จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1346 เป็นไปไม่ได้
ขณะนี้ เงาคนสองคนกำลังมาจากทางทะเลดำอย่างรวดเร็ว
คนหนึ่งคือยาทองระดับเจ็ด
ส่วนอีกคนคือยาทองระดับหก
พลานุภาพเช่นนี้ สำหรับยอดฝีมือสองท่านนี้แล้ว ถึงจะมีแรงกดดันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่นับว่าเป็นอะไร
ระหว่างที่ทั้งสองกะพริบตา ก็มาถึงตรงหน้าแล้ว
ลอยตัวห่างจากตำแหน่งของพวกหลินหยุน ห่างประมาณยี่สิบกว่าจั้งกว่า
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนสองคน
โจวฮ่าวกับซิงเฟย อดหรี่ตาลงไม่ได้
ส่วนชายวัยกลางคนทั้งสองคน กลับหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ มองไปทางหลินหยุน แล้วพูดว่า ไอ้หนุ่ม ภายในหุบเขานั้น มีสภาพเป็นอย่างไร พอจะบอกพวกเราได้หรือเปล่า
เดิมทีเราสองคนคิดว่าในหุบเขานั้น จะต้องอันตรายเป็นอย่างมาก
แต่คิดไม่ถึงว่านายจะรอดออกมาได้!
แต่นี่ถือเป็นเรื่องดี!
อย่างน้อยก็สามารถบอกข้อมูลภายในหุบเขานั้นให้เราสองคนได้!
ใบหน้าของชายวัยกลางคนทั้งสองคน มีรอยยิ้มยียวน
ลมปราณเพ่งเล็งไปที่พวกหลินหยุนทั้งสามคน
เหมือนล็อกเป้าหมายเอาไว้
ตามคาด
แดนยาทองหนึ่งคน ส่วนอีกสองคนไม่ใช่แดนยาทอง
เผชิญหน้ากับพวกเขาสองคน คนหนึ่งคือยอดฝีมือยาทองระดับเจ็ด
ส่วนอีกคนคือยอดฝีมือยาทองระดับหก
แน่นอนว่าไม่ต่างจากมดตัวเล็กๆ สามตัวสักเท่าไร
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนทั้งสองคน
หลินหยุนไม่ได้แปลกไป และไม่ได้รู้สึกแปลกใจ
แต่โจวฮ่าวกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก สีหน้าไม่สู้ดีสุดขีด
เขาหันไปมองชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมยาวดำ แล้วพูดว่า ท่านคือผู้อาวุโสเก่อเจิ้นของสำนักจวู้หลิงใช่ไหม
เดิมทีสมาธิของชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวดำ จดจ่ออยู่ที่หลินหยุน
ส่วนโจวฮ่าวกับซิงเฟย เขาแค่กวาดตามองเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อได้ยินคำพูดของโจวฮ่าว ชายวัยกลางคนดูมีท่าทางแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด
จึงหันไปมองทางโจวฮ่าว
หืม นายเป็นใคร ถึงรู้จักชื่อฉันด้วย
เมื่อโจวฮ่าวได้ยินก็ตกใจมาก รีบพูดว่า ผู้อาวุโส ผมเป็นเจ้าบ้านน้อยของตระกูลโจวแห่งเมืองโม่ เมื่อก่อนตระกูลโจวของเรา เคยติดต่อกับสำนักจวู้หลิงอยู่บ้าง โจวเจิ้นถิงปู่ของผม เคยเป็นศิษย์ของสำนักจวู้หลิง
ทุกวันนี้ในตระกูลของผม ยังคงบูชารูปภาพของผู้อาวุโสเจ้าสำนักจวู้หลิง อีกทั้งผู้อาวุโสทุกท่านด้วย
หลายปีมานี้ ทุกครั้งเมื่อถึงวันที่หนึ่งและวันที่สิบห้าของเดือน ปู่จะพาทุกคนในตระกูลไปสักการบูชา!
ดังนั้นผมจึงจำผู้อาวุโสได้ทันที!
เมื่อชายวัยกลางคนได้ยิน ก็อดอึ้งไปไม่ได้ หัวเราะแล้วพูดว่า โจวเจิ้นถิงเหรอ เหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง นายเป็นทายาทของศิษย์สำนักจวู้หลิง นับว่ามีความเกี่ยวข้องกันทางรากเหง้า
เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน โจวฮ่าวยิ่งตกใจและดีใจ รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า ใช่ครับผู้อาวุโส ขอให้ผู้อาวุโสเห็นแก่ความเกี่ยวข้องกันทางรากเหง้า ไว้ชีวิตผมสักครั้ง!
ชายวัยกลางคนเงียบไปครู่หนึ่ง หัวเราะแล้วพูดว่า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นจะไว้ชีวิตนาย รีบออกไปจากที่นี่ และจะไม่ถือสาเอาความ!
โจวฮ่าวดีใจมาก รีบพูดว่า ขอบคุณมากครับผู้อาวุโส! ขอบคุณมากครับผู้อาวุโส!
พูดพลาง เขาพุ่งตัวออกไปทางทะเลดำ
ชายวัยกลางคนคนนั้น ไม่ขัดขวางจริงๆ
เมื่อเห็นโจวฮ่าวเหาะหนีไป ชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีดินเหลืองอีกคนหนึ่ง แววตาวูบไหว มองชายชุดคลุมดำแล้วพูดว่า ศิษย์พี่……
ชายชุดคลุมดำโบกมือไปมา แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า ไม่เป็นไร!
