จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 1369 การต่อสู้ของเจ้าสำนัก
สองคนนี้เป็นนักบำเพ็ญเซียนของสำนักฉิวซาน และพวกเขาก็มีชื่อเสียงมากๆ
คนแรกเป็นเจ้าสำนักฉิวซาน ส่วนอีกคนเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักฉิวซาน
สองคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับแปด ส่วนอีกคนเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับเจ็ด
พวกเขาขึ้นมาบนเวทีแล้วไม่พูดอะไรเลย พวกเขาโค้งคำนับสองเยว่และลงมือทันที
สองเยว่เปล่งเสียงไม่พอใจออกมา และต่อสู้กับยอดฝีมือสองคนนั้นทันที
เจ้าสำนักฉิวซานคนนี้ ถึงแม้เขาจะฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับแปดเหมือนกับสองเยว่ แต่เห็นได้อย่างชัดเจนพลังของเขาสู้สองเยว่ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีผู้อาวุโสใหญ่ที่เป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับเจ็ดเพิ่มมาหนึ่งคน เมื่อทั้งสองคนร่วมมือกัน ทำให้พวกเขาได้เปรียบสองเยว่ทันที
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถทำร้ายสองเยว่จนบาดเจ็บได้เลย
เมื่อมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น มีคนบางส่วนส่ายหัวทันที
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป วันนี้สำนักหยุนเยว่มีโอกาสสูงมากๆที่จะรักษาตำแหน่งเก้าสำนักใหญ่เอาไว้ได้
ต้องดูว่าทางฝั่งสำนักฉิวซาน พวกเขาจะยอมสู้อย่างสุดชีวิตหรือไม่
ถ้าพวกเขาไม่ยอมสู้อย่างสุดชีวิต โอกาสชนะคงมีน้อยมากๆ
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสใหญ่ที่ฝึกฝนถึงแดนยาทองระดับเจ็บ ตอนนี้เขาเผาผลาญเลือดสารจิงของตัวเองทันที
เมื่อเลือดสารจิงถูกเผาผลาญ พลังของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากแดนยาทองระดับเจ็ดขั้นสูงสุด พุ่งขึ้นไปถึงแดนยาทองระดับแปดทันที
ยอดฝีมือแดนยาทองระดับแปดสองคน สู้กับยอดฝีมือแดนยาทองระดับแปดเพียงคนเดียว ทำให้พวกเขาได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด
เดิมทีพวกเขาต่อสู้กันอย่างสูสี แต่ตอนนี้สองเยว่เสียเปรียบมากๆ
เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนในสำนักหยุนเยว่รู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที
ทางด้านสี่เยว่ สีหน้าของเธอแย่มากๆ เธอคาดคิดไม่ถึงจริงๆว่าสองเยว่จะเลือกวิธีนี้
เมื่อสองเยว่เสียเปรียบมากๆ ทำให้ยอดฝีมือสองคนของสำนักฉิวซานโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ผู้อาวุโสใหญ่ที่เผาผลาญเลือดสารจิงคนนั้น โจมตีท่าไม้ตายด้วยความบ้าคลั่ง
ผ่านไปไม่นาน สองเยว่ก็เริ่มได้รับบาดเจ็บ
เจ้าสำนักที่แข็งแกร่งกว่า เมื่อเขาลงมือโจมตี สองเยว่ก็ไม่มีทางหลบหนีได้เลย
เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ ทำให้สองเยว่รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
ผ้าแพรสีขาวโบยบินอยู่ในมือ ในที่สุดเธอก็ใช้วิชาอิทธิฤทธิ์แสนยิ่งใหญ่ของสำนักหยุนเยว่ออกมา และปะทะกับผู้อาวุโสใหญ่ที่เผาผลาญเลือดสารจิงคนนั้นทันที
ทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บและปลิวออกไปทันที ผู้อาวุโสใหญ่คนนั้นบาดเจ็บสาหัสมากกว่า
