จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1334 เทียบค่าไม่ได้
ที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ขนาดเล็กและแคบมาก
และยังดูเป็นสถานที่ที่รกร้างมากด้วยเช่นกัน
ที่บอกว่ามันเล็กและแคบ เพราะที่แห่งนี้เปรียบเสมือนเป็นคอหอย
ทว่า ณ ที่แห่งนี้ ตำแหน่งทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันออกเฉียงใต้คือทะเลกวางยักษ์ ส่วนทางด้านทิศตะวันตกก็เป็นผืนทะเลทรายแห่งความตาย
ทะเลทรายแห่งความตายผืนนี้ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึง
ข้างในนั้นมีภูติทรายนับไม่ถ้วน ซึ่งน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
นับว่าเป็นอีกสถานที่หนี่งที่เข้าไปแล้วก็ไม่อาจกลับออกมาได้
เพียงแต่แค่ไม่เข้าไป ไม่ว่าจะอยู่ใกล้แค่ไหนก็จะไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น
และสถานที่งานประลองยุทธเก้าสำนัก ก็คือตำแหน่ง คอหอย ที่ว่านั่นเอง
ผ่านคอหอยอันนี้ ก็สามารถเข้าไปยังสุดหล้าทะเลได้
ที่แห่งนี้ ตอนต้นก็ได้เกริ่นไปแล้วว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีบวงสรวงในสมัยโบราณกาล
แม้กระทั่งฮ่องเต้ก็ต้องมาเยือนที่แห่งนี้ด้วยตัวเอง
ทว่าจะไม่ได้เข้าไปยังสุดหล้าทะเล
มีเพียงเผ่าสาปฟ้า หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตจากเผ่าสาปฟ้าแล้วเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าไปยังสุดหล้าทะเลได้
ที่นี่มีแท่นบูชาขนาดใหญ่
ใหญ่ประมาณไหนเหรอ?
บนแทนนั่นมีทั้งหมดเก้าชั้น
ชั้นล่างสุด ก็มีเนื้อที่เท่ากับอาณาเขตของคอหอย
จากนั้นก็ต่อขึ้นไปทีละชั้นๆ
กลายเป็น ยอดเขา ที่สูงประมาณพันจั้ง
ตอนที่ทั้งสามมาเยือนถึงบริเวณใกล้เคียง ก็มีศิษย์เก้าสำนักมาขวางทางไปอีกครั้งทันที
มีจำนวนคนทั้งหมดเก้าคน
และพวกเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญเซียนแดนยาทองระดับสาม
นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว!
เก้าคนร่วมมือกัน อย่าว่าแต่ยอดฝีมือแดนยาทองระดับสี่ ถึงเป็นระดับห้า ก็สามารถประมือได้อย่างสูสี
ศิษย์สำนักใหญ่เหล่านี้ ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่เห็นแน่ ๆ
พวกเขาต่างเป็นอัจฉริยะ
และก็เป็นผู้ที่สามารถสู้รบข้ามระดับได้
ไม่มีผู้ใดกล้าละเลยพลังแบบนี้
มีผู้พิทักษ์ที่เปรียบเสมือนลูกรักสวรรค์อยู่ที่นี่ ย่อมไม่มีใครกล้าแสดงท่าทีอะไรอยู่แล้ว
อันที่จริง
เหตุผลที่ส่งผู้บำเพ็ญเซียนระดับสามมา
ก็เพราะต้องการจะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความยิ่งใหญ่ของเก้าสำนัก
หรือไม่งั้น
ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาเก้าคนมาแทนก็ไม่มีใครริอาจมาเหิมเกริม
นอกเสียจากว่าใช้ชีวิตจนเอียนแล้ว
ตอนที่พวกเขาสามคนมาถึง ก็มีคนมารวมตัวกันไม่น้อยแล้ว
