จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1343 สะเก็ดวิญญาณเทพ
บทที่ 1343 สะเก็ดวิญญาณเทพ
หลินหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พยักหน้าและกล่าวว่า ถือว่าเป็นหินพลอยชนิดหนึ่ง อีกอย่างเป็นประเภทที่หาพบได้ยาก
ดวงตาของโจวฮ่าวเป็นประกายขึ้นมาทันที และเขาถามอย่างรวดเร็วว่า พี่หลิน แก้วหินวิญญาณชนิดนี้มีประโยชน์อย่างไร?
หลินหยุนส่ายหัวและไม่ตอบคำถาม
เมื่อมองดูแก้วหินวิญญาณดวงเล็กๆ ที่ห่อหุ้มด้วยพลังทิพย์ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็มองไปที่ทะเลสีดำที่อยู่ข้างหน้าเขาอีกครั้ง
แก้วหินวิญญาณ อันที่จริงเป็นแค่ชื่อย่อ
อันที่จริงมันยังมีชื่อเต็มเรียกว่าสะเก็ดวิญญาณเทพ
แล้ววิญญาณเทพคืออะไร?
ทุกคนรู้ดีว่าดวงจิตย์เทพคืออะไร
สำหรับผู้บำเพ็ญแล้ว เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
ผู้บำเพ็ญฝึกฝนนั้น
โดยทั่วไปสามารถเลือกได้สองทาง ซึ่งทั้งสองทางได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถบรรลุนิพพานทั้งสองทาง
หนึ่งทางคือหนึ่งทางกาย
ประการที่สองคือทางดวงจิตเทพ มีอีกชื่อหนึ่งว่าวิญญาณเทพ
นั่นหมายความว่า
เมื่อดวงจิตเทพแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่ง มันจะกลายเป็นทะเลแห่งพลังจิต และเมื่อทะเลแห่งพลังจิตเติบโตขึ้น ก็จะเกิดวิญญาณเทพ
และแก้วหินวิญญาณ
ถือกำเนิดขึ้นในทะเลดวงจิตเทพของผู้บำเพ็ญ
หากแม่นยำกว่านี้ มันคือการเปลี่ยนแปลงมาจากวิญญาณเทพ
สิ่งนี้จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อผู้แข็งแกร่งที่สุดได้ล่มสลาย และเวลาผ่านไปนานหลายปี จึงอาจเกิดได้
เปรียบได้กับสมบัติทั่วฟ้าดินอันล้ำค่าที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับดวงจิตเทพหรือว่าวิญญาณเทพนั้น มันมีค่าอย่างมาก
สิ่งที่ทำให้หลินหยุนตกตะลึงอย่างมากคือ ทะเลสีดำนี้กว้างใหญ่อย่างมาก
อาจไม่ถึงขั้นเป็นทะเลแห่งวิญญาณเทพของเหล่าผู้แข็งแกร่งเท่านั้น
เพราะหากมีทะเลวิญญาณเทพที่กว้างใหญ่เช่นนี้
เกรงว่าคงเป็นระดับของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แล้ว
ยิ่งกว่านั้นอาจไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์
แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถมั่นใจได้ นั่นก็คือ ที่แห่งนี้มีผู้แข็งแกร่งล่วงลับอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน
หรือว่า
นี่คือผู้แข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ของเผ่าสาปฟ้า
หรืออาจจะไม่
ดวงตาของเขาขยับ หลินหยุนหันไปมองโจวฮ่าว ที่อยู่ข้างหลังและถามว่า ในบันทึกของตระกูลเจ้า มีทะเลสีดำนี้ด้วยหรือ?
โจวฮ่าวพยักหน้าและกล่าวว่า มี! จารึกไว้เพียงเล็กน้อย เพียงแค่บอกว่ามีทะเลสีดำนี้ ส่วนข้อมูลอื่นมิได้บอกกล่าว
หลินหยุนพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า เช่นนั้น มีเวลาที่จารึกแน่ชัดหรือไม่ หมายความว่า ทะเลสีดำนี้มีอยู่นานแค่ไหนแล้ว?
