จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 18 ผู้มีฝีมือสูง
บทที่ 18 ผู้มีฝีมือสูง
ด้านหลังของผู้หญิงในชุดสีขาวคนนั้น ยังมีผู้หญิงชุดแดงยืนถือผ้าเช็ดหน้าอยู่อีกหนึ่งคน
ผู้หญิงทั้งสองมีรูปร่างสง่างาม ท่าทางดูโดดเด่น
แววตาประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของหลินหยุน เขาสัมผัสได้ถึงพลังผันผวนของจิตพลังวิญญาณอ่อนๆบนร่างของผู้หญิงสองคนนี้!
โจวชิงเหอเดินไปข้างหน้า แล้วกล่าวเรียนอย่างนอบน้อม “คุณชายหยุน ผมไปรับหมอเทพมาแล้วครับ!”
ผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่ในสวนหันหลังกลับมามอง
ผู้หญิงในชุดแดงเอ่ยขึ้นว่า “ที่แท้ก็ผู้อำนวยการโจวนี่เอง หยุนเอ่อร์ รีบไปเปิดประตู!”
“ค่ะ!” หญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวยืนขึ้น ก่อนจะเดินมาเปิดประตูให้หลินหยุนและคนอื่นๆ
“ขอบคุณมากครับคุณชายหยุน!” โจวชิงเหอพูดด้วยท่าทางเกรงใจ
“ผู้อำนวยการโจวไม่ต้องเกรงใจค่ะ เชิญเข้ามาก่อน” หญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวเหลือบมองไปที่หลินหยุนและแววตาของเธอปรากฏความสงสัย
หลินหยุนเดินตามโจวชิงเหอเข้าไปในสวน โจวชิงเหอเดินไปด้านข้างของผู้หญิงชุดกระโปรงสีแดงคนนั้น ก่อนจะโค้งตัวลงคำนับ “คุณท่านจิน ผมพาหมอเทพมาแล้วครับ!”
“รบกวนผู้อำนวยการโจวแล้วนะคะ เชิญนั่งก่อน!” ผู้หญิงคนนั้นพูด
หลินหยุนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่ทำไมโจวชิงเหอจึงเรียกเธอว่าคุณท่านจิน?
หนำซ้ำเธอยังตอบรับอย่างใจเย็น
หลินหยุนมองพิจารณาคุณท่านจินที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา เขารู้สึกได้ว่าบนตัวของคุณท่านจินมีพลังผันผวนของพลังวิญญาณที่แรงกล้ามาก มากกว่าผู้หญิงคนข้างๆนั่นมหาศาล
“อย่าไร้มารยาทนะ!” หยุนเยว่มองเห็นหลินหยุนที่กำลังมองจ้องคุณท่านจิน ก็เลยอดไม่ได้ที่จะตำหนิเขา
ผู้ชายคนหนึ่งที่เจอหน้ากับผู้หญิงครั้งแรก แต่มองจ้องไม่วางตาแบบนี้ เป็นการกระทำที่ไร้มารยาทมาก
หลินหยุนไม่ได้ใส่ใจหยุนเยว่ เขายังคงมองจ้องคุณท่านจินต่อไป
คุณท่านจินมีแววตาเปิดเผยพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “น้องชายคนนี้ดูท่าเหมือนจะสนใจฉันมากเลยนะคะ?”
ขณะที่กำลังพูด คุณท่านจินก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่ด้านหลัง ก่อนจะเริ่มรินชาให้ตัวเธอเอง
เสียงของเธอไพเราะมาก แต่ว่าฟังจากเสียงของเธอแล้วสามารถแยกแยะได้ว่า อายุของเธอน่าจะประมาณหญิงวัยกลางคนที่มีเสน่ห์
“คุณนี่ก็…น่าสนใจนะครับ” มุมปากของหลินหยุนยกยิ้ม “เป็นผู้หญิงแท้ๆกลับให้คนอื่นเรียกคุณว่าคุณท่าน”
“บังอาจ! นายรู้ไหมว่าคนเบื้องหน้าของนายเป็นใคร? กล้าดียังไงถึงใช้คำพูดคำจาแบบนี้!” หยุนเยว่กล่าวตำหนิเขาอีกครั้ง อารมณ์เอ่อล้นด้วยความโกรธ
โจวชิงเหอเองก็รีบเกลี้ยกล่อมว่า “คุณชายหลิน ระวังคำพูดและการกระทำด้วยนะครับ คุณท่านจินที่อยู่ตรงหน้าคุณตอนนี้ ท่านไม่ใช่คนธรรมดานะครับ!”
แต่หลินหยุนดูเหมือนว่าจะฟังไม่เข้าหู เขายังคงมองไปที่คุณท่านจินด้วยความสนใจ แม้กระทั่งแววตาของเขาก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกรุกราน
คุณท่านจินยกมือขึ้น ส่งสัญญาณให้โจวชิงเหอและหยุนเยว่หยุดพูด มือของเธอขาวมากน่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
เธอมองหลินหยุนด้วยรอยยิ้มในดวงตาของเธอ “ก็เพราะฉันเป็นผู้หญิง ดังนั้นก็เลยตั้งชื่อให้ตัวเองว่าคุณท่านจิน แบบนี้เวลาออกข้างนอกก็ลดปัญหาไปได้เยอะเลยล่ะ!”
