จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 193 วิชาศิลปะการต่อสู้
มุมปากของจางซือจู่กระตุก
“ช่างมันเถอะไอ้หิน ฉันจะคิดแก้ไขเอาเอง! เจอปัญหามาเยอะแก้ไขไม่ได้ก็ไม่อยากไปเครียดกับมัน ในเมื่อฉันเคยถูกตักเตือนครั้งหนึ่งแล้ว ถ้ามีอีกครั้งก็คงไม่เป็นไร!”
เพียงแต่ว่า ดูเหมือนว่าจางซือจู่จะคิดอะไรได้บางอย่าง และก็ถอนหายใจ “แต่อีกสามวันก็จะเป็นงานประจำปีของมหาลัย แล้ว ถ้าถึงตอนนั้นหลินหยุนยังไม่กลับจะทำยังไงดี?”
ในงานประจำปีของมหาลัย อาจารย์ที่ปรึกษาจะต้องตรวจสอบด้วยตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น งานใหญ่ประจำปีของมหาลัย ถ้าไม่มา จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
ขณะที่กำลังพูดอยู่ ประตูห้องนอนก็ถูกผลักออก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหลินหยุนก็ปรากฏต่อหน้าพวกเขา
“ว้าว!”
“ฉันดูไม่ผิดใช่ไหม!” จางซือจู่ขยี้ตาอย่างรวดเร็ว และมองหลินหยุนอย่างเหลือเชื่อ ไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา ราวกับกลัวว่าถ้ากะพริบตาหลินหยุนก็จะหนีไป
“หลินหยุน ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว!” จางซือจู่ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
“หลายวันที่ผ่านมานี้นายไปไหนมาบ้าง”
หลินหยุนยิ้มและพูดว่า “เจอปัญหานิดหนึ่ง เลยออกไปสองสามวัน ช่วงนี้รบกวนพวกนายจริงๆ”
เทพฟ้าผ่าหัวเราะ “เดินไปตบที่ไหล่ของหลินหยุน “มันก็ลำบากมาก สองสามวันมานี้เพื่อที่จะลาให้นาย ข้อแก้ตัวต่างๆนานาถูกนำมาใช้จนหมด เมื่อกี้พวกเรายังคงกังวลว่าวันนี้จะหาข้อแก้ตัวอะไร?”
จางซือจู่พูดอย่างโกรธเคือง “เทพฟ้าผ่า ฉันเอง ไม่ใช่พวกเรา นายรู้สึกละอายใจบ้างไหม!
เทพฟ้าผ่าหัวเราะและพูดว่า “พวกเราก็เป็นเหมือนพี่น้องกัน ทำไมแบ่งแยกให้มันชัดเจนขนาดนั้น!”
ฉินโส่วพูดว่า “ฉันเห็นด้วยกับคำพูดของเทพฟ้าผ่า”
“ฉันก็เห็นด้วย!” สิบแปดมงกุฎก็ยื่นหัวออกมาพูด
“ฉันจะเลิกเป็นเพื่อนกับพวกนาย!” จางซือจู่เข้าสู่สภาวะอารมณ์ฉุนเฉียวสุดๆ แต่ไม่มีใครสนใจเขา
“เอาล่ะ หลินหยุน ในเมื่อกลับมาแล้ว ไปเตรียมตัวกันเร็ว วันนี้มีคลาสศิลปะการต่อสู้ นายระวังไว้เดี๋ยวจะมีคนมาโจมตีนายอีก!” ฉินโส่วเตือน
“โอเค” หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย นัยน์ตาแฝงด้วยความตลกขบขัน
“อีกเรื่องหนึ่ง หลินหยุน อีกสามวันจะเป็นงานประจำปีของมหาลัย นายอย่าลืม! ถึงตอนนั้นอาจารย์ที่ปรึกษาจะมาตรวจสอบด้วยตัวเอง นายอย่าทำตัวให้มีปัญหาล่ะ!” จางซือจู่ก็ตักเตือนเขาด้วย เขากลัวว่าหลินหยุนจะหนีไปอย่างเงียบๆอีก
“ฉันเข้าใจแล้ว” หลินหยุนตอบเบาๆ ความคิดของเขาจมอยู่ในความทรงจำของชาติที่แล้ว
เขาจำได้ว่างานประจำปีของมหาลัย ตอนนั้นการเต้นของอีหลิงนั้นสวยงามมาก และกู้ซิวหรั่นเป็นเดือนในมหาลัยก็ได้เต้นพร้อมเธอ ซึ่งกลายเป็นจุดเด่นที่สุดของมหาลัย
กู้ซิวหรั่นและอีหลิง เป็นที่รู้จักในนามกิ่งทองใบหยก หลายคนบอกว่าพวกเขาเป็นคู่ที่สวรรค์กำหนดมา
