จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1235 สถานะที่ไม่เคยพ่ายแพ้
หลินหยุนพูดขึ้นว่า ฉันเคยพูดเอาไว้แล้วว่า นายดีใจเร็วเกินไปหน่อย!
จางเซียวยู่พยักหน้าอย่างจริงจัง และพูดว่า เป็นเช่นนั้นจริง ฉันเชื่อมั่นในตัวเองเกินไปหน่อย!
นึกไม่ถึงว่าจางเซียวยู่จะน้อมตัวลง เหมือนจะกำลังแสดงความขอโทษต่อหลินหยุน
หลินหยุนพูดขึ้นว่า ยังคิดจะต่อสู้กันต่ออีกไหม?
จางเซียวยู่ครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า ได้รับมอบหมายหน้าที่จากคนอื่น จึงจะต้องทำการอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ฉันยังคิดที่จะลองต่อสู้ต่อไป!
หลินหยุนพยักหน้า เงาร่างก็หายวับไปอีกครั้ง
ดาบสกัดนภาได้ปรากฏขึ้นอีก
ทันใดนั้น ม่านตาของจางเซียวยู่ก็พลันหดตัวลง
จี้เหรียญหยกในมือพลันระเบิดขึ้นเป็นแสงสีขาวอย่างไม่สิ้นสุด เหมือนกับเกล็ดหิมะร่วงโรยโปรยปราย
ไม่มีลักษณะของพลังอะไร สงบเงียบไร้เสียง
แต่มันทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ
เกล็ดหิมะ ร่วงโรยโปรยปราย
หลินหยุนเกิดความรู้สึกถึงการถูกควบคุมจำกัดขอบเขตบริเวณอีกครั้ง
แต่มันช่างอ่อนแอนัก ไม่นับประสาอะไรเลย
แต่สำหรับคนที่อยู่เบื้องหน้านี้แล้ว ก็ถือว่าหาได้ยากมาก ๆ
สามารถใช้ของวิเศษเพื่อสร้างพลังขอบเขตได้ แสดงว่าคนผู้นี้ มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องของการบำเพ็ญฝึกฝน
คนเช่นนี้ ถ้าหากพัฒนาเติบโตขึ้นไปจะมีความน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
มีความสามารถในการเข้าใจรับรู้ในกฎเกณฑ์กฎระเบียบอย่างเยี่ยมยอด
แต่ตอนนี้ ยังคงไม่เพียงพอ
ดาบสกัดนภาได้ปรากฏขึ้น
ทันใดนั้นก็ทำลายพลังขอบเขตลง แล้วก็พุ่งฟาดฟันเข้าใส่ที่ร่างของจางเซียวยู่อีกครั้ง
ตูม—-
ร่างกายของจางเซียวยู่กระเด็นออกไป โดยลอยไปไกลนับเป็นพันเมตร จากนั้นก็ร้องโอดครวญขึ้น
พยายามควบคุมร่างกายของตนเองเอาไว้ แต่เป็นเวลานานแล้วก็ยังไม่สามารถที่จะลุกขึ้นยืนได้
บนท้องฟ้าอีกฝั่งหนึ่ง
เฉินหย่งสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม สูดลมหายใจลึก และพลันหันหน้ามองไปยังชายวัยกลางคนนั้นพร้อมกับพูดขึ้นว่า ท่านเจ้าเมือง! ศิษย์พี่เซียวยู่ได้รับบาดเจ็บแล้ว!
สายตาของชายวัยกลางคนก็แสดงอาการตกใจราวกับถูกคลื่นยักษ์โหมซัดสาด
คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่า จางเซียวยู่จะพ่ายแพ้ให้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างหมดจดเช่นนี้
แต่ว่า……ไอ้หนุ่มคนนี้ตกลงเป็นใครกันแน่?
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่แสดงออกมานั้น แข็งแกร่งทรงพลังมากเกินไปแล้ว!
เห็นว่าชายวัยกลางคนไม่พูดอะไร เฉินหย่งจึงพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า ท่านเจ้าเมือง ไปช่วยเหลือศิษย์พี่ด้วย!
ชายวัยกลางคนดวงตาเป็นประกาย ชะงักชั่วครู่และพูดขึ้นว่า ไม่รีบร้อน ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะสังหารเซียวยู่ ซึ่งคงจะไม่ลงมือสังหารเขาหรอก!
เฉินหย่งก็ยังไม่วางใจ แต่ว่า……
ชายวัยกลางคนพูดอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีคำว่าแต่!
หลินหยุนปรากฏตัวขึ้น บนท้องฟ้า
หันมองไปที่จางเซียวยู่และพูดขึ้นว่า เห็นว่านายนั้นไม่ได้มีเจตนาสังหารที่แท้จริง วันนี้ฉันเองก็จะปล่อยชีวิตนายไป โดยให้คนที่สั่งให้นายมานั้นมาด้วยตนเองเถอะ!
