CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 123 ปรมาจารย์กู่ผู้สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ชมทั้งสนาม

  1. Home
  2. จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
  3. บทที่ 123 ปรมาจารย์กู่ผู้สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ชมทั้งสนาม
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
Next

บทที่ 123 ปรมาจารย์กู่ผู้สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ชมทั้งสนาม

เจิ้งเทียนหว้าชนะไปเลยสองตาติด จิตใจจึงเต็มไปด้วยความกระชุ่มกระชวยสุดขีด ทำท่าทางราวกับว่าใต้หล้านี้ไม่มีใครชนะตัวเองได้อีกแล้ว

“ยังมีใครอีกมั้ย?” เจิ้งเทียนหว้าตะโกนถาม

สีหน้าของเจี่ยงสงเขียวคล้ำแทบดูไม่ได้ แต่เพราะหลินหยุนยังไม่กลับมา เขาจึงทำได้เพียงปล่อยให้เจิ้งเทียนหว้าหยิ่งผยองไปก่อน

“เสี่ยวยู่ รีบไปโทรหาคุณหลินเดี๋ยวนี้เลย ถ้าคุณหลินกลับมาเมื่อไหร่ ให้แจ้งฉันทันที!”

“ได้ค่ะ!” เสี่ยวยู่หันหลังแล้ววิ่งออกไปทันที

ลุงฉินที่อยู่ถัดจากหานกั๋วเฉียงเริ่มจะทนดูต่อไม่ไหว คิดจะออกไปสู้สักฉาก แต่ก็ถูกหานกั๋วเฉียงหยุดเอาไว้

“ไม่ต้องรีบร้อนไป รอก่อน ฉันเอาแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเจียงจงโหยว เมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นคนสุขุมนิ่งเงียบอะไรขนาดนี้”

ลุงฉินเหลือบมองเจียงจงโหยวด้วยแววตาแฝงความดูถูก “คุณหาน ที่อัฒจันทร์ของเขาไม่มีนักบู๊พรสวรรค์แม้แต่คนเดียว ผมว่าครั้งนี้เขาไม่น่าจะมีความหวังอะไรแล้วล่ะ!”

หานกั๋วเฉียงพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำว่า “ เป็นเพราะสาเหตุนี้แหล่ะ ดังนั้นฉันถึงได้คิดว่าเขาแปลกไป ไม่อย่างนั้นแล้วด้วยนิสัยของเขา เมื่อมาเข้าร่วมการประลองยุทธที่สำคัญขนาดนี้ ทำไมถึงไม่พานักบู๊พรสวรรค์ หรือกระทั่งยอดฝีมือติดตัวมาด้วยเลยแม้แต่คนเดียวล่ะ?”

ลุงฉินถูกหานกั๋วเฉียงยับยั้งไว้ จึงอดใจไม่เคลื่อนไหวใดๆ

ลุงฉินพอจะอดใจไว้ได้ แต่เจียงจงโหยวกลับเป็นฝ่ายอดใจไว้ไม่ได้แทน เขาหัวเราะเย้ยหยันเย็นชา “ท่านเจิ้งชนะติดกันสองตาแบบนี้ ออกจะลอยลำไปหน่อยมั้ย?”

เจิ้งเทียนหว้าหันไปมองเจียงจงโหยว เรื่องที่เจียงจงโหยวใช้ไข่มุกควบคุมศพ หลอกพวกเจี่ยงสงเมื่อครั้งก่อน เขาเองก็ได้ยินมาแล้วเหมือนกัน

แม้ว่าเขาจะมีความขัดแย้งกับเจี่ยงสงก็จริง แต่เขาก็เกลียดพฤติกรรมบัดซบของเจียงจงโหยวชนิดเข้ากระดูกดำด้วยเช่นกัน

“นี่ท่านเจียง ต่อให้ทางนี้จะชนะลอยลำแค่ไหน ก็คงไม่ใช้ของใช้คนตายมาทำร้ายคนอื่นหรอกมั๊ง!”

ปัง!

เจียงจงโหยวตบเก้าอี้ผาง แล้วลุกขึ้นยืนทันที ชี้ไปที่เจิ้งเทียนหว้าพลางแผดเสียงตะโกนลั่นว่า “ไอ้คนแซ่เจิ้ง นี่แกหมายความว่ายังไง?”

เมื่อเห็นเจียงจงโหยวระเบิดโทสะรุนแรง เจิ้งเทียนหว้าก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ทำไมเหรอ? เกิดไปสะกิดจุดเจ็บของท่านเจียงเข้ารึไง? หรือว่าอายจนกลายเป็นโกรธซะแล้วล่ะ? ถ้ามีปํญญาก็ขึ้นสังเวียนประลองไปสู้ดูสักตั้งเป็นไง!”

