จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 173 ให้เจี่ยงสงเข้ามา
เมื่อหลินหยุนอ่านข้อความในมือถือแล้ว ก็รีบกลับไปอย่างไม่รีรอ
แต่ว่า เมื่อเขามาถึงบ้านของอันซิน ครอบครัวของอันซินก็ไม่อยู่แล้ว
หลินหยุนใช้พลังทิพย์หยั่งรู้แพร่กระจายวงกว้างที่สุด แล้วใช้เวทมนตร์ตามหากลิ่นอายของอันซิน ก็ตามมาถึงที่นี่
ในที่สุดก็มาทันเวลาที่คับขัน
ไอ้หน้าบากเฉียงใบหน้าแสดงความดีใจออกมา “คุณหลิน!”
“ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดคุณก็มาทันเวลาพอดี!”
อันซื่อเอินมองดูหลินหยุนที่เดินเข้ามาหาอย่างช้าๆ เหมือนคนที่กำลังจะจมน้ำแล้วรีบคว้าต้นหญ้าต้นสุดท้ายเอาไว้ ตะโกนด้วยความกังวลใจ “หลินหยุน รีบไปช่วยอันซินเร็ว!”
จางจื่อเห้าสะดุ้งตกใจ มองดูเงาร่างที่ผอมเพรียวบางของหลินหยุน ในใจก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
ราวกับว่า นั่นไม่ใช่หลินหยุน แต่เป็นภูตผีปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรกกำลังจะมาเอาชีวิตเขา
กงสวี้ก็รู้สึกว่าสันหลังเสียวเย็นวาบ แต่เขาไม่เชื่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
“แกก็คือหลินหยุนหรือ?”
กงสวี้มองดูหลินหยุนที่ค่อยๆเดินเข้ามา ถามด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
อันซินรีบยื่นหน้าออกมานอกรถ ตะโกนเรียกด้วยความดีใจ
“พี่หลินหยุนคะ ในที่สุดพี่ก็มาถึงแล้ว!”
หลินหยุนมองดูอันซินด้วยความสำนึกผิด
“ขอโทษครับ ไม่ทันได้อ่านข้อความของคุณ ทำให้คุณต้องตกใจ!”
อันซินลงมาจากรถ มองดูหลินหยุนด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน “ไม่เป็นไรค่ะ พี่หลินหยุนมาได้ก็ดีแล้ว!”
กงสวี้เห็นแล้วรู้สึกขัดใจ พูดด้วยรอยยิ้มที่แสนพิเรนทร์ “โย่ ดูซิท่าทางออเซาะฉอเลาะกันจังเลย น่าอิจฉาเสียจริง!”
“ไอ้หนู ฉันกำลังพูดกับแก แกไม่ได้ยินรึไง?”
หลินหยินมองดูกงสวี้ แล้วหันหน้าไปพูดกับอันซินด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “คุณรอเดี๋ยวนะ ผมขอจัดการกับพวกตัวแมลงวันพวกนี้ก่อน”
“ว่าใครเป็นแมลงวัน! รนหาที่ตายรึ!” พวกลูกน้องของกงจวี้ต่างตะคอกขึ้นมา แต่ว่าชายหนุ่มบางคนที่เคยเห็นฝีมือของหลินหยุนแล้ว กลับเตรียมพร้อมรับมืออย่างจริงจัง ราวกับว่ากำลังเผชิญกับการสู้รบครั้งใหญ่หลวง
สายตาของหลินหยุนหันไปมองจางจื่อเห้าที่ยืนอยู่ข้างกายกงสวี้ สายตาที่เยือกเย็นคมดั่งกระบี่ที่คมกริบ“แกอีกแล้วเหรอ”
“แกมันสมควรตาย!” สายตาของหลินหยุนแสดงออกถึงความเกลียดชัง ค่อย ๆ เดินไปยังจางจื่อเห้า
กงสวี้แสยะยิ้ม “ไอ้หนูน้อย อย่ามาวางท่าอวดเก่งต่อหน้าฉันเลย พวกเขาคุยอวดโวว่าแกเก่งกาจอย่างกับเทวดา มานี่ซิ ให้ฉันดูซิว่าแกจะเก่งกาจขนาดไหนกัน!”
จางจื่อเห้าเตือนด้วยความตื่นตระหนก “พี่สวี้ครับ พี่ระวังหน่อยนะ ไอ้หมอนี่พอมีฝีมืออยู่นะ!”
“ฮาๆ งั้นฉันก็ชักอยากจะเห็นแล้วสิ!” กงสวี้โบกมือเรียกพวกลูกน้อง แล้วตะโกนว่า “พวกแก ลุยเข้าไปเลย!”
“ครับนาย”
ชายหนุ่มสี่คนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เดินไปยังหลินหยุน
หลินหยุนก็เดินเข้าไปหาพวกเขา ด้วยความเร็วที่ไม่ช้าไม่เร็ว ราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่
“ไปตายเถอะ!” ชายหนุ่มสองคนชกหมัดไปยังหลินหยุนอย่างเต็มแรง
โป้ง โป้ง !
