จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1175 ในที่สุดก็ได้พบหน้ากัน
เมื่อฉินเหมยได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็ร้อนใจขึ้นมาทันที เธอรีบเดินขึ้นมาข้างหน้าและพยายามปลุกหลินหยุนให้ได้สติ
เสี่ยวหยุน!
เสี่ยวหยุน คุณตื่นได้แล้ว!
ซิงเฟยที่อยู่ข้างๆรีบพูดทันที ห้ามขยับร่างกายของเขา! ตอนนี้เขาใช้พลังดวงจิตเข้าไปในจี้หยก ถ้าคุณขยับร่างกายของเขา จะทำให้เขาโดนมารครอบงำเร็วขึ้น!
เมื่อฉินเหมยได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทำให้เธอร้อนใจมากขึ้น อาหญิง พวกเราควรทำยังไงดี? พวกเราจะยืนดูเสี่ยวหยุนโดนมารครอบงำแบบนี้ไม่ได้นะ!
ถึงแม้พลังของเธอจะไม่ค่อยสูงนัก
แต่เธอก็รู้ว่าอะไรคือโดนมารครอบงำ
นั้นคือการเสียสติและจมอยู่ในโลกแห่งมายา
ขาจะไม่ได้สติคืนมาอีก มีเพียงความปรารถนาเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่ควบคุมร่างกายของเขา
พูดกันตามตรงเลย ถ้าคนๆนั้นโดนมารครอบงำ เขาก็จะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ทันที!
ซิงเฟยหายใจลึกๆหนึ่งครั้ง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและพูด ตอนนี้พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้! ทุกอย่างต้องพึ่งเขาเพียงคนเดียวแล้ว!
เหมือนกับที่ซิงเฟยพูดออกมาเลย ตอนนี้เขากำลังจะโดนมารครอบงำแล้ว คนอื่นๆไม่สามารถช่วยเขาได้อยู่แล้ว!
นอกจากจะมียอดฝีมือที่เก่งกาจยอมถ่ายพลังทั้งหมดให้เขา!
ถ้าใช้พลังของดวงจิตที่แข็งแกร่งมากๆทำลายภาพลวงตา ถึงจะสามารถช่วยเหลือเขาได้
ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงฉินเหมยเลย แม้แต่พลังทั้งหมดของซิงเฟย ถ้าต้องเทียบกับหลินหยุนแล้ว พลังของพวกเธอห่างกับหลินหยุนราวฟ้ากับเหว
พวกเธอไม่มีความสามารถจะช่วยเหลือหลินหยุนได้เลย
และด้านในจี้หยกในเวลานี้ หลินหยุนกำลังตกอยู่ในความรู้สึกโศกเศร้าและเจ็บปวด
เขาไม่สามารถยอมรับความจริงเรื่องที่เย่เยว่เสียชีวิตไปแล้ว
เขารู้สึกได้ถึงพลังจิตเต๋าอันหนักแน่นของตัวเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้มันได้พังทลายลงไปแล้ว
ใช่แล้ว!
เขายังมีคุณพ่ออยู่!
เขายังมีคุณแม่อยู่!
เขายังมีพี่ฉินหลันอยู่!
ชาตินี้ เขายังมีเพื่อนที่สำคัญมากๆและลูกศิษย์อยู่
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นจนจบ เย่เยว่ได้ถูกซ่อนอยู่ในจิตใจส่วนลึกของเขา
เขาต้องการหาเย่เยว่ให้เจอ และให้เย่เยว่กลับมาอยู่ข้างๆตัวเอง
มันเป็นจุดมุ่งหมายของเขามาโดยตลอด
เขาเชื่อมาโดยตลอด ด้วยพลังและความสามารถของเย่เยว่ เมื่ออยู่บนโลกมนุษย์ที่มีพลังทิพย์อันน้อยนิด และไม่มียอดฝีมือที่ร้ายกาจมากๆอยู่ เธอคงไม่เจอเรื่องอันตรายอย่างแน่นอน
ดังนั้น เขาก็เลยเดินตามแผนที่ตัวเองวางไว้ เขาเดินไปข้างหน้าทีละก้าวๆ เพื่อชดเชยความรู้สึกเสียใจในชาติที่แล้ว ทำให้เส้นทางของตัวเองเดินได้อย่างมั่นคงและหนักแน่น
เพราะสิ่งที่เขาต้องการ คือมีชีวิตนิรันดร์
เพื่อเผชิญหน้ากับภัยอัสนีครั้งต่อไป เขาต้องมีพลังที่แข็งแกร่งมากๆ และจิตเต๋าที่มั่นคงมากๆ เพื่อต่อสู้กับภัยอัสนี ทำให้ตัวเองมีชีวิตนิรันดร์
เขาฝึกฝนวิชาคาถากลืนสวรรค์ที่ตัวเองคิดค้นขึ้นมา และค่อยๆเติมเต็มจุดบกพร่องทั้งหมดของตัวเองเมื่อชาติที่แล้ว ทำให้ตัวเองกลายเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับเทพ!
