จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1205 สังหารศพเหล็ก
เห็นสองคนลงมือ หลินหยุนก็เคลื่อนไหวสายตา
แท่นค่ายกลนี้บางทีคนอื่นอาจจะมองว่า มีความแข็งแกร่งอย่างมาก โดยเฉพาะพลังการปิดล้อมศัตรู ที่น่าเหลือเชื่อ
แต่สำหรับหลินหยุนแล้ว กลับมองว่ามันค่อนข้างจะธรรมดาไปหน่อย
แน่นอนว่า มันเกี่ยวข้องกับพลังการบำเพ็ญของผางเห้อ
ถ้าหากผางเห้อคือระดับยาทองขั้นสูง เพียบพร้อมด้วยพลังบำเพ็ญยาทองระดับหกแบบนั้นแล้ว ก็คงจะปิดล้อมศพเหล็กนี้ได้อย่างง่ายดาย
ใช่แล้ว ศพเหล็ก!
วิชาแปรศพนี้ เขาทราบดี และยังเข้าใจอย่างชัดเจนด้วย
ชาติที่แล้วในโลกบำเพ็ญเซียน ก็มีสำนักที่เน้นฝึกฝนวิชาแปรศพด้วยเช่นกัน
พลังการต่อสู้ทั้งหมด ล้วนอยู่เหนือการแปรศพเทพทั้งหมด ส่วนศพเทพนั้น เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกโดยรวม
ยังมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ศพรบ ซึ่งศพรบก็มีการแบ่งระดับขั้น
ขั้นต้นเรียกว่าศพหิน
จากนั้นก็คือศพเหล็ก ศพทองแดง ศพทอง ศพทิพย์
เมื่อถึงระดับขั้นศพทิพย์แล้ว ศพรบก็เพียบพร้อมด้วยจิตทิพย์เล็กน้อย
ต่อจากนี้ยังมีระดับขั้นที่แข็งแกร่งกว่าอีกก็คือศพดิน ศพฟ้า ศพเทพ ศพจักรพรรดิ
แน่นอนว่า เมื่อถึงระดับขั้นศพฟ้าแล้ว ก็ไม่ใช่ศพรบที่ธรรมดาอีกต่อไป ซึ่งเหมือนกับเป็นเพื่อนของเจ้าของแล้ว
ที่เพียบพร้อมด้วยพลังและความสามารถในการคิดพิจารณาด้วยตนเอง
ในส่วนของศพเทพและศพจักรพรรดิ นั่นก็คือผู้มีพลังอานุภาพที่น่าเกรงขาม
สำหรับตนที่อยู่เบื้องหน้านี้ แม้ว่าทุกคนจะเรียกขานกันว่าศพเทพ
แต่มีเพียงหลินหยุนเท่านั้นที่ชัดเจนที่สุดว่า ตนนี้เป็นเพียงแค่ศพเหล็ก ใกล้ที่จะเข้าสู่ขั้นศพทองแดงเท่านั้น
แต่สิ่งที่ทำให้หลินหยุนรู้สึกเหลือเชื่อก็คือ ทำไมศพเหล็กตนนี้ถึงได้ดำรงอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้
สำนักแห่งนี้ ชัดเจนว่าได้ถูกทำลายลงมาเป็นเวลานานมากแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นศพเหล็กหรอก ต่อให้เป็นศพทองแดง ที่หมดพลังงานแล้ว ก็คงไม่สามารถดำรงอยู่ได้นานถึงขนาดนี้
แส้ขังวิญญาณสีดำและกระบี่ยาวสีแดงพุ่งโจมตี เข้าไปที่ศพเหล็ก
แต่ศพเหล็กนั้นเพียงแค่สั่นไหว จากนั้นก็หันตัวกลับมา หมอกควันดำที่พลุ่งพล่านอยู่รอบตัวนั้นก็ได้พองตัวขึ้น ทำให้ร่างกายที่เดิมทีได้รับบาดเจ็บ ก็หายดีขึ้นในพริบตา
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง
ด้านข้าง วูแสหยุนที่ไม่ได้พูดเลยตั้งแต่ต้นก็ได้พูดเสียงแข็งขึ้นว่า การโจมตีแบบนี้เปล่าประโยชน์ พวกเราไม่เพียงแต่ต้องระมัดระวังอันตรายภายในค่ายกลนี้อยู่ตลอด ถ้าหากโจมตีใส่ศพนี้อย่างเต็มกำลัง ก็เกรงว่าค่ายกลนี้คงจะไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้!
ได้ยินวูแสหยุนพูดแบบนี้ โจงหมิงกับฉู่จิงเผิงก็รีบพยักหน้า และพูดขึ้นว่า คุณชายแสหยุนพูดได้ถูกต้อง! ฉันคิดว่า พวกเรายังจำเป็นต้องร่วมมือกับพลังค่ายกลด้วย!
ฉู่จิงเผิงพูดว่า ผู้อาวุโสผางเห้อพูดว่าใกล้เหนือไม่ใกล้ใต้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็บังคับมันให้ไปอยู่ทางใต้ โดยรวมมือกับพลังค่ายกล แล้วก็สังหารมันทิ้งซะ!
