จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 124 ใครคือหลินชางฉอง
บทที่ 124 ใครคือหลินชางฉอง
สีหน้าของหานกั๋วเฉียงคล้ำทะมึนจมดิ่ง “ที่แท้สิ่งที่มันต้องการไม่ใช่ชัยชนะในการประลองยุทธครั้งนี้ แต่เป็นทั้งสี่เมืองทางใต้ต่างหาก!”
ทุกคนต่างก็ฟังเข้าใจความหมายที่ปรมาจารย์กู่พูด
บรรดาเจ้าใหญ่นายโตทั้งหลาย ต่างหวาดกลัวและโกรธเกรี้ยวอย่างมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
เห็นๆอยู่ว่าเมื่อครู่นี้ คุณหลีประกาศว่าขอยอมแพ้อย่างชัดเจนแล้ว แต่ปรมาจารย์กู่ก็ยังต่อยเขาตาย นั่นแสดงให้เห็นว่าคนคนนี้ โหดร้ายเลือดเย็นขนาดไหน
หากในเวลานี้ ใครก็ตามที่โดดออกไปต่อต้านเขาเป็นคนแรก มีสิทธิ์ถูกฆ่าตายได้100%
พวกขาใหญ่ทั้งหลายต่างก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่มีใครอยากโผล่หัวออกไป แล้วทำให้ตัวเองกลายเป็นจุดสนใจแน่ๆ
เมื่อเห็นว่าไม่มีเสียงคัดค้าน สายตาของปรมาจารย์กู่ ก็ปรายมองไปที่เจียงจงโหยวเป็นคนแรก
ทำไมเจียงจงโหยวจะไม่เข้าใจสิ่งที่ปรมาจารย์กู่ต้องการจะสื่อ ? เพียงแค่เขาคาดไม่ถึงว่าปรมาจารย์กู่จะโกหกกระทั่งเขาด้วย ที่ว่าอยากแก้แค้นให้ศิษย์น้อง สุดท้ายมันก็แค่ข้ออ้าง เป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือ การรวบสี่เมืองทางใต้มาไว้ในมือตัวเองต่างหาก
แต่อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ เจียงจงโหยวทำได้เพียงแต่ต้องยอมจำนนเท่านั้น
“เจียงจงโหยวแห่งชิ่งโจว ขอยอมจำนนต่อท่านปรมาจารย์กู่!” เมื่อครู่เจียงจงโหยวยังยืนทำความเคารพอยู่ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนเป็นคุกเข่าลงข้างหนึ่งเพื่อคารวะแทน
“คุณเจียงยืนขึ้นเถอะ จากนี้ไปก็ถือเป็นคนกันเองทั้งนั้นแล้ว!” ปรมาจารย์กู่พูดด้วยรอยยิ้ม
“แล้วคุณล่ะ” ทันใดนั้น สายตาของปรมาจารย์กู่ก็กวาดไปที่หานกั๋วเฉียง
ในใจหานกั๋วเฉียงพลันหนักอึ้ง สีหน้าแทบดูไม่ได้ แม้ว่าใจเขาจะไม่อยากยอม แต่ภายใต้การคุกคามของปรมาจารย์กู่ หากเขาไม่ยอมจำนน ก็มีแต่ทางตายสถานเดียวเท่านั้นแล้ว!
ในสภาวะที่หานกั๋วเฉียง ดูจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นเอง จู่ๆลุงฉินที่อยู่ข้าง ๆ ก็ก้าวออกมา ร่างที่งองุ้มของเขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนช้า ๆ เพียงชั่วพริบตา เขาก็กลายเป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่
“คิดจะให้คุณหานยอมแพ้ ต้องผ่านด่านฉันไปให้ได้เสียก่อน!”
หานกั๋วเฉียงถึงกับอุทานออกมาว่า“ ลุงฉิน!”
เมื่อกี้เขาก็ถามลุงฉินไปแล้วว่า ถ้าต้องประมือกับปรมาจารย์กู่ เขาแน่ใจแค่ไหนว่าจะชนะได้? คำตอบของลุงฉินก็คือ ไม่แน่ใจเลยว่าจะมีทางชนะ
แต่ตอนนี้ ลุงฉินเป็นฝ่ายเริ่มขอท้าประลองเอง เห็นได้ชัดว่าศึกนี้ เขาตั้งใจจะสู้แบบหัวชนฝาแล้วจริงๆ
ลุงฉินหันหน้ามา ยิ้มให้หานกั๋วเฉียง พูดด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่จริงจัง “ถ้าผมแพ้ ถึงตอนนั้น คุณก็ค่อยยอมแพ้แล้วกันนะ!”
