จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1211 ความต้องการของหลินหยุน
มีสถานที่แห่งหนึ่งที่สวยงามมากๆ ราวกับมันเป็นสวรรค์เลย และปรากฏต่อหน้าพวกเขาสองคน
เมื่อมองเห็นสถานที่อันสวยงามแบบนี้ ซิงเฟยหายใจเร็วด้วยความตกใจ เธอเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ เธอไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่ามันเป็นเรื่องจริง
มันสวยงามมากๆ!
นอกจากคำว่าสวยแล้ว เธอก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายความงามของสถานที่แห่งนี้
มองเห็นก้อนเมฆล้อมรอบยอดเขา ทำให้ยอดเขาทุกลูกมีความพิเศษที่แตกต่างกัน
ยังมีนกกระเรียนจำนวนมากบินอย่างอิสระบนยอดเขาด้วย
สถานที่ดั่งแดนสวรรค์แบบนี้ ทำให้ซิงเฟยมองจนตาค้าง
ซิงเฟยกลืนน้ำลายตัวเองอย่างแรง เธอใช้มือดึงชายเสื้อของหลินหยุนและรีบถามด้วยน้ำเสียงเบาๆ ตรงนี้เป็นสำนักอะไรกันแน่? นายบอกฉันหน่อยสิ!
ซิงเฟยประหม่าทันที
สถานที่ดั่งแดนสวรรค์และโดนค่ายกลปิดบังเอาไว้ มันไม่ใช่สำนักทั่วไปอย่างแน่นอน และพลังทิพย์ก็มีเยอะมากๆด้วย
เธอยังสงสัยเลยว่าเก้าสำนักใหญ่จะสามารถทำได้แบบนี้หรือเปล่า
เธอยังครุ่นคิดอีกด้วย หรือว่ามันคือสำนักที่ปลีกตัวจากสังคมจริงๆเหรอ?
หลินหยุนออกมาจากที่นี่เหรอ?
บางทีอาจจะใช่มั้ง
บางทีคงมีแค่สถานที่แบบนี้ ถึงจะสามารถสร้างสุดยอดอัจฉริยะอย่างหลินหยุนได้
ในเวลานี้ หลินหยุนเอ่ยปากพูดเบาๆ ตรงนี้คือสำนักหยุนเยว่!
อะไรนะ? เมื่อได้ยินคำว่าสำนักหยุนเยว่ ทำให้ซิงเฟยเบิกตากว้างอีกครั้ง
สำนักหยุนเยว่?
ซิงเฟยเข้าใจได้ทันที ใช่แล้ว! หลินหยุนกับสำนักหยุนเยว่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา
การที่เขามาถึงตระกูลฉิน มาร่วมพิธีไหว้บรรพบุรุษของตระกูลฉิน ก็เพื่อมาเอา/ตำราบันทึกลับของสำนักหยุนเยว่ที่เจ้าคนโตซิงเอาออกมาด้วย ตอนที่เธอออกจากสำนักหยุนเยว่
ตอนนี้ปัญหาต่างๆของตระกูลฉินก็จัดการเรียบร้อยแล้วว ตอนนี้หลินหยุนกลับมาที่สำนักหยุนเยว่ มันก็เป็นเรื่องปกติ
หลินหยุนพูดเบาๆ ไปกันเถอะ!
ขณะพูด เขาก็พาซิงเฟยเดินไปยังยอดเขาที่สูงที่สุด
แต่ทั้งสองคนเดินได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็มีแสงสีฟ้าบินมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
ฟิ๊วๆๆๆ
มีผู้หญิงวัยรุ่นสี่คนยืนอยู่ด้านหน้าของพวกเขาสองคน และปิดล้อมพวกเขาเอาไว้ทันที
พวกคุณเป็นใคร ทำไมถึงกล้าบุกรุกสำนักหยุนเยว่?
สีหน้าของผู้หญิงวัยรุ่นสี่คนเคร่งขรึมทันที พวกเขามองหลินหยุนกับซิงเฟยด้วยความประหม่า
เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย ซิงเฟยอึ้งไปเลย เขารีบมองไปที่หลินหยุนทันที
มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่? ทำไมคนของสำนักหยุนเยว่ถึงไม่รู้จักหลินหยุน?