ชายวัยกลางคนชุดคลุมยาวสีดินเหลืองเห็นเช่นนั้น จึงไม่พูดอะไรมาก สายตาของทั้งสอง จับจ้องไปที่หลินหยุนอีกครั้ง
ชายวัยกลางคนชุดคลุมยาวดำพูดว่า ทำไม ไม่อยากพูดเหรอ
หลินหยุนก็มองอีกฝ่าย เอ่ยปากพูดอย่างเฉยเมยว่า ฉันแค่กำลังคิดอยู่ พวกนายควรมีสามคนไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงหายไปหนึ่งคนล่ะ อย่าบอกนะว่าตอนผ่านทะเลดำนั่นมา โดนสะเก็ดวิญญาณเทพในนั้นฆ่าตายเหรอ
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน สีหน้าของชายวัยกลางคนทั้งสองเปลี่ยนไปทันที!
สายตาที่มองหลินหยุนก็แหลมคมขึ้นมา
ชายวัยกลางคนชุดคลุมดำเค้นเสียงพูดออกมาว่า ไอ้หนุ่ม นายรับรู้การมีอยู่ของพวกเราเหรอ
หลินหยุนพูดว่า ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเดินอยู่ด้านหน้า ตอนที่กำลังจะเข้ามา พวกนายคงไม่มีโอกาสได้ตามมาหรอก หุ่นชิดพวกนั้น ถึงพวกนายสามคนจัดการได้ ก็ต้องทุ่มเทกำลังอย่างมาก
แต่ถึงแม้พวกนายตามหลังมา น่าเสียดายที่ต้องสูญเสียไปในทะเลดำหนึ่งคน
แน่นอนว่าไม่ใช่หลินหยุนไม่รู้ ว่าแท้จริงแล้วมีคนตามหลังมา
เขารู้ตั้งแต่ตอนที่เขาทำลายหุ่นจำลองแล้ว
เดิมทีเขากะว่าจะกำจัดเสียก่อน
แต่หลังจากเห็นทะเลดำผืนนั้น เขาจึงเปลี่ยนความคิด
ชายวัยกลางคนชุดคลุมยาวสีดินเหลืองพูดอย่างตกใจ ไอ้หนุ่ม นายรู้การมีอยู่ของเราได้ยังไง
หลินหยุนไม่ได้ตอบคำถามนี้ กลับย้อนถามว่า พวกนายกล้าปรากฏตัวในสุดหล้าทะเลแห่งนี้ แสดงว่ารู้เกี่ยวกับที่แห่งนี้อยู่บ้าง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ บอกเรื่องที่พวกนายรู้ออกมาจะดีกว่า
ถ้าบอกมา ฉันจะพิจารณาไว้ชีวิตพวกนายดู
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ตอนแรกชายวัยกลางคนทั้งสองคนอึ้งไป จากนั้นจึงหัวเราะร่าออกมา
เมื่อหัวเราะอยู่พักใหญ่ ชายวัยกลางคนชุดคลุมดำพูดว่า ไอ้หนุ่ม นายว่าอะไรนะ จะไว้ชีวิตเราสองคนงั้นเหรอ
ชายวัยกลางคนชุดคลุมยาวสีดินเหลืองก็แสยะยิ้ม แล้วพูดว่า คุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอายจริงๆ!
ชายชุดคลุมดำหัวเราะ หรี่ตามองหลินหยุน ไอ้หนุ่ม ฉันว่านายคงยังไม่เคยตายสินะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฉันจะทำให้นายตายสักรอบ!
เขาพูดจบ ฟาดฝ่ามือกลางอากาศลงมาทางหลินหยุน
ฝ่ามือที่มองไม่เห็น ไร้เทียมทาน โจมตีมาทางหลินหยุนอย่างแรง
ขณะนั้น หลินหยุนก็กระแทกหมัดออกไป
ตู้มมม——
ได้ยินเพียงเสียงระเบิด
แรงสั่นสะเทือนมหาศาล แผ่ซ่านมาอย่างรวดเร็ว
ชายวัยกลางคนชุดคลุมดำกับหลินหยุน ยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ถอยหลังไปสักนิด
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
โดยเฉพาะชายวัยกลางคนชุดคลุมดำ ภายในดวงตาเรียว เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
นี่……นี่เป็นไปได้ยังไง
ไอ้หนุ่ม ผลการฝึกตนของนาย ไม่มีทางเกินยาทองระดับสาม ทำไมถึงต้านทานการโจมตีของฉันได้
เขามีผลการฝึกตนยาทองระดับเจ็ด
ถึงเมื่อครู่จะไม่ได้ใช้พลังออกมาทั้งหมด แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้บำเพ็ญเซียนยาทองระดับห้าลงไป จะสามารถต้านทานได้
ยิ่งไปกว่านั้น อย่าว่าแต่หลินหยุนจะบาดเจ็บสาหัสเลย ขนาดถอยหลังไป ยังไม่มีแม้แต่ครึ่งก้าวเลย
นี่เหมือนกับเจอผีชัดๆ
นาย นายเป็นใครกันแน่
หลินหยุนแสยะยิ้มแล้วพูดว่า ฉันพูดไปแล้ว ถ้านายบอกข้อมูลเกี่ยวกับสุดหล้าทะเลแห่งนี้ ฉันจะไว้ชีวิตนาย ขนาดผลการฝึกตนของฉัน นายยังมองไม่ออก กล้าลงมือต่อหน้าฉันเหรอ ทำไมนายถึงกล้าขนาดนี้
ชายวัยกลางคนชุดคลุมดำ สูดหายใจเฮือก นาย นายมีผลการฝึกตนอะไรกันแน่
หลินหยุนพูดอย่างเย้ยหยันว่า ยาทองระดับสี่!
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน ชายวัยกลางคนทั้งสองคน สั่นไปทั้งตัว ชายวัยกลางคนชุดคลุมดำพูดอย่างเคร่งขรึม เป็นไปไม่ได้!