ย้อนกลับไปหลินหยุนในตอนนั้น เป็นคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีใครสนใจ นั่งอยู่ในมุมที่ไม่เด่นที่สุดเท่านั้น เงยหน้าขึ้นไปมองดูคู่กิ่งทองใบหยก
สำหรับคนอย่างกู้ซิวหรั่นนั้น หลินหยุนอยู่ต่อหน้าเขา ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น
แม้ว่าต่อมาหลินหยุนได้พบเจอพ่อแม่ที่แท้จริงของเขา กลายเป็นทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง เมื่อเผชิญหน้ากับกู้ซิงหรั่นอีกครั้ง เขาก็ยังรู้สึกเจียมเนื้อเจียมตัว
และกู้ซิวหรั่นก็เหมือนเทพเจ้าที่อยู่ชั้นสูง ไม่เคยแม้แต่จะมองหลินหยุน
“กู้ซิวหรั่น คุณชายใหญ่ของตระกูลกู้ในหนานหลิง สุนัขรับใช้ของตระกูลส้งในมณฑลจงโจว ตอนนั้นคนที่ฆ่าฉินหลัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ผู้บงการ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
“ตอนนี้ กู้ซิวหรั่นคงจำฉันไม่ได้แล้ว……” รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลินหยุน
“หลินหยุน ไปกันเถอะ!” จางซือจู่และคนอื่นๆหอบหนังสือ เดินออกจากห้องนอน พร้อมกับเรียกหลินหยุน
“มาแล้ว”
……
คลาสที่สาม เป็นวิชาศิลปะการต่อสู้
ในโรงยิม นักศึกษาทั้งหมดเปลี่ยนเป็นชุดการต่อสู้สีขาวและสีเทา จากนั้นจึงเริ่มทำความสะอาดสถานที่
หลินหยุนและไอ้หินถูกจัดให้อยู่กลุ่มเดียวกัน และหลังจากทำความสะอาดพื้นที่ที่จัดสรรแล้ว ทั้งสองก็นั่งข้างๆเพื่อพักผ่อน
ในเวลานี้ สาวนมใหญ่หวางหยู่หันซึ่งมีหน้าที่สั่งการให้ทุกคนทำความสะอาดพื้น เมื่อเห็นหลินหยุนและเพื่อนกำลังพักผ่อนอยู่ข้างๆ ก็เดินมาด้วยความโกรธเคืองทันที
เธอแย่งขวดน้ำแร่ในมือของไอ้หินมา เอามือเท้าสะเอว แล้วตะโกนอย่างเย็นชา “หลินหยุน หลี่หลิวเฉิง ทุกคนกำลังทำงาน พวกนายสองคนทำไมมาแอบอู้งานอยู่ตรงนี้!”
ไป เช็ดพื้นตรงนั้นให้สะอาด!” หวางหยู่หันชี้ไปที่พื้นที่เพิ่งเช็ดไป และพูดด้วยสีหน้าจองหอง
หวางหยู่หันเป็นหัวหน้าห้องของพวกเขา และเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบด้านสุขอนามัยของสถานที่
แท้จริงแล้ว ไม่ใช่ว่าหลินหยุนและเพื่อนอู้งาน ตรงกันข้าม พวกเขาเพิ่งเสร็จงาน จากนั้นก็นั่งลงดื่มน้ำ ก็ถูกหวางหยู่หันพบเจอพอดี
คนที่อู้งานจริงๆ นั่งบนเก้าอี้อย่างโอ้อวด และจ้องมองหลินหยุนและคนอื่นๆเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ไอ้หินพูดด้วยความเสียใจ “หัวหน้าห้อง งานที่มอบหมายให้พวกเรา พวกเราทำเสร็จแล้ว พวกเราอู้งานตรงไหน?”
พวกนายมานั่งอยู่ที่นี่ ไม่ใช่อู้งานแล้วคืออะไร!” หวางหยู่หันไม่คาดคิดว่าไอ้หินปกติจะเป็นคนซื่อๆจู่ๆจะกล้าต่อต้านขึ้นมา ชั่วขณะหยาบคายไร้เหตุผล
ไอ้หินเหลือบมองคนที่อยู่ข้างๆเขาที่กำลังทำท่าทางชี้นิ้วกลางให้เขา รู้สึกโมโห และพูดว่า “แล้วพวกเขาที่นั่งอยู่ที่นั่นตั้งแต่เริ่มทำงาน ทำไมไม่ไปสนใจล่ะ!”
หลินหยุนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ค่อยๆมองไปที่หวางหยู่หัน รอให้เธออธิบาย
ใบหน้าของหวางหยู่หันแดงก่ำ นี่มันเป็นการลำเอียงที่ชัดเจนเกินไป
เพียงแต่ว่า คนพวกนั้นเป็นทายาทเศรษฐีรุ่นที่สอง เธอไม่กล้าเข้าไปล่วงเกิน!
