จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 218 ไม่ผ่านไม่ผ่าน
เว่ยเทียนหมิงโค้งคำนับตอบรับ “ท่านอาวุโสอย่าทำเช่นนี้เลยครับ ทำให้ผู้น้อยลำบากใจยิ่งนัก!”
ผู้เฒ่าหยางยืนตัวตรงขึ้น แล้วจ้องมองไปที่เว่ยเทียนหมิง พูดด้วยสีหน้าที่ชื่นชม “ดี ดี ดีมากเลย คุณชายเว่ยในฐานะที่เป็นลูกชายคนเดียวของรองนายกเว่ย ทำคุณงามความดีอย่างใหญ่หลวงให้กับวงการแพทย์แห่งประเทศจีน ไม่เพียงแต่ไม่เย่อหยิ่งเลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งยังมีท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตน และให้เกียรติผู้มีความรู้อีกด้วย!”
“ดี ดี รองนายกเว่ยได้ลูกชายที่แสนดีคนนี้! ฉันกล้าที่จะพูดยืนยันเลยว่า ต่อไปในอนาคตผลงานของคุณชายเว่ย รับรองว่าจะต้องอยู่เหนือกว่าคุณพ่ออย่างแน่นอนเลย!”
พ่อของเว่ยเทียนหมิงตอนนี้ก็ได้เลื่อนขั้นอย่างแน่นอนแล้ว ผู้เฒ่าหยางยังพูดยืนยันว่าเว่ยเทียนหมิงจะต้องได้ดีกว่าพ่อของเขานั้น ก็หมายถึงต้องเข้าไปอยู่ในระดับมณฑลอย่างนั้นเหรอ?
ผู้เฒ่าหยางคนนี้ช่างกล้าพูดเสียจริงเชียว!
จะเห็นได้ว่า ผู้เฒ่าหยางชื่นชมเว่ยเทียนหมิงอย่างมากจริงๆ!
คนอื่นๆในห้องโถงใหญ่ต่างก็พยักหน้า พูดกับเว่ยเทียนหมิงอย่างนอบน้อมว่า “คุณชายเว่ย เปรียบเหมือนมังกรในหมู่มนุษย์ด้วยกันจริงๆเลย!”
“คุณชายเว่ย ต่อไปอนาคตข้างหน้าจะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอนเลย!”
“คุณชายเว่ย วันหลังถ้าเจริญรุ่งเรืองแล้ว ต้องช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยนะ!”
เว่ยเทียนหมิงไม่เย่อหยิ่งไม่รีบร้อน ทยอยตอบรับทีละคน “ขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่านที่กล่าวชื่นชม ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ!”
สายตาของเซี่ยเจี้ยนโก๋ที่มองดูเว่ยเทียนหมิง ก็เต็มไปด้วยความชื่นชมเช่นกัน
ต่อให้ไม่พูดถึงฐานะวงศ์ตระกูลของเว่ยเทียนหมิง ลำพังแค่กิริยาท่าทางที่แสดงออกของเว่ยเทียนหมิงนั้น เมื่อเทียบกับรุ่นราวคราวเดียวกันก็ดูเป็นคนที่โดดเด่นกว่าใครๆแล้ว
“ชายหนุ่มคนนี้ นับได้ว่าเป็นหนุ่มหล่อมากความสามารถเลยทีเดียว! สมแล้วที่เป็นลูกชายคนเดียวของรองนายกเว่ย วิธีการอบรมสั่งสอนลูกดีกว่าตระกูลเซี่ยเรามากจริงๆเลย! ฮ่าๆ…..” ในใจของเซี่ยเจี้ยนโก๋ก็แอบกระหยิ่มยิ้มย่อง
สายตาของผู้เฒ่าหยางสำรวจดูตัวของเว่ยเทียนหมิงและเซี่ยหยู่เวยสักครู่หนึ่ง แล้วหันหน้าไปพูดกับเซี่ยเจี้ยนโก๋ด้วยรอยยิ้มที่แฝงด้วยความหมายลึกซึ้งว่า “น้องเซี่ย ยินดีด้วยยินดีด้วยครับ!”