หานกั๋วเฉียงถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เมื่อนานมาแล้วเขาเคยช่วยชีวิตลุงฉินเอาไว้หนหนึ่ง ลุงฉินก็ปกป้องคุ้มครองเขามาถึงแปดปี จนตอนนี้ เขาก็ยังยอมใช้ชีวิตเข้าแลกเพื่อรักษาศักดิ์ศรีให้อีก!
“ลุงฉิน ถ้าเห็นท่าไม่ดี ให้รีบยอมแพ้ทันที เข้าใจไหม! ต้องกลับมาทั้งยังมีชีวิตให้ได้นะ!” หานกั๋วเฉียงกำชับด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“ได้!” ลุงฉินไม่ได้หันหน้ามา แค่ตอบรับเบา ๆ แล้วกระโดดเข้าไปในสังเวียน
แต่ไม่มีใครที่เห็นรอยยิ้มฝืดฝืนบนใบหน้าของลุงฉิน
กลับมาแบบมีชีวิต? เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อครู่นี้ ทุกคนต่างก็เห็นจุดจบของคุณหลีกันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งกันทั้งนั้น ต่อหน้าปรมาจารย์กู่ เขามีแต่ต้องชนะ หรือไม่ก็ต้องตาย ไม่มีคำว่าแพ้ให้เลือก
ปรมาจารย์กู่หรี่ตามองไปทางลุงฉิน สีหน้ายังคงความเย่อหยิ่งไม่เปลี่ยน “แกไม่ใช่คู่มือของฉัน แต่ความแข็งแกร่งของแกก็นับว่าไม่เลว ถ้าแกยอมแพ้ ฉันจะไว้ชีวิตแกสักครั้งก็ได้!”
ลุงฉินหัวเราะเหอะๆ พลางพูดว่า “เป็นคู่มือของแกได้ไหม ก็ต้องลองสู้ดูถึงจะรู้!”
ปรมาจารย์กู่พูดอย่างเย็นชา “สู้กับคนเมื่อกี้ ฉันใช้สามกระบวนท่า ครั้งนี้สู้กับแก ฉันจะใช้สักสิบกระบวนท่าแล้วกัน!”
“ฝันไปเถอะ!” ลุงฉินไม่มัวพูดเรื่องไร้สาระอะไร ทั้งไม่มีคำพูดเปิดฉากใด ๆ ทั้งนั้น เขาเริ่มการต่อสู้โดยตรงทันที
เขาต้องรีบคว้าโอกาสชิงลงมือก่อน
ลุงฉินจิกปลายนิ้วเท้า ถูจนมีลักษณะคล้ายลูกศรที่มีปลายแหลมคม เหวี่ยงหมัดออกไปฟาดใส่ตรงหน้าปรมาจารย์กู่
ร่างของลุงฉินสร้างกระแสลมอันรุนแรงสายหนึ่งขึ้นมา เหนือกำปั้นของเขาพลันปรากฏแรงระเบิดปะทุลั่น จนอากาศเกิดการสั่นสะเทือน
หมัดนี้ แข็งแกร่งกว่าหมัดของคุณหลีเป็นสิบๆเท่า!
ปรมาจารย์กู่ลืมตาขึ้นเล็กน้อย มีแสงสีดำสว่างวาบขึ้นในดวงตาทั้งคู่ของเขา
จากนั้นหนามเรืองแสงสีดำรวงหนึ่ง ก็พุ่งออกมาจากมือของปรมาจารย์กู่ โดยไม่มีการหลบหลีกใดๆ แล้วเหวี่ยงเข้าใส่ลุงฉินโดยตรง
ตูม!
ร่างของทั้งสองเข้าปะทะกันกลางอากาศ จากนั้นก็เกิดแรงดีดกระเด็นออกไป
ปรมาจารย์กู่สามารถยืนบนพื้นได้อย่างมั่นคง แต่ลุงฉินกลับถอยหลังไปหลายก้าว กว่าจะทรงตัวให้นิ่งได้
“กระบวนท่าที่สอง!”
