จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 19 ระดับที่บรรลุถึง
บทที่ 19 ระดับที่บรรลุถึง
หลินหยุนมองคุณท่านจินด้วยสายตาที่ราวกับมองทะลุหัวใจของคุณท่านจินได้
“ตอนที่คุณยังเป็นสาวคงจะเคยได้รับบาดเจ็บภายใน แต่คุณก็ยังใช้กำลังภายในอย่างหนัก ทำให้อาการบาดเจ็บรุนแรงขึ้น ตอนนี้ทุกครั้งที่มันกำเริบ จุดฝังเข็มขนาดใหญ่สองคือจุดเทียนฉือและจุดเฟิงฟูของคุณจะเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทง ”
คุณท่านจินพยักหน้าและกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “หมอเทพพูดมาไม่มีผิด ทุกครั้งที่มันกำเริบ ฉันก็เจ็บแบบอยู่ไม่สู้ตาย ฉันยังได้ค้นหาแพทย์ที่มีชื่อเสียง แต่ไม่มีเลยสักคนที่จะรักษาหาย”
นัยน์ตาของคุณท่านจินแสดงถึงความเหนื่อยล้าอย่างสุดซึ้ง “บางครั้ง…ฉันก็คิดอยากจะจบชีวิตตัวเอง ความเจ็บปวดแบบนั้นมันทรมานเกินไปจริงๆค่ะ!”
หยุนเยว่มองคุณท่านจินอย่างเจ็บปวดหัวใจแล้วเอ่ยขึ้นว่า “พี่ใหญ่! อย่าได้คิดแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะคะ ฉันเชื่อว่าจะต้องมีคนรักษาอาการนี้หายได้แน่ๆค่ะ!”
คุณท่านจินมองมาที่หลินหยุน พร้อมเอ่ยถามว่า “หมอเทพ อาการป่วยแบบนี้ของฉันควรรักษายังไงดีคะ?”
ใบหน้าของหลินหยุนเรียบเฉยราวกับว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา “อยากจะรักษาอาการป่วยนี้ของคุณล่ะก็ จริงๆแล้วง่ายมากครับ ต้องการแค่ยาหนึ่งเม็ดกับชุดฝังเข็มหนึ่งชุดก็พอแล้วครับ”
“แต่ว่า ถ้าหากต้องการให้โรคนี้ของคุณไม่มีทางกำเริบอีก มีแค่ต้องละทิ้งชี่ทิพย์จากการฝึกฝนตลอดหลายปีมานี้เท่านั้นครับ”
“หมอเทพ ชี่ทิพย์ที่คุณว่าจะต้องหมายถึงชี่แท้จริงในร่างของฉันสินะคะ! ถ้าหากสามารถรักษาอาการป่วยของฉันได้ ต่อให้ต้องทิ้งค่าการฝึกฝนฉันก็ยอมค่ะ ความเจ็บปวดแบบนั้นทรมานเกินทนได้จริงๆ!” พูดจบ คุณท่านจินก็มีความหวาดกลัวปรากฏในดวงตาของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอกลัวที่จะทรมาน
หลินหยุนเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อคุณยอมละทิ้งค่าการฝึกฝน ถ้างั้นก็ไปหายามาตามที่ผมบอกเถอะ รอจนหาวัตถุดิบเจอทั้งหมดแล้ว ผมก็เริ่มทำการรักษาได้แล้วครับ”
คุณท่านจินพูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า “หยุนเยว่ รีบไปเตรียมกระดาษและปากกามา ให้หมอเทพจดวัตถุดิบยา”
หลินหยุนเขียนวัตถุยาแล้วยืนให้คุณท่านจิน
คุณท่านจินมองดูแล้วขมวดคิ้ว “โสมภูเขาห้าร้อยปี โส่วอูห้าร้อยปี เห็ดหลินจือห้าร้อยปี…..”
“หมอเทพ วัตถุดิบยาพวกนี้พบได้ทั่วไป แต่ต้องเป็นยาของห้าร้อยปีนี่กลับหาได้ไม่ง่ายเลยนะคะ?”
หลินหยุนพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่านี่คือพื้นโลก เทียบกับแดนเซียนไม่ได้ ยาห้าร้อยปีนั่นหาพบได้ยากมาก
“ถ้าหากหาตัวยาห้าร้อยปีไม่ได้จริงๆ ก็ใช้วัตถุดิบยาที่มีอายุมากมาแทนก็ได้ครับ แต่ว่ายิ่งวัตถุดิบยามีอายุน้อยผลของยาเม็ดกลั่นก็จะยิ่งแย่ลงเช่นกัน”
“ฉันจะทำสุดความสามารถค่ะ!” คุณท่านจินหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลินหยุนจะทำยาที่ดีที่สุดออกมาได้ “หยุนเยว่ สั่งการลงไป ให้ทุกคนตามหาวัตถุดิบยาทั้งหมดของหมอเทพให้เจอ!”
“ค่ะ! นายท่าน” หยุนเยว่โค้งตัวรับคำสั่ง
คุณท่านจินมองมาที่หลินหยุน แววตาเอ่อล้นไปด้วยความเคารพ “หมอเทพ มีอะไรอยากจะสั่งอีกไหมคะ?”
หลินหยุนพูดเรียบๆว่า “ไม่มีแล้วครับ แต่ว่าผมมีคำถามจะถามคุณสักหน่อย”
“หมอเทพเชิญถามค่ะ ตราบเท่าที่ฉันรู้ ฉันก็จะบอกคุณทุกอย่าง” คุณท่านจินพูดอย่างเคารพ
“จากที่คุณพูด คุณเรียกพลังของชี่ทิพย์ว่าชี่แท้จริง ในเวลานี้คนที่เป็นแบบคุณ ยังมีอยู่อีกมากไหมครับ?”
ชาติที่แล้วหลินหยุนไม่เคยได้สัมผัสกับคนอย่างคุณท่านจินมาก่อน เขาถูกอาจารย์นำไปที่สำนักต้าเต๋าในทันที เมื่อเขาบำเพ็ญจนได้เป็นกษัตริย์เซียนและกลับมายังโลกอีกครั้ง โลกนี้ก็ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว
สถานที่ที่หายไปจากโลกนั่น หลินหยุนรู้สึกได้ถึงลมปราณที่วุ่นวายของพลังวิญญาณ เขาจึงสรุปว่าโลกน่าจะสลายหายไปจากการเกิดสงครามครั้งใหญ่ของผู้บำเพ็ญเซียน
เพราะอย่างนั้นหลินหยุนก็เลยคาดเดาว่า บนพื้นโลกนี่บางทีอาจจะมีผู้บำเพ็ญเซียนอยู่ แต่ว่านี่ก็เป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น
ในชาตินี้ เขาเพิ่งมาเกิดใหม่ แต่ก็ได้ค้นพบการดำรงอยู่ของผู้ที่เป็นคล้ายกับผู้บำเพ็ญเซียน แต่ว่าค่าการบำเพ็ญของพวกเขากลับอ่อนแอเกินไปมาก
เมื่อเทียบกับผู้บำเพ็ญเซียนแล้ว พลังของทั้งคุณท่านจินแล้วก็หยุนเยว่อ่อนแอกว่านับหมื่นเท่า
แต่ไม่ว่าจะยังไง หลินหยุนก็ยังเกิดความสงสัยอย่างแรงกล้าเกี่ยวกับฐานะของพวกเขาอยู่ดี
คุณท่านจินเหลือบมองไปที่โจวชิงเหอและกล่าวว่า “ผู้อำนวยการโจว รบกวนคุณออกไปก่อน”
โจวชิงเหอรีบพูดขึ้นทันทีว่า “ครับ!”