แต่ในเวลานี้ ก็มีคนๆหนึ่งรีบบินมาทันที
เมื่อผู้หญิงคนนี้ปรากฏ ผู้หญิงวัยรุ่นสี่คนรีบทำความเคารพทันที
คารวะอาจารย์อาสิบเยว่!
พอแล้ว พวกเจ้าถอยไปเถอะ!
สิบเยว่พูดเบาๆ สั่งให้ผู้หญิงวัยรุ่นเหล่านั้นกลับไปทันที
จากนั้นเธอก็คุกเข่าข้างเดียวให้หลินหยุน สิบเยว่คารวะเจ้าพระคุณ!
การกระทำของเธอทำให้ซิงเฟยตกใจมากๆ ในชั่วพริบตา สมองของซิงเฟยก็มีแต่ความว่างเปล่าทันที
จากนั้นเธอก็เห็นหลินหยุนพูดด้วยสีหน้าปกติ ลุกขึ้นเถอะ ฉันเคยพูดแล้ว ฉันไม่ใช่เจ้าพระคุณของพวกคุณ! พวกคุณไม่ต้องคุกเข่าให้ฉันแบบนี้ก็ได้
เมื่อสิบเยว่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอรีบส่ายหัวและพูด คำสั่งสอนของสำนักที่สืบทอดกันมา สิบเยว่ไม่กล้าทำผิดกฎอยู่แล้ว!
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไรอีก เขาพูดเบาๆ ไปกันเถอะ ฉันจะพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลฉิน
เมื่อสิบเยว่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอพยักหน้าเบาๆ แต่สายตาของเธอมองไปที่ซิงเฟย
จากนั้นเธอก็ถามหลินหยุนทันที เจ้าพระคุณ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงคนนี้คือ……
หลินหยุนเป็นเจ้าพระคุณของพวกเขา พวกเธอสามารถให้หลินหยุนเข้าออกสำนักสำนักหยุนเยว่ได้อย่างอิสระ
แต่คนที่หลินหยุนพามาด้วย มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเธอจะต้องรู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครมาจากไหนกันแน่
หลินหยุนพูด เธอชื่อซิงเฟย เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซิงจากเมืองเทียนเฟิง!
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน จู่ๆดวงตาของสิบเยว่ก็เบิกตากว้างทันที
เธอจ้องเขม็งไปที่ซิงเฟย ทำให้ซิงเฟยขนลุกทันที
ผ่านไปสักพัก สิบเยว่ถอนหายใจยาวๆออกมาและพูดทันที เป็นอย่างนี้นี่เอง แต่เธอไม่เหมือนกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
เมื่อพูดจบ เธอก็มองไปที่หลินหยุนและพูดด้วยความเคารพ เจ้าพระคุณ ฉันจะพาท่านขึ้นยอดเขาเอง!
ยอดเขาที่หนึ่งของสำนักหยุนเยว่
สิบเยว่พาหลินหยุนกับซิงเฟยมาถึงยอดเขา
ผ่านไปไม่นาน มีแสงสีฟ้าต่างๆบินขึ้นมาจากยอดเขาอื่นๆ และบินมาที่ยอดเขาที่หนึ่งทันที
เมื่อแสงสีฟ้าหายไป ก็มีผู้หญิงเจ็ดแปดคนปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา
เมื่อบวกกับสองเยว่กับสิบเยว่ ในสิบสองนางเยว่ได้มาถึงเก้าคนแล้ว
สองเยว่ใส่ชุดสีม่วง เธอดูสง่างามมากๆ
เธอพูดกับหลินหยุนด้วยความเคารพ เจ้าพระคุณ ครั้งที่แล้วท่านมาถึงสำนัก สี่เยว่กับเก้าเยว่ไม่ได้อยู่ พวกเธอยังไม่เคยเห็นหน้าเจ้าพระคุณเลย!
เมื่อพูดจบ เธอก็มองไปที่ผู้หญิงสองคนและพูด สี่เยว่ เก้าเยว่ รีบมาคารวะเจ้าพระคุณเร็วๆ!
ผู้หญิงสองคนนั้นรีบเดินขึ้นมาทันที พวกเธอโค้งคำนับให้หลินหยุนและพูด คารวะเจ้าพระคุณ!