คนอื่นที่เหลือก็หัวเราะอย่างแปลกประหลาดขึ้นมา ต่างก็กล่าวคำยินดีกับเซี่ยเจี้ยนโก๋
แต่ว่า พวกเขาก็ไม่ได้พูดว่ายินดีเรื่องอะไร ทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจแล้ว
เซี่ยเจี้ยนโก๋ใบหน้าแดงก่ำ เขาก็ย่อมเข้าใจคำว่ายินดีของทุกคนหมายความว่าอย่างไร แต่ว่า ลูกสาวตัวเองก็ได้แต่งงานไปแล้ว เรื่องเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจนัก!
เซี่ยเจี้ยนโก๋ส่งเสียงไอเบาๆ เพื่อปิดบังความเคอะเขินของตัวเองไว้
หลังจากนั้นก็พูดว่า “เทียนหมิง ของขวัญชิ้นนี้ของคุณราคาแพงเกินไป ฉันรับไม่ได้หรอก!”
มันก็เป็นเรื่องจริง จื่ออู่ยี่สิบสี่เข็ม ในสายตาคนภายนอกอาจจะเป็นเพียงแค่วัตถุชิ้นหนึ่ง แต่ในสายตาของแพทย์ทั่วทั้งประเทศจีน นั่นก็คือเป็นมรดกวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ เป็นสิ่งวิเศษล้ำเลิศที่สำคัญที่สุด
โดยเฉพาะเซี่ยเจี้ยนโก๋ก็ยังเป็นคนของวงศ์ตระกูลแพทย์แผนจีนอีกด้วย สำหรับสิ่งวิเศษล้ำค่าของวงการแพทย์ชิ้นนี้แล้ว ก็ยิ่งต้องเห็นความสำคัญเป็นพิเศษ
ถึงแม้ว่าเขาจะชื่นชอบจื่ออู่ยี่สิบสี่เข็มนี้เข้ากระดูกแล้วก็ตาม แต่ว่า โบราณว่าไว้หากไม่มีผลงานก็ไม่ควรรับค่าตอบแทน ตอนนี้เขากับเว่ยเทียนหมิงไม่ได้มีความเกี่ยวดองเป็นอะไรกัน เขาจะรับของขวัญอันล้ำค่าชิ้นนี้ได้อย่างไรกัน?
เว่ยเทียนหมิงโค้งตัวลงแล้วพูดว่า “คุณอาเซี่ยครับ โบราณเขาว่าไว้กระบี่วิเศษย่อมคู่วีรบุรุษ เครื่องประทินผิวย่อมคู่กับสาวงาม หลานได้ข่าวว่าทักษะการฝังเข็มของท่านสูงส่งมาก จื่ออู่ยี่สิบสี่เข็มนี้นอกจากท่านแล้ว ยังมีใครที่จะคู่ควรครอบครองได้อีก?”
“ชุดเข็มนี้อยู่ที่ผมแล้ว อย่างมากก็เป็นแค่วัตถุโบราณที่ดูดีชิ้นหนึ่ง แต่ว่าถ้าหากอยู่ในมือของคุณอาเซี่ยแล้ว นั่นก็คืออาวุธวิเศษขั้นเทพที่สามารถใช้ช่วยเหลือชีวิตคนป่วยจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนเลย!”
“ดังนั้น คุณอาเซี่ยอย่าได้ปฏิเสธเลย ต้องรับเอาไว้นะครับ!”
ผู้เฒ่าหยางยืนพูดยุยงอยู่ด้านข้างว่า “ถ้าน้องเซี่ยไม่เอา งั้นก็โอนมาให้ฉันก็ได้ คุณต้องการเงินเท่าไหร่ แจ้งราคามาได้เลย!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋ชำเลืองตาค้อนเขาหนึ่งที ตะคอกด้วยเสียงเบาว่า “ฝันหวานไปเถอะ!”
เซี่ยหยู่เวยก็พูดเตือนว่า “พ่อคะ พ่อก็อย่าไปเกรงใจพี่เทียนหมิงเลย ต่อให้เขามอบของขวัญที่ราคาแพงมากกว่านี้ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่เขาควรต้องทำอยู่แล้ว! พ่อรับไว้ก็แล้วกัน”
คำพูดนี้แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้งอย่างอื่นซึ่งคงเป็นเรื่องที่น่าสนุกทีเดียว
อีกอย่างคำพูดนี้ฟังดูแล้วก็รู้ว่าต้องมีเรื่องต่อเนื่องตามมาอย่างแน่นอน!