เมื่อเห็นว่าโจวชิงเหอเดินไกลออกไปแล้ว คุณท่านจินถึงพูดขึ้นว่า “พูดตามความจริงคือคนที่เป็นเหมือนกับฉันยังมีอยู่อีกมากค่ะ แต่เมื่อเทียบกับคนธรรมดาอีกหลายพันล้านคนแล้ว ก็ยังสามารถอธิบายได้ว่าเป็นของหายากน่ะ”
“เราทุกคนล้วนแล้วแต่มีฐานะที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือการเป็นผู้ฝึกบู๊ และผู้คนบนโลกนี้เรียกเราว่านักบู๊”
“คุณจะบอกว่าในหมู่คนธรรมดา ก็มีคนที่รับรู้ถึงการดำรงอยู่ของพวกคุณอย่างนั้นเหรอครับ?” หลินหยุนถาม
“ถูกต้องค่ะ แต่ว่าผู้ที่สามารถรู้เรื่องการดำรงอยู่ของนักบู๊ได้นั้นจะต้องมีฐานะไม่ธรรมดาแน่นอน สำหรับพวกคนธรรมดาที่อยู่ชั้นล่างน่ะ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่ามีพวกเราอยู่” คุณท่านจินตอบกลับ
“ในเมื่อพวกคุณมีคำเรียกที่เหมือนกัน ก็ควรมีลำดับชั้นฐานะด้วยใช่หรือเปล่าครับ? ” หลินหยุนคิดว่าบางทีนักบู๊เหล่านี้ ก็คือผู้สืบถอดของผู้บำเพ็ญเซียนที่อาศัยอยู่บนโลก
ผู้บำเพ็ญเซียนก็มีลำดับชั้นของตน ดังนั้นนักบู๊เองก็ควรมีเช่นกัน
คุณท่านจินพยักหน้า “มีแน่นอนค่ะ”
“ระดับการบรรลุแรกที่ได้ถือกำเนิดขึ้นนั้นก็คือพรแสวง จากนั้นก็พรสวรรค์ ขึ้นไปอีกเป็นขั้นสูงสุด เมื่อบู๊ถึงขั้นสูงสุด ก็ถือว่าเป็นปรมาจารย์บู๊!”
เมื่อพูดถึงปรมาจารย์บู๊ ดวงตาของคุณท่านจินก็ปรากฏความปรารถนาอันแรงกล้า “ปรมาจารย์บู๊นั้น ล้วนแล้วแต่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกบู๊ ราวกับเป็นมังกรบนท้องฟ้า นักบู๊สักหมื่นคนก็ยังยากที่จะมีสักหนึ่งคน!”
หลินหยุนพอจะเข้าใจลำดับชั้นของนักบู๊บ้างแล้ว แต่สำหรับพละกำลังในแต่ละลำดับชั้นของนักบู๊นั้น เขายังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก
“ค่าการฝึกฝนของคุณ อยู่ในพละกำลังระดับไหนครับ?” หลินหยุนต้องการใช้คุณท่านจินมาเปรียบเทียบให้เขาเข้าใจลำดับชั้นของนักบู๊มากขึ้น
“ฉันเป็นนักบู๊ที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ค่ะ เหมือนอย่างหยุนเยว่ เธอเป็นนักบู๊ที่เกิดมาพร้อมพรแสวง” คุณท่านจินตอบตามความจริง
ตอนนั้นเอง คุณท่านจินมองหลินหยุนด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะถามขึ้นว่า “หมอเทพค่ะ ฉันดูค่าการฝึกฝนของคุณแล้ว อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักบู๊พรสวรรค์ชั้นสูง แล้วทำไมคุณถึงไม่คุ้นชินกับลำดับชั้นพลังของโลกบู๊เลยล่ะคะ?”
หลินหยุนพูดอย่างใจเย็นว่า “อาจารย์ของผมสอนผมแค่ปฏิบัติเท่านั้นน่ะ ท่านไม่ได้พูดสอนอะไรกับผมเลย เพราะงั้นผมก็เลยไม่เข้าใจลำดับชั้นของนักบู๊มาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะครับ”
“อย่างนี้นี่เอง!” คุณท่านจินท่าทางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
อายุของหลินหยุนเกรงว่าคงแค่สักยี่สิบปี การจะสอนนักบู๊พรสวรรค์ที่อายุน้อยเช่นนี้ได้ จะต้องเป็นปรมาจารย์อาวุโสแน่
แล้วคนแบบนี้ จะไม่สอนลูกศิษย์แม้แต่เรื่องพื้นฐานอย่างลำดับชั้นของนักบู๊ได้ยังไงกัน?
