในที่สุดก็สงบเงียบลงเสียที
รถเมฆก็มุ่งหน้าเดินทางต่อไป
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนก็กลับมาถึงเมืองมี่หยุนแล้ว
หลินหยุนไม่ได้ไปที่ตระกูลฉิน แต่กลับไปยังบ้านพักเงียบสงบที่อยู่ทางด้านใต้ของเมืองหลังนั้น
เมื่อเห็นหลินหยุนไม่ยอมไปบ้านตระกูลฉิน ซิงเฟยก็ไม่ยอมไปอยู่ตระกูลฉินด้วยเช่นกัน
ยังไงก็จะต้องอยู่กับหลินหยุนให้ได้
ตอนนี้หลินหยุนในสายตาของเธอ ก็เหมือนกับขุมทรัพย์ที่ลึกลับแห่งหนึ่ง รอให้เธอเข้าไปขุดค้นหา
หลินหยุนก็ย่อมไม่ยอมอย่างแน่นอน แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน
เพื่อให้คุณหนูคนนี้อยู่ในเมืองมี่หยุนอย่างสงบเสงี่ยม รอจนถึงวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษตระกูลฉินแล้ว เขาจึงได้แต่ยอมตกลง
เมื่อจัดการที่พักให้สองคนนั้นเรียบร้อยแล้ว ฉินเหมยจึงถอนหายใจโล่งอกเสียที
หลินหยุนก็กลับเข้าไปในห้องตัวเองแล้วปิดประตูไว้
ตั้งแต่ที่ได้หินสังเวยจิตจากงานประมูลที่หอไป่เต้ามาแล้ว เขายังไม่ทันได้มีเวลาชมดูอย่างละเอียดเลย
นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง แล้วพลิกฝ่ามือขึ้น หินสังเวยจิตก็ถูกเขานำออกมาแล้ว
มองดูหินสังเวยจิตขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือถือก้อนนี้ ต่อให้เป็นคนที่มีความรู้กว้างขวางมากประสบการณ์อย่างหลินหยุน ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้ว
เป็นหินสังเวยจิตไม่ผิดจริงๆ!
อีกอย่างยังมีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงอยู่ภายในอีกด้วย!
สิ่งมีชีวิตที่สามารถอยู่ภายในหินสังเวยจิตได้นั้น จะต้องเป็นไหมจัญไรไร้เงาอย่างแน่นอน!
คิดไม่ถึงว่า ชาตินี้ฉันถึงกับได้พบกับสิ่งดุร้ายเช่นนี้ได้!
ยิ่งคิดไม่ถึงเลยก็คือ ของสิ่งนี้แม้แต่ในสวรรค์ทั้งหลายโลกนับหมื่นนับแสนก็ยังหาได้ยากเลย กลับมาปรากฏอยู่บนโลกใบนี้ได้!
มันช่างเหลือเชื่อเสียจริงเลย!
เมื่อชาติที่แล้ว หลินหยุนในนามของมหากษัตริย์ชางฉอง
เดินทางไปทั่วทั้งจักรวาลโลกนับหมื่นนับแสน!
เคยพบเห็นได้ยินเรื่องราวมามากมายเหลือคณานับ!
แต่เขาก็ยังต้องยอมรับ!
หินสังเวยจิตชนิดนี้ เป็นของล้ำค่าที่หายได้ยากยิ่ง
อีกอย่าง ถึงแม้จะพูดว่าไหมจัญไรไร้เงาเกิดขึ้นจากหินสังเวยจิตก็จริง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีอยู่ภายในหินสังเวยจิตทุกก้อน
ไม่เช่นนั้นแล้ว เกรงว่าทั่วทั้งจักรวาลโลกนับหมื่นก็คงถูกไหมจัญไรไร้เงาทำลายจนหายสาบสูญไปจนหมดสิ้นแล้ว
ก่อนหน้านั้นเขาเคยพบเห็นมาครั้งหนึ่ง เพียงแค่ตัวเดียวก็สามารถทำให้สุดยอดฝีมือระดับมหากษัตริย์ตายและบาดเจ็บไปแล้วหลายสิบคน
จะเห็นได้ว่าไหมจัญไรไร้เงานั้นดุร้ายเพียงใด
หลินหยุนซึ่งอยู่ในฐานะผู้นำของมหากษัตริย์ทั้งหลาย
แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ต่อให้ตอนนั้นเขาได้ประมือกับไหมจัญไรไร้เงาตัวนั้นขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เปรียบเสียทีเดียว
สูดหายใจลึกๆ แล้วเพ่งดวงจิตเข้าไปสำรวจหินสังเวยจิตที่อยู่ภายใน
ทันใดนั้น กระแสจิตของเขาก็หายสาบสูญไปราวกับรูปปั้นวัวดินที่ตกลงไปในทะเล
ดูราวกับว่าถูกตัดขาดไปทันที
แต่ว่า
ก็ยังคงสัมผัสได้อย่างลึกซึ้งว่า พลังชีวิตที่แข็งแกร่งนั้นก็ยังแฝงอยู่ภายในไข่ของไหมจัญไรไร้เงาเช่นเดิม
ดูจากความแข็งแกร่งของพลังชีวิตเช่นนี้แล้ว เกรงว่ายังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะสามารถฟักออกเป็นตัวได้
ภายในหนึ่งร้อยปี น่าจะพอมีความหวังอยู่บ้าง!