เสียงดังขึ้นสองครั้ง ชายหนุ่มสองคนก็ถูกหลินหยุนชกกระเด็นออกไป
ขาของหลินหยุนก็ยังไม่หยุดเดิน มุ่งหน้าไปยังจางจื่อเห้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ชายหนุ่มอีกสองคนเห็นเหตุการณ์ แล้วก็ตื่นตกใจ จากนั้นก็ออกปากด่าไป พลันบุกเข้าไปหาหลินหยุน
ผลสุดท้ายก็คือใช้สองหมัดเช่นกัน ชายหนุ่มทั้งสองคนก็ถูกชกกระเด็นออกไป นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
กงสวี้หน้าเปลี่ยนสี “ไอ้หนูน้อย ที่แท้ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง!”
“พวกแก ไปเอาอาวุธมา แล้วลุยเข้าไป จัดการเก็บมันเลย!” กงสวี้ตะโกนเสียงดังลั่น
ชายหนุ่มที่เหลืออยู่ไม่กี่คน ก็ไปหยิบอาวุธอย่างเช่นพวกกระบองเหล็ก มีดสั้น บุกเข้าไปหาหลินหยุนพร้อมกัน
แม้ว่าอันซินรู้ว่าฝีมือของหลินหยุนยอดเยี่ยมก็ตาม แต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “พี่หลินหยุนคะ ระวังค่ะ!”
โป้ง โป้ง โป้ง !
เสียงหมัดชกปะทะกับร่างคน เพียงแค่พริบตา ทั้งหมดก็ถูกชกปลิวกระเด็นออกไป
อันซื้นเอินสองสามีภรรยามองตาค้างด้วยความตกใจ
ไอ้หน้าบากเฉียงเห็นฉากนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น ความมุ่งมั่นของเขาไม่ทำให้ผิดหวังเลย ตอนนั้นที่เลือกเชื่อฟังคุณหลินก็ถูกต้องที่สุดแล้ว
ท่าทางของกงสวี้และจางจื่อเห้าตอนนี้ ก็เหมือนได้เห็นผียังไงยังงั้น
“เขา ร้ายกาจจริงๆ!”
แผ่นหลังของกงสวี้เหงื่อออกท่วมไปหมด เขาไม่เคยเห็นคนที่มีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้มาก่อนเลย
พวกลูกน้องของเขาพวกนี้ เวลาที่ไปจัดการกับคนธรรมดาทั่วไป โดยปกติก็คนเดียวต่อสามคน แต่ว่าอยู่ต่อหน้าหลินหยุน เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ถูกชกกระเด็นออกไปแล้ว
ตอนนี้หลินหยุนอยู่ห่างจากจางจื่อเห้าสองคน ไม่ถึงห้าเมตร
พวกกงสวี้สองคนก็ตกใจเดินถอยหลังไปไม่หยุด “ไอ้หนู แกคิดจะทำอะไร?”
“ฉันจะบอกให้นะ ลูกพี่ใหญ่เจียงเป็นน้าชายของฉัน ถ้าแกกล้าแตะต้องตัวฉันละก็ น้าชายฉันจะทำให้แกอยู่อย่างตายทั้งเป็น!”
กงสวี้รีบชักเอาธงรบของเจี่ยงสงออกมาข่มขู่
จางจื่อเห้าก็พูดเสริมอย่างนายว่าขี้ข้าพลอย “หลินหยุน ฉันขอเตือนแกให้ฉลาดหน่อย พี่สวี้เป็นถึงหลานชายของลูกพี่ใหญ่เจี่ยง แกอย่าทำอะไรวู่วาม!”
หลินหยุนไม่ได้สนใจแม้แต่นิดเดียว กดดันให้สองคนนั้นถอยไปถึงข้างรถยนต์ สองคนนั้นตกใจจนล้มนั่งลงไปกับพื้น
หลินหยุนเดินเข้าไป เอาขาเหยียบลงบนหน้าอกของจางจื่อเห้า นัยน์ตาส่องประกายแววสังหารออกมา
“คราวก่อนฉันปล่อยแกไป แกกลับไม่รู้จักสำนึกผิด กลับยิ่งทวีความร้ายแรงขึ้น ตัวเองทำกรรมไว้ ไม่สมควรอยู่ต่อไป!”
พูดจบ ขาของหลินหยุนเหยียบกระทืบลงไปเต็มแรง เสียงดังลั่นขึ้น แผ่นหน้าอกของจางจื่อเห้ายุบบุ๋มลงไปในพื้นดิน
จางจื่อเห้ายังไม่ทันที่จะอ้าปากพูดอะไร ก็อาเจียนเลือดออกมา ชีวิตก็ม้วยมรณา!
“โอ๊ย!” กงจวี้ตกใจตะโกนเสียงดังออกมา มองไปยังหลินหยุนด้วยความหวาดผวา
“แก แกถึงกับฆ่าคน! แกบ้าไปแล้วเหรอ?”
