จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1307 ขอโทษ
การปรากฏของตราประทับทองคำ ทำให้ท้องฟ้ามีเสียงฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหว
เดิมทีท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่มีดวงดาวระยิบระยับ ดวงจันทร์กลมโต จู่ๆ ก็มีเมฆทึบและฟ้าร้อง กลายเป็นสีดำมืดสนิททันที
เมื่อสายฟ้าอันน่าตกใจฟาดลงมา ถึงจะทำให้ท้องฟ้ามีแสงสว่าง
พลานุภาพของสายฟ้าอันน่ากลัว สะท้านฟ้าสะเทือนดิน ราวกับทั้งโลกกลายเป็นเขตที่วางทุ่นระเบิดอันน่าตกใจ
ส่วนชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้ ใช้แส้สไตล์โบราณชี้ไปบนฟ้า
เปรี้ยงงงง
สายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัว โดนเขาเหนี่ยวนำลงมา แต่กลับไม่ได้หายไป
พลังของสายฟ้ารวมตัวอยู่ที่แส้อย่างต่อเนื่อง ชายวัยกลางคนโดนส่องจนเห็นได้อย่างชัดเจน
สายตาของเขา ยังคงจ้องอยู่ที่หลินหยุน
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า
ทุกคนที่มุงดู รีบขยับตัวไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้โดนพลังอันไร้เทียมทานของสายฟ้า
แข็งแกร่งมาก!
นี่เป็นวิชาควบคุมฟ้าร้องของสำนักเต๋าเฉินเซียวใช่ไหม
น่าสยองขวัญมาก!
นี่เป็นวิชาการเปลี่ยนแปลงฟ้าร้องที่สำนักเต๋าเฉินเซียวควบคุม
เห็นตราประทับทองคำนั่นไหม
นั่นน่าจะเป็นตราประทับสายฟ้าของสำนักเต๋าเฉินเซียว! ถึงไม่ใช่ตราประทับที่แท้จริง แต่ก็เป็นของล้ำค่า ที่เลียนแบบตราประทับสายฟ้าและหลอมออกมา
และเพราะการมีอยู่ของสิ่งล้ำค่านี้
ดังนั้นถึงแม้สองคนนี้จะไม่มีความสามารถเพียงพอ ในการควบคุมฟ้าร้อง แต่ตอนนี้ใช้มันออกมาแล้ว! อีกทั้งยังมีพลานุภาพที่น่ากลัวด้วย!
ไม่เลว!
อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่น่ากลัวขนาดนี้ ดูเหมือนจะทัดเทียมได้กับการโจมตี ของผู้บำเพ็ญเซียนยาทองระดับเจ็ดเลยนะ! ไอ้เด็กด้านล่าง ไม่รู้ว่าเป็นใคร ครั้งนี้ต้องตายแน่!
หึ! ไอ้เด็กนี่ก็ไม่ธรรมดา!
การโจมตีด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เมื่อกี้ สถานการณ์วุ่นวายไปหมด! ถ้าไม่มีที่มา จะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้เหรอ ดูเหมือนว่าที่มาจะไม่ใช่เล่นๆ!
แล้วจะทำไมอะไรได้ อยู่ต่อหน้ายอดฝีมือของสำนักเต๋าเฉินเซียวทั้งสองคน ก็คงต้องกลายเป็นผุยผง!
ดูเอาแล้วกัน ว่าไอ้หมอนี่มีความร้ายกาจจริงๆ!
อัจฉริยะที่เก่งกาจทั่วไป จะกล้าล่วงเกินสำนักเต๋าเฉินเซียวกับสำนักกวางยักษ์ พร้อมกันได้ยังไง อีกทั้งยังอยู่ในเมืองกวางยักษ์ด้วย!
กลัวว่าไอ้เด็กนี่จะมีที่พึ่งพิงจึงไม่กลัวน่ะสิ!
เหอะๆ อัจฉริยะที่เก่งกาจของโลกคุนชาง มีตั้งกี่คนที่ตายแบบนี้!