พูดจบ ร่างของหลินหยุนก็กระพริบหายวับลงมาสู่ด้านล่าง มาอยู่ที่ด้านหน้าประตูวิมานบริเวณเชิงเขา จากนั้นก็เดินเข้าไปภายในวิมาน
ทุกคนต่างก็มองตามทิศทางการเหาะเหิน ทุกสายตาจ้องมองไปยังบริเวณวิมานของเขาด้วยความตกตะลึง
จากนั้นก็มองไปที่จางเซียวยู่อย่างเหลือเชื่ออีกครั้ง
เห็นจางเซียวยู่ยิ้มหัวเราะอย่างน่าสลด และลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก แล้วก็โค้งตัวคำนับไปทางที่หลินหยุนจากไป จากนั้นเขาก็เหาะเหินจากไป
บริเวณเชิงเขา
เจียงเผิงกับติงหลิงและคนอื่น ๆ เวลานี้เหมือนจะลืมหายใจไปกันหมดแล้ว
คนเหล่านี้ต่างก็ยืนตะลึงตัวแข็งอยู่กับที่ โดยที่ไม่พูดไม่จาเป็นเวลานาน การตื่นตะลึงนั้นทำให้สมองว่างเปล่าไปทั้งหมด
ศิษย์พี่เซียวยู่ที่พวกเขามั่นอกมั่นใจอย่างมากนั้น กลับพ่ายแพ้ลงภายใต้น้ำมือของหลินหยุนแล้ว
นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน?
ถ้าหากหลินหยุนมีเจตนาสังหาร
อย่างนั้นในตอนนี้ศิษย์พี่เซียวยู่ก็คงจะ……
พวกเขาถึงขนาดที่ไม่กล้าจะจินตนาการต่อไปได้อีก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว เจียงเผิงก็สูดหายใจแรง กัดฟันเหล็กแน่น แล้วก็แวบหายตัวไป โดยที่ไม่ได้แม้แต่จะกล่าวลา
ติงหลิงและคนอื่น ๆ ก็เพิ่งจะตั้งสติกลับคืนมาได้ และได้มองสบตากับหลิ่วหยาง จากนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
พวกเขามาเพื่อชมละคร ซึ่งเป็นละครที่หลินหยุนถูกศิษย์พี่เซียวยู่สังหาร
แต่กลับคาดคิดไม่ถึงว่า ตอนจบจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ไปได้
ศิษย์พี่เซียวยู่ของพวกเขา เป็นถึงยอดฝีมือขั้นยาทองระดับสาม ที่ใกล้จะเข้าสู่ขั้นยาทองระดับสี่แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุน จะไม่สามารถตอบโต้อะไรกลับได้เลย
สำหรับหลินหยุนนั้น พวกเขายิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก
ทั้งหวาดกลัวและแปลกใจ
เพราะใครก็ไม่รู้ว่า หลินหยุนคนนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่
ภายในวิมาน
เห็นหลินหยุนกลับมาหลังจากที่เอาชนะจางเซียวยู่ได้แล้ว โดยที่ไม่ได้ลงมือสังหารจางเซียวยู่ ในที่สุดซิงเฟยเองก็เบาใจลงได้เป็นอย่างมาก
เธอกลัวจริง ๆ ว่าหลินหยุนจะลงมือสังหารจางเซียวยู่ ถ้าเป็นแบบนั้น เกรงว่าสำนักเทียนหยุน จะนำพาทุกคนเพื่อมาจัดการกับหลินหยุนอย่างแน่นอน
สำหรับเรื่องที่หลินหยุนจะพ่ายแพ้ให้กับจางเซียวยู่นั้น ต้องขอโทษด้วย ซิงเฟยไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อนเลย
ถึงขนาดที่ว่า ตอนที่หลินหยุนถูกผ้าแพรขาวป่วนฟ้าของจางเซียวยู่ผูกมัดห่อหุ้มร่างกายอย่างแน่นหนานั้น ในใจของเธอเองก็ยังไม่มีความกังวลแม้แต่น้อย
ผู้อาวุโสใหญ่แห่งสำนักสุริยันแข็งแกร่งพอไหมล่ะ?
ทูตวิญญาณที่หนึ่งแห่งวิหารผนึกวิญญาณแข็งแกร่งพอไหมล่ะ?
ผู้ฝึกอิสระฝูเหลยแข็งแกร่งพอไหมล่ะ?
ซ่านเต้าเจ้าสำนักรองแห่งสำนักสุริยัน แข็งแกร่งพอไหมล่ะ?
ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอย่างไร?