ถ้าไม่ใช่ว่าหลินหยุนกำลังโกหกอยู่ล่ะก็ ผู้อาวุโสคนนั้นก็คงจะเลอะเลือนมากทีเดียว
เมื่อหลินหยุนถามสิ่งที่อยากรู้ไปหมดแล้ว เขาก็ยืนขึ้นพร้อมกลับพูดว่า “ผมจะเอาเบอร์โทรทิ้งไว้ให้นะครับ รอจนคุณเจอตัวยาที่ผมต้องการแล้ว ก็โทรหาผมนะครับ”
“ได้ค่ะ” คุณท่านจินพยักหน้าอย่างนอบน้อม เธอไม่กล้าที่จะแสดงท่าทางสง่างามเหมือนเมื่อก่อนต่อหน้าหลินหยุนอีกแล้ว
“อืม ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับ” หลินหยุนหันหลังเดินกลับออกไป
“รอเดี๋ยวก่อนค่ะ หมอเทพยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าต้องการค่าตอบแทนเท่าไร?” คุณท่านจินเอ่ยถาม ถ้าหลินหยุนไม่รับค่าตอบแทน เธอก็กลัวหลินหยุนจะผิดสัญญา
“เรื่องค่าตอบแทนนั่น รอผมรักษาคุณจนหายก่อนเถอะครับ ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดว่าต้องการอะไรน่ะ”
เมื่อพูดจบหลินหยุนก็เอามือไขว้หลัง แล้วเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจ
โจวชิงเหอกลับไปที่หน้าประตูสวน เขากล่าวทักทายคุณท่านจิน “คุณท่านจิน ผมจะพาหมอเทพหลินไปส่งก่อนนะครับ!”
“รบกวนผู้อำนวยการโจวด้วยค่ะ!” คุณท่านจินพูดพร้อมกับยกมือขึ้นคำนับ
เมื่อเห็นว่าหลินหยุนและโจวชิงเหอกลับออกไปแล้ว หยุนเยว่ที่เพิ่งจะแจ้งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอไปหาวัตถุดิบยาก็เดินเข้ามา
“นายหญิงคะ คำพูดของเขาเชื่อถือได้เหรอคะ? เขาจะสามารถรักษาโรคของท่านได้จริงๆเหรอ? อีกอย่างเขาอายุน้อยขนาดนั้น จะมีกำลังถึงระดับพรสวรรค์ชั้นสูงแน่เหรอคะ? นั่นเป็นระดับการบรรลุที่แข็งแกร่งกว่ากำลังของท่านระดับหนึ่งเลยนะคะ!” หยุนเยว่มีความสงสัยเล็กน้อยในใจ
คุณท่านจินมีสายตาจริงจังเคร่งขรึม “หยุนเยว่ เธอจงจำเอาไว้ คนๆนี้ต่อไปต้องคบเป็นมิตรเท่านั้น จะเป็นศัตรูด้วยไม่ได้เด็ดขาด!”
“เธอคิดว่าเขามีกำลังแค่ระดับพรสวรรค์ชั้นสูงอย่างนั้นเหรอ? ผิดแล้ว ฐานะที่แท้จริงของเขาน่ะ…น่าจะเป็นถึงปรมาจารย์บู๊!”
“อะไรนะคะ!?” หยุนเยว่สีหน้าตกตะลึง
ปรมาจารย์บู๊…นั่นน่ะคือการอยู่บนจุดสูงสุดของโลกบู๊แล้ว แต่หลินหยุนยังเด็กขนาดนั้นจะเป็นปรมาจารย์บู๊ได้ยังไงกัน?