จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1309 เขาไม่ใช่บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ
สีหน้าฉวี่เทียนซินไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก
เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเจอของแข็ง
บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ!
คนเก่งไร้เทียมทานของสำนักอริยสัจ!
แม้ที่นี่เป็นถิ่นของสำนักกวางยักษ์ เป็นรังของสำนักกวางยักษ์
พวกเขาจะไม่กลัวสำนักไหนเลยก็ได้!
มองไปทั้งโลกคุนชาง แค่อยู่ในเมืองกวางยักษ์ ก็ไม่สามารถมีใคร อำนาจใด ทำอะไรพวกเขาได้!
นี่คือความมั่นใจของสำนักกวางยักษ์ เป็นพื้นฐานของการก่อตั้งสำนัก!
แต่นี่ไม่ได้แสดงว่า พวกเขาจะสามารถสู้กับใคร หรืออำนาจใด ได้อย่างไร้ความกลัว
มันกลับกัน!
ถึงมีความมั่นใจเช่นนี้อยู่ สำนักกวางยักษ์ก็อ่อนน้อมถ่อมตน
ไม่เคยขัดแย้งกับอำนาจใดมาก่อน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความแค้นแบบเป็นตาย!
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม สำนักกวางยักษ์ยังรอดปลอดภัยมาถึงทุกวันนี้
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมฉวี่เทียนซิน จึงจัดงานเลี้ยงอัจฉริยะ ทุกครั้งที่มีงานประลองยุทธเก้าสำนัก เพื่อช่วยพวกศิษย์อัจฉริยะของสำนักใหญ่พวกนั้น ตามกำลังที่จะช่วยได้
เพราะพวกเขาไม่มีทางอยู่ในเมืองกวางยักษ์โดยไม่ออกไปไหนตลอดชีวิต
ถ้าหาเรื่องศัตรูตัวฉกาจขึ้นมา คงจะต้องหดหัวอยู่ในเมืองกวางยักษ์ไปตลอดชีวิต
ดังนั้นตอนนี้ฉวี่เทียนซิน จึงรู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้ว
สูดหายใจลึก รีบประสานมือทำความเคารพหลินหยุน แล้วพูดว่า พี่หลิน พี่หลินเป็น……บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจในตำนานจริงๆ เหรอ
หลินหยุนพูดอย่างราบเรียบ ถ้าใช่แล้วจะทำไม ถ้าไม่ใช่แล้วจะทำไม
ฉวี่เทียนซินหน้าเปลี่ยนสี จู่ๆ ก็พูดอะไรไม่ออก เอ่อ……
คำถามนี้ตอบไม่ได้จริงๆ
อย่าบอกนะว่าถ้านายไม่ใช่บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ วันนี้นายจะตายอยู่ที่นี่เหรอ
ฉวี่เทียนซินพูดว่า บุตรอริยสัจพูดตลกแล้ว เรื่องนี้สำนักกวางยักษ์ของผม ก็ไม่ได้ก้าวก่ายอะไรมาก ก่อนหน้านี้ที่จวน เทียนซินก็ขอโทษบุตรอริยสัจแล้ว
แล้วก็พูดปกป้องบุตรอริยสัจด้วย
การที่พาผู้อาวุโสทั้งสองท่านในสำนักมา เพราะกังวลว่าจะเกิดการต่อสู้ในเมือง จนทำให้เกิดเหตุที่ไม่จำเป็น!
บุตรอริยสัจได้โปรดอย่าเข้าใจผิด!
แต่
ไม่ว่าอย่างไร สำหรับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เทียนซินขอโทษบุตรอริยสัจด้วย!
หวังว่าบุตรอริยสัจจะให้อภัย!
เมื่อฉวี่เทียนซินพูดคำเหล่านี้ออกมา
ถึงแม้คนจำนวนมาก ที่ยังคาดเดาตัวตนของหลินหยุนไม่ออก ก็รู้ทันที
บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ!