หลินหยุนพยักหน้าอย่างจริงจัง “ก็มีเหตุผลครับ”
โจวชิงเหอถึงจะได้สัมผัสกับหลินหยุนไม่นาน แต่เขาได้รับรู้นิสัยแปลกๆของหลินหยุนมานานแล้ว กลัวก็แต่ว่าถ้าหลินหยุนพูดต่อไป ไม่แน่ยังมีคำถามที่อาจจะไร้มารยาทอีก ถ้าหากล่วงเกินคนใหญ่คนโตคนนี้เข้าล่ะก็ ถึงเวลานั้นต่อให้เขาพูดก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้
“คุณหลินครับ คุณท่านจินคนนี้ก็คือคนป่วยที่ผมเคยบอกคุณไว้ครับ รบกวนช่วยดูอาการป่วยให้ท่านก่อนเถอะครับ!” โจวชิงเหอรบเร้า
หยุนเยว่ขมวดคิ้วมองโจวชิงเหอด้วยความตกตะลึง ก่อนจะพูดว่า “ผู้อำนวยการโจว คุณไม่ได้จำผิดใช่ไหม เขาก็คือคนที่คุณเคยบอกว่าเป็นหมอเทพ?”
“เด็กหนุ่มอย่างเขาน่ะเหรอ เกรงว่าจะยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ จะเป็นหมอเทพได้ยังไงกัน?”
ใบหน้างดงามของหยุนเยว่เต็มไปดูความดูถูก
“เรื่องนี้….” โจวชิงเหอไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง เขาเพียงแค่เคยเห็นว่าหลินหยุนรักษาอาการป่วยแปลกประหลาดของจินหยวนเป่าหาย แล้วก็ยังช่วยจินซื่อหรงตามหาแหล่งกำเนิดของชี่มหาโหดจนเจอ
แต่ว่า หยุนเยว่กลับไม่เคยเห็น อีกอย่างถ้าพูดเรื่องผีสางเทวดาอย่างชี่มหาโหดอะไรนั่นออกมา คุณท่านจินจะเชื่อเหรอ?
จู่ๆหลินหยุนก็มองไปที่หยุนเยว่ ผู้หญิงคนนี้งดงามมากแต่กลับเย็นชามาก เกรงว่าคนธรรมดาคงยากที่จะอยู่ในสายตาเธอ
“ดูท่าทางของคุณเมื่อกี้แล้ว น่าจะกำลังฝึกวิชาการหายใจประเภทหนึ่งอยู่สินะครับ แต่ท่าทางแบบนั้นของคุณมันยังผิดอยู่ วิชาการฝึกหายใจที่แท้จริงน่ะ จะต้องหนักแน่นกับความสอดคล้องของฟ้าดิน กลมกลืนไปกับธรรมชาติ ถึงจะบรรลุผลสำเร็จ”
“ท่าทางราวกับสุนัขขี้เกียจปัสสาวะแบบของคุณเมื่อกี้นี้ ชี่ทิพย์ฟ้าดินที่สูดเข้าไปไม่ได้มีนัยสำคัญเลยนะครับ”
หยุนเยว่ถูกประโยคที่ว่าสุนัขขี้เกียจปัสสาวะทำเอาโกรธจนหน้าแดงก่ำ เธอคิดว่าตัวเองมีฐานะสูงมากมาโดยตลอด ทั้งยังเป็นลูกน้องที่เก่งกาจที่สุดของคุณท่านจิน แต่ตอนนี้กลับถูกเด็กหนุ่มที่โตไม่เต็มที่แบบเขาสร้างความอัปยศให้ แล้วจะทนความโกรธนี้ได้ยังไงกัน?
“ไอ้คนบัดซบ! แกกล้าทำให้ฉันเสียเกียรติ!” หยุนเยว่พูดเอ่ยอย่างนิ่งเรียบว่า “ในเมื่อนายเข้าใจวิชาการฝึกหายใจ ก็จะต้องเป็นคนพวกเดียวกันสินะ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉันจะขอประลองกับนาย นายกล้ารับคำท้าหรือไม่?”
คุณท่านจินมองไปที่หลินหยุนด้วยความอับอายในดวงตาของเธอ “เจ้าเด็กแปลกประหลาดนี่ ไม่ถูกชี่บนตัวฉันทำให้หวาดเกรงเลยนะ แล้วยังพูดทฤษฎีแปลกๆนั่นอีก แค่ก็ดูเหมือนจะมีเหตุผล”
“ก็แค่คำอธิบายที่เขาใช้ต่อเยว่เอ่อร์นั่นน่าเกลียดเกินไปหน่อย ให้เยว่เอ่อร์สั่งสอนเขาสักครั้งก็ดีเหมือนกัน!”