จนถึงวันนี้ การฝึกฝนของเขานั้น ต่างก็อยู่ในการควบคุมของเขามาโดยทั้งหมด
แต่ในวันนี้!
ในตอนนี้!
ในเวลานี้!
เรื่องทั้งหมดได้พังทลายลง เมื่อเขาได้เห็นผู้หญิงอันเป็นที่รักของตัวเอง นอนอยู่ในโลงศพคริสตัล
มันไม่ได้มีความหมายอะไรอีกแล้ว
เฮือก—— หลินหยุนกระอักเลือดสดออกมา สีหน้าของเขาขาวซีดมากๆ
เขาได้สูญเสียเย่เยว่ไปแล้ว เขาได้สูญเสียผู้หญิงอันเป็นที่รักไปแล้ว
เย่เยว่……
เมื่อไม่มีเธอคอยอยู่เคียงข้าง……
ถึงแม้ฉันจะได้ครอบครองทุกอย่างบนจักรวาล มันก็ไม่มีความหมายแล้ว……
ถึงแม้ฉันจะมีชีวิตนิรันดร์ มันก็ไม่มีความหมายแล้ว……
ฟ้าดินแห่งนี้!
สรรพสิ่งบนโลกใบนี้!
มันจะคงอยู่ไปเพื่ออะไร?
วันนี้! ฉันหลินหยุน ได้สูญเสียผู้หญิงอันเป็นที่รักไปแล้ว!
ฉันจะทำให้ฟ้าดินตายไปพร้อมกับเธอ!
มีแสงสีดำอันน่ากลัวปะทุออกมาจากร่างกายของหลินหยุนทันที
ในเวลานี้ ดวงตาที่เคยเป็นสีดำของหลินหยุน ตอนนี้มันได้กลายเป็นสีเลือดแล้ว
โดนมารครอบงำแล้ว!
หลินหยุนเริ่มโดนมารครอบงำแล้ว!
พลังมารอันมหาศาล สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน
ตันเถียนที่อยู่ในร่างกายของหลินหยุน รากฐานแดนยาทองที่พึ่งสร้างได้ไม่นาน ค่อยๆถูกพลังมารกลืนกิน
ตุ๊บ——
ผ่านไปไม่นาน รากฐานแดนยาทองของเขาก็เกิดเสียงแตกหักขึ้น
พลังมารจำนวนมหาศาลครอบคลุมมันเอาไว้ทันที เดิมทียาทองที่ใสสะอาด ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำทันที
แต่หลินหยุนไม่ได้แสดงอาการขัดขืนใดๆออกมาเลย
เขาปล่อยให้พลังมารค่อยๆกลืนกินมัน
ในเวลานี้ จู่ๆโลงศพคริสตัลก็แตกออกจากกัน
พลังแห่งความตายได้ปกคลุมไปทั่ว
เย่เยว่ที่นอนอยู่ในโลงศพก็ค่อยๆลอยขึ้นมา
เธอมาถึงข้างๆหลินหยุนในชั่วพริบตา และกอดเขาเอาไว้แน่นๆ
หยุน!
หยุน!
คุณลืมตาขึ้นมาสิ!
คุณลืมตามาดูฉันสิ!
ฉันคือเยว่เอ๋อ!
ฉันคือเยว่เอ๋อของคุณไง!
เย่เยว่ใส่ชุดสีขาว
เธองดงามมากๆจนไร้ที่ติ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและน้ำตา
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ การเสียชีวิตของตัวเอง จะทำให้หลินหยุนเสียใจถึงขนาดนี้
เธอเข้าใจความโศกเศร้าของหลินหยุนและเข้าใจความเจ็บปวดของหลินหยุน
แต่เธอกลับคิดไม่ถึงจริงๆ จิตเต๋าของหลินหยุนจะพังสลายและกำลังจะโดนมารครอบงำด้วย
ชาติที่แล้ว ทั้งสองคนเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ตั้งแต่ต้นจนจบ
จิตเต๋าของหลินหยุนแข็งแกร่งแค่ไหน ในฐานะที่เธอเป็นภรรยา เธอรู้ดีที่สุด!