เอ่อ……พูดก็ถูก……
ขณะนั้น แส้ในมือของชายวัยกลางคน ที่ชี้ขึ้นไปบนฟ้า รวบรวมพลังสายฟ้าอันแข็งแกร่งเอาไว้มากมาย เหมือนมีประกายสายฟ้านับไม่ถ้วนล้อมรอบอยู่บนแส้
ไอ้หนุ่ม ในเมื่อนายรนหาที่ตาย งั้นฉันจะสนองให้นายเอง!
ฟ้าผ่า!
เมื่อพูดจบ ชายวัยกลางคนสะบัดแส้ในมืออย่างรวดเร็ว เหวี่ยงมาทางหลินหยุน
พลานุภาพของสายฟ้านับไม่ถ้วน ถาโถมเข้ามา
สะท้านฟ้าสะเทือนดิน
สยองขวัญจนถึงจุดที่ไม่ต้องสงสัย
ตอนนี้ ซิงเฟยที่ยืนด้านหลัง ไม่ห่างจากหลินหยุน หลับตาลงทันที ไม่กล้าดูต่อไป
ตัวสั่นอย่างรุนแรงไปทั้งตัว
นี่หลินหยุนยังยืนขวางหน้าเธอไว้ ต้านทานส่วนใหญ่ให้เธอ
ถ้าตอนนี้เธอต้องเผชิญหน้าเพียงคนเดียว เธอต้องโดนพลังของสายฟ้าอันน่ากลัว บดขยี้จนแหลกสลายแน่นอน
น่ากลัวเกินไปแล้ว
ส่วนหลินหยุนในตอนนี้ ร่างกายที่ไม่เรียกว่ากำยำบึกบึน ยังคงยืนอยู่ด้านหน้าเธอ ไม่ขยับไปไหนสักนิด
เห็นพลังสายฟ้าขนาดใหญ่ กำลังจะถาโถมเข้ามา
แววตาของหลินหยุนวูบไหว ออร่ามหัศจรรย์ปรากฏออกมา
จู่ๆ ร่างของเขาหายวับออกไป
ทันใดนั้น ร่างของเขาหายไปจากที่เดิม
วินาทีต่อมา เงาเซียนขนาดใหญ่ ที่พอจะสะเทือนฟ้าดินได้ ปรากฏออกมา
ในมือของเงา ถือกระบี่ขนาดใหญ่อันน่ากลัวไว้
ใช้ดาบสกัดนภาออกมา กระบี่ขนาดใหญ่พุ่งออกไปพร้อมความน่ากลัว ที่ไม่อาจบรรยายได้
ทันใดนั้น เกิดเสียงดังสนั่นสะท้านฟ้าสะเทือนเดิน
ฟ้าดินสั่นสะเทือน
สายฟ้าสลายหายไป
เงาเซียนยิ่งเลือนรางขึ้นอีก
จากนั้นก็สลายหายไปทันที
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ตราประทับทองคำกับแส้ก็หล่นลงทันที ทั้งสองกระอักเลือดออกมาพร้อมกัน
พลังสั่นสะเทือนอันทรงพลัง ทำให้ทั้งสองคนกระเด็นออกไป
ส่วนฝั่งหลินหยุน มีสีหน้าซีดลงเล็กน้อย
ถึงสองคนนี้มีแค่ยาทองระดับหก แต่เมื่อร่วมมือกัน ไม่ได้ด้อยไปกว่ายอดฝีมือยาทองระดับเจ็ดทั่วไปเลย
นี่ทำให้เขาสูญเสียพลังไปไม่น้อย
ตอนนี้ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว
แต่หลินหยุนกลับยังโอเค แค่สูญเสียพลังไป ยังไม่ถึงขั้นบาดเจ็บ
สูดหายใจเฮือก หลินหยุนกวาดตามองความว่างเปล่า
ตอนนี้ทุกคนเบิกตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ
อะไรที่เรียกว่าสยองขวัญน่ะเหรอ สิ่งนี้ยังไงล่ะ!
ความสยองขวัญอย่างแท้จริง!
นี่……นี่มันอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อะไรกัน……
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ไม่เคยเจออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่สยองขวัญขนาดนี้!
