จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1276 นายเป็นใคร
คนผู้นี้ดูแล้วอายุก็คงจะไม่มากเท่าไร
น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเรา
อาจจะมีอายุน้อยกว่าฉันสักเล็กน้อยด้วย!
สามารถที่จะเอาชนะแม่นางโม่หยู่ได้ ก็ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงกันไปหมดแล้ว!
แต่ว่า ถ้าหากยังสามารถเอาชนะลี่รั่วไห่ที่อยู่ในขั้นยาทองระดับห้าได้ด้วยแล้ว นั่นก็คงน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งนัก!
คนแบบนี้
จะเป็นคนนิรนามได้อย่างไรกันล่ะ!
เด็กหนุ่มอัจฉริยะที่มีพลังบำเพ็ญที่น่าสะพรึงกลัวระดับนี้!
ทั่วทั้งโลกคุนชางแล้ว ยังจะมีใครที่พวกเราไม่รู้จักอยู่อีกเหรอ?
เหอะเหอะ!
ไม่ต้องพูดถึงว่าสามารถต้านทานกระบองของลี่รั่วไห่นี้ได้หรอก
แค่ไม่ถูกกระบองทุบตีจนร่างกายแหลกละเอียด แม้แต่ยาทองก็ไม่หลงเหลือ นั่นก็ถือว่าโชคดีอย่างมากแล้ว!
พวกนายดูสิ ไอ้หนุ่มนั่นยังคงยืนอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย!
ชัดเจนว่าตกใจจนถึงขนาดหลงลืมที่จะรับมือต้านทานแล้ว!
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
โม่หยู่แห่งสำนักกระบี่เป่ยโต่ว
แม้ว่าจะมีพลังบำเพ็ญขั้นยาทองระดับสี่
แต่ว่า
เธอเพิ่งจะเข้าสู่ขั้นยาทองระดับสี่เท่านั้น
โดยในช่วงที่ไม่นานก่อนหน้านี้
เพิ่งจะบรรลุผ่านขั้นแดนได้สำเร็จ
ถึงขนาดที่ว่าแม้แต่พลังบำเพ็ญก็ยังไม่เสถียรมั่นคงทั้งหมด
อีกทั้ง ระดับขั้นยาทองก็ไม่ได้สูงส่งอะไร
กล่าวได้ว่าเป็นคนที่ด้อยที่สุด ในกลุ่มพวกเขาทั้งหมดนี้
หากจะพูดว่าผู้ที่สามารถกระทำแบบเมื่อสักครู่นั้นได้
โดยที่เพียงชี้นิ้วก็สามารถเอาชนะได้นั้น
ท่ามกลางพวกเขาทั้งหมดแล้ว
อย่างน้อยมีด้วยกันสี่คน
ที่สามารถกระทำเช่นนั้นได้
ถึงขนาดที่ว่า
หากเปลี่ยนเป็นหวงฉาว
เพียงแค่ควบคุมพลังปราณเอาไว้ แม้แต่โอกาสที่โม่หยู่จะลงมือก็แทบจะไม่มีเลย
นี่เป็นเด็กหนุ่มที่พบเจอกันโดยบังเอิญ ไม่มีชื่อเสียงและไม่เคยรู้จักมาก่อน
สามารถที่จะกระทำได้ถึงขั้นนี้
โดยเอาชนะโม่หยู่ได้เพียงชี้นิ้วเดียว
ซึ่งก็ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงกันเป็นอย่างมากแล้ว
แต่ว่า
ถ้าหากสามารถเอาชนะลี่รั่วไห่ได้
หรือว่าสามารถเอาชีวิตรอดจากน้ำมือของลี่รั่วไห่ได้
นั่นก็คงเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเหนือความคาดหมายอย่างที่สุดแล้ว
ในเวลานี้
แสดงให้เห็นว่าการวิเคราะห์ของพวกเขาถูกต้องแล้ว
เพราะว่ากระบองยาวมีพลังอานุภาพไร้เทียนทาน
แต่หลินหยุนกลับยังคงยืนอยู่กับที่
ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
เหมือนจะถูกควบคุมเอาไว้แล้ว ตกใจจนไม่หลงเหลือความกล้าหาญอะไรเลย
หวาดกลัวจนถึงกับคิดไม่ออกว่าจะต้องหลบหลีกหรือต้านทานอย่างไรดี
เดิมทีพวกเขาคิดว่า บางทีอาจจะเป็นลูกศิษย์อัจฉริยะของสำนักขนาดเล็กที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
ที่สามารถเอาชนะโม่หยู่ลงได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งก็ถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมากแล้ว
แต่สถานการณ์ในตอนนี้
สำนักเล็กก็คือสำนักเล็ก
ไม่มีความรู้ไม่มีประสบการณ์อะไรมาก่อน
เมื่อยิ่งเผชิญหน้ากับยอดฝีมือ
แม้แต่จิตใจที่จะตอบโต้ก็ไม่หลงเหลือแล้ว
เกรงว่าพลังบำเพ็ญแบบนี้
คงจะอาศัยกำลังภายนอกเสริมแกร่งถึงได้ก้าวหน้าขึ้นมา โดยที่ไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาอะไรเลย
ไม่เหมือนกับลูกศิษย์สำนักใหญ่อย่างพวกเขาเหล่านี้
ที่เป็นอัจฉริยะขั้นสูงอย่างแท้จริง
โดยที่ต่างก็อาศัยพรสวรรค์ที่แท้จริงของตนเองทั้งหมด
ในการสำเร็จเพิ่มระดับขั้นพลังบำเพ็ญ
แม้แต่จิตเต๋าพื้นฐานก็ยังไม่มั่นคงเลย
เวลานี้
กระบองยาวสีดำได้สั่งสมพลังอย่างเพียงพอแล้ว
ลี่รั่วไห่แสยะยิ้ม และตวาดเยาะเย้ยขึ้นว่า ลำพังแค่ไอ้กระจอกอย่างนาย ยังกล้าที่จะโอ้อวดต่อหน้าพวกเราอีก ช่างไม่รู้จักความเป็นความตายเสียจริงเลย!