หลินหยุนพยักหน้าเบาๆและพูด ในเมื่อพวกคุณส่วนใหญ่ก็มาถึงแล้ว งั้นฉันจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตระกูลฉินครั้งนี้ ให้พวกคุณฟัง……
ในเวลานี้ หลินหยุนค่อยๆเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในตระกูลฉินให้พวกเธอฟังทันที
แต่เขาไม่ได้เล่าละเอียดมากนัก เขาพูดแค่คราวๆเท่านั้น
ในท้ายที่สุด หลินหยุนก็พูด อันที่จริง ความลับที่สืบทอดกันปากต่อปากของสำนักก็ไม่ใช่ความลับที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย อันที่จริงมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักหยุนเยว่น้อยมากๆ
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเกิดความสงสัย รวมถึงสองเยว่ด้วย พวกเธอไม่เชื่อคำพูดเหล่านี้
หลินหยุนไม่ได้รู้สึกโกรธ เขาพูดเบาๆ ฉันไม่จำเป็นต้องหลอกลวงพวกคุณ พวกคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ อย่างไรก็ตาม การที่ฉันกลับมาสำนักหยุนเยว่ในครั้งนี้ ฉันยังมีอีกเรื่องที่ต้องไปจัดการ!
สองเยว่รีบถามทันที เจ้าพระคุณต้องการอะไรก็พูดมาได้เลย!
หลินหยุนพูด ฉันจะเข้าไปที่หอว่างหยุน
อะไรนะ?
คือ……
เมื่อหลินหยุนพูดจบ
จู่ๆทุกคนก็อุทานออกมาทันที
หอว่างหยุนคือสถานที่ต้องห้ามของสำนักหยุนเยว่
สำนักหยุนเยว่มีสถานที่ต้องห้ามสองแห่ง
สถานที่แห่งแรกคือหลุมฝังศพของสำนัก สถานที่แห่งนั้นมีห้องเก็บสมบัติล้ำค่าของสำนักหยุนเยว่
มีเพียงลูกศิษย์อัจฉริยะที่ได้รับอนุญาต ถึงจะมีโอกาสได้เข้าไปยังสถานที่แห่งนั้น
และสถานที่แห่งที่สองก็คือหอว่างหยุน
ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนหรือเป็นใครก็ตาม ก็ห้ามเข้าไปยังสถานที่แห่งนั้น
จากคำสั่งสอนโบราณของสำนัก มีอยู่หนึ่งประโยคคือ สำนักโดนฆ่าล้างได้ แต่หอหยุนต้องดำรงอยู่ตลอดไป
มันหมายความว่ายังไงเหรอ?
มันก็หมายความว่า ถึงแม้ต้องสูญเสียสำนักไป แต่ก็ต้องรักษาหอว่างหยุนไว้ให้ได้
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหอว่างหยุนมีความสำคัญมากแค่ไหน
ถ้าจะพูดกันตรงๆ ตั้งแต่สำนักหยุนเยว่ก่อตั้งจนสืบทอดมาถึงทุกวันนี้ จะไม่เคยมีใครเข้าไปเลยเหรอ?
แต่ก็มีคนเคยเข้าไปเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม หอว่างหยุนคือสถานที่ที่จู่ซือผู้ก่อตั้งสำนักสร้างขึ้น
ด้านนอกของหอว่างหยุน มีค่ายกลที่แข็งแกร่งมากๆและไม่เหมือนค่ายกลที่คอยปกป้องสำนักหยุนเยว่ และไม่เคยมีใครสามารถทำลายค่ายกลและเข้าไปได้
พวกเธอหายใจลึกๆ จากนั้นสองเยว่เอ่ยปาก เธอมองไปที่หลินหยุนและพูดอย่างเคารพ เจ้าพระคุณ ท่านแน่ใจเหรอว่าจะเข้าไปที่หอว่างหยุน?
หลินหยุนพยักหน้าและพูด ใช่!
สองเยว่พูด เจ้าพระคุณ เรื่องนี้ฉันตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ฉันต้องฟังความคิดเห็นของพวกเธอด้วยในเวลานี้ สายตาของเธอก็มองไปที่สิบเยว่และคนอื่นๆ
คำพูดของเจ้าพระคุณ พวกเธอก็ได้ยินแล้ว พวกเธอแสดงความคิดเห็นออกมาได้เลย
เมื่อสองเยว่พูดจบ สี่เยว่ที่พึ่งเคยเห็นหน้าหลินหยุนเมื่อสักครู่ เธอขมวดคิ้วและพูด ฉันไม่เห็นด้วย!