แต่ว่าหนึ่งร้อยปีสำหรับฉันแล้ว ก็ยังรู้สึกช้าไปหน่อย!
ถ้าหากสามารถทำให้ไหมจัญไรไร้เงาฟักออกมาได้เร็วที่สุดละก็ งั้นจะเป็นตัวช่วยที่ยิ่งใหญ่ของเขาในอนาคตได้ทีเดียว!
แล้วจะทำให้เขาได้ไพ่ใบสุดท้ายที่ล้ำค่าเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งใบ!
ลองคิดดูให้ดี ในระหว่างที่กำลังต่อสู้กับศัตรูอยู่นั้น จู่ๆก็ปล่อยไหมจัญไรไร้เงาออกมา แล้วใครจะคาดคิดได้บ้าง?
สาเหตุที่ไหมจัญไรไร้เงาร้ายกาจเช่นนั้น ก็เป็นเพราะว่ามีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่ง
สามารถกลืนกินอิทธิฤทธิ์ได้ กลืนกินกฎเกณฑ์ต้าเต้าได้
ไม่ว่าอิทธิฤทธิ์อะไรก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้ามันแล้วก็เหมือนไม่มีผลอะไรเลย
ต่อให้เป็นกฎเกณฑ์ต้าเต้าก็เช่นเดียวกัน
แน่นอน
นี่ก็จะต้องขึ้นอยู่กับพลังฝึกฝนในตัวของไหมจัญไรไร้เงาที่จะต้องอยู่ในระดับสูงพอสมควรด้วย
ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่มีทางที่จะทำได้เช่นกัน
ฉันคิดอยากจะกลั่นยาทองหวูซ่างระดับเทพให้สำเร็จ งั้นก็จะต้องใช้วัสดุระดับสูงเช่นกัน
ดูไปแล้ว หินสังเวยจิตชิ้นนี้ก็สามารถเอามาใช้เป็นฐานยาทองของฉันได้!
อีกอย่างก็ยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง!
เอาหินสังเวยจิตทำเป็นฐานยาทอง เจ้าตัวเล็กที่อยู่ข้างในนั้น ก็สามารถอาศัยพลังทิพย์ของฉันในการเจริญเติบโตได้ตลอดเวลา!
นี่ก็จะทำให้ร่นเวลาการฟักตัวออกมาของมันให้สั้นลงได้อย่างมากเลย!
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หลินหยุนรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน
แต่ว่า ในการเข้าถึงแดนยาทองขั้นนี้ก็จะต้องเลือกหาสถานที่ที่ดีแห่งหนึ่งแล้ว!
ตอนนี้ก็ยังพอมีเวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะถึงวันเซ่นไหว้บรรพบุรุษตระกูลฉิน
หลินหยุนคิดคำนวณเวลาดูแล้ว
ก็น่าจะเพียงพอ
จึงได้ตัดสินใจทันที
เงาร่างก็หายวับออกจากห้องพักไป
หลังจากผ่านไปครึ่งวันแล้ว
ภายในเทือกเขามี่หยุนที่ห่างออกไปทางทิศเหนือของเมืองมี่หยุนราวประมาณพันลี้
ร่างของหลินหยุนก็ร่อนลงมาบนพื้น
ขยับแขนขึ้น แล้วกรีดลงบนพื้นที่ภูเขาที่อยู่บนตรงหน้าหลายที ก็เกิดมีถ้ำขนาดไม่ใหญ่นักปรากฏขึ้นตรงหน้า
หลินหยุนก้าวเท้าเดินเข้าไป จากนั้นก็หันหลังกลับมาเพื่อวางค่ายกลติดปากถ้ำไว้
นั่งขัดสมาธิลง แล้วหยิบเอาหินสังเวยจิตออกมา
ดวงจิตของหลินหยุนระเบิดออกมา แล้วห่อหุ้มหินสังเวยจิตวิญญาณไว้อยู่ภายใน
กระแสดวงจิตก็ดูดซับหินสังเวยจิตไว้อย่างต่อเนื่อง
สุดท้ายแล้วก็สามารถเก็บเข้าไปไว้ในจุดตันเถียนได้จนหมดสิ้น
หลังจากนั้นหลินหยุนก็เริ่มรวบรวม บีบอัด และดูดซับพลังทิพย์ทั้งหมดในตัวอย่างไม่หยุดหย่อน
ทุกครั้งที่มีการบีบอัด ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว หินสังเวยจิตที่อยู่ภายในจุดตันเถียนก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามไปด้วย