ไม่ว่าตอนไหน เพียงแค่บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจออกมา นั่นแสดงถึงผู้เก่งกาจไร้เทียมทาน ไม่มีผู้เก่งกาจไร้เทียมทานคนใดสามารถเทียบได้
บุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ พระบุตรแห่งสำนักปฏิบัติธรรม ล้วนแข็งแกร่งไร้เทียมทานเช่นกัน
ถึงขนาดที่สามารถเทียบได้กับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ
แต่ว่าเทียบได้นั่นอีกเรื่องหนึ่ง
จะเทียบได้หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างน้อยดูจากประวัติศาสตร์หลายปี
บุตรธยานะแห่งสำนักธยานะ พระบุตรแห่งสำนักปฏิบัติธรรม ยังด้อยกว่าบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจขั้นหนึ่ง
บุคคลสูงส่งเช่นนี้ ใครจะกล้าเฉยเมยล่ะ
แต่คนที่มุงดูตอนนี้ ยังตกอยู่ในสภาวะไม่อยากจะเชื่อ
คนหนุ่มตรงหน้า นอกจากผลการฝึกตนแล้ว ไม่มีเงาของบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจสักนิด
ไม่ต้องพูดถึงการที่หน้าตาธรรมดา แต่งกายงั้นๆ ไม่มีราศีโดดเด่นของยอดฝีมือเลย
นี่เป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจในตำนานจริงเหรอ
ช่างไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ!
แต่อย่างอื่นล้วนเป็นคำพูดไร้สาระ
มีเพียงผลการฝึกคนที่เป็นความจริง
นอกจากบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ ใครจะมีผลการฝึกตนอันน่ากลัว ในตอนที่อายุน้อยขนาดนี้ได้บ้าง
ต้องเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจแน่ๆ
ไม่เห็นเหรอว่าขนาดสำนักเต๋าเฉินเซียวอันยิ่งใหญ่ ยังถอยเลย
อย่ามองว่าอยู่ที่เมืองกวางยักษ์ แล้วเมืองกวางยักษ์ยังต้องยอมจำนนให้
ใครจะกล้าลงมือกับบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ!
ยิ่งไปกว่านั้น บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจคนนี้ ไม่เพียงแต่จะมีพละกำลังแข็งแกร่ง ต้องมีผู้คุ้มกันอยู่ด้วยแน่ๆ
สำนักกวางยักษ์ใช้กำลังของตัวเองเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถทำอะไรเขาได้!
เว้นแต่ว่า!
จะเปิดค่ายกลยุคโบราณกาลของเมืองกวางยักษ์!
แต่การเปิดค่ายกล พูดน่ะง่าย แต่สิ้นเปลืองมหาศาล!
ในสถานการณ์ปกติ สำนักกวางยักษ์ไม่สามารถแบกรับราคาขนาดนี้ได้!
อีกทั้งไม่ใช่ความแค้นถึงขั้นเป็นตาย ไม่จบไม่สิ้นอะไรขนาดนั้น
เห็นได้ชัดว่าคำพูดของฉวี่เทียนซิน ต้องการจะปรองดองกัน
แต่ทว่าขณะนั้น เงาแสงสีขาวเหาะเข้ามากะทันหัน
ลอยอยู่กลางอากาศ ปรากฏตัวออกมา
เป็นผู้หญิงในชุดคลุมยาวสีขาว ใบหน้าเรียกได้ว่าเย็นชามาก
ผู้หญิงรูปร่างผอมบาง หน้าตาสะสวย แต่ดูมีสีหน้าโกรธเคือง!