ทั้งหมดล้วนพ่ายแพ้ให้กับหลินหยุน!
ซ่านเต้าผู้ที่เป็นยอดฝีมือยาทองระดับห้านั้น ถึงขนาดถูกหลินหยุนสังหารเลย!
ลำพังแค่จางเซียวยู่แห่งสำนักเทียนหยุน จะสามารถทำอันตรายอะไรกับหลินหยุนได้ล่ะ?
ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร สำหรับเธอนั้นไม่เชื่ออย่างแน่นอน!
เธอไม่กังวลเลยว่าหลินหยุนจะพ่ายแพ้ แต่กลับกังวลว่าหลินหยุนจะสังหารจางเซียวยู่เสียมากกว่า
ดังนั้นเวลานี้เธอเองก็วางใจลงได้แล้ว
เป็นอย่างไรบ้าง? คงจะไม่ได้รับอันตรายอะไรหรอกนะ?
หลินหยุนพยักหน้า และพูดขึ้นว่า ไม่ถึงขนาดนั้น แต่คนผู้นี้ถือว่าไม่เลวเลย! มีพรสวรรค์อยู่บ้าง!
หลินหยุนไม่ได้พูดโกหกอะไร
เขามองออกได้อย่างแท้จริงว่า พรสวรรค์ของจางเซียวยู่นั้นถือว่าไม่ธรรมดา
ต่อให้มาอยู่ในโลกบำเพ็ญเซียนที่แท้จริง ก็สามารถที่จะกลายเป็นลูกศิษย์อัจฉริยะของบางสำนักใหญ่ได้อย่างแน่นอน
เพียงแต่ในโลกคุนชางนี้ ยังคงมีข้อจำกัดอยู่อีกมาก
ซิงเฟยได้ยินดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบตาขาวใส่ จากนั้นก็รีบถามขึ้นว่า งั้นนายจะทำอย่างไรต่อไป? นายคิดว่า เจียงยี่ที่นายกำลังตามหานั้น จะมาด้วยตัวเองหรือไม่?
ฉันกังวลว่าหากคนที่มาไม่ใช่เจียงยี่ แต่เป็นผู้อาวุโสคนใดคนหนึ่งของสำนักเทียนหยุน
แบบนั้นสถานการณ์ก็จะไม่เป็นการดีแล้ว!
หลินหยุนครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า ไม่เป็นไร ถ้าหากเขาคนนั้นไม่ได้มาด้วยตัวเอง ฉันก็จะปฏิเสธไม่ออกไปพบเจอก็เท่านั้น!
เพราะว่าที่นี่คือโรงเตี๊ยมเยว่หลาย
โดยที่โรงเตี๊ยมเยว่หลายเป็นทรัพย์สินร่วมกันของหอไป่เต้ากับสำนักเทียนหยุน ซึ่งมีกฎระเบียบที่ชัดเจน
ถ้าหากภายในโรงเตี๊ยม ต่อให้เป็นคนของสำนักเทียนหยุน ก็ไม่สามารถที่จะฝ่าฝืนกฎระเบียบที่ตนเองตั้งขึ้นได้
ที่จริงแล้วภายในโรงเตี๊ยวเยว่หลาย เดิมทีก็มีผู้ฝึกอิสระที่ถูกไล่ฆ่าจำนวนไม่น้อย ซึ่งที่พวกเขาพักอาศัยอยู่ภายในโรงเตี๊ยม ก็เพื่อหลบหนีการไล่ฆ่าโดยเฉพาะ เมื่อออกไปก็จะถูกสังหาร
ดังนั้นต่อให้ต้องขายสมบัติล้ำค่านับไม่ถ้วน ก็จะต้องขอเข้าพักอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ให้ได้
ที่นี่คือสถานที่รักษาคุ้มครองชีวิต
ดังนั้น ในสถานการณ์ที่ยังไม่ได้สังหารลูกศิษย์ของสำนักเทียนหยุน
หลินหยุนกับซิงเฟยก็พักอยู่ในโรงเตี๊ยมเยว่หลายแห่งนี้ ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสแห่งสำนักเทียนหยุนจะมาด้วยตนเอง ก็คงจะไม่ลงมือในสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน
ซิงเฟยพยักหน้า สภาพจิตใจก็ดีขึ้นในทันที
อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเหอะเหอะและพูดว่า ถูกต้อง! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นตอนนี้พวกเราก็ถือว่าอยู่ในสถานะที่ไม่เคยพ่ายแพ้! รอจนกว่าเจียงยี่ผู้นั้นจะมาถึง!
ฉันกังวลว่าเมื่อไอ้คนนั้นเห็นจางเซียวยู่ถูกนายทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เขาเองก็กลับไม่กล้าที่จะมาแล้ว!