เธอนึกมาตลอด ความรักที่เธอมีต่อหลินหยุนนั้นมากกว่าความรักที่หลินหยุนมีต่อเธอ
แต่ตอนนี้!
เธอรู้แล้ว เธอคิดผิดไปแล้ว!
เธอคิดผิดมากๆ!
ความรักที่หลินหยุนมีต่อเธอ มันไม่ได้น้อยไปกว่าที่เธอรักหลินหยุนเลย
บางที เขาอาจจะรักเธอมากกว่าด้วยซ้ำ!
หยุน!
คุณรีบตื่นมาได้แล้ว!
คุณลืมตาขึ้นมาสิ!
คุณลืมตาขึ้นมาดูฉันสิ!
ฉันยังไม่ตาย!
ฉันเป็นเยว่เอ๋อของคุณไง……
น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
เย่เยว่กอดหลินหยุนไว้ในอ้อมกอดอย่างแน่น
และตอนนี้หลินหยุนจมดิ่งอยู่ในความมืดมิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เขาไม่สามารถครุ่นคิดอะไรได้เลย
ในสมองของเขามีเพียงอย่างเดียว นั้นก็คือฆ่าล้าง!
ฆ่าล้างทุกสรรพสิ่ง!
เขาต้องการให้ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ตายไปพร้อมกับเย่เยว่!
ในเวลานี้ มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาในหูของเขาจากความมืดมิดอันไกลโพ้น
ทำให้จิตใจที่เต็มไปด้วยการฆ่าล้างของเขาหยุดชะงักไปชั่วขณะ
จากนั้น เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงของเย่เยว่ เธอกำลังเรียกเขาอยู่!
เขาได้ยินแล้ว
มันเป็นเสียงที่เย่เยว่เรียกเขาจริงๆ!
เสียงเรียกเหล่านั้น ราวกับแสงสว่างอันเล็กๆบนโลกแห่งความมืดมิด
มันส่องสว่างไปทั่วทิศ และส่องสว่างจิตใจของเขาด้วย
เขาค่อยๆได้สติคืนมา
หลินหยุนค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เขามองเห็นพลังมารอันมหาศาลที่อยู่รอบๆตัวเอง
เขารับรู้ได้ทันที เมื่อสักครู่เขาโดนมารครอบงำแล้ว!
แม้แต่รากฐานยาหวูซ่างที่พึ่งสร้างขึ้น ก็กำลังจะแตกสลายออกจากกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับสิ่งเหล่านี้
สิ่งที่ทำให้เขาเหลือเชื่อมากๆก็คือ เขาได้เห็นใบหน้าของผู้หญิงอันเป็นที่รักและเฝ้านึกถึงตลอดเวลา
ใบหน้านี้ใกล้เขามากๆ
ทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
เมื่อสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิจากร่างกายของอีกฝ่าย ทำให้หลินหยุนร้องไห้ออกมาและพูดอย่างลำบาก เยว่เอ๋อ……เป็นคุณจริงๆใช่ไหม……
เมื่อเย่เยว่ได้ยินคำพูดนี้ เธอก็พยักหน้าทันที หยุน! ฉันเอง! ฉันคือเยว่เอ๋อ!
หลินหยุนเปิดตากว้าง เขารู้สึกเหลือเชื่อมากๆ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?
เย่เยว่หัวเราะออกมาทันที
รอยยิ้มของเธอ คือสิ่งที่สวยงามมากๆ
ไม่มีอะไรสามารถเทียบได้
เธอใช้มือค่อยๆลูบใบหน้าของหลินหยุนอย่างเบาๆ
เธอลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เธอไม่ได้สัมผัสแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว
แต่ตอนนี้ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เธอไม่ได้รู้สึกประหม่าเลย
น้ำตายังคงไหลไม่หยุด แต่กลับมีรอยยิ้มที่มุมปาก
นี่คือน้ำตาแห่งการรอคอยมาหลายพันปี!
และก็เป็นรอยยิ้มแห่งการรอคอยมาหลายพันปีเหมือนกัน!