จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1252 สร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตา
คิดถึงจุดนี้ เขาก็ได้ตะโกนเสียงแข็งขึ้นว่า ไอ้คนชั่ว นายหลบหนีไม่รอดหรอก! ไม่มีผู้ใดที่จะมีชีวิตรอดไปได้ หลังจากที่ได้สังหารคนของสำนักเทียนหยุนแล้ว!
เมื่อพูดจบ เขาก็ได้เร่งความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย และก็ขยับเข้าใกล้หลินหยุนอีกครั้ง
เสียงของฝั่งตรงข้ามดังสนั่นกึกก้อง เจตนาสังหารแผ่ปกคลุมไปทั่ว
ซิงเฟยตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
หลินหยุนกลับไม่ได้ใส่ใจอะไร
ชาติที่แล้ว ตั้งแต่ที่เขาอ่อนแอจนแข็งแกร่งนั้น ได้ตระเวนท่องโลกมากมายอย่างนับไม่ถ้วน จนสำเร็จขึ้นเป็นมหากษัตริย์ ไล่ตามสังหารผู้คนจำนวนมาก และแน่นอนว่าก็ถูกคนอื่นไล่ตามสังหารมากครั้งด้วยเช่นกัน
สถานการณ์เช่นนี้ สำหรับเขาแล้วนั้นไม่นับประสาอะไรเลย
แต่ว่า โชคดีที่ก่อนหน้านี้ได้เกล็ดมังกรนั้นมา อีกทั้งได้สละยายั้งอายุไปหลายเม็ด เพื่อแลกซื้อวัตถุดิบจำนวนไม่น้อย มาหลอมเป็นสมบัติล้ำค่าที่ใช้ในการหลบหนี
ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงจะต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่คับขันเป็นแน่
หลินหยุนรวดเร็วอย่างมาก แต่รองเจ้าสำนักเทียนหยุนที่อยู่ด้านหลังนั้นก็ถือว่าไม่ช้า
กลับกลายเป็นว่ายอดฝีมือขั้นยาทองระดับห้า และขั้นยาทองระดับหกกี่คนที่อยู่ด้านหลังนั้น เหมือนจะไล่ตามไม่ทันแล้ว เริ่มที่จะเกิดระยะห่างกับพวกเขาสองคนมากขึ้น
เดิมทีพลังทิพย์ในร่างกายของหลินหยุนก็ได้สูญสิ้นไปอย่างมาก เวลานี้ยังใช้แผ่นทองเกล็ดมังกรอีก ยิ่งทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังมากขึ้นไปอีก ราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด
เงยหน้าขึ้นเพื่อกลืนโอสถลงไป พลังทิพย์ได้รับการเพิ่มพลังไม่น้อย จึงทำให้เขาสามารถยืนหยัดใช้แผ่นทองเกล็ดมังกรต่อไปได้
หลบหนีมาเป็นเวลานาน จนเขาได้ทิ้งพวกคนที่ติดตามอยู่ด้านหลังไปจนหมดแล้ว เหลือเพียงแค่รองเจ้าสำนักคนเดียวที่ยังคงไล่ตามอย่างไม่ท้อถอย
หลินหยุนสีหน้าขาวซีดอย่างที่สุด
ซิงเฟยเห็นแล้วก็ยิ่งเป็นกังวลอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ตอนนี้ทำได้เพียงแค่กัดฟันยืนหยัด โดยที่ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นแล้ว
ยอดฝีมือที่อยู่ด้านหลังนั้น คงจะตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วที่จะสังหารพวกเขาให้จงได้
แต่จะพูดถึงการตกตะลึงนั้น รองเจ้าสำนักที่ไล่ตามอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด ถึงจะเรียกได้ว่าตกตะลึงอย่างแท้จริง
เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ และไม่ได้สูญเสียพลังงานอะไร
แต่ไล่ตามมาตั้งนานแล้ว คิดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามก็ยังคงยืนหยัดความเร็วโดยไม่ได้ลดลงเลย
นี่คือสิ่งที่เหนือการคาดคิดของเขาแล้ว
จากคำพูดของผู้อาวุโสสี่ แม้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะสังหารผู้อาวุโสไปหลายคนแล้ว แต่ก็ต้องสูญเสียพลังงานไปอย่างมาก และยังได้รับบาดเจ็บด้วย
แต่นี่เป็นลักษณะของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้ที่สูญเสียพลังงานไปอย่างมากอย่างนั้นเหรอ?
หรือว่า คนผู้นี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มอย่างที่พูดกัน แต่เป็นยอดฝีมืออาวุโส?
หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็เกรงว่าคงอาจจะไม่เกรงกลัวตนเองก็เป็นได้
ที่ไม่ต่อสู้ก็อาจเป็นเพราะไม่ต้องการอยู่ใกล้กับขอบเขตของสำนักเทียนหยุน แล้วถูกยอดฝีมือของสำนักเทียนหยุนรุมโจมตีก็เท่านั้น
คิดถึงจุดนี้แล้ว รองเจ้าสำนักได้หันหลังกลับไปมอง จิตใจก็พลันเย็นชาขึ้น
ผู้อาวุโสหลายคนที่ไล่ตามมาพร้อมกับเขานั้น เวลานี้ไม่เห็นร่องรอยแม้แต่เงาเลย
ตนเองไล่ติดตามด้วยความเร็วสูง กี่คนนั้นไม่สามารถไล่ตามได้ทัน
เวลานี้ เขาเองก็เกิดความลังเลใจขึ้นแล้ว
ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามเป็นเหมือนดั่งที่เขาคิด เป็นยอดฝีมืออาวุโสที่เก่งกาจทรงพลัง
ตนเองนั้นก็อาจจะไม่สามารถควบคุมจับตัวฝ่ายตรงข้ามได้
คิดถึงจุดนี้ ก็ลดความเร็วในการไล่ตามลงเล็กน้อย
ที่จริงแล้วเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะขบคิดเช่นนี้ขึ้น
ฝ่ายตรงข้ามถึงขนาดกล้าลงมือฟาดฟันสังหารในบริเวณใกล้กับสำนักเทียนหยุนของเขา นั่นแสดงว่าอาจหาญไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย
เวลานี้ที่กำลังหลบหนีไม่ยอมต่อสู้นั้น บางทีอาจจะเป็นแผนการล่อลวงก็ได้!
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก
ดังนั้นความตั้งใจในการไล่ตามของเขานั้นก็เกิดการสั่นคลอน ความเร็วก็ลดลงด้วยเช่นกัน
ส่วนหลินหยุนกับซิงเฟยที่อยู่ด้านหน้า ก็รับรู้ได้ในทันที
ซิงเฟยดีใจอย่างมาก และพูดขึ้นว่า เขาลดความเร็วลงแล้ว! เหมือนจะไม่ไล่ตามมาแล้ว!
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร กะพริบดวงตาขึ้น จากนั้นก็ลดความเร็วลงบ้างเช่นกัน
ซิงเฟยสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบพูดขึ้นว่า ทำไมนายถึงได้ลดความเร็วลงล่ะ? พวกเราจะต้องเร่งความเร็วเพื่อเพิ่มระยะห่างสิ!
หลินหยุนพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า เขาไม่กล้า!
ขณะที่พูดก็ยิ่งลดความเร็วลงมากขึ้นอีก
เห็นว่าทางหลินหยุนก็ได้ลดความเร็วลงเช่นกัน รองเจ้าสำนักเทียนหยุนที่อยู่ด้านหลังก็ตื่นตระหนกขึ้น และหยุดการเคลื่อนไหวลงทันที
หลินหยุนกับซิงเฟยต่างก็พากันตกใจ คิดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะหยุดการเคลื่อนไหวลงเลย
ขณะนั้น หลินหยุนก็เร่งความเร็วขึ้น มุ่งหน้าต่อไปอย่างรวดเร็ว
รองเจ้าสำนักที่อยู่ด้านหลังก็คิดอยากที่จะไล่ตาม แต่ก็ได้ควบคุมตนเองเอาไว้
แทบจะพริบตาเดียว หลินหยุนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วนเขาเองก็ล้มเลิกที่จะไล่ตามต่ออีก
รองเจ้าสำนักเผยสีหน้าท่าทางที่เคร่งเครียด ฝ่ายตรงข้ามเหมือนจะกำลังหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการล่อลวงตนเองหรือเปล่า
กอปรกับที่ก่อนหน้านี้ได้ลดความเร็วลง ซึ่งโอกาสที่จะล่อลวงเขานั้นเป็นไปได้สูงมาก
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ผู้อาวุโสคนอื่นนั้นก็เพิ่งจะไล่ตามมาได้ทัน ซึ่งทุกคนต่างก็หอบหายใจกันอย่างไม่หยุด
เมื่อเห็นรองเจ้าสำนัก ก็รีบโค้งตัวแสดงความเคารพ และถามขึ้นว่า รองเจ้าสำนัก ไอ้คนชั่วนั้นอยู่ที่ไหน?
รองเจ้าสำนักพูดเสียงแข็งขึ้นว่า คนผู้นี้น่าจะเป็นยอดฝีมืออาวุโส ซึ่งเขาได้หลบหนีไปแล้ว!
กี่คนนั้นต่างก็ตกตะลึง!
ผู้อาวุโสสองที่เป็นหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า คิดไม่ถึงว่าขนาดรองเจ้าสำนักก็ยังไล่ตามไม่ทัน เกรงว่าสำนักของพวกเราจะไปล่วงเกินยอดฝีมือผู้อาวุโสเข้าจริงเสียแล้ว! ไม่อย่างนั้นคงจะไม่มีพลังบำเพ็ญระดับนี้เด็ดขาด!
