จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 205 ฉันชอบหลินหยุน
หลินหยุนพะวงคิดถึงแต่นางฟ้าเย่เยว่ นั่นคือผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ และก็เป็นผู้หญิงที่สามารถจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาไปตลอดกาล
ส่วนอีหลิงนั้น เป็นแค่เพียงดอกราตรีที่สวยสดงดงาม บนเส้นทางการบำเพ็ญเซียนที่แสนยาวนานเท่านั้น
เมื่อเปรียบเทียบกับอายุขัยของหลินหยุนที่มีนับแสนปี การดำรงอยู่ของอีหลิงนั้นก็เปรียบเหมือนดอกราตรีที่เบ่งบานชั่วแวบเดียว
นอกจากนี้เพื่อเขาแล้วเย่เยว่ ยังยอมที่จะกลับชาติมาเกิดด้วยกันกับเขาอีก หลินหยุนจะสามารถผิดคำสัญญากับเธอได้อย่างไรกัน!
กู้ซิวหรั่นที่อยู่ด้านข้างของอีหลิงได้ยินคำพูดของอีหลิงแล้ว ร่างกายสั่นสะท้านพลุ่งพล่านอย่างที่สุด
“เป็นคนไม่ค่อยพูด ชอบความเงียบสงบ อุปนิสัยเย่อหยิ่งทระนง…….”
ที่พูดนี้มันไม่ใช่กู้ซิวหรั่นงั้นหรอกเหรอ?
“แม้ว่าเขาจะเย็นชาเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน แต่ฉันรู้ว่าฉันอยู่ในใจของเขา เมื่อฉันประสบอันตราย เขาก็จะปรากฏตัวออกมาอย่างไม่ลังเลแล้วปกป้องบดบังให้ฉันอยู่ด้านหลังของเขา”
ที่พูดนี้ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เมื่อครู่เขาแอบทำให้กับเธองั้นหรอกเหรอ?
กู้ซิวหรั่นตื่นเต้นดีใจจนสั่งสะท้านไปทั้งตัว สายตาที่มองไปยังอีหลิงยิ่งอ่อนโยนมากขึ้น
“อีหลิง ที่จริงเธอก็มีฉันอยู่ในหัวใจ! ”
หวางหยู่หันฟังที่อีหลิงพูดจนจบ สีหน้าดูไม่ดีเอาอย่างมาก
“เดิมทีนางจิ้งจอกอีหลิงนี้ นึกไม่ถึงว่าจะชอบคุณชายกู้! เดิมทีฉันก็คิดว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อคุณชายกู้ ดูเหมือนว่าฉันมองผิดพลาดไปแล้ว”
“คิดไม่ถึงว่าในตอนแรกคิดต้องการจะช่วยเหลือคุณชายกู้ อาศัยอีหลิงเพื่อโจมตีหลินหยุน แต่กลับโดนทำร้ายเข้าเสียเอง ไปยั่วยุให้อีหลิงแสดงออกถึงความรู้สึกที่มีคุณชายกู้”
“เหอะเหอะ ฉันยกก้อนหินทุ่มเท้าตนเองแท้ ๆ เลย! ”
หวางหยู่หันรู้สึกว่าครั้งนี้ตนเองจะได้เปรียบแต่กลับกลายเป็นเสียเปรียบไปอย่างนั้น เหมือนกับทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับผู้อื่น
แต่ว่า ในเมื่อเหตุการณ์มันมาถึงขั้นนี้แล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องปล่อยดำเนินต่อไปจนถึงที่สุด
มิเช่นนั้น เธอจะไม่สามารถชี้แจงอธิบายต่อกู้ซิวหรั่นได้เลย
เพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของอีหลิงแล้ว แอบเปรียบเทียบกับตนเองดู พบว่าผู้ชายที่อีหลิงชื่นชอบนั้นมีความแตกต่างกับตนเองมากมายเหลือเกิน
ทันใดนั้น หลายคนต่างก็หน้าม่อยคอตกไปตาม ๆ กัน
จางซือจู่เริ่มแรกก็มีอาการท้อแท้หมดหวัง แต่ เขารู้สึกได้ทันทีว่าลักษณะของผู้ชายที่อีหลิงชื่นชอบนั้น เหมือนกับว่าเขาเคยพบเจอที่ไหนมาก่อน? และยังค่อนข้างจะคุ้นเคยมากด้วย