ปรมาจารย์กู่ตะโกนเสียงดังพลางเร่งความเร็ว แล้วต่อยหมัดออกไป
ลุงฉินพยายามฝืนระงับพลังชี่แท้ที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในร่าง ส่งหมัดออกไปต้านรับ
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่เท่าปรมาจารย์กู่ แต่เขาก็รู้ดี ว่าเขาไม่สามารถถอยได้ หากเขาถอยเมื่อไหร่ จะไม่มีโอกาสโจมตีกลับไปได้อีกแล้ว
ตู้ม!
คราวนี้ลุงฉินถูกต่อยจนกระเด็นออกไปตรง ๆ จึงต้องอาศัยพิงเชือกกั้นขอบสังเวียนเพื่อทรงตัวให้มั่นคง
ที่ด้านล่าง สีหน้าของหานกั๋วเฉียงหนักแน่นจริงจัง เขากำหมัดแน่น ตะโกนในใจอย่างเงียบ ๆ ว่า “ลุงฉิน คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ!”
“กระบวนท่าที่สาม!”
ปรมาจารย์กู่รุกก้าวเข้าประชิดแบบก้าวต่อก้าว ชนิดที่ไม่ให้ลุงฉินได้หายใจหายคอ
“กระบวนท่าที่สี่!”
“กระบวนท่าที่ห้า!”
ทุกครั้งที่ลุงฉินประมือกับปรมาจารย์กู่ คือการใช้แข็งปะทะแข็ง และทุกครั้งก็จะถูกฟาดจนลอยกระเด็นไปอีกเช่นกัน ในตอนที่ใช้กระบวนท่าที่ห้า เขาก็กระอักเลือดออกมาแล้ว
“กระบวนท่าที่หก!”
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ลุงฉินไม่มีความตั้งใจที่จะยอมแพ้แม้แต่น้อย ทุกการเคลื่อนไหวของเขา ยังคงใช้หลักการแข็งปะทะแข็ง เป็นไปอย่างตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง
พวกเจี่ยงสงได้แต่กำหมัดแน่น ต่างก็แอบภาวนาในใจให้ลุงฉิน
“กระบวนท่าที่เจ็ด!
“กระบวนท่าที่แปด!”
“กระบวนท่าที่เก้า!”
ลุงฉินทั้งร่างถูกอาบย้อมไปด้วยเลือด แต่เขาก็ยังคงโจมตีกลับไม่หยุด เวลานี้ไม่จำเป็นต้องสงสัยในความแข็งแกร่งของเขาอีกต่อไป ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เก่งกาจเท่าปรมาจารย์กู่ แต่ก็นับได้ว่าเขาแข็งแกร่งทรงพลังอย่างยิ่ง
ทุกคนในสนามประลอง ต่างก็ถูกความสู้สุดชีวิตฉากนี้ของลุงฉินแพร่เชื้อใส่ ทุกคนแอบกำหมัดแน่น ต่างก็หวังว่าลุงฉินจะสามารถยืนหยัดต่อไปได้จนจบ
หลังจากกระบวนท่าที่เก้า ลุงฉินก็ทรุดตัวลงคุกเข่า ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือดชุ่มโชก แต่สายตาที่จ้องมองปรมาจารย์กู่ยังคงแน่วแน่จริงจัง
สีหน้าปรมาจารย์เริ่มดูไม่ได้บ้างแล้ว หันไปมองลุงฉินพลางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า “แม้ว่าแกจะไม่แข็งแกร่งพอ แต่แกเอาชนะฉันในเรื่องความรู้สึกเป็นเกียรติ์ที่ได้สู้ด้วยจริง ๆ กระบวนท่าสุดท้าย ฉันสามารถฆ่าแกได้ง่ายๆเลยล่ะ”
“แต่ฉันจะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับแกแล้วกัน ยอมจำนนซะ แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก!”
ลุงฉินพยายามอ้าปาก แต่กลับกระอักเลือดออกมาคำโต เห็นได้ว่าเขามาจนถึงขีดจำกัดสุดท้ายที่จะฝืนต่อสู้ได้แล้ว
แต่เขายังคงปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้อยู่ดี “อย่ามัวพูดเรื่องไร้สาระ ลงมือซะ!”
ที่ด้านล่าง หานกั๋วเฉียงสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง สุดท้ายทนไม่ไหว จึงลุกขึ้นยืนแล้วร้องตะโกนออกไปทันทีว่า “ฉันเต็มใจที่จะยอมจำนน! ท่านปรมาจารย์กู่โปรดยั้งมือด้วย!”