คนอื่น ๆ ต่างก็พากันพยักหน้า
หนึ่งคนในจำนวนนั้นขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า แต่ว่า เรื่องนี้จะถือว่าจบลงเพียงเท่านี้อย่างนั้นเหรอ? ถ้าหากว่าปล่อยมันไปอย่างนี้ นับจากนี้ต่อไปสำนักเทียนหยุนของพวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? และจะดำรงอยู่ต่อไปในโลกคุนชางได้อย่างไรอีก?
รองเจ้าสำนักส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา และพูดขึ้นด้วยเจตนาสังหารอันรุนแรง ไม่มีทางที่จะปล่อยไปแบบนี้อย่างเด็ดขาด! ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถมาท้าทายยั่วยุพลังความน่าเกรงขามของสำนักเทียนหยุนของพวกเราได้! คนผู้นี้สังหารผู้อาวุโสในสำนักของเราไปหลายคน ความแค้นนี้สำนักเทียนหยุนจะต้องแก้แค้นเอาคืนอย่างแน่นอน!
ผู้อาวุโสสองสูดหายใจลึก พยักหน้าและพูดขึ้นว่า รองเจ้าสำนัก เรื่องนี้มีความเกี่ยวพันอย่างใหญ่หลวง! ฉันเห็นว่า จะต้องเชิญเจ้าสำนักออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนแล้ว!
คนอื่น ๆ ต่างก็เห็นพ้องต้องกันโดยพูดขึ้นว่า ถูกต้อง! เพียงแค่เจ้าสำนักออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน จากนั้นก็อาศัยการสืบค้นวิญญาณชีวิตของศิษย์น้องกี่คนนั้นที่ได้เสียชีวิตลงไป เพื่อตามหาที่พักพิงของคนร้าย! แล้วก็ลงมือแก้แค้น!
รองเจ้าสำนักพยักหน้า
แม้ว่าเขากับเจ้าสำนักต่างก็มีพลังบำเพ็ญขั้นยาทองระดับแปด
แต่การสืบค้นวิญญาณชีวิต มีเพียงแค่เจ้าสำนักเท่านั้นถึงจะกำหนดเป้าหมายฝ่ายตรงข้ามได้
อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาที่แน่นอน
หากว่าเวลายืดเยื้อนานเกินไป รอยประทับวิญญาณชีวิตก็จะค่อย ๆ เบาบางและสูญหายไป
เมื่อถึงตอนนั้นหากคิดที่จะตามล่าจับตัวคนผู้นี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร
โลกคุนชางกว้างใหญ่ไพศาล คิดจะตามหาคนผู้หนึ่ง โดยเฉพาะการตามหายอดฝีมือที่เก่งกาจขั้นสุดยอดนั้น ก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
คิดถึงจุดนี้ รองเจ้าสำนักก็พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า รีบกลับไปที่สำนักกันเดี๋ยวนี้ เพื่อเชิญเจ้าสำนักออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝน!
ขณะที่พูด ก็ได้นำกี่คนนั้นแวบหายตัว กลับไปที่สำนัก
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง หลินหยุนเองก็หลบหนีมาอีกสักพักใหญ่ ในที่สุดก็พบเจอสถานที่แห่งหนึ่ง
เขาควบคุมร่างของตนเอง ให้ลงมาที่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง แล้วก็สะบัดโบกมือสร้างเป็นถ้ำแห่งหนึ่งขึ้น พร้อมกับจัดตั้งค่ายกลป้องกันเอาไว้ด้วย
นั่งขัดสมาธิอยู่ในถ้ำ โดยที่หลังจากกินโอสถจำนวนมากเข้าไปแล้ว ก็ดูดซับตัวยาและปรับสภาพพลังบำเพ็ญให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซิงเฟยมองดูอยู่ที่ด้านข้าง โดยที่ไม่พูดจาอะไรรบกวน
เธอรู้ดีว่าหลินหยุนสูญเสียพลังงานไปอย่างมาก
การสูญเสียพลังมากขนาดนี้ หากว่าฟื้นฟูไม่ทันเวลา อาจจะทำลายไปถึงพลังพื้นฐานก็เป็นได้
ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง ต่อเส้นทางการบำเพ็ญฝึกฝนในอนาคต
ดังนั้นต่อให้ตอนนี้เธอจะวิตกกังวลมากขนาดไหน แต่ก็จะต้องฝืนอดทนเอาไว้
หลินหยุนกลับไม่มีความกังวลใด ๆ เลย เพราะเขาเชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ไล่ตามมาอย่างแน่นอน
ฟื้นฟูไปสักพักหนึ่ง หลินหยุนก็เปิดตาสองขึ้นโดยพลัน และเปลวไฟก็พุ่งขึ้นมาจากฝ่ามือของเขา จากนั้นในดวงตาของหลินหยุนทั้งสองข้างราวกับว่ามีเปลวไฟโชติช่วงไปมา
ผ่านไปชั่วครู่ ก็ได้ยินเสียงดังแกร็ก ๆ ขึ้นในร่างกายของหลินหยุน
หมอกควันสีขาวเทานับไม่ถ้วน ได้ล่องลอยแผ่กระจายออกมาจากร่างกายของหลินหยุน และยังแฝงไปด้วยกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