ผู้อาวุโสรองสำนักสุริยันที่ถือกระบี่ยาวอยู่ในมือนั้น ก็พูดอย่างจริงจังขึ้นว่า สองท่านพูดได้อย่างมีเหตุผล! ลงมือกระทำแบบนี้กันเลย!
จากนั้นทุกคนก็เริ่มลงมือโจมตีเข้าใส่
แม้ศพเหล็กนั้นจะแข็งแกร่ง แต่ก็ตั้งรับไม่ทัน ทำได้เพียงรองรับการโจมตีแล้วก็ถอยร่นเรื่อย ๆ จนไปถึงฝั่งทิศใต้
ทันใดนั้นก็มีเสียงน้ำไหลดังขึ้น โดยไหลลงมาจากฟ้า ลงสู่พื้นดินจนกลายเป็นแม่น้ำ
หยดฝนสีเหลืองตกลงบนร่างของศพเหล็ก พลังการกัดกร่อนอันทรงพลังได้กัดกร่อนจนทำให้รูปร่างลักษณะของศพเหล็กเปลี่ยนไปจนแทบจะจำไม่ได้
แต่ทหารไม่เที่ยงจำนวนมากกลับไม่มีความเกรงกลัว โดยได้ล้อมตัวของศพเหล็กเอาไว้อีกครั้ง และลงมือโจมตี
ที่สำคัญที่สุดคือ หมอกควันดำบริเวณรอบตัวของศพเหล็กนั้น เมื่อถูกพลังการกัดกร่อนของน้ำฝนสีเหลือง ก็ทำให้ลดพลังลงไปอย่างมาก
การสูญเสียการป้องกันของหมอกควันดำจำนวนมากนั้น ทำให้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของศพเหล็กก็อ่อนแรงลงไปอย่างมากเช่นกัน
ผู้อาวุโสสองวิหารผนึกวิญญาณก็พลันตะโกนขึ้นว่า ทุกท่าน ในเวลานี้ ร่วมลงมือพร้อมกัน เพื่อสังหารมันให้สิ้นซากเลย!
เมื่อได้ยินเขาพูด ทุกคนก็ลงมือพร้อมกัน ทยอยแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของตนเองออกมา
หลินหยุนก็ได้พลิกฝ่ามือ นำดาบเฮ่าเทียนออกมา แต่หลินหยุนยังไม่ได้ลงมือโจมตี
เห็นการโจมตีที่ทรงพลังนับสิบกว่าครั้ง ถล่มเข้าใส่ที่ร่างของศพเหล็กทั้งหมด ศพเหล็กได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่วงตกลงไปในแม่น้ำสีเหลือง
พลังการกัดกร่อนที่รุนแรงได้ปรากฏออกมา
ศพเหล็กเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด จึงได้ส่งเสียงร้องคร่ำครวญออกมา
แต่หลังจากที่ส่งเสียงดังแล้วก็กระโดดขึ้นมาจากแม่น้ำ
ในขณะเดียวกัน คู่ดวงตาที่เหมือนกับรูโพรงก็ได้เล็งเป้าหมายไปยังทุกคนแล้ว
ร่างกายแวบหายไป มาอยู่บนอากาศ
พร้อมกับปล่อยพลังหมัดที่ทรงอานุภาพสะเทือนเลือนลั่น แฝงไปด้วยหมอกควันดำที่พลุ่งพล่าน น่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด
ทุกคนตื่นตระหนกตกใจกันอย่างมาก
ผู้อาวุโสรองสำนักสุริยันตะโกนรีบตะโกนขึ้น หลบหนีเร็ว!
ที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องพูดหรอก ทุกคนต่างก็แยกย้ายหลบหนีกันหมดแล้ว
แต่ว่า ยอดฝีมือยาทองระดับหนึ่งเมืองชิงเฟิงคนหนึ่ง ที่ไม่มีความเร็ว ได้ถูกศพเหล็กชกหมัดเข้าใส่จนร่างกายและยาทองแหลกละเอียด เสียชีวิตลงในพริบตา
พลังหมัดของศพเหล็ก ทำลายล้างชั้นฟ้าชั้นดิน ทำให้พื้นที่ในค่ายกลสั่นสะเทือนขึ้นมาอีกครั้ง
โดยในเวลานี้หมอกควันดำรอบตัวของศพเหล็กก็หนาแน่นมากขึ้น อาการบาดเจ็บในร่างกายก็ฟื้นฟูดีขึ้นเป็นลำดับ
หลินหยุนเคลื่อนไหวสายตา โดยที่ไม่ได้มองไปยังผู้อาวุโสรองสำนักสุริยัน และก็ไม่ได้มองไปที่ทูตวิญญาณที่สองของวิหารผนึกวิญญาณ แต่ได้มองไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างไม่ไกลออกไปนัก
สหาย ถ้าหากนายไม่ลงมือ วันนี้ก็คงไม่สามารถสังหารศพเหล็กนี้ได้!