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวฮ่าวอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น ไม่มีเวลาที่แน่ชัดหรอก มีเพียงแต่ข้อความเท่านั้น เพียงแค่จารึกง่าย ๆว่าในสุดหล้าทะเลที่เผ่าสาปฟ้าอาศัยนั้น มีทะเลสีดำอยู่
ที่เหลือก็ไม่มีอะไร
หลินหยุนมองโจวฮ่าวด้วยความครุ่นคิด
โจวฮ่าวรีบพูด พี่หลิน สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง ไม่ได้ปิดบังเลย ถ้าพี่หลินไม่เชื่อ ฉันขอสาบานต่อสวรรค์ได้
หลินหยุนส่ายหัวและพูดว่า ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
โจวฮ่าวจะพูดจริงหรือเท็จนั้น เขาไม่สนใจทั้งนั้น
ทางกลับกัน
ในขณะนี้โจวฮ่าวตะลึงในใจอย่างมาก
เพราะหลินหยุนสามารถรู้ได้มากมาย ซึ่งเกินความคาดหมายของเขาแล้ว
เห็นได้ชัดว่า หลินหยุนต้องมีภูมิหลังที่ลึกซึ้งมาก
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะยอมที่จะเข้าไปในสุดหล้าทะเลนี้
ดูเหมือนว่าเขาเองก็เตรียมพร้อมมาแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้
โจวฮ่าวแอบยิ้มอย่างขมขื่นในใจ
ก็จริง หากไม่มีการเตรียมการเลย จะกล้าเข้ามาง่ายๆ ได้อย่างไร?
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ จริงๆ แล้วหลินหยุนไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสุดหล้าทะเลนี้เลย
สิ่งที่เขารู้ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะเขามีความรู้อย่างมากในชาติที่แล้ว
ตัวอย่างเช่นแก้วหินวิญญาณนี้
แม้แต่ในโลกแห่งการบำเพ็ญนั้น คนที่รู้ความเป็นอยู่ของมัน ก็คงเป็นคนที่สำคัญอย่างมาก
นั่นคือจำต้องบำเพ็ญถึงในระดับที่สูงเท่านั้น จึงจะเริ่มค่อยๆเข้าใจได้
มิใช่ใครที่ไหนก็สามารถสัมผัสได้
หลินหยุนกล่าวอย่างเฉยเมย อ่านหนังสือมามาก ไปในที่ต่างๆอยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่รู้ก็จะมากขึ้น มันมิได้พิเศษกระไร
โจวฮ่าวเบะปากในใจ คิดเพียงว่าหลินหยุนคงไม่อยากบอก
อันที่จริงสิ่งที่หลินหยุนพูดนั้นก็จริง
ชาติที่แล้วเขาเดินทางไปเยอะมาก
สิ่งที่เขาได้เห็นและได้ยิน
หากหาคนเล่านิทานมาเล่า ใช้สิบชาติก็คงเล่าไม่หมด
โจวฮ่าวพูดว่า พี่หลิน ถ้าอย่างนั้นเรา… ไปที่นั่นกันไหม?
หลินหยุนไม่ตอบ และมองดูทะเลสีดำที่อยู่ข้างหน้าต่อไป
ทะเลดำแห่งนี้เดิมอาจเป็นทะเลธรรมดา
แต่ มีผู้ที่แข็งแกร่งเสียชีวิตไปในนั้น
หลายปีต่อมา ทะเลแห่งวิญญาณเทพได้รวมตัวเป็นแก้วหินวิญญาณเทพ
หากว่าทะเลดำมีอยู่ก่อนการดำรงอยู่ของเผ่าสาปฟ้า เช่นนั้นตรงนี้คงไม่มีของมีค่ากระไรแล้ว
แม้ว่าจะมี เผ่าสาปฟ้าคงเอาไปนานแล้ว
ส่วนแก้วหินวิญญาณเทพในน้ำทะเลนี้
ได้ผ่านการขจัดคราบนานนับไม่ถ้วน มันสูญเสียผลประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง
เขารู้สึกได้ตั้งแต่แรกเริ่มที่จับมันขึ้นมา
พลังของวิญญาณเทพนั้นอ่อนแอมาก
เขารู้เรื่องเกี่ยวกับแก้วหินวิญญาณค่อนข้างมาก
หลังจากไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง หลินหยุนกล่าวว่า ที่นี่อาจอันตรายมาก เมื่อเราก้าวข้ามขึ้นไปในอากาศ อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดบนผิวน้ำทะเลนี้ พวกคุณจะต้องเตรียมพร้อม
โจวฮ่าวและซิงเฟยตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวฮ่าวรีบถาม พี่หลิน พี่หมายความว่าอย่างไร…
หลินหยุนกล่าวว่า มันเป็นแค่การคาดเดา! พวกคุณตามกลัวฉันมา!
