จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 217 จื่ออู่ยี่สิบสี่เข็ม
ในใจเซี่ยเจี้ยนโก๋ก็รู้สึกตกใจ เขาคาดเดาว่าเว่ยเทียนหมิงอาจจะเป็นคุณชายของตระกูลร่ำรวยใครสักคน นึกไม่ถึงว่าเขาเป็นถึงลูกชายของรองนายกเว่ย!
อีกทั้งเมื่อเร็วๆนี้เซี่ยเจี้ยนโก๋ก็ยังได้ข่าวมาว่า รองนายกเว่ยก็ได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นอย่างแน่นอนแล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก
ก็เท่ากับว่าเว่ยเทียนหมิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ต่อไปอนาคตข้างหน้าก็ต้องก้าวไกลอย่างไร้ขีดจำกัด
“ที่แท้เป็นคุณชายของรองนายกเว่ยนี่เอง เสียมารยาทแล้ว!” ท่าทางของเซี่ยเจี้ยนโก๋ก็เริ่มอ่อนโยนมากขึ้นกว่าเดิม
ทันใดนั้นโจวเฟินก็จ้องหน้าเซี่ยหยู่เวยแล้วพูดว่า “หยู่เวย สามีแกล่ะ?”
ขณะที่พูดประโยคนี้ สายตาของโจวเฟินจ้องไปยังมือของเซี่ยหยู่เวยที่ยังคงควงแขนของเว่ยเทียนหมิงอยู่
เซี่ยหยู่เวยและเว่ยเทียนหมิงทั้งคู่ก็ก้มหน้าลงพร้อมกัน ส่งสายตาให้แก่กัน ใบหน้าแสดงออกถึงความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
แต่ว่า โจวเฟินคิดว่าพวกเขาคงจะละอายแก่ใจ จึงก้มหน้าลง
ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงดังแว่วขึ้นมาทันใด
“เป็นพี่เขยนี่เอง!” โจวเถียนเถียนตาไว มองเห็นหลินหยุนก่อน
หลินหยุนในชุดดำทั้งตัว มือทั้งสองไขว้หลัง ค่อยๆเดินเข้ามาอย่างเรียบง่ายสบายๆ
ทันใดนั้นในห้องโถงก็เงียบสงบลงอย่างน่ากลัว ดูเหมือนในเวลาเดียวกันนั้น สายตาของทุกคนจับจ้องไปยังตัวหลินหยุนแต่เพียงผู้เดียว
ถ้าหากหลินหยุนได้เห็นภรรยาตัวเองจับมือถือแขนกับผู้ชายคนอื่น ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ทุกคนต่างก็กลั้นลมหายใจไว้ สายตามองไปตามจังวะก้าวย่างของหลินหยุนอย่างไม่กะพริบตา
หลินหยุนมองแวบเดียวก็เห็นมือของเซี่ยหยู่เวยควงแขนเว่ยเทียนหมิงไว้ แต่ว่า เขากลับดูเหมือนว่าไม่เห็นอะไรเลย เพียงแค่กวาดสายตาผ่านไปเท่านั้น
หลินหยุนเดินมาถึงข้างกายของเซี่ยเจี้ยนโก๋ ยืนตัวตรง ไม่หันไปมองเซี่ยหยู่เวยที่อยู่ข้างๆเลยแม้แต่นิดเดียว ยกมือทั้งสองคารวะเซี่ยเจี้ยนโก๋แล้วพูดว่า “ขอให้คุณอาเซี่ยร่างกายแข็งแรง สมหวังตามความปรารถนาทุกสิ่งครับ”
พูดจบ หลินหยุนก็เอาหนังสือในมือเล่มนั้นส่งมอบให้ “นี่คือของขวัญวันเกิดที่ผมเตรียมให้ท่านครับ!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋มองไปยังหนังสือเก่าๆยับยู่ยี่ในมือของหลินหยุนเล่มนั้น แล้วก็หมวดคิ้ว สายตาแสดงออกถึงความผิดหวังอย่างแรง
แม้แต่ของขวัญวันเกิดของเขาไอ้หมอนี่ยังไม่ใส่ใจถึงเพียงนี้เลย
เป็นเพราะว่าสาเหตุมาจากเซี่ยหยู่เวย เดิมทีเซี่ยเจี้ยนโก๋ก็ยังรู้สึกละอายใจต่อหลินหยุนบ้าง แต่ตอนนี้ก็ได้จางหายไปหมดแล้ว
“วางไว้บนโต๊ะแล้วกัน!” เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดอย่างไร้อารมณ์
โจวเฟินที่อยู่ด้านข้างมองหน้าเซี่ยเจี้ยนโก๋อย่างไม่พอใจ กิริยาท่าทางแบบนี้ไม่จริงใจเลย
จากนั้น โจวเฟินก็ไม่สนใจเซี่ยหยู่เวยทั้งสองคนนั้น รีบลุกขึ้นมา รับหนังสือจากมือของหลินหยุนด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น แล้วพูดว่า “เสียวหยุน เร่งรีบกลับมาจากโรงเรียน ยังต้องเตรียมหาของขวัญให้อีก ลำบากแย่แล้ว!”