ชายวัยกลางคนได้ยินดังนั้น ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นทันที แล้วก็มองไปทางหลินหยุนอย่างลึกซึ้ง
พร้อมกับพูดขึ้นว่า ดั่งที่คาดคิดไว้จริง ๆ ที่นี่มีเพียงนายเท่านั้นที่เป็นยอดฝีมืออย่างแท้จริง! ที่สามารถมองออกถึงสถานะพลังของฉันได้! แต่ว่า ถึงแม้ฉันจะลงมืออย่างสุดกำลัง ก็ไม่มีทางที่จะสังหารศพตนนี้ได้!
หลินหยุนพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า ฉันจะสร้างโอกาสเพื่อให้คุณลงมือ!
ได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้ ชายวัยกลางคนทำท่าทางที่ไม่ค่อยจะเชื่อ แต่ก็พูดขึ้นว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ ฉันจะลงมือสังหารศพนี้อย่างเต็มกำลัง!
หลินหยุนไม่พูดอะไรอีก แล้วก็ก้าวเดินออกมาทันที
สิบแปดท่าต้าเต๋าท่าห้ามสิ่งวายชนม์
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์พลังห้ามฟ้าดิน ได้ถูกหลินหยุนแสดงออกมา
ทันใดนั้น ราวกับว่าฟ้าดินทุกสิ่งทุกอย่างได้สงบหยุดนิ่งลงแล้ว
เห็นภาพเหตุการณ์นี้ ชายวัยกลางคนนั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที จนถึงขนาดตั้งหลักตั้งตัวไม่ทัน
แต่ในพริบตาเดียวก็ตั้งสติกลับคืนมาได้แล้ว
กล่องเก็บกระบี่หนึ่งกล่องได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็กลายร่างเป็นลำแสงกระบี่ที่แหลมคมจำนวนนับหมื่น และเต็มไปด้วยพลังอานุภาพทำลายล้างอันรุนแรง พุ่งโจมตีเข้าใส่ศพเหล็กที่ถูกกักขังตัวเอาไว้
วินาทีต่อมา พลังอันแข็งแกร่งของศพเหล็กก็ได้ทำลายพลังห้ามของหลินหยุนแหลกสลายไปหมด
เพราะว่านี่คือศพเหล็กที่มีพลังเทียบเท่าได้กับยาทองระดับหก ซึ่งแข็งแกร่งดุดันเป็นอย่างมาก!
เห็นลำแสงกระบี่จำนวนนับหมื่นพุ่งจู่โจมเข้ามา แม้ว่าศพเหล็กได้ทำลายพลังที่มองไม่เห็นที่กักขังเขาเอาไว้ลงได้ แต่ก็ไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงใช้ร่างกายที่แข็งแกร่งต้านทานเอาไว้
ลำแสงกระบี่ซัดโหมกระหน่ำ ฟ้าดินเปลี่ยนสี ทันใดนั้นแท่นค่ายกลก็พังทลายลงทันที
ผางเห้อกระอักเลือดแล้วก็กระเด็นลอยไปไกล
ทุกคนต่างเบิกตาโพลง มองไปที่ชายวัยกลางคน
ร่างกายอันแข็งแกร่งทนทานของศพเหล็ก ที่แม้จะกล่าวได้ว่าเป็นของวิเศษป้องกันตัวที่แกร่งกล้าที่สุด แต่เวลานี้ก็ได้ถูกฟันแยกออกจากกัน เสียงโอ้วดังขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ชกหมัดที่สะเทือนเลือนลั่น พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มวัยกลางคนนั้น
ในเวลานี้เอง หลินหยุนสีหน้าขาวซีด เงาร่างกระพริบ หายวับไปกับที่
ขณะเดียวกัน เงาร่างขนาดใหญ่ของเซียนตนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ในมือของเงาร่างนั้นถือกระบี่ยักษ์ที่ทรงพลัง
ดาบทะลุสวรรค์ได้ปรากฏกายขึ้น
เต็มไปด้วยพลังอานุภาพทลายฟ้าดิน แล้วก็ฟาดฟันไปยังศพเหล็กนั้นอย่างโหดเหี้ยมในทันที
ลำแสงกระบี่จำนวนนับหมื่นของชายวัยกลางคน บวกกับอานุภาพดาบทะลุสวรรค์ของหลินหยุน โจมตีเข้าใส่ร่างของศพเหล็กอย่างไม่หยุด ทำให้ร่างกายอันแข็งแกร่งทนทานนั้น แหลกละเอียดในทันที
จากนั้นหินผลึกสีดำก้อนหนึ่งก็ร่วงตกลงมาจากท้องฟ้า
เมื่อเห็นหินผลึกก้อนนี้ ดวงตาของทุกคนก็เป็นประกายแวววาว เงาร่างทั้งหมดก็กระพริบหายวับไปอย่างรวดเร็ว เพื่อเร่งรีบไปเข้าร่วมแย่งชิงของสิ่งนั้น