แต่ในเวลานี้ เจ้าสำนักฉิวซานก็ลงมืออย่างรวดเร็ว เขาปล่อยวิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่ร้ายกาจมากๆออกมาและโจมตีใส่สองเยว่ทันที
สองเยว่โดนพลังนี้โจมตีอย่างจัง
เธอปลิวออกไปอีกครั้งและกระอักเลือดสดไม่หยุด สีหน้าของเธอขาวซีดราวกับกระดาษ
เจ้าสำนักฉิวซานหัวเราะอย่างเย็นชาทันที จากนั้นเขาก็เผาผลาญเลือดสารจิงของตัวเอง ทำให้พลังอันน่ากลัวของเขาปะทุออกมาทันที
พลังของเขาเทียบเท่ายอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าแล้ว
โซ่สีดำที่อยู่ในมือก็ปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวและแปลกประหลาดออกมา และโจมตีใส่สองเยว่ทันที
สองเยว่ก็เผาผลาญเลือดสารจิงของตัวเองเช่นกัน
ผ้าแพรสีขาวที่อยู่ในมือขาดเป็นท่อนๆ กลายเป็นหมอกควันสีขาวเต็มท้องฟ้า
หมอกควันปกคลุมพวกเขาสองคนเอาไว้ด้านในทันที
จากนั้นก็มีแผ่นหยกพุ่งออกจากมือ และโจมตีใส่โซ่สีดำที่น่ากลัวมากๆทันที
ตูม——
หลังจากเสียงตูมดังขึ้นแล้ว ทำให้เวทีการประลองสั่นสะเทือนไปด้วย
สองเยว่ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เธอบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และมือของเธอก็ใช้วิชาประหลาดออกมาทันที
หมอกควันสีขาวกลายเป็นตาข่ายทันที และกักขังยอดฝีมือสองคนของสำนักฉิวซานเอาไว้ด้านใน
ทั้งสองคนโดนกักขังอยู่ด้านในตาข่ายสีขาว ทำให้พวกเขาไม่มีทางตอบโต้ได้เลย
ในเวลานี้ สองเยว่เดินมาถึงด้านหน้าสุด
มีมีดสั้นเล็กๆเล่มหนึ่ง ได้จออยู่บนคอหอยของยอดฝีมือสองคนทันที
หลังจากหมอกควันหายไป
เมื่อทุกคนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนหายใจเร็วด้วยความตกใจ
ผู้อาวุโสของสำนักฉิวซานคนนั้น เนื่องจากเขาเผาผลาญเลือดสารจิงไปมาก ตอนนี้ร่างกายของเขาผอมแห้งมากๆและมีพลังชีวิตเหลือน้อยมากๆ
ในเวลานี้ ทุกคนเบิกตากว้าง และรู้สึกเหลือเชื่อมากๆ
สองเยว่สู้กับยอดฝีมือสองคนพร้อมกัน ผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักฉิวซานคนนั้น พูดได้เลยว่าเขาเผาผลาญเลือดสารจิงของตัวเองตั้งแต่เริ่มการต่อสู้
พูดได้ตามตรงเลยว่ามียอดฝีมือแดนยาทองระดับแปดสองคนสู้กับสองเยว่พร้อมกัน
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แต่สองเยว่ก็ยังเอาชนะได้
เรื่องนี้ทำให้คนส่วนใหญ่คาดคิดไม่ถึงจริงๆ
ด้วยพลังของเธอในตอนนี้ น่าจะฝึกฝนจนใกล้จะถึงแดนยาทองระดับเก้าแล้ว!
ในเวลานี้ ดวงตาของสี่เยว่ก็กระตุกทันที
เธอคาดคิดไม่ถึงจริงๆว่าพลังของสองเยว่จะฝึกฝนถึงระดับนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม……
……
สองเยว่เก็บกระบี่ยาวกลับมา จากนั้นเธอก็กระอักเลือดสดคำหนึ่งออกมาและลงจากเวทีทันที
ในเวลานี้ ชายชราของสำนักอริยสัจได้เดินขึ้นมาบนเวที และประกาศผลการประลอง
สำนักหยุนเยว่เอาชนะการประลองเจ้าสำนักได้ ทำให้พวกเธอสามารถปกป้องตำแหน่งเก้าสำนักใหญ่เอาไว้ได้
หลังจากนี้ ก็คือการท้าประลองของสำนักเทียนหยุน
ชายชราที่เป็นเจ้าสำนักเทียนหยุน เขายังคงใส่ชุดที่คล้ายๆกับชาวนา บนร่างกายของเขาไม่มีพลังอะไรถูกปลอดปล่อยออกมาเลย
เมื่อเขาขึ้นไปบนเวที
ทุกคนอุทานขึ้นมาอีกครั้ง และสีหน้าของทุกคนก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
สำนักเทียนหยุนจะเลือกการประลองของเจ้าสำนักเหรอ?