รับมือกับกระบองของฉันหน่อยเถอะ!
จะได้สัมผัสลิ้มลองว่ากระบองของฉันนี้มีรสชาติอย่างไร!
ร่างกายจะต้องแหลกละเอียดก็คราวนี้แหละ!
หลินหยุนยังคงมีสีหน้าท่าทางที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก
มองไปยังฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา
ราวกับว่ากำลังมองดูมดแมลง ที่กำลังร่ายรำกวัดแกว่งต้นหญ้าที่บอบบาง อยู่ต่อหน้าช้าง
พร้อมกับตะโกนเสียงดังโวยวาย
โดยที่จะใช้ต้นหญ้าในมือนั้นทุบตีทำลายร่างของช้างจนแหลกละเอียด
ช่างน่าตลกขบขันยิ่งนัก
โดยที่เขาไม่มีการกระทำอะไรอย่างอื่นเลย
เหมือนกันกับเมื่อสักครู่อย่างไรอย่างนั้น
ในขณะที่กระบองสีดำ ที่มาพร้อมกับพลังอานุภาพอันรุนแรง ได้ทุบตีลงมา ใกล้จะกระทบกับศีรษะแล้ว
ในที่สุดหลินหยุนก็ได้เคลื่อนไหว
เห็นเขายกแขนขึ้นอีกครั้ง
แล้วก็ชี้นิ้วออกไป
ทันใดนั้น
ลมหายใจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างรุนแรง ก็ได้ปะทุขึ้นมา
ตูม—-
พลังที่มองไม่เห็น ก็ปะทะเข้ากับพลังอานุภาพของกระบองยาวในทันที
ทั้งสองคนปะทะกัน
จนเกิดเสียงดังตูมตามที่สะเทือนเลือนลั่น
ทั่วทั้งชั้นฟ้าชั้นดินราวกับเกิดระลอกคลื่นสั่นไหวขึ้น
จนแทบจะแตกละเอียดอย่างไรอย่างนั้น
กระบองยาวหลุดออกจากมือของลี่รั่วไห่
ร่างกายก็ระเบิดขึ้นทันที
ในขณะนั้นเอง
เงาร่างหนึ่งก็มาอยู่ที่ด้านหลังของเขา
พลังที่มองไม่เห็นได้พันห่อร่างของเขาเอาไว้
จากนั้นก็ได้ป้อนโอสถเข้าไปในปากของเขา
เดิมทีร่างกายที่จะต้องระเบิดแหลกสลายนั้น
ภายใต้การห่อหุ้มด้วยพลังที่มองไม่เห็น หรือว่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ของยา ในที่สุดก็สามารถที่จะแก้ไขให้รอดพ้นมาได้
ส่วนคนอื่น ๆ
ต่างก็ถูกพลังอานุภาพที่ปะทุออกมานั้นกระแทกเข้าใส่จนกระเด็นออกไป
โม่หยู่ที่ก่อนหน้านี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เวลานี้ยิ่งจะหนักหนามากขึ้นอีก
ถึงขนาดกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง
อาการสาหัสหนักขึ้นกว่าเดิม
เวลานี้
ทุกคนต่างก็เงียบกริบ
ฟ้าดินราวกับสงบนิ่งลงไปชั่วขณะ
ทุกคนมองไปที่หลินหยุน
ด้วยสายตาที่ต่างก็แสดงอาการหวาดกลัวขึ้นอย่างแท้จริง
เหลือเชื่ออย่างมาก
แม้แต่หวงฉาว ก็คาดคิดไม่ถึงอย่างมากด้วย
ความหวาดกลัว
สำหรับเขาแล้วนั้น
เขาไม่มี
เขาคือผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในพวกเขาเหล่านี้
ต่อให้พวกเขาเหล่านี้รวมตัวเข้าด้วยกัน
ใช้พลังทั้งหมดอย่างเต็มที่
ลงมือพร้อมกัน
หรือว่าทุกคนจะเผาไหม้สารจิงและเลือดกันอย่างบ้าคลั่ง
สำหรับเขาแล้วนั้น
ล้วนไม่แตกต่างอะไรกันกับมดแมลง
วีธีการลงมือในแบบที่เหมือนกับหลินหยุนนั้น
หากเปลี่ยนเป็นตัวเขา
ก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน
แต่ว่า
เขาคือใคร?