ไอ้เด็กนี่เป็นใครกันแน่
ขนาดยอดฝีมือยาทองระดับหกของสำนักเต๋าเฉินเซียว ร่วมมือกันตั้งสองคน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา……
นี่เป็นไปได้ยังไง
เหลือเชื่อจริงๆ!
มีคนเก่งอายุน้อยที่น่ากลัวขนาดนี้ อยู่ในโลกคุนชางตั้งแต่เมื่อไรกัน
เมื่อมีคนพูดประโยคนี้ออกมา
ทันใดนั้น ทุกคนถึงกับหน้าเปลี่ยนสี
พูดถึงเมื่อก่อน คนเก่งไร้เทียมทานในบรรดาคนอายุน้อย ต้องเป็นหวงฉาวของสำนักเทียนหยุน อย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่มีใครเหนือเขาได้ และไม่มีการโต้แย้งใดๆ!
แต่ถ้าพูดว่าใครจะสามารถเอาชนะหวงฉาวได้ อันที่จริงก็มี
อย่างน้อยตอนนี้ มีสองคนในโลกคุนชาง
คนแรกคือบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ
คนที่สองคือบุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ
ใช่! ทั้งสองคนนี้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!
แต่คนตรงหน้า ไม่มีทางเป็นบุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ
อย่าบอกนะว่า……เป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ
แต่ขณะนั้น มีลำแสงพุ่งเข้ามาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
เงาคนนั้นมาอยู่ข้างยอดฝีมือทั้งสองคนของสำนักเต๋าเฉินเซียว
จากนั้นหันมามองทางหลินหยุน
คนคนนี้อายุน้อยมาก หลินหยุนเคยเจอคนนี้ แต่เขาลืมไปแล้วว่าชื่ออะไร
ถึงหลินหยุนลืมไปแล้ว แต่นิ่งเป่ยเฉินกลับไม่กล้าลืม
จะลืมได้อย่างไรล่ะ! นี่คือบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจเชียวนะ!
สูดหายใจลึก นิ่งเป่ยเฉินประสานมือคำนับหลินหยุนอย่างนอบน้อม แล้วพูดว่า ท่าน สำนักเต๋าเฉินเซียวของฉันคงมีความผิดมาก
หวังว่าท่านจะเห็นแก่วาสนาที่เจอกันครั้งก่อน
ไม่ถือสาหาความเรื่องในวันนี้
ท่านเป็นคนใจกว้าง อย่าถือสาคนไม่รู้ความของสำนักเต๋าเฉินเซียวเลยครับ!
คำพูดของนิ่งเป่ยเฉิน สั่นสะเทือนไปทั่วทิศ
ทุกคนอุทานออกมาด้วยความตกใจทันที
พวกเขาเหลือเชื่อยิ่งกว่าผลการฝึกตนของหลินหยุนเสียอีก!
นี่เป็นสำนักเต๋าเฉินเซียวเลยนะ!
คนที่พูด คือที่หนึ่งในบรรดาคนอายุน้อยของสำนักเต๋าเฉินเซียว สมตามคำเล่าลือ!
คนที่รู้จักนิ่งเป่ยเฉิน รู้ดีว่านิ่งเป่ยเฉินนิสัยหัวแข็งดื้อรัน ทะนงตัวมากเกินไป
มีเพียงอัจฉริยะไร้เทียมทานอย่างหวงฉาว ที่จะทำให้เขายอมจำนนได้จากใจจริง
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!
ทันใดนั้น ทุกคนถึงกับช็อกไปหมด!
เด็กหนุ่มตรงหน้า ถึงจะแข็งแกร่งมาก อีกทั้งยังแข็งแกร่งกว่าหวงฉาวมาก แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ถึงขนาดทำให้นิ่งเป่ยเฉินผู้ยิ่งใหญ่ ยอมก้มหัวขอโทษ
ส่วนยอดฝีมือสำนักเต๋าเฉินเซียวที่ได้รับบาดเจ็บสองคน ก็ช็อกไปเหมือนกัน ทั้งสองสูดหายใจเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปทันที มองนิ่งเป่ยเฉินแล้วพูดอย่างโมโห เป่ยเฉิน นายรู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดอะไรอยู่