จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1268 มู่หงออกมาจากการเก็บตัวฝึกฝน
หนึ่งในนั้น เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่รูปร่างไม่ค่อยสูงนัก เธอใส่ชุดสีขาว
ส่วนอีกคนหนึ่ง เป็นชายชราใส่ชุดสีเหลือง
ชายชราคนนี้ ก้มหน้าตลอดเวลา เขาไม่ขยับตัวเลยและไม่พูดอะไรด้วย ร่างกายของเขาไม่มีพลังอะไรถูกปลดปล่อยออกมาเลย
ถ้าไม่ได้มองเห็นเขาอยู่ต่อหน้า แต่ใช้พลังจิตไปสัมผัส คงไม่มีใครสามารถค้นพบเขาได้
ส่วนผู้หญิงวัยกลางคนก็มีสีหน้าที่เย็นชามากๆ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้และไม่พูดอะไร นิสัยของเธอค่อนข้างเย็นชา
ผ่านไปสักพัก ผู้อาวุโสใหญ่เอ่ยปากพูดเพื่อทำลายความเงียบสงัด
เขามองไปที่รองเจ้าสำนัก และถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม รองเจ้าสำนัก หลินชางฉองคนนั้นไม่ยอมปรากฏตัวเลย ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เขาคงไม่ยอมปรากฏตัวแน่ๆ
มีความเป็นไปได้ว่าเขาจากไปแล้ว
มีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่งก็คือเขายังอยู่ แต่เขาน่าจะรับรู้ถึงความผิดปกติก็เลยไม่ยอมปรากฏตัว
ตอนนี้พวกเราต้องหาวิธีบีบบังคับให้เขายอมปรากฏตัวให้ได้!
ต้องบีบบังคับให้หลินชางฉองยอมปรากฏตัว
สำนักเทียนหยุนได้ยืมแท่นค่ายกลสี่พิทักษ์มาจากสำนักฉีซาน
ถึงแม้ทั้งสองสำนักจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่การยืมแท่นค่ายกลสี่พิทักษ์ฉีซานครั้งนี้ ทำให้สำนักเทียนหยุนต้องจ่ายค่ายืมที่แพงมากๆ
สมบัติล้ำค่าขนาดนี้ มันให้ยืมฟรีๆไม่ได้อยู่แล้ว
ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถึงแม้พวกเขาจะเป็นพี่น้องหรือพ่อลูกกัน ถ้าไม่ยอมจ่ายค่ายืม อีกฝ่ายก็คงไม่ยอมเอามันออกมาอย่างแน่นอน
รองเจ้าสำนักขมวดคิ้วและพูด ใช่แล้ว ตอนนี้ปัญหาอยู่ที่พวกเราจะบีบบังคับอีกฝ่ายปรากฏตัวยังไง! ถ้าคนๆนั้นไม่ยอมปรากฏตัว พวกเราก็ไม่สามารถลงมือได้
ทุกท่านมีวิธีอะไรไหม?
ผู้อาวุโสใหญ่ครุ่นคิดชั่วครู่และพูด ศิษย์พี่ ในเมื่อใช้หวงฉาวเป็นเหยื่อล่อ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปรากฏตัว พวกเราลองเปลี่ยนเป็นคนอื่นๆดูไหม?
เมื่อรองเจ้าสำนักได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็ส่ายหัวและพูด ในเมื่อใช้หวงฉาวเป็นเหยื่อล่อ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปรากฏตัว ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น อีกฝ่ายก็คงไม่ยอมปรากฏตัวเช่นกัน ต้องคิดหาวิธีอื่น!
ในเวลานี้ ห้องประชุมในตำหนักเกิดความเงียบสงัดทันที
ใครมีวิธีอื่นๆอีกไหม?