จางซือจู่มองไปยังกู้ซิวหรั่นที่ยืนอยู่ด้านของอีหลิง สีหน้าก็ดูไม่ดีขึ้นทันที “แม่ง ข้าว่าแล้วทำไมลักษณะผู้ชายที่อีหลิงบรรยายนั้นค่อนข้างจะคุ้นเคยอย่างดี ที่จริงแล้วก็คือไอ้คนนี้! ”
“โธ่เอ๊ย นางฟ้าของฉันก็ยังไม่รอดพ้นเงื้อมมือของคนจอมปลอมอย่างกู้ซิวหรั่นไปได้”
หวางหยู่หันถือไมโครโฟนอีกตัวขึ้นมา เหอะเหอะหัวเราะและพูดว่า “เพื่อนนักเรียนอีหลิงได้ตอบคำถามของทุกคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ฉันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ที่อีหลิงได้บรรยายลักษณะออกมานั้น เหมือนกับว่าค่อนข้างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี! ”
ได้ยินดังนั้น ทุกคนมองไปยังกู้ซิวหรั่นที่ยืนอยู่ข้างอีหลิงด้วยสีหน้าท่าทางที่บูดเบี้ยว หม่นหมอง ไม่พูดอะไร
กู้ซิวหรั่นตื่นเต้นดีใจจนหน้าแดงก่ำ ถึงขนาดแอบตัดสินใจว่า อีกสักครู่จะสารภาพรักต่ออีหลิง
หวางหยู่หันเห็นว่าไม่มีใครให้ความร่วมมือกับเธอ ทำได้เพียงแอบก่นด่าในใจ และก็ดำเนินรายการต่อไปตามลำพัง
“เพื่อนนักเรียนอีหลิง ฉันขออนุญาตสอบถามสักเล็กน้อย ผู้ชายคนที่คุณชื่นชอบนี้ ใช่หรือไม่ที่เขาผู้นั้น อยู่ตรงเบื้องหน้าของคุณ? ”
หวางหยู่หันหมายถึงกู้ซิวหรั่นที่อยู่ข้างกายของอีหลิง
แต่ว่า สายตาของอีหลิงกลับมองไปที่หลินหยุนที่นั่งอยู่เบื้องหน้าของเธอ แต่ไหนแต่ไรเธอก็ไม่เคยพิจารณาสนใจในตัวของกู้ซิวหรั่นมาก่อนเลย
อีหลิงนึกว่าถูกหวางหยู่หันล่วงรู้ความลับของตัวเองแล้ว ใบหน้าที่งดงามก็แดงก่ำขึ้น แต่ทว่าอีหลิงก็พยักหน้าตอบอย่างกล้าหาญ “ใช่แล้ว”
จิตใจของพวกเพื่อนนักเรียนก็ยิ่งแย่ลงไปอีก ชายผู้นั้นก็คือกู้ซิวหรั่น อีหลิงพูดยอมรับออกมาด้วยตนเอง
เฮ้อ เวรกรรมจริง ๆ !
แม้แต่นางฟ้าเองก็ไม่สามารถรอดพ้นจากเสน่ห์อันน่าหลงใหลในตัวของกู้ซิวหรั่นไปได้
จางซือจู่ถึงขนาดร้องฟูมฟายเสียงดัง “โธ่สวรรค์ ท่านทำไมถึงทำกันอย่างนี้? โธ่นางฟ้า คุณทำไมถึงไม่คิดทบทวนให้รอบคอบเสียก่อน? คุณชอบใครไม่ชอบ ดันมาชอบคนจอมปลอมอย่างกู้ซิวหรั่นผู้นี้! ”
“พระเจ้าไม่ทรงเปิดตามองดูบ้างเลยจริง ๆ ”
หวางหยู่หันโล่งใจ เวลานี้ แผนการของเธอกับกู้ซิวหรั่นในที่สุดก็สำเร็จเสร็จสิ้นลง
เดิมทีพวกเขาเตรียมการที่จะปลอมแปลงเหตุการณ์ว่าอีหลิงชื่นชอบกู้ซิวหรั่น เพื่อจะมาเย้ยหยันหลินหยุน คิดไม่ถึงว่าอีหลิงกลับชื่นชอบกู้ซิวหรั่นเข้าจริง ๆ จึงช่วยลดขั้นตอนลงมากทีเดียว
หวางหยู่หันหึงหวงอิจฉาเป็นอย่างมาก แต่ภายนอกกลับต้องยิ้มแย้มแสดงความยินดีต่อกู้ซิวหรั่น “คุณชายกู้ ยินดีด้วยยินดีด้วย สามารถเป็นที่ชื่นชอบของดาวประจำมหาวิทยาลัย! ”
เวลานี้กู้ซิวหรั่นพึงพอใจเป็นอย่างมาก และก็ให้เกียรติให้ความสำคัญกับหวางหยู่หันผู้ที่วางแผนมากขึ้นด้วย
“ทั้งหมดเป็นความดีความชอบของพิธีกร มิเช่นนั้น ฉันก็คงยังไม่ทราบว่าคุณน้องอีหลิงมีใจให้กับฉัน จบจากงานนี้ฉันจะต้องตอบแทนเพื่อขอบคุณคุณน้องหยู่หานอย่างแน่นอน! ”
อีหลิงเกิดความสับสน
มีใจอะไรกับใคร?