ในน้ำเสียงที่แข็งกร้าวของหานกั๋วเฉียง เต็มไปด้วยความอัปยศอดสู แต่เพื่อช่วยลุงฉิน เขาจึงไม่อาจไปสนใจอะไรอย่างอื่นได้มากนัก
ศักดิ์ศรีอะไร เกียรติ์ยศอะไร ต่อหน้าความเป็นความตายของใครสักคน มันก็เป็นได้แค่คำพูดผายลมเท่านั้นแหล่ะ!
เขาเป็นเพียงราชาในโลกใต้ดินคนหนึ่ง เขาไม่ใช่วีรบุรุษ และเขาก็ไม่ได้อยากจะเป็นวีรบุรุษ
เขาแค่อยากช่วยลุงฉิน คนที่ปกป้องคุ้มครองเขามาตลอดแปดปี
“คุณหาน!” ดวงตาของลุงฉินเปียกชื้น สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้ง เขาเข้าใจดีว่าเพื่อช่วยเหลือเขา หานกั๋วเฉียงได้ละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดของตัวเองไปแล้ว
ปรมาจารย์กู่เก็บมือข้างที่ยื่นออกไปกลับเข้ามา หันไปสบตาหานกั๋วเฉียง พูดอย่างเย็นชาว่า “คุกเข่าลง!”
เสียงฟันของหานกั๋วเฉียงขบเข้าหากันดังกรอด ๆ สายตาทุกคู่ต่างหันมามองดูเขา
เขาเข้าใจดี ว่าการคุกเข่าครั้งนี้ แสดงถึงมลทินอันใหญ่หลวงในชีวิตเขา
แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงคุกเข่าลงบนพื้น เพื่อรักษาชีวิต เขาไม่มีทางเลือกอื่น!
ปรมาจารย์กู่เงยหน้าขึ้นฟ้า หัวเราะเสียงดังลั่น “ฮ่า ๆ ๆ … ”
จู่ๆเสียงหัวเราะของเขาก็หยุดลง แล้วปรายตามองไปยังคนที่อยู่รอบ ๆ “ยังมีใครไม่ยอมอีกมั้ย?”
จากนั้นปรมาจารย์กู่ ก็มองไปที่เจิ้งเทียนหว้าที่กำลังตกตะลึงอึ้งค้างเป็นเบื้อใบ้ แม้ว่าเจิ้งเทียนหว้าจะรู้สึกอับอายขายหน้า แต่เขาก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงโดยไม่ลังเล พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมขอยอมแพ้!”
“แล้วแกล่ะ” ปรมาจารย์กู่หันไปมองเจี่ยงสง
เจี่ยงสงร้อนรนกระวนกระวายเหมือนมดที่อยู่บนหม้อไฟ ได้แต่กรีดร้องในใจอย่างบ้าคลั่งว่า “คุณหลิน ทำไมคุณถึงยังไม่กลับมาซะที?”
“ช่างเถอะ รักษาชีวิตตัวเองไว้ก่อนสำคัญที่สุด!”
เจี่ยงสงก้มหัวลงพลางคุกเข่าข้างหนึ่ง “ผมขอยอมแพ้!”
แต่เจี่ยงสงกลับรู้สึกว่า ดวงตาที่มืดมนคู่นั้นยังคงไม่ละไปจากตัวเขาอยู่ดี
ชั่วขณะนั้น เจี่ยงสงพลันเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย จึงพบว่าปรมาจารย์กู่ กำลังจ้องมองเขาอยู่อย่างเงียบงัน
ฉากนี้ ทำเอาเจี่ยงสงตกใจกลัวจนตัวสั่นงันงก นี่มันสถานการณ์แบบไหนกันล่ะเนี่ย? ฉันก็ยอมแพ้แล้วไง ทำไมเขายังมองฉันอยู่ล่ะ?
เสียงของปรมาจารย์กู่ฟังดูแปลก ๆ ไปเล็กน้อย “ผู้ทรงอิทธิพลแห่งหลินโจว เจี่ยงสง?”
หัวของเจี่ยงสงพลันลดระดับลงอย่างกะทันหัน เอ่ยตอบอย่างระมัดระวังว่า “ใช่ครับ!”
“เมื่อไม่กี่วันก่อน ไอ้คนที่ชื่อหลินชางฉองที่แกไปหามา มันฆ่าศิษย์น้องของฉัน ไอ้คนนี้ มันอยู่ที่ไหน?”