ในสายตาของคนส่วนใหญ่ พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อมากๆ
เพราะในสำนักเทียนหยุน ยังมีอัจฉริยะอย่างหวงฉาวอยู่
มีข่าวลือว่าหวงฉาวกำลังฝึกฝนให้พลังของตัวเองมั่นคงอยู่
อย่างไรก็ตาม อัจฉริยะแบบนี้ ไม่ใช้ใครหน้าไหนก็สามารถเอาชนะเขาได้ง่ายๆ!
ในโลกคุนชาง นอกจากบุตรอริยสัจ พระบุตร บุตรธยานะ บุตรกระบี่ และหลินชางฉองแล้ว ในกลุ่มวัยรุ่นนั้น ไม่มีใครสามารถเทียบหวงฉาวได้อยู่แล้ว
ถึงแม้พลังของเขายังไม่มั่นคง แต่เขาก็สามารถรับมืออัจฉริยะวัยรุ่นของสิบแปดสำนักเต๋าได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สำนักเทียนหยุนไม่ได้ให้หวงฉาวออกมาประลองอยู่แล้ว
เมื่อเจ้าสำนักเทียนหยุนขึ้นไปบนเวที เขาก็พูดเบาๆ ในเมื่อสำนักหยุนเยว่เลือกการประลองเจ้าสำนัก ถ้างั้นสำนักเทียนหยุนก็เลือกวิธีนี้เหมือนกัน!
เมื่อเขาพูดจบ ชายชราของสำนักอริยสัจก็จุดธูปทันทีและพูด ภายในเวลาหนึ่งก้านธูป ถ้าใครอยากท้าประลองก็ขึ้นมาบนเวทีได้เลย ถ้าเวลาหนึ่งก้านธูปหมด ก็ถือว่าทุกคนสละสิทธิ์!
เมื่อพูดจบ ชายชราก็ลงจากเวทีทันที
ในเวลานี้ สายตาของทุกคนต่างมองไปที่สำนักเฮยสุ่ยกับสำนักจวู้หลิงทันที
โอกาสแบบนี้ ไม่ใช่สามารถได้มาอย่างง่ายดายอยู่แล้ว
ทุกคนก็อยากรู้เหมือนกัน สองสำนักนี้ พวกเขาจะเลือกยังไง!
ในเวลานี้ คนของสำนักจวู้หลิงมองไปที่สำนักเฮยสุ่ยที่อยู่อีกฝั่งทันที
ผ่านไปไม่นาน
เจ้าสำนักของทั้งสองสำนักก็ขึ้นไปบนเวทีทันที
เจ้าสำนักสองคน ต่างเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับแปดขั้นสูงสุด
ขาดเพียงนิดเดียว พวกเขาก็สามารถเข้าสู่แดนยาทองระดับเก้าแล้ว
ส่วนชายชราที่เป็นเจ้าสำนักเทียนหยุน เขาเป็นยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าจริงๆ
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าจะเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคาดคิดเอาไว้
ทั้งสามคน ยืนอยู่บนเวทีด้วยความนิ่งสงบ ไม่มีใครขยับตัวเลย
เมื่อมองเห็นว่าหนึ่งก้านธูปกำลังจะเผาไหม้จนหมด แต่ก็ไม่มีใครมาสนใจเรื่องนี้
คนจำนวนมากที่อยู่ตรงนี้ อันที่จริงพวกเขาดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกเขาก็รอดูด้วยความร้อนรนใจ พวกเขาไม่รู้จริงๆทำไมยอดฝีมือสามคนนี้ถึงไม่ยอมต่อสู้กัน
มีเพียงยอดฝีมือแดนยาทองระดับเก้าเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มองออก พวกเขารู้อยู่แล้วว่าบนเวทีเกิดอะไรขึ้นกันแน่!