กงสวี้ตกใจจนปัสสาวะจะราดออกมา ต่อให้เขาจะก่อกวนอย่างไร ก็ไม่เคยที่จะฆ่าคนอย่างง่ายดายเช่นนี้
หากเกิดเหตุฆ่าคนตายขึ้น ทางการตำรวจจะต้องมาเกี่ยวข้องด้วย
แต่ว่า หลินหยุนถึงขนาดบอกว่าฆ่าก็ฆ่าเลย โดยไม่มีการลังเลใด ๆ ทั้งสิ้น การตัดสินใจในการสังหารที่เด็ดขาดเช่นนี้ทำให้ผู้คนหวาดกลัว
ไอ้หน้าบากเฉียงและอันซื่อเอินสองสามีภรรยา ใบหน้าต่างก็แสดงความตื่นตกใจออกมา
พวกเขาก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าหลินหยุนกล้าที่จะฆ่าคนได้
อันซินตกใจจนเอามือป้องปากตัวเองไว้ พยายามไม่ให้ตัวเองร้องออกมา มองไปยังหลินหยุนด้วยสายตาที่ปวดใจเล็กน้อย
หลินหยุนคงจะโกรธแค้นถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่ฆ่าคนอย่างแน่นอน!
ถ้าหากต้องชดใช้ด้วยชีวิต เช่นนั้นแล้วก็ขอให้ตัวเองตายแทนเขาเถอะ!
อันซินแอบตัดสินใจอยู่เงียบๆ
“ถึงคิวแกแล้ว” หลินหยุนพูดอย่างเรียบง่าย สายตามองไปยังกงสวี้
“แก แกกล้าเหรอ! ฉันจะโทรศัพท์ให้น้าชายตอนนี้ ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน น้าชายฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!” กงสวี้เอามือถือออกมา มือก็ยังสั่นไม่หยุด
หลินหยุนกลับหยุดไม่ลุยต่อ มองดูกงสวี้ “โทรเลย ฉันจะให้เวลาแก!”
เรื่องอย่างนี้ ทีหลังจะได้ไม่ต้องเกิดขึ้นอีก
ต่อให้กงสวี้ไม่หาเจี่ยงสง หลินหยุนก็ต้องไปหาเขาอยู่ดี
“ฮัลโหล น้า น้าชายครับ น้ารีบมาช่วยหลานเร็ว! มีคนจะฆ่าหลาน หลานอยู่ที่…” กงสวี้โทรศัพท์เสร็จแล้ว ก็รู้สึกโล่งอก
“แกรอเลยนะ น้าชายฉันกำลังจะมา เขาจะมาด้วยตัวเอง แน่จริงแกก็รออยู่ที่นี่!”
กงสวี้แสยะยิ้มด้วยความลำพองใจ
อันซินรู้สึกกังวลใจ เธอรู้ว่า น้าชายของกงสวี้ก็คือลูกพี่ใหญ่เจี่ยงสงแห่งเมืองหลินโจว และระดับลูกพี่ใหญ่เจี่ยง จะต้องมียอดฝีมือมากมายอยู่ข้างกายแน่นอน
อีกทั้งยังมีอาวุธปืนด้วย!
หลินหยุนไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างแน่นอน
อันซินสีหน้าแตกตื่น รีบเดินมาข้างกายหลินหยุน พูดอย่างกังวลว่า
“พี่หลินหยุนคะ อาศัยโอกาสนี้ พวกเรารีบหนีไปเถอะ! พวกเราสู้เจี่ยงสงไม่ได้หรอก นั่นเป็นผู้มีอิทธิพลของเมืองหลินโจวเลยทีเดียว!”
อันซื่อเอินสองสามีภรรยาก็ได้ยินชื่อเสียงของเจี่ยงสงมาก่อน อันซื่อเอินจึงรีบเตือนว่า “หลินหยุน คุณพาอันซินหนีไปก่อน ฉันจะอยู่ที่นี่ ถ้าเจี่ยงสงถามขึ้นมา ฉันจะบอกเขาว่าฉันเป็นคนฆ่าจางจื่อเห้าเอง!”
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว กงสวี้ใจฮึกเหิมขึ้นมาทันที
“ฮาฮาฮา ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วเหรอ? รีบหนีไปไหนกันล่ะ! รอให้น้าชายฉันมาถึงก่อนพวกแกหนีไม่พ้นแม้แต่คนเดียว!”
“ที่เมืองหลินโจวนี่ น้าชายฉันเป็นคนตัดสินทุกอย่าง!”
ไอ้หน้าบากเฉียงไม่พูดอะไร เขาเคยได้ยินพี่ตาวเคยพูดว่า คุณหลินเป็นคนที่ลูกพี่ใหญ่เจี่ยงยกย่องนับถือคนหนึ่ง
กงสวี้นี้อาศัยว่าตัวเองเป็นหลานชายของลูกพี่ใหญ่เจี่ยง รังแกผู้ชายข่มเหงผู้หญิง ทำชั่วสารพัด แม้กระทั่งยังไม่เห็นคุณหลินอยู่ในสายตาเลย
อีกสักครู่รอให้ลูกพี่ใหญ่เจี่ยงมาถึงแล้ว ดูซิว่าเขาจะมีจุดจบอย่างไร