ที่นี่คือบริเวณนอกสุด ยังห่างจากแท่นบูชานั่นอีกประมาณสิบลี้
ร้อยกว่าคนที่อยู่ด้านหน้า ก็คงน่าจะต้องการเข้าไปยังแท่นบูชานั่น
ฝูงคนรวมตัวกันเรียงเป็นแถวยาว
หลังจากที่ซิงเฟยเก็บรถเมฆเสร็จ ทั้งสามคนก็เข้าไปต่อแถวตามลำดับ
เหล่าคนที่มาต่อแถวที่นี่ เห็นได้ชัดว่าต่างเป็นเจ้าขุนมูลนาย
ตัวตนย่อมต้องไม่ใช่คนธรรมดา
มีหลายคนในนั้น ที่มีกลิ่นอายฉกาจเป็นอย่างมาก
ลองสัมผัสรับรู้ดูเล็กน้อย
ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในขั้นแดนยาทองกันทั้งนั้น
กระทั่งมีคนมากมายที่เป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับสี่และระดับห้า
และยังมียอดฝีมือแดนยาทองระดับหกอยู่ในนั้น
เพียงแต่ ณ เวลานี้
ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ ในวันวาน พวกเขาอาจเป็นบุคคลระดับเจ้าเหนือหัวเลยก็ว่าได้
ตอนนี้กลับประพฤติตัวสงบเสงี่ยมมากๆ
มารวมตัวกันต่อแถวอย่างโดยดี ไม่แสดงท่าทีทะนงตนเลยแม้แต่น้อย
ประหนึ่งเป็นเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
ตรงด้านหน้าสุด ก็ไม่มีใครพล่ามวาจาไร้สาระที่ไม่จำเป็น
เมื่อจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง ก็จะได้แผ่นหยกแสดงตัวตนแผ่นหนึ่ง
จากนั้นก็จะสามารถเข้าไปยังด้านในได้
ดูเหมือนว่าคนที่มาต่อแถวที่นี่ ต่างรู้ดีว่าต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ จึงจะสามารถซื้อแผ่นหยกแสดงตัวตนนั่นได้
ฉะนั้นก็จึงไม่จำเป็นต้องมากความอะไร
ไม่นาน พวกหลินหยุนก็มาถึงด้านหน้า
โจวฮ่าวที่อยู่หน้าสุด มาถึงก็ยื่นน้ำชี่ทิพย์แสนหยดไปเลยทีเดียว
ไร้ความลังเลแบบหน้าไม่แดงหายใจไม่ติดขัด
เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็รู้ราคามาตั้งแต่แรก และเตรียมน้ำชี่ทิพย์มาเพียงพอ
อีกอย่าง
คนส่วนใหญ่ต่างก็ใช้น้ำชี่ทิพย์มาแลกชำระแผ่นหยกแสดงตัวตนกันทั้งนั้น
หลังจากที่โจวฮ่าวได้รับแผ่นหยกแสดงตัวตนแล้ว ก็พลันหันไปมองหลินหยุนและซิงเฟยที่อยู่ข้างหลังครู่หนึ่ง ก่อนจะก้าวเดินผ่านด่านเข้าไปข้างใน
ส่วนหลินหยุนก็เดินขึ้นไปหนึ่งก้าว
เขากวาดตามองศิษย์อัจฉริยะเก้าคนของสำนักใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลในศาลาหนึ่ง
ก่อนจะละสายตามามองชายหนุ่มสองคนที่รับผิดชอบแจกจ่ายแผ่นหยกแสดงตัวตน พลางเอ่ยเสียงเรียบว่า ถ้าไม่มีน้ำชี่ทิพย์ที่เพียงพอ จะสามารถใช้ของมีค่าอย่างอื่นแทนได้หรือไม่?
ทั้งสองได้ยินดังนั้นก็อึ้งชะงัก ก่อนจะหันมาเอ่ยตอบหลินหยุนว่า ได้อยู่แล้ว เพียงแค่มีมูลค่าเทียบเท่ากับน้ำชี่ทิพย์แสนหยดได้ก็ไม่มีปัญหา!
หลินหยุนพยักหน้า
ก่อนจะมีแสงสว่างส่องขึ้นที่มือ พร้อมกับเครื่องรางทิพย์ชั้นสูงสองชิ้นที่พลันปรากฏขึ้น
หลินหยุนเอ่ยเสียงเรียบว่า เครื่องรางทิพย์ชั้นสูงสองชิ้น แลกกับแผ่นหยกแสดงตัวตนสองแผ่น น่าจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกใช่ไหม?
เครื่องรางทิพย์ชั้นสูง
นับได้ว่าเป็นสิ่งของล้ำค่าที่ไม่อาจประเมินค่าได้
มีโอกาสเห็นได้น้อยยากยิ่ง
หากจะเทียบวัดด้วยน้ำชี่ทิพย์แสนหยด ก็น่าจะมีค่าสูสีกัน
ลูกศิษย์สองคนตาเป็นประกายทันที
จากนั้นก็รับเครื่องรางทิพย์สองชิ้นนั้นเอาไว้
มองดูอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะเอ่ยว่า พลังบำเพ็ญเซียนเรานั้นต่ำ ไม่อาจแยกออกว่าจริงหรือปลอม หรือของสิ่งนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ฉะนั้นโปรดรออยู่ที่นี่สักครู่
หลินหยุนพยักหน้า ไม่ได้ว่าอะไร
ศิษย์สองคนตรงหน้านี้ เพิ่งจะอยู่ในขั้นแดนฝึกพลัง
ก็ไม่แปลกที่จะมองไม่ออก
ไม่นาน ศิษย์คนหนึ่งก็วิ่งไปยังศาลาที่อยู่ไม่ไกล
ทันใดนั้น ศิษย์อัจฉริยะเก้าคนที่อยู่ในศาลานั่น ก็พลันมองมาที่หลินหยุนและซิงเฟย
พวกเขากล่าวอะไรสักอย่าง ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาทางนี้
ในเก้าคนนั้น มีชายหกคนและหญิงสามคน
การแต่งกายของพวกเขานั้นต่างดูมีเอกลักษณ์และสะดุดตา
สำนักอริยสัจมีสองคน
ไม่มีผู้บำเพ็ญเซียนแห่งสำนักธยานะ
เพราะในเก้าสำนักใหญ่ สำนักธยานะถือว่าค่อนข้างมีความพิเศษเป็นอย่างมาก
พวกเขาไม่มีที่ตั้งสำนัก
และก็ไม่มีลูกศิษย์ที่มากเกินความจำเป็น
ทุกรุ่นจะมีผู้สืบทอดเพียงผู้เดียว นั่นก็คือบุตรธยานะ
เห็นได้ชัดว่า บุตรธยานะจะไม่มีทางมาเยือนที่แบบนี้
ดังนั้นที่ว่างอีกตำแหน่งหนึ่ง ก็ย่อมถูกเข้ามาทดแทนโดยลูกศิษย์แห่งสำนักอริยสัจ
ทั้งเก้าคนมุ่งหน้ามายังทางนี้
ลูกศิษย์สองคนแห่งสำนักอริยสัจเดินนำอยู่ด้านหน้าสุด
พวกเขามองมาที่หลินหยุน พลันมีชายหนึ่งในนั้นเอ่ยว่า เครื่องรางทิพย์ชั้นสูงสองชิ้นนี้ เป็นของนายงั้นเหรอ?
หลินหยุนพยักหน้า
อีกฝ่ายหยิบเครื่องรางทิพย์ทั้งสองชิ้นนี้ขึ้นมา แล้วเอาชิ้นหนึ่งให้ลูกศิษย์หญิงอีกคนแห่งสำนักอริยสัจที่อยู่ข้างหลัง
ทันทีที่เห็นลูกศิษย์หญิงคนนี้
หลินหยุนก็อดเผยแววตาแปลกใจไม่ได้
นั่นเป็นเพราะว่า เขาเคยเห็นหญิงสาวคนนี้มาก่อน
ตอนนั้น เมื่อครั้งที่มีสงครามใหญ่นอกเมืองกวางยักษ์
ก็คือหญิงสาวคนนี้ ที่เปิดโปงว่าเธอนั้นไม่ใช่บุตรอริยสัจแห่งสำนักอริยสัจ อีกทั้งยังลำพอง คิดจะเอาตัวเขากลับไปลงโทษที่สำนักอริยสัจ
สองคนนี้ไม่ว่าจะหน้าตา การแต่งกาย หรือกลิ่นอาย ก็แทบจะเหมือนกันทุกอย่าง
ทว่า
หลินหยุนเองก็ชะงักเพียงชั่วครู่
จากนั้นก็ละสายตากลับมาทันที
น่าจะเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน
ชายหนุ่มและหญิงสาวทั้งสองคนปลดปล่อยพลังทิพย์เข้าไปในเครื่องรางทิพย์พร้อมกัน
ทันใดนั้น แววตาของพวกเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ทั้งคู่หันขวับมามองหน้ากัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง
ชายหนุ่มหันมามองหลินหยุนและกล่าวว่า เครื่องรางทิพย์ทั้งสองชิ้นนี้นับว่าไม่เลว ทว่า ระดับเครื่องรางทิพย์ชั้นสูงแบบนี้ กลับเทียบค่าไม่ได้กับน้ำชี่ทิพย์แสนหยด
หากท่านต้องการแผ่นหยกแสดงตัวตน ก็ต้องเพิ่มสิ่งของมาแลก!
สิ้นเสียง
ไม่รอหลินหยุนปริปากพูด ซิงเฟยที่อยู่ข้างหลังก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า พวกนายดูของดีไม่ออกหรือยังไง? เครื่องรางทิพย์ชั้นสูงทั้งสองชิ้นนี้ ต่างก็เป็นของล้ำค่าที่ใกล้เคียงกับเครื่องรางทิพย์ชั้นยอดมากแล้ว
ชิ้นเดียวจะเทียบค่าไม่ได้กับน้ำชี่ทิพย์แสนหยดได้ยังไง?
พวกนายจงใจหาเรื่องมาทำให้ลำบากใจหรือเปล่า?