เซี่ยเจี้ยนโก๋ในใจหวั่นไหวเล็กน้อย อดไม่ได้ที่มองไปยังเซี่ยหยู่เวยอย่างลึกซึ้ง เห็นเซี่ยหยู่เวยยิ้มด้วยความมั่นใจ และยังพยักหน้าเบาๆให้เขาอีก
เซี่ยเจี้ยนโก๋ในใจก็นึกสงสัย ไม่เข้าใจว่าลูกสาวคนนี้ของเขาต่อไปจะคิดทำอะไรอีก แต่ว่า เขารู้ว่าจะต้องมีเรื่องอะไรใหญ่โตเกิดขึ้นแน่
“ก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ของวิเศษชิ้นนี้พ่อก็รับเอาไว้แล้วกัน
เซี่ยหยู่เวยหันไปยิ้มกับโจวเฟิน “แม่คะ ของขวัญที่พี่เทียนหมิงเตรียมให้กับพ่อ ท่านพอใจหรือเปล่าคะ?”
ถึงแม้ว่าพูดอยู่กับโจวเฟิน แต่ว่า สายตาของเซี่ยหยู่เวยกลับจ้องไปยังหลินหยุนตลอดเวลา วิธีการยั่วยุเช่นนี้ แม้แต่คนตาบอดก็ยังดูออกเลย
สีหน้าของโจวเฟินแลดูไม่ดีเลย “ดีมาก พวกแกมีใจแล้ว”
โจวเฟินพูดจบ สายตาก็จ้องขมังไปยังเซี่ยหยู่เว เธอรู้ว่าลูกสาวตัวเองไม่ค่อยชอบหลินหยุนสักเท่าไหร่นัก แต่ว่า ต่อหน้าญาติมิตรสหายมากมายเช่นนี้ พาผู้ชายมาเยาะเย้ยหลินหยุนมันเป็นการกระทำที่เหลือเกินจริงๆ
ไม่ว่าพวกเขาจะทะเลาะกันอย่างไร แต่ยังไงก็เป็นครอบครัวเดียวกัน เรื่องราวภายในครอบครัว เมื่อปิดประตูแล้วจะแก้ไขยังไงก็ได้ ทำไมจะต้องลากคนอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย?
ดั่งที่ว่า ความในไม่ควรนำออกนอก
เสียดายที่ว่า โจวเฟินนึกไม่ถึงอย่างแน่นอน เป้าหมายที่แท้จริงของเซี่ยหยู่เวยในวันนี้คืออะไร
เซี่ยหยู่เวยไม่ได้สนใจสายตาของโจวเฟินเลย เชิดคอที่ยาวระหงราว หงส์ของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงประชดว่า “ไม่รู้ว่าคนบางคนเขาให้ของขวัญอะไรกับพ่อนะ?”
ทุกคนในห้องโถงต่างก็แอบดีใจ มาแล้ว เรื่องราวสนุกๆกำลังเปิดฉากแล้ว!
โจวเฟินทนไม่ไหวพูดด้วยเสียงต่ำ “เสียวเว้ย หยุดพอแล้ว อย่าทำอะไรให้มันน่าเกลียดเกินไป”
เซี่ยหยู่เวยไม่ตอบ ผู้เฒ่าหยางที่อยู่ด้านข้างก็หัวเราะขึ้นมาทันที “ใช่แล้ว น้องเซี่ยเมื่อครู่ลูกเขยคุณให้หนังสือเล่มนั้นเป็นของขวัญ ไม่แน่อาจเป็นสมบัติล้ำค่าอะไรอีก? รีบเอามาให้พวกเราชมหน่อยสิ!”
“แม้แต่คุณชายเว่ยที่เป็นคนอื่นยังให้ของขวัญล้ำค่าขนาดนี้ ของขวัญที่ลูกเขยน้องเซี่ยให้มา คงต้องล้ำค่ากว่ากันเยอะเลย!”
พวกคนที่ชอบดูเรื่องสนุก ก็ส่งเสียงเชียร์ขึ้น “ใช่ๆ ผู้เฒ่าหยางพูดถูกแล้ว ของขวัญที่ลูกเขยมอบให้ก็ต้องล้ำค่ามากกว่าแน่นอน!”
