จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1302 จัดการเรื่องก่อนสักเล็กน้อย
ถึงทุกคนจะตกใจกับพละกำลังอันแข็งแกร่ง ที่หลินหยุนแสดงออกมา
อันที่จริงก็ยังตั้งสติไม่ได้ ยากที่จะเชื่อ
อิ่นเผิงเป็นยาทองระดับสอง เกือบถึงยาทองระดับสามอย่างไม่มีข้อจำกัด ทำไมเมื่อเผชิญหน้ากับสวะแบบนี้ ถึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบล่ะ
ถึงจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจริงๆ คนที่ชื่อหลินหยุน วันนี้คงถึงจุดจบแล้ว
อิ่นเผิงมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนคุณชายเทียนซิน
คุณชายเทียนซินจะนั่งดูดาย ไม่ทำอะไรได้อย่างไร
เป็นไปตามคาด มองหลินหยุนด้วยสายตาชั่วร้าย
ถึงขนาดที่ไม่สนใจศิษย์น้องสำนักตัวเองอย่างชื่อถง อิ่นเผิงพูดว่า ไอ้เด็กน้อย นายรอฉันก่อนเถอะ!
พูดจบ เขาก็เดินหันหลังออกจากห้องโถง ไปด้านหลัง
ส่วนหลินหยุนไม่ได้ลงมืออย่างหนัก ชื่อถงแค่บาดเจ็บเท่านั้น
เมื่อเห็นอิ่นเผิงออกไป เขาก็รีบตามไปด้วย
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หลินหยุนกับซิงเฟย พากันชี้นิ้วใส่ทั้งสองคน
ไม่นานก็มีคนจำนวนมากพากันมาอีก ล้วนเป็นคนที่มีฐานะสูง
คนที่มาแต่ละคน ล้วนสร้างความโกลาหลได้ไม่น้อย
หลินหยุนกับซิงเฟย กลับไปหาที่นั่ง
ไม่มี แมลงวัน มาบินรบกวนด้านหน้า ก็มีความสุขมาก
ผ่านไปไม่นาน คนที่ถูกเชิญมากันเกือบหมดแล้ว
คนของเก้าสำนักใหญ่ เป็นคนของสามสำนักใหญ่ที่มา
แน่นอนว่าไม่ใช่อัจฉริยะที่เก่งกาจของสำนัก เรียกได้ว่าแค่มีชื่อเสียงอยู่บ้างเท่านั้น
และมีสองคนจากสิบแปดสำนักเต๋า
เมื่อคนพวกนี้มาถึง ทุกคนถึงกับลืมเรื่องขัดแย้งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไปชั่วคราว
ต่างพากันมาล้อมพวกอัจฉริยะ และพูดเยินยอ
อัจฉริยะพวกนี้ต่างมีสีหน้าหยิ่งยโส
สำหรับการเยินยอของทุกคน ได้ผลเป็นอย่างมาก ถือว่าต่างเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
พวกคนตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลในเมืองกวางยักษ์ อยากใช้โอกาสนี้ ทำความรู้จักกับศิษย์อัจฉริยะของเหล่าสำนักใหญ่
ส่วนอัจฉริยะพวกนี้ ก็อยากรู้จักสภาพโดยรวมของทะเลกวางยักษ์มากยิ่งขึ้นเหมือนกัน
ได้รู้จักกับพวกตระกูลท้องถิ่นที่ทะเลกวางยักษ์ สำหรับพวกเขาแล้ว ก็มีข้อดีไม่น้อย นับได้ว่าเข้ากันได้เป็นอย่างดี
หลินหยุนกับซิงเฟย ก็กำลังมองคนพวกนั้นเหมือนกัน
ซิงเฟยพูดว่า คนพวกนี้ ไม่ใช่อัจฉริยะที่แท้จริง ล้วนเป็นพวกที่ไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานประลองยุทธเก้าสำนัก!
ถึงเป็นศิษย์คนสำคัญของแต่ของสำนักตัวเอง
แต่ไม่ถูกให้ความสำคัญเท่าไร!