เธอมีใจกับกู้ซิวหรั่นที่ไหนกันหละ!
แต่ว่า ความสนใจทั้งหมดของอีหลิงในเวลานี้อยู่ที่ตัวของหลินหยุน โดยเลือกที่จะละเลยไม่สนใจกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างแล้ว
หวางหยู่หันกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วหันมองไปที่หลินหยุน เสแสร้งแกล้งยิ้มและพูดขึ้นว่า “อีหลิงดาวประจำมหาวิทยาลัยของพวกเรานั้นมีสายตาที่ไม่เลวเลยทีเดียว คุณชายกู้มีชาติตระกูลที่สูงศักดิ์ มีใบหน้ารูปลักษณ์ที่หล่อเหลา วิชาต่าง ๆ ก็มีผลการเรียนดีติดอันดับต้น ๆ อนาคตก้าวไกลไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน”
“ไม่เหมือนกับใครบางคน นอกเสียจากต่อสู้เป็นแล้ว เรื่องอื่นไม่มีอะไรที่ได้เรื่องได้ราว และยังจงใจแกล้งทำเป็นหยิ่งยโสโอหัง แสดงให้ใครดูอย่างงั้นเหรอ? ”
คำพูดนี้บอกเล่าได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
เมื่อสองวันก่อนในคาบเรียนวิชาการต่อสู้ หลินหยุนสามารถเอาชนะได้ทั้งหลิ่วซิง กู้ซิวหรั่นและผู้ฝึกสอน ซึ่งข่าวได้แพร่กระจายเป็นที่ล่วงรู้ไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยแล้ว
ดังนั้น เมื่อหวางหยู่หันพูดคำนี้ออกมา ทุกคนทราบได้ทันทีว่าเขากำลังเอ่ยถึงหลินหยุน
รับรู้ถึงเจตนาของหวางหยู่หัน เถียนชุ่ยชุ่ยที่อยู่ไม่ห่างออกไปก็ลุกยืนขึ้นในทันที ยิ้มและพูดอย่างเย็นชาว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว! ”
“คุณชายกู้เก่งกล้ามีความสามารถ ชาติตระกูลโด่งดังเป็นที่รู้จัก ไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างใครบางคนจะนำมาเปรียบเทียบกับเขาได้อย่างไรกันเล่า ! สายตาของคุณน้องอีหลิง ไม่เลวเลยทีเดียว! ”
จางเหมิงก็ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเขาบ้าง หัวเราะและพูดขึ้นว่า “พวกแกคงโง่เง่ากันไปแล้ว นำไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวแบบนี้มาเปรียบเทียบกับคุณชายกู้ แบบนี้มันช่างดูถูกเหยียดหยามคุณชายกู้ชัด ๆ! ”
ไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวนั้น แม้ว่าจะมีความสามารถในการต่อสู้ ชีวิตก็คงจะเป็นได้เพียงบอดี้การ์ดให้กับคนอื่น จะมีอนาคตความสำเร็จอะไรกัน? โดยที่เมื่อคุณชายกู้จบการศึกษา ก็รับช่วงต่อบริษัทตระกูลกู้ ถึงเวลานั้นจะรับบอดี้การ์ดกี่คนก็ได้ไม่มีปัญหา
สุภาษิตได้กล่าวไว้ว่าได้ทีขี่แพะไล่ (เมื่อมีคนตกต่ำ ผู้คนก็รุมซ้ำเติมกัน) ยิ่งไปกว่านั้นทั้งจางเหมิองและเถียนชุ่ยชุ่ยต่างก็รังเกลียดหลินหยุน ไม่ปล่อยโอกาสที่จะซ้ำเติมหลินหยุนให้หลุดลอยไปเป็นแน่
เดิมทีอีหลิงกำลังรอการตอบรับของหลินหยุน แต่ว่า ฟังไปฟังมา กลับรู้สึกว่ามันชักจะออกนอกลู่นอกทางไปกันใหญ่
พวกเธอนี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?
อะไรกันที่บอกว่าชาติตระกูลสูงศักดิ์?
อะไรกันที่บอกว่าสายตาไม่เลว?
หรือว่าพวกเธอเข้าใจผิดว่าคนที่ฉันชื่นชอบนั้นคือกู้ซิวหรั่น?