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย “ไม่ลำบากหรอกครับ”
โจวเฟินมองไปยังเซี่ยหยู่เวยที่อยู่ด้านข้าง มือของเธอก็ยังคงเกาะแขนของเว่ยเทียนหมิงอยู่
โจวเฟินโกรธจัดจ้องเซี่ยหยู่เวยตาขมัง
“เสียวหยุน แกนั่งรถมานานคงเหนื่อยมากแล้วสิ รีบมานั่งพักก่อน!” โจวเฟินลากตัวหลินหยุนไปนั่งอีกด้าน พยายามให้หลินหยุนนั่งห่างจากเซี่ยหยู่เวยมากที่สุด จะได้ไม่ตะขิดตะขวงใจ
เมื่อเห็นโจวเฟินถึงกับลากตัวหลินหยุนออกไป สิ่งที่ทุกคนคาดเดาไว้ว่าหลินหยุนจะต้องอาละวาดในงานเลี้ยงวันเกิดนั้นก็คงจะยังไม่เกิดขึ้นแน่นอน
สีหน้าของทุกคนในห้องโถงดูแปลกประหลาดมาก มีบางคนก็ออกความคิดเห็นด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา
“ไม่ใช่หรือเปล่า ไอ้หมอนี่ทำไมทนได้ถึงเพียงนี้เชียวเหรอ? ต่อให้เขาเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเซี่ยก็ตาม เมื่อเห็นเมียตัวเองจับมือถือแขนกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าสาธารณชน เขาจะไม่พูดอะไรออกมาสักคำบ้างเชียวเหรอ!”
“ถุยๆ ไอ้หมอนี่ไม่เอาไหนจริงๆ! มิน่าคนอื่นถึงเรียกเขาว่าไอ้ขี้ขลาด เรื่องนี้ถ้าลองเปลี่ยนเป็นฉันนะ ต่อให้ฉันต้องแลกด้วยชีวิต ก็จะต้องจัดการชายโฉดหญิงชั่วคู่นี้ให้ตายคามือไปเลย!”
“ก็อาจจะเป็นเพราะว่าไอ้หมอนี่ขี้ขลาด ดังนั้นยัยลูกสาวตระกูลเซี่ยคนนี้จึงกล้าหาญชาญชัยที่ไปคบหาผู้ชายอื่นไง!”
“ฮาๆ พวกแกสังเกตดูยัยลูกสาวตระกูลเซี่ยนั่นสิ เธอดูเหมือนผู้หญิงที่เคยผ่านการแต่งงานมาเมื่อไรกันล่ะ? ยังเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์อยู่เลย!”
“ไม่ใช่มั้ง พี่ชาย นี่พี่สามารถดูออกได้เลยเหรอ? พี่สอนเทคนิคนี้ให้ฉันด้วยสิ!”
“ฮึ่มๆ ตั้งแต่ที่ยัยลูกสาวนั่นเดินเข้ามาท่าทางการเดินฉันก็ดูออกแล้ว สงสัยหลังจากแต่งงานมา เธอยังไม่เคยให้ไอ้หมอนี่แตะเนื้อต้องตัวเลยแม้แต่นิดเดียว”
“ไม่เช่นนั้นแล้ว คุณชายของรองนายกเว่ยจะมาสนใจเธอเหรอ?”