เป็นเพียงบทบาทเล็กๆ เท่านั้น!
การมาครั้งนี้
น่าจะมีเป้าหมายสองอย่าง!
อย่างแรกคือ มาชมงาน!
อย่างที่สองคือ ดูว่าจะเจอโชคดี ได้อะไรดีๆ ที่ทะเลกวางยักษ์หรือเปล่า!
สำนักแต่ละสำนัก พวกเขาไม่ได้มีอะไรเลย!
แต่ตอนนี้พวกเขาออกมา!
นั่นจึงมีความแตกต่าง!
คนจำนวนมากไม่ได้เกรงกลัวผลการฝึกตนของพวกเขา แต่เกรงกลัวเบื้องหลังของพวกเขา!
ดังนั้น ถ้ามีโอกาสจริง จะโดนพวกเขาหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง
หลินหยุนพยักหน้า ไม่ต้องให้ซิงเฟยอธิบาย เขาก็พอจินตนาการได้
แต่เขาแค่แปลกใจ จนถึงตอนนี้คุณชายเทียนซิน ยังไม่โผล่หน้าออกมาเลย
ดูเหมือนว่างานเลี้ยงแบบนี้
คุณชายเทียนซินคงไม่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก จึงทำให้มีอิทธิพลเช่นนี้
แต่ความหมายที่จัดงานนี้ขึ้นมาอยู่ตรงไหนกัน
ถึงจะจัดขึ้นเพื่อทำความรู้จักกับศิษย์อัจฉริยะของสำนักใหญ่จริง
แต่ส่งผลแค่กับตัวคุณชายเทียนซินเท่านั้น
สำหรับทั้งสำนักกวางยักษ์ ผลที่ใช้งานได้มีขีดจำกัดมาก
เพราะที่พึ่งพิงอาศัยใหญ่ที่สุดของคุณชายเทียนซิน รวมไปถึงทั้งสำนักกวางยักษ์ ก็คือเมืองโบราณแห่งนี้
ถ้าออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นสำนักกวางยักษ์หรือตัวเขาเอง โดยพื้นฐานแล้ว แทบจะไม่มีอิทธิพลอะไรเลย
ทำไมยังต้องทำเรื่องแบบนี้ล่ะ
หรือบางที ยังมีเรื่องที่เขายังไม่รู้อยู่ในนั้น
สรุปว่าคุณชายเทียนซิน ต้องมีความคิดที่ไม่ให้คนรู้อย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขากลับยิ่งอยากรู้เกี่ยวกับคุณชายเทียนซิน
ซิงเฟยเห็นหลินหยุนไม่พูดต่อ ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา นายแน่ใจเหรอ ว่าเราจะอยู่ต่อ เมื่อกี้มีคนพูดว่าอิ่นเผิงรู้จักกับคุณชายเทียนซินเชียวนะ!
ตอนนี้ไอ้หมอนั่น ต้องไปหาคุณชายเทียนซินแน่ๆ!
ที่นี่คือเมืองกวางยักษ์ เป็นถิ่นของเขา!
ถ้าลงมืออย่างรุนแรง
เราจะเสี่ยงต่อการโดนเปิดเผยตัวตนนะ!
เมืองกวางยักษ์แห่งนี้ ไม่แน่อาจมีคนของสำนักเทียนหยุนอยู่!
ไม่กลัวการต่อสู้ แต่เธอกังวลว่าตัวตนจะเปิดเผยออกมา
ขืนถูกเปิดเผย อีกทั้งยังมีคนของสำนักเทียนหยุนอยู่ในเมืองนี้
จะทำให้เกิดความวุ่นวายมากมาย
หลินหยุนพูดอย่างราบเรียบว่า เธอคิดว่าตอนนี้เรายังออกไปได้เหรอ
ซิงเฟยได้ยิน ก็อดอึ้งไม่ได้ หมายความว่ายังไง
หลินหยุนพูดว่า เรานั่งอยู่ที่นี่ ไม่มีใครมาขัดขวาง แต่ถ้าจะออกไป ก็จะมีคนขัดขวางทันที
จู่ๆ ซิงเฟยพูดอย่างไม่อยากเชื่อ ไม่หรอกมั้ง
หลินหยุนพูดว่า เธอลองดูได้!