“น้องเซี่ย คุณคงไม่อยากให้พวกเราได้ดูใช่ไหมล่ะ? วางใจเถอะ ถ้าเป็นของวิเศษล้ำค่าอะไรจริงๆ พวกเราจะไม่พูดออกไปอย่างเด็ดขาด!” ผู้เฒ่าหยางพูดอย่างยั่วยุ
เซี่ยเจี้ยนโก๋มองไปยังหลินหยุนด้วยความเกลียดชัง ในใจแอบด่าทอว่า “ไอ้หมอนี่หาเรื่องให้ฉันเดือดร้อนอีกแล้ว ไม่มีปัญญาซื้อของมีค่า ก็ไม่ต้องหาของขวัญมาให้ดีกว่าอีก ทำให้ฉันต้องอับอายขายหน้าไปหมด!”
แต่ว่า เซี่ยเจี้ยนโก๋ตอนนี้ขี่หลังเสือลงยากแล้ว ไม่อยากให้ผู้เฒ่าหยางดูก็ไม่ได้อีก
“หลินหยุน แกเอาของให้ผู้เฒ่าหยางดูหน่อยสิ!” เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดจบ ก็หันหน้าไปทางอื่น ดูเหมือนแทบจะไม่อยากมองหน้าหลินหยุน กลัวคนอื่นรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์อะไรกับหลินหยุน
มองดูท่าทางน่ารังเกียจของเซี่ยเจี้ยนโก๋แล้ว สีหน้าของผู้เฒ่าหยางและคนส่วนใหญ่ก็แสดงออกถึงความเย้ยหยัน
หลินหยุนยืนอยู่ข้างๆโจวเฟินอย่างเงียบๆ สีหน้าเรียบเฉย ไม่ทุกข์ไม่ร้อน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จึงส่งยิ้มให้โจวเฟินแล้วพูดว่า “น้าเฟินครับ เอาหนังสือให้เขาไปเถอะ!”
โจวเฟินขมวดคิ้วแล้วมองไปยังหลินหยุน ไม่รู้จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหลินหยุนอย่างไรดี “เสียวหยุน ถ้าแกไม่อยากให้พวกเขาดู ขอเพียงแกพูดมาคำเดียว ใครก็อย่าคิดหวังจะได้ดูเลย!”
“ขอบคุณครับน้าเฟิน ผมไม่เป็นไรครับ เอาหนังสือให้พวกเขาไปเถอะ!” สีหน้าหลินหยุนไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาเลย
“ก็ได้!” โจวเฟินทำตาขมังใส่ผู้เฒ่าหยาง โยนหนังสือให้เขาแล้วพูดว่า “ค่อยๆดูก็แล้วกัน กลัวแต่ว่าคุณจะอ่านไม่รู้เรื่อง!”
ผู้เฒ่าหยางหัวเราะร่า ไม่ถือโทษโกรธโจวเฟิน เริ่มพลิกดูหนังสือเล่มนั้นของหลินหยุน
เมื่อเปิดอ่านไปได้สองหน้า ทันใดนั้นผู้เฒ่าหยางก็ส่งเสียงตกตะลึงออกมา “แปลกจริง ความคิดเช่นนี้มันเป็นแนวคิดใหม่!”
เดิมทีผู้คนทั้งหลายรอดูให้ผู้เฒ่าหยางโยนหนังสือลงบนพื้น แล้วตะโกนด่าว่าขยะโสโครก
แต่ว่า กลับกลายเป็นเสียงอุทานตกตะลึงของผู้เฒ่าหยาง!
ทุกคนต่างก็สงสัยว่า หรือว่าหนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งของล้ำค่าจริงๆ?
“ผู้เฒ่าหยาง คุณพบเห็นอะไรเหรอ?” ผู้เฒ่าหูที่มาพร้อมกับผู้เฒ่าหยางเกิดความสงสัยจึงถามขึ้น
ผู้เฒ่าหยางดูเหมือนว่าถูกเนื้อหาในหนังสือดึงดูดไว้ ถึงกับไม่ได้ยินเสียงของผู้เฒ่าหูที่พูดกับตัวเอง ได้แต่พูดพึมพำกับตัวเองคนเดียวว่า “แนวความคิดของวิชาการฝังเข็มเล่มนี้ ทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อนึกไม่ถึง แต่ว่าก็ยังมีบางอย่างเหลวไหลที่ไม่ผ่านนะ!”
“จากจุดเทียนหลิงถึงจุดหย่งฉวน ในระหว่างนี้ถูกกั้นกลางด้วยร่างกายของคนเรา ทำไมถึงทะลุผ่านไปได้ง่ายดายเช่นนั้น? วิธีนี้ถึงแม้จะมหัศจรรย์อย่างไม่มีที่ติ แต่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นจริงได้”