พวกเขานิ่งเงียบมาหลายวัน จากนั้นหวงฉาวก็ปรากฏตัว
เขาในฐานะลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักเทียนหยุน เป็นอนาคตอันรุ่งเรืองของสำนักเทียนหยุน แต่จู่ๆหวงฉาวกลับปรากฏตัวออกมา
ถ้าไม่ใช่คนโง่ ก็คงคาดเดาได้ เขาต้องเป็นเหยื่อล่ออย่างแน่นอน
ตอนนี้หวงฉาวเป็นเหยื่อล่อไม่ได้ผล ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ถ้าได้ผลก็คงเป็นเรื่องแปลกแล้ว
ในจิตใจของทุกคนต่างรู้ดี รองเจ้าสำนักก็รู้ดีเช่นกัน อันที่จริงตอนที่เขารับปากหวงฉาว เขาก็คาดเดาได้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้
แต่เขาไม่อยากจะหักหน้าหวงฉาวเท่านั้น
เพราะหวงฉาวไม่ได้เป็นลูกศิษย์ธรรมดาทั่วไป
สำนักเทียนหยุนพยายามบ่มเพราะและทำให้หวงฉาวให้แข็งแกร่งมากขึ้น เพราะเขาคืออนาคตอันรุ่งเรืองของสำนักเทียนหยุน
เขาในฐานะรองเจ้าสำนัก แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหวงฉาว เขาก็ต้องคิดมากเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้เขาคิดไว้แล้ว การที่หวงฉาวปรากฏตัว อาจจะเป็นการเปิดเผยบางอย่างออกไป
ถ้าหลินชางฉองเป็นเด็กหนุ่มใจร้อนมากๆ เขาคงคิดไม่ถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ หลินชางฉองคงไม่ใช่เด็กวัยรุ่น แต่เป็นเฒ่าประหลาด
ไม่งั้นเขาคงไม่คิดมากขนาดนี้หรอก?
แต่เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเราควรทำยังไงดี?
เขามองไปที่ผู้หญิงวัยกลางคนที่นั่งเงียบๆโดยไม่รู้ตัว
ถ้าครั้งนี้ไม่สามารถบีบบังคับให้หลินชางฉองปรากฏตัว พวกเขาก็คงต้องเสียค่ายืมสมบัติล้ำค่าไปฟรีๆ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็ครุ่นคิดอย่างหนักอีกครั้ง
เขาคิดเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบอีกรอบ จู่ๆเขาก็พบประเด็นสำคัญ ทำให้เขาคิดวิธีหนึ่งออกมาทันที
สายตาของรองเจ้าสำนักเปล่งประกาย เขามองไปที่ผู้หญิงวัยกลางคนและพูด สหายปิงหลิน คุณเดินทางไปเมืองมี่หยุนกับพวกเราได้ไหม?
เมื่อผู้หญิงวัยกลางคนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ ได้อยู่แล้ว!
รองเจ้าสำนักดีใจมากๆ เขารีบมองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆแล้วพูด ศิษย์น้อง คุณพาเจ้าสี่ไปที่ตระกูลฉินในเมืองมี่หยุน! คุณต้องได้ข้อมูลทั้งหมดของหลินชางฉองจากปากของคนตระกูลฉิน
เมื่อผู้อาวุโสใหญ่ได้ยินก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาก็คิดได้ทันทีและพูด ได้! ฉันจะออกเดินทางตอนนี้เลย!
ขณะพูด เขาก็พาผู้อาวุโสสี่เดินทางออกไปเลย
ผ่านไปสักพัก รองเจ้าสำนักก็มองไปที่ปิงหลินและพูด สหายปิงหลิน พวกเราก็ไปกันเถอะ!
ขณะพูด เขาก็มองไปที่ผู้อาวุโสรองและพูด พวกคุณที่เหลือรออยู่ในสำนัก และห้ามลูกศิษย์ทุกคนออกจากสำนัก!
ผู้อาวุโสรองพูดทันที รองเจ้าสำนัก แล้วฝั่งหวงฉาวจะทำยังไงดี?
รองเจ้าสำนักพูด ฉันจะแจ้งเขาเอง!
เมื่อพูดจบ เขาก็กลายเป็นลำแสงอันหนึ่งและพุ่งจากไปทันที
ปิงหลินกับชายชราที่อยู่ด้านหลังก็ตามออกไปทันที
ในเวลาเดียวกัน หวงฉาวก็กลับมาที่เมืองเทียนหยุน จากนั้นไม่นานเขาก็จากไป
ทุกคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหวงฉาวไปที่ไหนกันแน่
แต่มีคนจำนวนไม่น้อย ตามหลังเขาตลอด
หวงฉาวก็ไม่ได้ขัดขวางพวกเขา
ในเวลานี้ ยันต์สื่อสารของหลินหยุนก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง
มู่หงฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับสี่สำเร็จ เขาออกจากการเก็บตัวฝึกฝนแล้ว!