เห็นหลินหยุนมีสีหน้าที่เย็นชามากขึ้น อีหลิงยังนึกอีกว่าหลินหยุนเข้าใจผิดในตัวเธอแล้ว และกำลังโกรธเคืองเธอด้วย
อีหลิงรีบอธิบายทันทีว่า “ไม่ใช่ พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว คนที่ฉันชอบไม่ใช่กู้ซิวหรั่น พวกคุณห้ามพูดซี้ซั้วไปเป็นอันขาด! ”
หวางหยู่หันนึกว่าเธอคงจะอับอาย ยิ้มและพูดขึ้นว่า “คุณน้องอีหลิงไม่ต้องเขินอายหรอก ชื่นชอบคนคนหนึ่ง ก็จะต้องกล้าพูดมันออกมา”
“อีกทั้ง คุณชายกู้หล่อเหลาสง่างาม องอาจอ่อนโยน ชาติตระกูลสูงศักดิ์ ไม่เพียงแค่คุณหรอก นักเรียนหญิงในมหาวิทยาลัยของเราคนไหนที่ไม่ชอบคุณชายกู้บ้างหละ? ”
เถียนชุ่ยชุ่ยก็อยากจะหาโอกาสเอาใจกู้ซิวหรั่นบ้าง จึงพูดขึ้นว่า “หยู่หันพูดได้ถูกต้อง คุณน้องอีหลิง อย่าเขินอายไปเลย คุณชายกู้เป็นผู้ชายที่ดีเลิศขนาดนี้ ผู้หญิงมากมายต่างก็ชื่นชอบในตัวเขา แม้ว่าคุณน้องอีหลิงจะชื่นชอบคุณชายกู้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งนี่มันก็เป็นเรื่องปกติทั่วไป! ”
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันคิดว่า อีหลิงดาวมหาวิทยาลัยกับเดือนมหาวิทยาลัย ก็เป็นคู่ที่สวรรค์ได้บรรจงสร้างขึ้นไงล่ะ! พวกคุณดูสิพวกเขาทั้งสองยืนอยู่ด้วยกัน ประดุจกิ่งทองใบหยกอย่างไรอย่างนั้น นักเรียนชายที่ต้องการประจบกู้ซิวหรั่นพูดเยินยอขึ้นเสียงดัง”
จางซือจู่ดุด่าใหญ่โต “ไอ้พวกประจบสอพลอ ทำไมฉันจึงมองไม่ออกว่าพวกเขาเหมาะสมกันตรงไหน? ไม่เห็นที่จะเหมาะสมกันเลยแม้แต่น้อย! ”
แต่น่าเสียดาย จางซือจู่ไม่เป็นที่รู้จักและคำพูดไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ครู่เดียว กลุ่มพวกสนับสนุนที่กู้ซิวหรั่นได้เตรียมการเอาไว้ ทั้งหมดต่างก็ได้ลุกขึ้นยืนโห่ร้อง
“กิ่งทองใบหยก คู่รักที่สวรรค์ได้บรรจงสร้างขึ้น! ดาวมหาวิทยาลัยควงคู่กับเดือนมหาวิทยาลัย ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก! ”
“คุณชายกู้ อีหลิง คุณชายกู้ อีหลิง……”
ด้านหลังเวที ผู้นำของมหาวิทยาลัยเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ โมโหจนหน้าเขียวไปหมด
“ไร้สาระ ยังไม่รีบไปหยุดพวกเขาอีกเหรอ! ที่นี่คือมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ตลาดสด! ”
คนสนิทคนหนึ่งกระซิบพูดที่ข้างหูของผู้นำมหาวิทยาลัยเล็กน้อย ทางผู้นำมหาวิทยาลัยจึงรีบหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ลงในทันที
“เดิมทีเป็นลูกชายของประธานกู้นี่เอง! งั้นก็ไม่ต้องไปสนใจแล้ว ทุกคนต่างก็อายุยี่สิบกว่าปีกันทั้งนั้น ชายหญิงรักชอบพอกัน ก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปไม่ใช่เหรอ! ”
อีหลิงเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว เธอรู้สึกว่าต่อให้ตัวเองจะพูดแก้ต่างอย่างไรก็คงไม่มีใครเชื่ออย่างแน่นอน
ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดีล่ะ?
ขณะที่กระวนกระวายใจ อีหลิงก็ได้ถือไมโครโฟนแล้วพูดตะโกนขึ้นว่า “ใครบอกพวกคุณกันว่าฉันชื่นชอบคุณชายกู้หละ ฉันชื่นชอบหลินหยุนต่างหาก! ”
เมื่อพูดจบ อีหลิงก็รีบวิ่งเข้าไปหา แล้วพุ่งกระโจนเข้าไปที่อ้อมอกของหลินหยุน