คำวิจารณ์สารพัด ดังยิ่งขึ้น มีจำนวนมากที่ได้แว่วเข้าหูโจวเฟิน ส่วนหลินหยุนนั้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ได้ยินทุกคำพูดชัดถ้อยชัดคำอย่างเต็มสองหู
โจวเฟินจ้องหน้าคนพวกนั้นตาขมังด้วยความโกรธ แต่ว่าลูกสาวตัวเองทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเช่นนี้ เธอก็ไม่รู้จะไปโทษคนอื่นได้อย่างไร
ก็ได้แต่นั่งทำหน้าบึ้งแสยะปาก แสดงความไม่พอใจของตัวเอง
เซี่ยหยู่เวยมองดูเงาร่างของหลินหยุนที่ถูกโจวเฟินลากตัวไป ก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นมาทันที “แม่คะ พี่เทียนหมิงก็ได้เตรียมของขวัญวันเกิดให้พ่อด้วย แม่จะดูหน่อยไหมคะ?”
โจวเฟินหยุดชะงักสักครู่ หันหน้าไปมองเซี่ยหยู่เวย ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
เธอพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สองคนเกิดการกระแทกกระทั่งกัน แต่ว่าลูกสาวตัวดีคนนี้ดูเหมือนจงใจที่จะหาเรื่อง!
โจวเฟินหันหน้าไปจ้องมองเซี่ยหยู่เวย แต่ก็ไม่พูดอะไร
สีหน้าของผู้คนในห้องโถงก็ยิ่งดูแปลกประหลาดมากขึ้น เซี่ยหยู่เวยจงใจที่จะเอามาเปรียบเทียบกันชัดๆ!
เป็นใครก็ต้องดูออกว่า ของขวัญชิ้นนั้นของหลินหยุน ไม่รู้ว่าไปซื้อมาจากแผงข้างทางที่ไหน จะมาเปรียบเทียบกับของขวัญลูกชายรองนายกได้อย่างไรกันเล่า?
นี่ก็คงต้องเป็นเรื่องที่สนุกแน่
เซี่ยหยู่เวยยิ้มเล็กน้อย กวาดสายตาผ่านหลินหยุนไป นัยน์ตาเต็มเป็นไปด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์
“พ่อคะ นี่เป็นของขวัญที่พี่เทียนหมิงเตรียมมาให้ท่านค่ะ เชิญท่านเปิดดูสิคะ!”
พูดพลางเซี่ยหยู่เวยก็ยื่นกล่องไม้จันทน์สีม่วงสี่เหลี่ยมใบหนึ่งให้กับเซี่ยเจี้ยนโก๋
“เทียนหมิงมีใจจริงเลย!” เซี่ยเจี้ยนโก๋แค่มองกล่องใบนั้น ก็รู้ว่าราคาต้องสูงริ้วทีเดียว สายตาที่มองไปยังเว่ยเทียนหมิงก็ยิ่งพอใจมากขึ้น
แล้วมองดูหนังสือเก่าๆเล่มนั้นของหลินหยุนที่อยู่ในมือของโจวเฟินนั้น นี่มันช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน
“พ่อคะ เปิดดูเลยสิคะ!” เซี่ยหยู่เวยยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ทำอย่างนี้ไม่ค่อยดีมั้ง?” เซี่ยเจี้ยนโก๋ตกใจชะงัก จะเปิดดูของขวัญคนอื่นต่อหน้าได้อย่างไรกัน?
ในเวลานั่นเอง ผู้เฒ่าหยางที่อยู่บริเวณนั้นเดินเข้ามาทันที มองไปยังกล่องสี่เหลี่ยมที่เว่ยเทียนหมิงมอบให้ด้วยสีหน้าที่แตกตื่น
“เป็นยังไงเหรอ? พี่หยางรู้จักของสิ่งนี้ด้วยเหรอ?” เซี่ยเจี้ยนโก๋ถามด้วยความสงสัย
ผู้เฒ่าหยางมองแล้วมองอีก วิเคราะห์อยู่สักพักหนึ่ง สีหน้าจริงจังมากยิ่งขึ้น “น้องเซี่ย ถ้าฉันดูไม่ผิดนะ กล่องนี้ก็คือชุดฝังเข็มจื่ออู่ยี่สิบสี่เข็มของหมอเทพนักปราชญ์เปี่ยนเชวี่ยที่ทิ้งไว้ให้!”