เขาคือหวงฉาว!
โดยในโลกคุนชางทั้งหมดตอนนี้
เขาคืออันดับหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นรุ่นหลัง
เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในลำดับเยาว์คุนชาง
ในช่วงก่อนที่บุตรอริยสัจ พระบุตร บุตรธยานะจะถือกำเนิดขึ้นนั้น
เขาคืออันดับหนึ่งอย่างแท้จริง
ตนเองสามารถกระทำได้
นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ไม่ได้แสดงว่าคนอื่นก็จะสามารถกระทำได้
แต่ว่า
คนผู้นี้คือใคร?
ทำไมถึงได้มีพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่งขนาดนี้ด้วย?
เวลานี้
นิ่งเป่ยเฉินที่เพิ่งพูดเมื่อสักครู่นั้น
ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมากแล้ว
พลังบำเพ็ญของเขา
มีความแข็งแกร่งมากกว่าลี่รั่วไห่ก็จริงอยู่
แต่ว่า
เมื่อมองจากพลังอานุภาพของกระบองที่ลี่รั่วไห่ได้แสดงออกนั้น
ต่อให้จะเทียบเท่าเขาไม่ได้
แต่ความแตกต่างก็มีจำกัดอยู่เช่นกัน
ส่วนคนที่อยู่เบื้องหน้านี้
สามารถที่จะชี้นิ้วทำลายร่างของลี่รั่วไห่จนแหลกสลายได้
หากว่าไม่มีหวงฉาวอยู่
ร่างของลี่รั่วไห่คงจะแหลกสลายไปหมดแล้ว
น่ากลัวมากขนาดนี้เลย
แสดงว่าถ้าหากเมื่อครู่นั้นเป็นการเผชิญหน้ากับตนเอง
เขาเองก็คงจะไม่ได้ดีไปกว่าลี่รั่วไห่สักเท่าไร
นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อมากเลยทีเดียว!
เวลานี้
หวงฉาวได้ขับเคลื่อนพลังทิพย์เข้าไปในร่างกายของลี่รั่วไห่
เพื่อกำจัดพลังรุนแรงอันน่าสะพรึงกลัวนั้น
ลี่รั่วไห่สีหน้าขาวซีดอย่างที่สุด
โดยมองไปที่หวงฉาวด้วยสายตาที่ขอบคุณและซาบซึ้งอย่างมาก
หวงฉาวพยักหน้าให้กับเขา
จึงได้ปล่อยวางตัวเขาลงมา
แล้วก็หันหน้า จ้องมองไปที่หลินหยุน
นาย เป็นใครกัน?
นี่คือครั้งแรกที่หวงฉาวมองไปที่หลินหยุนอย่างจริงจัง
และก็เป็นคำแรกที่ได้พูดคุยกับหลินหยุนด้วย
แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา
นอกเสียจากท่านอาจารย์ของเขา
แม้แต่รองเจ้าสำนัก
หรือว่าผู้อาวุโสใหญ่ของสำนัก
ยอดฝีมือที่น่ากลัวขั้นยาทองระดับเจ็ด และขั้นยาทองระดับแปด
ล้วนเป็นเช่นนี้
เขาเชื่อว่าหากตนเองมีเวลาที่เพียงพอ
ไม่นานก็จะสามารถแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาได้!
สำหรับกลุ่มวัยรุ่นรุ่นหลัง
ก็ยิ่งเป็นเช่นนี้
ในช่วงก่อนที่บุตรอริยสัจ พระบุตร บุตรธยานะจะถือกำเนิดขึ้นนั้น
เขาไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาเลย
ในจิตใจของเขา
ต่อให้บุตรอริยสัจ พระบุตร บุตรธยานะของสำนักใหญ่เหล่านั้น จะถือกำเนิดขึ้นจริง ๆ ก็ตาม
ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
และก็คงจะไม่สามารถแข็งแกร่งไปกว่าเขาด้วย!
พรสวรรค์ความสามารถ ก็คงไม่สูงไปมากกว่าเขาด้วย!
สำหรับตนเองนั้น
เขามีความมั่นอกมั่นใจในตัวเองอย่างที่สุด
สำหรับหลินชางฉองผู้ที่สังหารยอดฝีมืออาวุโสของสำนักเทียนหยุนหลายคนนั้น
ก็ไม่ได้ถูกเขานำเข้ามาเปรียบเทียบด้วยเลย
หลินชางฉองนั้น
มีโอกาสที่จะเป็นยอดฝีมืออาวุโส
มากกว่าโอกาสที่จะเป็นอัจฉริยะผู้เก่งกาจมากหลายเท่านัก
เขา
ในทั่วทั้งโลกคุนชาง
คืออันดับหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นรุ่นหลัง!
คืออันดับหนึ่งที่สมควรเหมาะสมที่สุด!
คืออันดับหนึ่งอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง!
แต่ในวันนี้ เวลานี้ เขากลับรู้สึกถึงความแตกต่างแล้ว