ไม่เพียงแต่รูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไป แม้แต่สีสันก็ยังเปลี่ยนแปลงไปด้วย
อีกทั้งการหลอมรวมเข้ากับดวงจิตของหลินหยุนก็ยังเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากผ่านไปสามวันแล้ว
สีสันของหินสังเวยจิตก็เปลี่ยนเป็นสีเหลือง
รูปทรงก็เปลี่ยนเป็นรูปกลมๆเหมือนอย่างเม็ดโอสถอีกด้วย
พลังทิพย์ภายในร่างของหลินหยุนนั้น ก็ยังคงรวบรวมและบีบอัดเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
ความเร็วของยากลับไม่ได้เร็วอย่างที่หลินหยุนคาดคิดไว้
ผ่านไปอีกสามวัน
ตอนนี้หลินหยุนสีหน้าขาวซีดอย่างรุนแรง
พลังทิพย์เฮือกสุดท้ายของเขาก็พยายามมุ่งเข้าไปหลอมรวมกับยาทองที่หินสังเวยจิตหล่อขึ้นมาอย่างเต็มที่!
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ขั้นตอนนี้จะลำบากยากเย็นได้ถึงเพียงนี้
ถ้าหากแค่ใช้ชี่ทิพย์เพียงอย่างเดียวในการบีบอัดเข้าไปในหินสังเวยจิตทั้งหมด ก็คงไม่ยากลำบากมากเท่าไร
แต่ตอนนี้ ภายในหินสังเวยจิตกลับมีตัวอ่อนของไหมจัญไรไร้เงาอยู่ด้วย
อย่าเห็นว่าเป็นแค่หนอนตัวอ่อนเท่านั้น แต่ในเวลานี้กลับแสดงพลังขัดขืนที่ยิ่งใหญ่ออกมาแล้ว
พลังทิพย์ของหลินหยุนที่เข้าไปอยู่ในนั้นก็จะถูกหนอนตัวอ่อนต่อต้านไว้หมด!
ถ้าหากว่าไม่คำนึงถึงความอยู่รอดของหนอนตัวอ่อนละก็ งั้นก็คงไม่ยากลำบากขนาดนั้น
แต่หลินหยุนก็ย่อมต้องคำนึงถึงความเป็นความตายของหนอนตัวอ่อนอย่างแน่นอน
นี่เป็นความลับสุดยอดในอนาคตของเขา และอาจไม่แน่ยังจะเป็นหนึ่งในไพ่ใบสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาอีกด้วย
เขาคงยอมไม่ได้ที่จะทำให้มันต้องตายไป
ดังนั้นจึงต้องลำบากยากเย็นเช่นนี้
กระแสเฮือกสุดท้ายแล้ว!
หลอมเข้าไปให้หมด!
หลินหยุนคำรามเสียงเบา พลังทิพย์เฮือกสุดท้ายก็ถูกบรรจุเข้าไปอยู่ในยาทองจนหมดสิ้นแล้ว
ทันใดนั้น ยาทองก็เกิดการหมุนวนเวียนอยู่ภายในจุดตันเถียนของเขาอย่างรวดเร็ว
พลังแรงเฉพาะตัวของยาทองนั้น ก็ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไม่ขาดสาย ไหลเวียนอยู่ภายในกระแสลมปราณรวมทั้งจุดประสาทต่างๆด้วย
ตอนนี้ถ้าหากมีคนมาเห็นละก็ จะต้องช็อกไปตามๆกันอย่างแน่นอน
ปรากฏมีแสงสีทองส่องประกายล้อมรอบตัวหลินหยุนเอาไว้
บนศีรษะของเขาราวกับมีรัศมีแสงเปล่งประกายออกมา ส่องสว่างจ้าไปทั่วภายในถ้ำ
ตอนนี้ภายในถ้ำสว่างดูราวกับเป็นเวลากลางวัน
แสงสว่างจ้าที่แสบตา
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร
ประกายแสงสว่างจ้าที่แสบตานั้น หลินหยุนก็ได้เก็บรวบรวมเข้าไปอยู่ในจุดตันเถียนเช่นเดิมแล้ว
หลินหยุนลืมตาขึ้นมา ทันใดนั้นก็มีประกายแสงทิพย์มากมายนับไม่ถ้วนปลดปล่อยออกมา
ความรู้สึกอิ่มเอิบอย่างหาที่สุดไม่ได้ก็พวยพุ่งขึ้นมา