สำหรับหลินหยุนและไอ้หินนั้น ทั้งสองคนเป็นคนที่ยากจนที่สุดในชั้นเรียน ปกติทุกคนสามารถรังแกได้ แน่นอนหวางหยู่หันเลือกที่จะรังแกพวกเขา!
“ตอนนี้ฉันกำลังพูดถึงพวกนายอยู่ นายไม่ต้องไปสนใจคนอื่นเขาจะทำอะไร ทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อน” หวางหยู่หันไม่มีเหตุผลเลย ทัศนคติของเขาแสดงให้เห็นว่าฉันจะรังแกนาย นายจะทำอะไรฉันได้?
ไอ้หินโกรธจนหน้าแดงก่ำ นั่งบนพื้นโดยไม่ขยับ “นี่เป็นการกลั่นแกล้งเกินไป”
หวางหยู่หันขมวดคิ้ว และคิดในใจ “ถ้าวันนี้แม้แต่หลินหยุนกับเพื่อนยาจกสองคนเธอยังไม่สามารถจัดการได้ ต่อไปจะมีหน้าไปควบคุมคนอื่นได้อย่างไร?”
หลี่หลิวเฉิง ฉันต้องการให้นายไปทำความสะอาดสถานที่ตรงนั้น นายจะไปไหม” หวางหยู่หันตะโกนเสียงดัง
ดึงดูดนักศึกษาหลายคนหันมาสนใจ ต่างพากันมองมาที่นี่
ไอ้หินเกิดมาเพื่อเป็นคนที่รองรับอารมณ์ของคนอื่น เมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมชั้นให้ความสนใจเขา แม้ว่าเขาจะโกรธ แต่ก็ทำได้เพียงประนีประนอม
เมื่อเห็นไอ้หินหยิบเศษผ้า และเตรียมจะไปเช็ดพื้น ใบหน้าของหวางหยู่หันก็แสดงความพอใจ
เพียงแต่ว่า ขณะที่ไอ้หินยืนขึ้น มีมือหนึ่งจับเขาไว้
“นั่งลง” หลินหยุนเหลือบมองเขา และพูดเบาๆ
ไอ้หินผงะ มองหลินหยุน และกระซิบ “หลินหยุน นายต้องการทำอะไร? พวกเราไม่อาจทำให้เธอขุ่นเคืองได้!”
“นั่งลง” หลินหยุนทวนซ้ำ น้ำเสียงของเขาหนักแน่น
ไอ้หินไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องนั่งลงอีกครั้ง
จากนั้น หลินหยุนก็ดื่มน้ำต่อ และไม่สนใจหวางหยู่หันที่อยู่ตรงหน้าเขา
หวางหยู่หันโกรธจนแน่นหน้าอก เมื่อเธอได้ยินเสียงเยาะเย้ยจากข้างหลังเธอ ใบหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“หลินหยุน นายต้องการกบฏหรือ?”หวางหยู่หันลดเสียงลง เต็มไปด้วยความอาฆาต
หลินหยุนเหลือบมองเธอ เอามือกอดอก เอนไปด้านหลัง พิงกำแพง “โปรดระวังคำพูดของเธอ ให้พวกเรากบฏเธอเหรอ เธอยังไม่มีคุณสมบัติพอ”
หวางหยู่หันแปลกใจเล็กน้อย เมื่อหลายวันก่อนได้ยินการเปลี่ยนแปลงของหลินหยุนจากปากของเถียนชุ่ยชุ่ย เธอไม่เชื่อ คิดว่าเถียนชุ่ยชุ่ยจงใจสร้างข่าวลือขึ้นมาเอง
เมื่อเห็นการแสดงออกของหลินหยุนในวันนี้ ถึงรู้สึกว่าเถียนชุ่ยชุ่ยไม่ได้โกหก
เพียงแต่ว่า เถียนชุ่ยชุ่ยจัดการไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอจะจัดการไม่ได้
หวางหยู่หันหรี่ตา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลินหยุน ฉันต้องการให้นายไปเช็ดพื้น นายไม่ไปใช่ไหม”
เมื่อเห็นท่าทางพิฆาตของหวางหยู่หัน ไอ้หินก็ตกใจ
“หลินหยุน พวกเราอย่าเถียงเธอเลย ก็แค่เช็ดพื้นอีกครั้งเอง? ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
หลินหยุนไม่สนใจคำพูดของไอ้หิน แต่เหลือบมองไปที่หวางหยู่หัน และพูดเบาๆว่า “พวกเราทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้ว ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนของพวกเราเธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งพวกเรา”