จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1240 คางคกทองสามเส้น
เห็นเถ้าแก่จางแห่งหอไป่เต้า รวมถึงฉีเยว่ผู้อาวุโสเก้าแห่งสำนักเทียนหยุน ต่างก็มากันที่หอเครื่องรางทิพย์ ทำให้ผู้บำเพ็ญฝึกฝนทั้งหลายก็มากันที่ร้านแห่งนี้ด้วย
เพื่อต้อนรับลูกค้าที่มากันทีละกลุ่มทีละกลุ่ม ซิงเฟยจึงตัดสินใจเขียนประกาศขึ้นไว้เลย
ไม่ต้องถามราคา เพียงแค่นำสมบัติมาแลกเปลี่ยน
เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องพูดคุยอะไรมากมายแล้ว
ผู้ที่เข้ามาในร้านหลังจากที่เห็นป้ายแล้ว ก็ถอยหลังกลับออกไปกันหมด
ซิงเฟยนำเก้าอี้เอนหลัง มานั่งเอนหลังอยู่ที่หน้าร้าน โดยสุขสบายใจอย่างที่สุด ก็เพราะไม่ต้องทำอะไร
แต่หลังจากนั้น ซิงเฟยก็เขียนป้ายอีกหนึ่งแผ่นขึ้นแล้ววางไว้ที่หน้าประตู
รับหลอมเครื่องรางทิพย์ตามต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นชั้นต้น ชั้นกลาง หรือว่าชั้นสูง และชั้นยอด ก็ได้ทั้งหมด
เพียงแค่แลกเปลี่ยนด้วยสมบัติทั่วฟ้าดิน
เมื่อประกาศนี้ได้แพร่กระจายออกไป ก็ยิ่งทำให้เป็นที่ครึกโครมไปทั่ว
ชื่อของหอเครื่องรางทิพย์นี้ก็ได้แพร่กระจายโด่งดังไปทั่วทั้งเมืองเทียนหยุนแล้ว
ผู้บำเพ็ญฝึกฝนแทบจะทุกคนต่างก็พากันวิพากษณ์วิจารณ์ถึงหอเครื่องรางทิพย์นี้ ว่าไม่สะดุดตาแต่กลับคุยโวโอ้อวดอย่างที่สุด
มีผู้คนมาดูจำนวนมาก ผู้คนที่สอบถามก็ไม่น้อย
เดิมทีซิงเฟยรู้สึกว่าสบายผ่อนคลายมาก แต่สองวันติดกัน กลับไม่ผ่อนคลายเท่าไรแล้ว
ส่วนทางหลินหยุนนั้น ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ยังคงบำเพ็ญฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
ต่อให้ตอนนี้มีสมบัติที่สามารถใช้หลอมยาได้ แต่เขาก็หลอมไม่ได้ เพราะยังไม่เพียงพอที่จะทำการหลอมยาขั้นที่สาม
แน่นอนว่า พูดขึ้นเฉพาะสำหรับตัวเขาเองเท่านั้น
วันที่เก้าที่หอเครื่องรางทิพย์ได้เปิดร้านขึ้น
ช่วงกลางดึก ชายผอมบางคนหนึ่ง ในชุดคลุมสีดำและสวมงอบบนศีรษะ ได้เดินเข้ามาในร้าน
ผ้าคลุมดำปิดหน้า มองไม่ชัดถึงลักษณะหน้าตาที่แท้จริง
ซิงเฟยกำลังที่จะปิดร้าน ฝ่ายตรงข้ามก็พลันเดินเข้ามา
ซิงเฟยหันขวับ มองไปที่ฝ่ายตรงข้ามทันที
หอเครื่องรางทิพย์ของคุณสามารถหลอมเครื่องรางทิพย์ชั้นยอดตามต้องการได้ใช่ไหม?
ฟังเสียงพูดแล้ว น่าจะเป็นชายวัยกลางคน น้ำเสียงทุ้มต่ำ หรือจะพูดว่าน้ำเสียงหม่นหมอง และเสียงแหลม
ลำพังแค่ได้ฟัง ก็รู้สึกถึงความหนาวเหน็บ
ซิงเฟยพูดขึ้นว่า สามารถสั่งหลอมได้ตามต้องการ แต่จะต้องมีสมบัติทั่วฟ้าดินที่มีระดับเพียงพอ ไม่อย่างนั้นหอเครื่องรางทิพย์ก็จะไม่รับ
ชายชุดดำพูดขึ้นว่า สมบัติไม่ใช่ปัญหา! แต่ถ้าหากหลอมผิดพลาดจะทำอย่างไร?
ซิงเฟยพูดขึ้นว่า ง่ายมาก ชดใช้คืนสิบเท่า!
ชายชุดดำได้ยินดังนั้น ก็พลันส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา ชดใช้คืนสิบเท่า? คุณแน่ใจเหรอว่า หอเครื่องรางทิพย์ของคุณจะชดใช้คืนไหว?
ซิงเฟยพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวล หอเครื่องรางทิพย์ของเราหลอมเครื่องรางดั่งกับกินข้าวดื่มน้ำง่ายดายขนาดนั้น ก็แค่เครื่องรางทิพย์ชั้นยอดชิ้นหนึ่งเท่านั้น ในสายตาของพวกเราแล้ว ไม่นับประสาอะไร!
เมื่อพูดแบบนี้ออกมา ซิงเฟยเองก็เหยียดหยามตัวเองเหมือนกัน
คำพูดนี้ มันช่างโอ้อวดอย่างยิ่ง
เครื่องรางทิพย์ชั้นยอดไม่นับประสาอะไร และไหนจะบอกว่าการหลอมเครื่องรางเหมือนกับกินข้าวดื่มน้ำง่ายดายขนาดนั้นอีก
ช่างเก่งกาจเสียยิ่งกว่าอะไร
แต่ก็ไม่มีทาง เพราะอยู่ด้วยกันกับหลินหยุน จึงทำให้เธอมีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นจริง ๆ
คนอื่นบางทีอาจจะมีอัตราการหลอมเครื่องรางที่สำเร็จได้ไม่สูงนัก บางคนอาจจะสิ้นเปลืองเวลาและแรงกายอย่างมากในการหลอมเครื่องราง
แต่สิ่งเหล่านี้ ในตัวของหลินหยุนแล้ว เธอเองไม่เห็นอะไรสักอย่างเลย
ชายในชุดดำพยักหน้าเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า ตกลง สิ่งที่คุณพูดฉันจำเอาไว้หมดแล้ว!
พูดจบ ชายชุดดำนั้นก็หันหลังแล้วหายวับไปในทันที
ซิงเฟยเองก็ไม่ได้ใส่ใจ
สามวันหลังจากนั้น ในช่วงกลางดึกเหมือนเดิม
ชายชุดดำมาที่ร้านอีกครั้ง และนำวัตถุดิบออกมาสิบกว่าชนิด อีกทั้งได้เขียนประเภทของเครื่องรางทิพย์ที่ตนเองต้องการทั้งหมดเอาไว้
แต่ซิงเฟยก็ยังสงบนิ่งอยู่ ฝ่ายตรงข้ามมีประวัติที่มาไม่ชัดเจน จึงต้องระมัดระวังเอาไว้บ้าง
ซิงเฟยไม่ได้เข้าไปดูวัตถุดิบและความต้องการของฝ่ายตรงข้าม โดยพูดขึ้นว่า ขอถามท่านหน่อยนะว่า คิดที่จะใช้สมบัติล้ำค่าชนิดใดเป็นสิ่งตอบแทน!
ฉันจำเป็นต้องให้ท่านนำสมบัติล้ำค่าออกมาเพื่อประเมินมูลค่าดูสักหน่อย!
ถ้าหากไม่เพียงพอ งานนี้ก็คงจะรับทำไม่ได้
ชายชุดดำพูดขึ้นว่า เรื่องนี้สบายมาก!
เมื่อพูดจบ ก็พลิกฝ่ามือขึ้น กล่องหยกใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในฝ่ามือ
เปิดกล่องหยกออก ทันใดนั้นพลังความเยือกเย็นอันรุนแรงก็ได้ปลดปล่อยออกมา
ซิงเฟยมองไปที่กล่องหยกทันที
เห็นภายในกล่องหยกนั้น เป็นคางคกทอง อีกทั้งบนหลังของคางคกนั้น ยังมีเส้นสีดำสามเส้นด้วย
เมื่อเห็นคางคกทองตัวนี้ ซิงเฟยเองก็สูดลมหายใจลึก
และรีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า นี่คือคางคกทองสามเส้นของสำนักเทียนหยุน? ตกลงท่านเป็นใครกันแน่?
คางคกทองสามเส้น คือหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของสำนักเทียนหยุนที่ทุกคนรับทราบโดยทั่วกัน
คางคกทองสามเส้นนี้ มีคุณประโยชน์ที่สำคัญอย่างมาก ก็คือในขณะที่กำลังทะลุขั้นแดนบำเพ็ญ จะสามารถช่วยส่งเสริมให้พลังถึงขีดสุด ทำให้ขณะที่ทะลุขั้นแดนนั้นสามารถรักษาสภาพร่างกายและจิตใจให้สงบนิ่งและมั่นคงอย่างที่สุด
แม้ว่าเส้นที่สามนั้นจะมีความยาวที่ไม่เพียงพอ แต่ก็ถือเป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดที่หาได้ยากแล้ว
ชายชุดดำได้ยินดังนั้น ก็พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรจะรับรู้แล้ว! คุณพูดมาเพียงว่า สิ่งของชิ้นนี้สามารถใช้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนตอบแทนได้หรือไม่ก็พอ!
ซิงเฟยพูดขึ้นว่า เพียงพอ เพียงพอแน่นอนอยู่แล้ว!
เพียงพออย่างแน่นอน!
สมบัติล้ำค่าสูงสุดเช่นนี้ หากนำมาใช้หลอมยาก็คงจะเสียดายแย่
ชายชุดดำพูดว่า เพียงพอก็ดีแล้ว! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มาดูว่าคุณจะกล้ารับงานนี้หรือไม่!
ซิงเฟยครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดว่า ฉันจะต้องสอบถามอาจารย์สักหน่อย!
ขณะที่พูด ซิงเฟยก็นำยันต์สื่อสารออกมา แล้วส่งข้อความให้กับหลินหยุน
สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือ หากชายชุดดำคนนี้แท้จริงแล้วเป็นคนของสำนักเทียนหยุน
เมื่อหลอมเครื่องรางทิพย์ชั้นยอดเสร็จแล้ว ได้รับมอบสิ่งของแล้ว คนของสำนักเทียนหยุนก็จะปรากฏตัวขึ้น
แล้วก็แย่งชิงสมบัติล้ำค่าสูงสุดนั้นกลับคืนไป นั่นก็กลายเป็นว่าทำการลงไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรตอบแทนเลย
ดังนั้น เรื่องนี้จะต้องให้หลินหยุนเป็นคนตัดสินใจเอง
ไม่นาน หลินหยุนก็ส่งข้อความตอบกลับมาแล้ว
มีเพียงอักษรง่าย ๆ คำเดียว รับ!
ในเมื่อหลินหยุนตอบตกลงแล้ว
ซิงเฟยเองก็ไม่พูดอะไรอีก มองไปที่ชายชุดดำและพูดขึ้นว่า นำคางคกทองสามเส้นวางเอาไว้ที่นี่ แล้วอีกครึ่งเดือนหลังจากนี้ท่านมารับสิ่งของได้!
ชายชุดดำยิ้มเยาะ นำวัตถุดิบวางไว้ที่นี่ก็พอแล้ว คุณยังต้องการให้นำคางคกทองสามเส้นวางไว้ที่นี่ด้วยเหรอ? ชื่อเสียงและเครดิตของร้านเล็ก ๆ ของคุณนี้ยังเทียบเท่าไม่ได้กับหอไป่เต้าสักหน่อยเลย!
ซิงเฟยพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า แน่นอนว่ายังเทียบไม่ได้กับหอไป่เต้า แต่ว่า ฉันไม่ไปไหนแน่นอน ในเมื่อท่านแม้แต่คางคกทองสามเส้นก็ยังสามารถนำมาได้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน คงไม่ถึงกับต้องกังวลว่าฉันจะยึดสิ่งของชิ้นนี้เอาไว้หรอก?
แม้ว่าหอเครื่องรางทิพย์ของฉันจะเพิ่งเปิดใหม่ แต่ไม่ใช่ร้านเล็ก ๆ!
แน่นอน กฎระเบียบเป็นแบบนี้ ท่านสามารถเลือกที่จะไม่หลอมเครื่องรางทิพย์ชั้นยอดนี้ได้!
อะไรคือความมั่นอกมั่นใจ?
ก็คือสิ่งนี้เอง!
ท่านสามารถรวบรวมวัตถุดิบเหล่านี้จนครบ แต่ก็ต้องมีคนที่หลอมได้ถึงจะถูก!
หากท่านไม่ต้องการที่จะหลอมแล้ว ก็ไม่เป็นไร ไม่บีบบังคับ!
เห็นได้ชัดว่าชายชุดดำนั้นไม่ค่อยจะพึงพอใจ
แต่หลังจากที่ครุ่นคิดสักครู่แล้ว ก็ได้พยักหน้าตอบตกลง
มองไปที่ซิงเฟย และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า ตกลง! ครึ่งเดือนหลังจากนี้ ฉันจะมารับสิ่งของ หากว่าไม่ได้มาตรฐานตามที่ฉันต้องการ ก็จะต้องคืนคางคกทองสามเส้น และชดใช้ค่าเสียหายคืนอีกสิบเท่า!
ซิงเฟยพยักหน้า ตกลงตามนี้!
ชายชุดดำเองก็ไม่ได้พูดพร่ำเพรื่ออีก หันหลังแล้วก็หายวับไปที่ประตู
เมื่อได้คางคกทองสามเส้นแล้ว ซิงเฟยก็ตื่นเต้นดีใจมาก และรีบส่งข้อความให้หลินหยุนทันที
แต่หลินหยุนไม่ได้ตอบกลับ
ผ่านไปชั่วครู่ ภายในห้องโถงด้านหลัง เงาร่างของหลินหยุนก็พลันปรากฏขึ้น ทำให้ซิงเฟยตกใจอย่างมาก แต่ในที่สุดก็เบาใจลงได้บ้างแล้ว จากนั้นก็รีบนำคางคกทองสามเส้นมอบให้กับหลินหยุน
หลินหยุนเปิดดู แล้วก็พยักหน้าเล็กน้อย เป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดจริง ๆ ด้วย
คือคางคกทองสามเส้นของจริง
ซิงเฟยกลับพูดขึ้นด้วยความกังวลว่า ฉันสงสัยว่าคนผู้นั้นเป็นคนของสำนักเทียนหยุน บางทีอาจจะเป็นผู้อาวุโสคนใดคนหนึ่ง ซึ่งสมบัติล้ำค่าสูงสุดชิ้นนี้อยู่ที่นี่ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่ตลอดเวลาเลย!