เมื่อพูดถึงขึ้นสังเวียน จู่ ๆ เจียงจงโหยวก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ดูแปลกประหลาดอย่างมาก

“เจิ้งเทียนหว้า ดูเหมือนว่าแกจะตัวลอยไปแล้วจริงๆสิท่า แกคิดเหรอว่าอาศัยแค่เขาคนเดียว ก็จะเอาชนะทุกคนที่นี่ได้หมดแล้วน่ะ?”

“ฉันจะสอนให้แกรู้เอง ว่ายอดฝีมือที่แท้จริงเป็นยังไง!”

หลังจากที่เจียงจงโหยวพูดจบ จู่ ๆเขาก็ประสานมือกำเป็นหมัดขึ้นฟ้า แล้วตะโกนว่า “ขอเชิญท่านปรมาจารย์กู่!”

หือ?

ทุกคนต่างสงสัยว่าเจียงจงโหยวกำลังทำอะไรกันแน่?

ในวินาทีต่อมา ทุกคนต่างพากันเบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้ ดวงตาของพวกเขาแทบจะหลุดออกจากเบ้าด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด

ชายชราในชุดสีเทา ที่เท้าเหยียบก้อนเมฆสีขาวพิสุทธิ์ เหินบินเข้ามาจากไหนก็ไม่อาจทราบได้

ไม่ผิด เป็นการบินมาจริงๆ!

ทันใดนั้น ความเงียบงันก็เข้าปกคลุมสนามประลองทั้งสนาม เงียบจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่า ถ้ามีเข็มหล่นลงพื้นสักเล่ม ก็คงได้ยินกันหมดเป็นแน่!

รอจนปรมาจารย์กู่ร่อนลงสู่สังเวียนต่อสู้ ปฏิกริยาสนองตอบทั้งหมดของผู้ชม จึงค่อยฟื้นคืนมาได้ ผู้ชมทั้งสนามพากันส่งเสียงหวีดร้องเซ็งแซ่

ผู้ชมนับไม่ถ้วนต่างลุกขึ้นยืน แผดเสียงตะโกนร้องด้วยความตกใจ “สวรรค์! นี่ฉันเพิ่งได้เห็นอะไรไปเนี่ย มีคนกำลังบินอยู่บนท้องฟ้า!”

“นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยเนี่ย! นั่นคือเทพเจ้าใช่มั้ย?”

ถึงขั้นมีคนโทรศัพท์หาคนที่บ้าน “ฮัลโล เมียจ๋า ฉันได้เห็นคนบินอยู่บนฟ้าจริงๆแล้วนะ เดี๋ยว! อย่าเพิ่งวางสายเซ่ ที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงนะ … ”

เจี่ยงสงตกตะลึงอึ้งค้างไปแล้ว เขาคิดว่าเขาได้อยู่ทำงานรับใช้ควีนจินมานาน ได้เห็นหลินหยุนตอกกลีบดอกไม้เข้าใส่ลำต้นของต้นไม้ใหญ่ได้ มันก็เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากแล้ว

แต่มาตอนนี้ เจี่ยงสงได้รู้แล้วว่า อะไรที่เขาเรียกกันว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน!

เจี่ยงสงถึงกับมีข้อกังขาขึ้นมาแล้วว่า ต่อให้หลินหยุนกลับมา แล้วเขาจะเอาชนะคนระดับเทพเซียนตรงหน้านี้ได้หรือเปล่าเถอะ?

หานกั๋วเฉียงจ้องไปที่ปรมาจารย์กู่เป็นนานสองนาน อดพึมพำกับตัวเองไม่ได้ว่า “ฉันเดาว่าเจียงจงโหยวมันมีอะไรแปลก ๆ ก็จริง แต่คิดไม่ถึงเลยว่า มันจะเก็บซ่อนคนที่มีพลังยิ่งใหญ่ขนาดนี้เอาไว้!”

“ ลุงฉิน คุณรู้สึกยังไงกับความแข็งแกร่งของคนคนนี้บ้าง?”

ลุงฉินจ้องมองที่ปรมาจารย์กู่ แล้วส่ายหน้า “คุณหาน ผมมองไม่ออกจริงๆ!”