สำนักฉีซานในเวลานี้ เต็มไปด้วยความดีใจ และกำลังเลี้ยงฉลองอยู่
ดวงตาของหลินหยุนเปล่งประกายทันที เขายุติการฝึกฝนและเดินออกจากวิมาน เขาตรงไปที่สำนักฉีซานทันที
มู่หงออกจากการเก็บตัวฝึกฝน มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ!
เมืองฉีซาน
ซิงเฟยเจอหลินหยุน เธอรีบเดินเข้ามาทันที มู่หงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในสำนักเทียนหยุนแล้ว และเขาก็รู้จักคุณด้วย! ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับมู่หงและเจียงยี่กันแน่?
หลินหยุนยักคิ้วทันที พูดแบบนี้ แปลว่าเขาไม่กล้าออกมาใช่ไหม?
ซิงเฟยพูด เขากล้าออกมาหรือเปล่าฉันไม่รู้ เมื่อหลายวันก่อนฉันเห็นเขาครั้งหนึ่งในงานเลี้ยง
อย่างไรก็ตาม สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสำนักเทียนหยุนและชื่อหลินชางฉองของคุณ ทำให้ความดีใจที่เขาเข้าสู่แดนยาทองระดับสี่ลดลง
ตอนนี้เขายังคงเก็บตัวอยู่ และไม่เคยออกจากสำนักแม้แต่ครั้งเดียว!
หลินหยุนพยักหน้า สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในการคาดเดาของเขาอยู่แล้ว
มู่หงคนนี้ ตอนที่อยู่ด้านนอก หลินหยุนก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขาเป็นคนที่ระแวดระวังตัวและฉลาดมากๆ
ถ้าอีกฝ่ายกล้าเดินทางออกมาจากสำนักฉีซาน เขาก็มีโอกาสอยู่แล้ว
ด้วยพลังที่เขามีอยู่ในตอนนี้ ถ้าต้องการสังหารมู่หงที่ฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับสี่ เขาแค่สะบัดมือก็สามารถทำได้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องยากเลย
หลินหยุนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และพูด เธอกลับไปก่อน! ช่วยเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวของมู่หงและรายงานฉันด้วย!
ซิงเฟยพยักหน้า เธอมองหลินหยุนและพูด คุณไปที่สำนักเทียนหยุนใช่ไหม? ยังสังหารผู้อาวุโสสองคนด้วย? คุณกล้ามากๆที่ทำแบบนี้!
เมื่อหลินหยุนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็พูดโดยไม่ใส่ใจ ฉันแค่พยายามควบคุมพวกเขาเอาไว้! ไม่ให้พวกเขาไปลงมือทำร้ายตระกูลฉิน
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ คนของสำนักเทียนหยุน จะยอมออกจากตระกูลฉินแต่โดยดี นั่นเป็นเพราะการปรากฏตัวของสามเยว่
พูดกันตามตรง เนื่องจากสำนักหยุนเยว่เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ ทำให้สำนักเทียนหยุนต้องคิดมากกว่าเดิมถึงจะลงมืออีกครั้ง
แต่เรื่องนี้ไม่มีใครสามารถรับประกันได้
ตอนนี้ ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ คนของสำนักเทียนหยุนคงไม่ปรากฏตัวและทำร้ายตระกูลฉินอย่างแน่นอน!
ซิงเฟยขมิบปากและพูด คิดไม่ถึงจริงๆ คนอย่างคุณก็เป็นห่วงคนอื่นเป็นด้วย!
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เขานั่งลงบนเบาะรองนั่ง เขาปิดตาและฝึกฝนพลังทันที
ซิงเฟยเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา เธอออกจากโรงเตี๊ยมและกลับไปที่สำนักฉีซานทันที
ในเวลานี้ ในวิมานแห่งหนึ่ง
สีหน้าของมู่หงแย่มากๆ
การเสียชีวิตของเจียงยี่
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสำนักเทียนหยุน
เรื่องเหล่านี้ อยู่เหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