เมื่อปรากฏตัว ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนทันที
ดวงตาเย็นชาที่มีความโกรธของหญิงสาว หยุดลงที่หลินหยุน
ได้ยินเพียงเสียงเย็นชาของเธอ นายเป็นใครกันแน่ ถึงกล้าปลอมตัวเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจของฉัน ทำไมนายถึงกล้าแบบนี้
เมื่อหญิงสาวพูดเช่นนี้ออกมา ทุกคนอุทานออกมาอย่างตกใจอีกครั้ง
นี่มันอะไรกัน
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
ทำไมถึงกล้าพูดว่าคนคนนี้ ไม่ใช่บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ
ไม่ใช่มั้ง
ผลการฝึกตนของเด็กคนนี้น่าหวาดกลัวมาก จะไม่ใช่บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจเหรอ งั้นคนคนนี้คือใครกันล่ะ
เหอะๆ! ดูจะเหมือนกับที่ฉันคิด!
ผู้หญิงคนนี้ เป็นหนึ่งในอัจฉริยะสองพี่น้องไร้เทียมทาน ของสำนักอริยสัจ!
หา? เกิดอะไรขึ้น
สำนักอริยสัจมีพี่น้องคู่หนึ่ง พี่สาวชื่อเสิ่นปิงชิง น้องสาวชื่อเสิ่นยู่เจี๋ย ตั้งชื่อให้มีความหมายเปรียบเปรยหญิงสาวที่งามบริสุทธิ์ ทั้งกายและใจ
ส่วนผู้หญิงตรงหน้า คือพี่สาวที่ชื่อเสิ่นปิงชิง!
ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง!
นี่คือนางฟ้าปิงชิงในตำนาน!
หาที่เปรียบมิได้จริงๆ!
แต่……ในเมื่อคนนี้ไม่ใช่บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ งั้นเป็นใครกันแน่
เหอะๆ แค่ดูก็รู้แล้ว ปลอมตัวเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ……เรียกได้ว่ากล้าหาญจริงๆ!
คนนี้ใช้ตัวตนของบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ ท่องไปในคุนชาง ไม่รู้หลอกเอาสมบัติล้ำค่ามามากเท่าไร ครั้งนี้นางฟ้าปิงชิงปรากฏตัวออกมาแล้ว เรื่องนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่!
คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนนี้จะโกหก!
สายตาของหลินหยุน ก็หยุดอยู่ที่หญิงสาวเช่นกัน
เดิมทีซิงเฟยที่วางใจได้แล้ว ตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
หลินหยุนมองหญิงสาว แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า ฉันบอกตอนไหนว่าเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากหลินหยุน ในใจของทุกคนเกิดความพลุ่งพล่านอีกครั้ง
ไม่ใช่จริงๆ ด้วย!
ยอมรับจากปากตัวเองแล้ว!
ตอนนี้ทุกคน ถึงเป็นคนที่มามุงดู แววตาที่มองไปยังหลินหยุนในตอนนี้ ฉายแววโมโห รู้สึกว่าโดนหลอก
อีกด้านหนึ่ง ฉวี่เทียนซินกับผู้อาวุโสของสำนักกวางยักษ์ทั้งสองคน ก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
พวกเขากำลังจะยอมจำนนแล้ว
แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ถ้าจะพูดว่าใครโมโหที่สุด คงต้องเป็นพวกเขาสามคนแล้วล่ะ
แน่นอนว่ายังมีเสิ่นปิงชิงด้วย
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุนในตอนนี้ เสิ่นปิงชิงหัวเราะเย็นชา พูดตำหนิว่า ทำไม มาถึงตอนนี้ เสแสร้งไม่ได้แล้วเหรอ
นายปลอมตัวเป็นบุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจของฉัน ทำลายหน้าตาของสำนักอริยสัจของฉัน
ยิ่งไม่รู้ว่าไปหลอกคนข้างนอกตั้งเท่าไร
ได้ผลประโยชน์มาตั้งเท่าไร!
วันนี้ฉันจะให้ทางเลือกที่ช่วยชีวิตนายได้!
ถ้าไม่อย่างนั้น วันนี้ของปีหน้า จะเป็นวันครบรอบวันตายของนาย!