ขณะที่พูด พวกเขาก็ก้าวขึ้นไปในอากาศ
และข้ามผ่านผิวทะเลไป
โจวฮ่าว และซิงเฟยตามหลังมาอย่างใกล้ชิด
ทะเลสีดำนี้จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก
ไม่นาน ทั้งสามก็มาถึงกลางผิวทะเล
ทันใดนั้น
พลังที่มองไม่เห็นเช่นมังกรก็โผล่ออกมาจากทะเลในทันที
วิกฤตที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้นทันทีในใจของหลินหยุน
วินาทีนั้น สีหน้าของหลินหยุนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ยาทองทำงานอย่างบ้าคลั่ง
ห่อหุ้มตัวเขาโจวฮ่าวและซิงเฟยเอาไว้
ยาทองระดับสี่ของเขานั้นไม่ธรรมดา ในนั้นมีไข่ไหมจัญไรไร้เงาอยู่
และวิญญาณเทพนั้น
เป็นสิ่งที่ไหมจัญไรไร้เงาชื่นชอบมากที่สุด
พลังแห่งวิญญาณเทพในทะเลนี้ แม้ว่าไม่รู้ว่ามันมีอยู่มากี่ปีแล้ว แต่ก็ยังทรงพลังอย่างมากสำหรับหลินหยุนในตอนนี้
แต่ เนื่องจากยาคำของหลินหยุน และเนื่องจากในยาทองนั้นมีไข่ของไหมจัญไรไร้เงาอยู่ จึงไม่เพียงแต่ต้านทานพลังของวิญญาณเทพเอาไว้ได้ และยังถูกยาทอง หรือไหมจัญไรไร้เงาดูดเข้าไปจำนวนมาก
หลินหยุนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า
ไข่ของไหมจัญไรไร้เงานั้นมีพลังมากขึ้นอยู่มาก
แต่ เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งมันก็เงียบไป
และเงียบอย่างมาก
หลังจากต้านทานการโจมตีของวิญญาณเทพ ดวงวิญญาณเทพหลายดวงก็พุ่งโจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
ดวงตาของหลินหยุนกะพริบ เขาจับโจวฮ่าวและซิงเฟยเอาไว้ และข้ามฝั่งไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันวิญญาณเทพจำนวนมากก็หลั่งไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากที่ยาทองของหลินหยุนต่อต้านสามครั้งติดต่อกันแล้ว มีลักษณ์เริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ
จากนั้นขณะที่มีพลังวิญญาณเทพที่แข็งแกร่งอย่างมากโจมตีเข้ามา ทั้งสามได้ข้ามทะเลและยืนอยู่บนพื้นดินได้อย่างสมบูรณ์พอดี
เมื่อทั้งสามคนยืนบนพื้นแล้ว วิญญาณเทพที่ดุร้ายก็หายไปในทันตา
สีหน้าของโจวฮ่าวและซิงเฟยต่างก็ขาวซีดอย่างมาก
พวกเขาหายใจอย่างหนัก.
แม้ว่าการโจมตีของวิญญาณเทพในตอนนั้นจะถูกหลินหยุนสกัดเอาไว้แล้ว แต่สำหรับเขาสองคนนั้น พวกเขาหวาดกลัวอย่างมากจนถึงขีดสุดแล้ว