เมื่อนึกถึงการฝึกหายใจแบบนั้น เมื่อก่อนเธอเองก็ฝึกอยู่ทุกวัน ใบหน้าของคุณท่านจินภายใต้คลุมนั่นก็ถึงกับร้อนผ่าว
หลินหยุนมองไปที่หยุนเยว่ด้วยสายตาเรียบเฉย แล้วจู่ๆเขาก็เด็ดกลีบดอกไม้สามกลีบจากกระถางดอกไม้ข้างๆ ก่อนจะวัดน้ำหนักของมันเล็กน้อยพร้อมพูดขึ้นว่า
“ปรมาจารย์ตัวจริงที่ฝึกฝนลมปราณจนถึงขั้นสูงสุดนั้น แม้แต่ดอกไม้และใบไม้ที่ร่วงโรยอยู่ ก็ล้วนเป็นอาวุธสังหาร!”
พูดจบ หลินหยุนก็โยนกลีบดอกไม้ออกไปอย่างแรง
ฉึบฉึบฉึบ!
กลีบดอกไม้สามกลีบกลายเป็นดั่งมีดสั้นคมกริบสามเล่ม พุ่งตรงเข้าปักไปยังต้นไม้ที่มีกิ่งขึ้นหนาบริเวณมุมสวน
“นี่มัน!” หยุนเยว่ผงะไปชั่วขณะ เธอจ้องมองไปที่หลินหยุนที่ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งไปตรวจดูกลีบดอกไม้สามกลีบนั่น
เพียงแค่ใช้นิ้วเขี่ยเบาๆ กลีบดอกไม้สามกลีบก็ร่วงหล่นลงจากต้น แต่มีรอยแผลที่ลำต้นของต้นไม้สามรอยถูกทิ้งหลงเหลืออยู่
กลีบดอกไม้ที่อ่อนแอสามกลีบนั้น ปักทะลุเข้ากลางไม้แข็งแบบนั้นได้ นี่เป็นฝีมือระดับไหนกัน!
หยุนเยว่มองหลินหยุนอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วอุทานขึ้นว่า “นายทำได้ยังไงกัน!”
ในตอนนั้นเอง คุณท่านจินก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืน แล้วสายตาของเธอที่ใช้มองหลินหยุนก็ปรากฏความหนักแน่นออกมา
“ที่แท้แล้วคุณชายหลินคือผู้มีฝีมือสูงที่ซ่อนตัวอยู่ เป็นฉันที่มองข้ามไป เสียมารยาท เสียมารยาทจริงๆค่ะ” คุณท่านจินโค้งคำนับหลินหยุน
โจวชิงเหอที่ยืนอยู่ด้านข้างมองไปที่ฉากข้างหน้านี้ แล้วรู้สึกว่าหลินหยุนราวกับกำลังแสดงกล แต่ดีที่เขาเคยเห็นฝีมือของคุณท่านจินมาก่อนและเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
“มิน่าล่ะคุณชายหลินถึงได้ดูชี่มหาโหดในบ้านของจินซื่อหรงออก ที่แท้เขาก็เป็นผู้มีฝีมือสูงเหมือนกันกับคุณท่านจินนี่เอง!” โจวชิงเหอแอบกล่าวในใจ
หลินหยุนไม่สนใจคำของคุณท่านจิน แล้วนั่งลงอย่างไร้มารยาท มองไปที่คุณท่านจินพร้อมพูดขึ้นว่า “คุณป่วย ป่วยหนักซะด้วยนะครับ!”
ถ้าหากหลินหยุนไม่ได้แสดงฝีมือไปเมื่อกี้ หยุนเยว่ก็คงแทบรอไม่ไหวที่จะด่าหลินหยุนออกไปว่า “นายสิป่วย ป่วยกันทั้งบ้านเลย!”
แต่ว่าฝีมือนั่นของหลินหยุน ทำเอาหยุนเยว่ตกตะลึงไป
อีกอย่างหยุนเยว่เองก็ชัดแจ้งอยู่แล้วว่า คุณท่านของเธอน่ะป่วยจริงๆ
คุณท่านจินเองก็ลุกขึ้นนั่ง เกี่ยวกับการกระทำไร้มารยาทเมื่อกี้ของหลินหยุนเธอก็ไม่สนใจ แต่กลับถามขึ้นอย่างจริงใจว่า “รักษาได้หรือเปล่าคะ?”
“แต่ถ้าให้ผมเป็นคนทำล่ะก็ รักษาได้แน่นอนครับ”
“พูดจริงเหรอคะ!” คุณท่านจินลุกขึ้นยืนอย่างแรง ตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งร่าง ดวงตาที่เปิดเผยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“อย่าพึ่งตื่นเต้นครับ ฟังผมให้จบก่อน” หลินหยุนพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
คุณท่านจินนั่งลงอีกครั้งและกลับมาทำตัวสงบในทันที ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันเสียอาการไปหน่อย ขอแค่หมอเทพสามารถรักษาอาการป่วยของฉันได้ คุณจะเอาเท่าไรฉันก็จะรับปากทั้งหมด!