“กระทั่งคุณก็ยังมองไม่ออก นี่มันพิสูจน์ได้ชัดแล้วว่าเขาแข็งแกร่งมากจริงๆ! ” หานกั๋วเฉียงถอนหายใจ

รอยยิ้มบนใบหน้าเจิ้งเทียนหว้าเลือนหายไปทันที ใช้สายตาไม่อยากเชื่อมองไปที่ปรมาจารย์กู่ที่อยู่บนสังเวียน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในโลกใบนี้ จะมีคนที่บินอยู่บนท้องฟ้าได้จริง ๆ

“นี่คนหรือเซียนกันแน่? คนจะไปบินอยู่บนท้องฟ้าได้ยังไงกัน?”

เจียงจงโหยวพอใจมากกับปฏิกิริยาของทุกคน มองไปที่เจิ้งเทียนหว้าด้วยความลำพองใจ พลางหัวเราะเยาะเย้ย “ท่านเจิ้ง เรามาเริ่มกันเลยดีไหม?”

เจิ้งเทียนหว้ามองไปที่คุณหลี ถามขึ้นว่า “คุณหลี คุณยังสู้อีกสักรอบได้หรือเปล่า?”

คุณหลีหรี่ตามองปรมาจารย์กู่ ในใจบังเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาวูบหนึ่ง เขาเชื่อว่ามีคนที่บินได้อยู่จริง เพียงแต่จะมีแค่ผู้บรรลุขั้นสูงสุดเท่านั้นที่ทำได้

และคนตรงหน้าเขาไม่ใช่เซียนอย่างแน่นอน การที่เขาสามารถเหยียบก้อนเมฆได้ เป็นไปได้ว่า อาจจะใช้กลพรางตาบางอย่างมากกว่า

แต่คุณหลีก็มองไม่ออกอยู่ดี ว่าปรมาจารย์กู่ทำแบบนั้นได้อย่างไร

ถ้าเขาสามารถเปิดเผยกลปาหี่ของปรมาจารย์กู่ได้ เขาก็จะมีทางเอาชนะปรมาจารย์กู่ได้แน่นอน

ขอแค่ทำให้ปรมาจารย์กู่พ่ายแพ้ได้ การเหยียบเมฆเหาะเหินเดินอากาศของเขา ก็จะกลายเป็นแค่เรื่องตลกให้คนพากันหัวเราะเยาะไปทันที

“ได้!” คุณหลีตอบรับเสียงหนึ่ง แล้วกระโดดลงไปในสังเวียนประลอง

“เชิญ!” คุณหลีประสานหมัดแสดงมารยาท

ปรมาจารย์กู่เหลือบมองคุณหลี เงยหน้าขึ้น แล้วพูดอย่างหยิ่งผยองว่า “แกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ไสหัวไปซะ จะได้ไม่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งเสียเปล่าๆ!”

ประโยคนี้ ไปกระตุ้นความเย่อหยิ่งของคุณหลีให้ปะทุขึ้นมาแล้ว

“อวดดีนัก! ต่อให้แกบรรลุเป็นขั้นสูงสุดจริง ฉันก็จะขอสู้กับแกสักตั้ง! นอกจากนี้แกมันก็ไม่ใช่เซียนตัวจริง กลปาหี่ของแกมันตบตาฉันไม่ได้หรอก!”

ปรมาจารย์กู่พูดอย่างเย็นชา ” แกพูดถูกแล้ว ชั้นไม่ใช่ผู้บรรลุขั้นสูงสุด แต่จะรับมือแก ใช้แค่สามกระบวนท่าก็เหลือเฟือ!”

“น่าขำ! อย่าพูดว่าแค่สามกระบวนท่าเลย ถ้าแกสามารถเอาชนะฉันได้ในสามสิบกระบวนท่า ชั้นจะยอมรับเลยว่าแกเจ๋งจริง!” คุณหลีหัวเราะเย้ยหยันเย็นชา

ใบหน้าของปรมาจารย์กู่ดำคล้ำมืดทะมึน พูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าอย่างนั้น แกก็แหกตาดูให้ดีแล้วกัน กระบวนท่าที่หนึ่ง!”

ปรมาจารย์กู่ไม่ได้ใช้การกระบวนท่าซับซ้อนใด ๆ แค่เหวี่ยงหมัดออกไปตรง ๆ แค่นั้น

แต่ความเร็วของหมัดนั้นรวดเร็วอย่างมาก พวกคนธรรมดาต่างเห็นเป็นเพียงเงาดำๆสายหนึ่งวาบผ่าน จากนั้นคุณหลีก็ถูกต่อยจนกระเด็นออกไปทันที

“กระบวนท่าที่สอง!”