อะไรนะ!
คำพูดของผู้เฒ่าหยาง ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาทั่วห้องโถงทันที!
แขกเหรื่อที่มาอวยพรวันเกิดเซี่ยเจี้ยนโก๋ครั้งนี้ มีจำนวนมากล้วนเป็นคนที่อยู่ในวงการแพทย์ สำหรับชื่อเสียงของชุดฝังเข็มจื่ออู่ยี่สิบสี่เข็มของหมอเทพนักปราชญ์เปี่ยนเชวี่ยนั้น ก็ย่อมต้องเคยได้ยินคุ้นหูกันเป็นธรรมดา
จื่ออู่ยี่สิบสี่เข็มไม่ใช่หายสาบสูญไปนานแล้วเหรอ? เขาไปหามาได้อย่างไรล่ะ?”
“ถูกต้อง ชุดฝังเข็มจื่ออู่ยี่สิบสี่เข็ม เป็นอัญมณีล้ำค่าของประวัติศาสตร์การแพทย์ทั้งประเทศจีนเลย ผู้ที่ศึกษาด้านการแพทย์ล้วนแต่ต้องการแสวงหา ผ่านมาตั้งหลายปีก็ยังหาไม่พบ คุณชายเว้ยท่านนี้หามาได้อย่างไรล่ะ?”
เซี่ยเจี้ยนโก๋ก็ตกตะลึงยืนขึ้นมา มองดูผู้เฒ่าหยางแล้วถามด้วยเสียงเข้มว่า “พี่หยาง พี่แน่ใจเหรอว่าเป็นจื่ออู่ยี่สิบสี่เข็มจริง?”
ผู้เฒ่าหยางมองไปยังเว่ยเทียนหมิงแล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก เพียงแต่เคยได้ยินมาว่าจื่ออู่ยี่สิบสี่เข็มนี้บรรจุอยู่ในกล่องไม้จันทน์สีม่วง แล้วมุมซ้ายล่างของกล่องนั้น ก็สลักอักษรจื่ออู่สองตัวไว้”
เซี่ยเจี้ยนโก๋รีบหยิบกล่องขึ้นมา ก็เห็นตำแหน่งมุมซ้ายล่างนั้น มีตัวหนังสือเล็กเท่าหัวแมลงวัน เขียนตัวอักษรสองตัวว่าจื่ออู่ไว้จริงๆ”
เว่ยเทียนหมิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านผู้อาวุโสทายถูกแล้วครับ นี่ก็คือจื่ออู่ยี่สิบสี่เข็ม!”
“ผมบังเอิญไปพบอยู่ในมือของเพื่อนชาวต่างชาติคนหนึ่ง แล้วมารู้ว่าคุณอาเซี่ยมีทักษะในการฝังเข็มที่ยอดเยี่ยมมาก ก็เลยซื้อเอามาไว้มอบเป็นของขวัญวันเกิดให้คุณอาเซี่ยครับ”
ผู้เฒ่าหยางก็พูดขึ้นว่า “ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง! มิน่าพวกเราแพทย์ทั่วทั้งแผ่นดินจีนตามหามาเป็นเวลาหลายร้อยปีก็ยังไม่พบ ที่แท้ก็ไปตกระกำอยู่เมืองนอกนี่เอง”
“คราวนี้ก็เพราะได้คุณชายเว่ย จึงสามารถทำให้อัญมณีล้ำค่าในประวัติศาสตร์วงการแพทย์ประเทศจีนของพวกเรากลับคืนมาได้!”
“ฉันในนามของนายแพทย์ทั่วทั้งประเทศจีน กราบขอบพระคุณบุญคุณอันใหญ่หลวงของคุณชายเว่ยด้วย!”