ซิงเฟยกำลังจะลุกขึ้น แต่หลังจากคิดดู ก็ไม่ได้ไปลองดู
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ จู่ๆ มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านหลัง คุณชายเทียนซินมาถึงแล้ว!
ทันใดนั้น ทุกคนพากันรีบลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง และหันไปมองที่ประตู
เห็นสาวรับใช้สองคนเลิกผ้าม่านออก ชายหนุ่มคิ้วโค้งเรียวเหมือนดาบ ดวงตาเป็นประกายดุจดวงดาว หน้าตาหล่อเหลา การแต่งกายหรูหรา เดินออกมา
อีกทั้งคนที่เพิ่งออกไปอย่างอิ่นเผิงกับชื่อถง ตอนนี้กำลังตามหลังคุณชายเทียนซินมาด้วย
คนที่ออกมาเป็นคนสุดท้าย เป็นผู้อาวุโสแต่งกายธรรมดาๆ ท่านหนึ่ง
คุณชายเทียนซิน!
ไม่พบคุณชายมานานมาก!
จากกันตั้งนาน ผลการฝึกตนของคุณชายก้าวหน้าขึ้นมาก!
ท่วงท่าของคุณชายดียิ่งกว่าเมื่อก่อน ยินดีด้วยจริงๆ ครับ!
.…..
เมื่อเห็นคุณชายเทียนซินมาถึง
อัจฉริยะจากสำนักใหญ่เหล่านั้น ต่างพากันเดินเข้ามากันก่อน
อีกทั้งยังพูดคำสรรเสริญเยินยอจำนวนมาก
ไม่ใช่อื่นใด ในเมืองกวางยักษ์แห่งนี้ อีกฝ่ายมีฐานะเช่นนี้
แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เมืองกวางยักษ์ นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เดินมาถึงกลางห้องโถง ข้างๆ คืออิ่นเผิงกับชื่อถง ด้านหลังเป็นผู้อาวุโสที่ดูไม่โดดเด่น
คุณชายเทียนซิน ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ เอามือประสานกันทำความเคารพ แล้วพูดกับทุกคนว่า ยินดีต้อนรับทุกท่านที่มาณ ที่นี้! วันนี้มีอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งคุนชาง ช่างเป็นเกียรติกับที่นี่มาก!
ทุกคนน่าจะรู้!
ทุกครั้งที่ถึงช่วงงานประลองยุทธเก้าสำนัก ฉันจะจัดงานเลี้ยงแบบนี้ขึ้นหนึ่งครั้ง
จุดประสงค์คือทำความรู้จักกับผู้มีความสามารถโดดเด่นอย่างทุกท่าน!
แน่นอนว่าจะสามารถมอบความช่วยเหลือ ที่พอช่วยได้ให้กับทุกท่านด้วย!
นี่เป็นชายฝั่งทะเลกวางยักษ์!
ทุกคนไม่ได้มาบ่อย!
คงรู้เกี่ยวกับทะเลกวางยักษ์ไม่มาก!
ทุกคนวางใจได้เลย!
มีคำถามอะไร สามารถมาสอบถามฉันได้!
ฉันจะพยายามคลายความสงสัยให้ทุกคนอย่างเต็มที่
หวังว่าจะได้ช่วยเหลือทุกท่าน!
ต่อไป งานเลี้ยงของเราวันนี้ ใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว!
แต่……
ก่อนจะเริ่มงานเลี้ยง
ฉันมีเรื่องหนึ่งต้องสะสาง
ทุกคนได้โปรดอภัยด้วย
คุณชายเทียนซินพูดจาฉะฉาน ไม่ถือตัวเลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อพูดถึงตรงนี้ แววตาล้ำลึกของเขา หันมามองยังหลินหยุนกับซิงเฟย ที่ยังนั่งอยู่ตรงมุมในตอนนี้