ปรมาจารย์กู่ไม่มีการเว้นจังหวะโจมตีแม้แต่น้อย เหวี่ยงหมัดที่สองตามไปติดๆ

คุณหลีไม่ทันตอบสนองต่อการโจมตีแบบกระชั้นชิด ในใจคิดอย่างอกสั่นขวัญแขวนว่า “รวดเร็วอะไรอย่างนี้ ต้านรับไม่ทันแน่แล้ว!”

เปรี้ยง!

คุณหลีทำได้เพียงเบิกตาโพลง จ้องมองหมัดของปรมาจารย์กู่ที่เหวี่ยงเข้าใส่อย่างทำอะไรไม่ได้ ความรุนแรงของหมัดนั้น อัดกระแทกจนไม่รู้ว่า กระดูกในร่างแตกหักไปกี่ท่อนต่อกี่ท่อนแล้ว

“กระบวนท่าที่สาม”

ท่าทางตอนที่พูดของปรมาจารย์กู่ ช่างดูไร้อารมณ์ความรู้สึกอย่างยิ่ง เตรียมจะเหวี่ยงหมัดที่สามออกไปอีกครั้ง

คุณหลีรีบร้องบอกทั้งที่กระอักเลือดจนกบปากว่า “เดี๋ยวก่อน ฉันขอยอมแพ้!”

“สายไปแล้ว!” ปรมาจารย์กู่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดใด ๆ ทั้งสิ้น เหวี่ยงอีกหนึ่งหมัดสุดท้ายออกไปทันที

คุณหลีนอนนิ่งอยู่บนพื้นในสภาพไม่กระดุกกระดิกสักนิด ที่บริเวณช่วงอก ปรากฏรอยยุบเป็นหลุมเข้าไปจนลึก คนน่าจะไม่รอดแล้วแน่นอน

ปรมาจารย์กู่ยืนจังก้าอยู่บนสังเวียน ไพล่มือทั้งสองข้างไปไว้ด้านหลัง กวาดตามองไปยังกลุ่มผู้ชม แล้วพูดด้วยท่าทีเย็นชาว่า “ยังมีใครอยากเอามาชีวิตมาทิ้งอีกมั้ย?”

ทั้งสนามเงียบกริบ!

ไม่มีใครส่งเสียงแม้แต่คนเดียว มีเพียงเสียงลมหายใจ ที่พยายามกลั้นให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้

สามหมัด แค่สามหมัด ก็ต่อยคุณหลีจนตายอย่างอเนจอนาถได้แล้ว น่าเสียดายที่คุณหลี ยอดฝีมือผู้ฝึกบู๊จนใกล้เคียงระดับพรสวรรค์โดยกำเนิด เมื่อมาอยู่ต่อหน้าปรมาจารย์กู่ กลับไร้พลังที่จะต่อต้านได้แม้เพียงเศษเสี้ยว!

ช่างน่าตกตะลึงเหลือเกิน นี่มันน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว!

ปรมาจารย์กู่คนนี้คือใครกันแน่ ? พลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้มันคืออะไรกัน?

เจียงจงโหยว เคยลองคาดเดาความแข็งแกร่งของปรมาจารย์กู่มาก่อนว่า เขาจะต้องแข็งแกร่งมาก แต่คาดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อขนาดนี้!

“ปรมาจารย์กู่พลังยุทธเหนือมนุษย์คนไหนในใต้หล้า กระผมขอยกย่อง!” เจียงจงโหยวยืนขึ้น แล้วโค้งคำนับให้ปรมาจารย์กู่ที่อยู่บนเวที นัยน์ตาเต็มไปด้วยความกริ่งเกรง

ปรมาจารย์กู่หัวเราะเสียงดังก้อง เสียงนั้นสะท้านก้องไปทั่วสนามประลอง สั่นสะเทือนไปถึงแก้วหูของทุกคนจนอื้อไปหมด

“มีใครที่ยังไม่ยอมแพ้ก็ยืนขึ้นมา!” ปรมาจารย์กู่พูดอย่างเย็นชา

ไม่มีคนตอบรับ

ไม่มีใครอยากออกไปตายเปล่าอยู่แล้ว

“ในเมื่อไม่มี ถ้างั้นนับจากนี้ไป ทุกคนต้องเชื่อฟังคำสั่งฉันแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ทำได้ใช่ไหม?” เสียงของปรมาจารย์กู่เต็มไปด้วยแววคุกคาม

ทุกคนตกตะลึงกันไปหมด คำพูดแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 123 ปรมาจารย์กู่ผู้สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ชมทั้งสนาม"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์