จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 227 ชะตากรรมของเซี่ยหยู่เวย
เซี่ยหยู่เวยยิ้มเยาะเย้ย “หลินหยุน นายไม่ต้องมาเสแสร้ง นายก็แค่คิดว่าตัวเองได้เปรียบที่มีทักษะการแพทย์ล้ำเลิศ สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ไม่ใช่เหรอ?”
“แต่ฉันขอบอกนาย คนอื่นอาจจะนับถือนาย แต่ฉันไม่ สิ่งที่ฉันแสวงหาคืออำนาจ และความมั่งคั่ง”
ใบหน้าของหลินหยุนมีรอยยิ้มแหย่ๆ “ช่วยชีวิตคน? เธอคิดผิด สิ่งที่ฉันชอบคือการฆ่าคน!”
ย้อนกลับไปในตอนนั้น หลินหยุนคนเดียวเคยสังหารคนทั้งเผ่าพันธุ์ และทำลายดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตสองดวงโดยตรง รวมถึงสิ่งมีชีวิตนับหมื่นล้านบนโลกใบนี้
ชื่อเสียงและอำนาจของมหากษัตริย์ชางฉอง ไม่ได้รับการส่งเสริมจากคนรอบข้าง แต่สร้างขึ้นจากการฆ่าล้างทำลาย
เมื่อเทียบกับการช่วยชีวิตคน หลินหยุนชอบการฆ่าคนมากกว่า
เพียงแต่ว่า เซี่ยหยู่เวยไม่เชื่ออย่างแน่นอน ตอนนี้มันเป็นสังคมที่อยู่ภายใต้หลักนิติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ชาวจีน การฆาตกรรมต้องชดใช้ด้วยชีวิต
ชาติกำเนิดของเซี่ยหยู่เวย ทำให้มุมมองความคิดเห็นของเธอ ถูกจำกัดไว้กับประเทศนี้ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่า หลินหยุนกำลังขี้โม้!
“หลินหยุน พูดตามตรง แม้ว่านายจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในด้านทักษะทางการแพทย์ แต่ฉันก็ยังดูถูกนาย”
“ไม่ใช่เรื่องใด แค่ทัศนคติที่นายไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา มันน่าเบื่อจริงๆ!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋รีบตะโกน “หยู่เวย ทำไมพูดอย่างนี้! รีบขอโทษหลินหยุนเร็ว!”
เซี่ยหยู่เวยมองเซี่ยเจี้ยนโก๋ และพูดอย่างเย็นชา “คุณพ่อ คุณแม่ ถ้าพวกท่านยังคิดว่าฉันเป็นลูกสาวแท้ๆของพวกท่าน ถ้าอย่างนั้นการแต่งงานของหนูก็ให้หนูตัดสินใจด้วยตัวเอง!”
“อย่าโวยวาย!” ใบหน้าของเซี่ยเจี้ยนโก๋ซีดเซียว เซี่ยหยู่เวยไม่ยอมเชื่อฟังสิ่งที่เขาพูดเลย
สีหน้าโจวเฟินดูกังวลและพูดว่า “เสี่ยวเวย พ่อแม่ไม่ทำร้ายหนูแน่นอน หนูเชื่อฟังสิ่งที่พ่อแม่พูด อย่าตามอำเภอใจเลย!”
เซี่ยหยู่เวยส่ายหัว ใบหน้าของเธอแน่วแน่ “นี่ไม่ใช่การทำตามอำเภอใจ ชีวิตคู่แต่งงานของหนู ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง”
“บางทีในสายตาของพวกท่าน หลินหยุนเป็นคนสมบูรณ์แบบ แต่ว่า ทัศนคติของเราสองแตกต่างกัน ไปด้วยกันไม่ได้!”
“ไม่ว่ายังไง หนูจะไม่แต่งงานกับเขา ดังนั้นพวกท่านอย่าเสียเวลาอีกเลย”
รองประธานถังและหมอเทพเย่ ต่างมองหน้ากัน มองไปที่เซี่ยหยู่เวยแล้วส่ายหัว หมอเทพที่สามารถรักษาโรคและช่วยชีวิตผู้คนได้ ถ้าต้องการอำนาจและความมั่งคั่ง มันยากเหรอ?
เพราะความมีอคติที่เซี่ยหยู่เวยมีต่อหลินหยุน เคยเชื่อในสิ่งที่คิดไว้แล้วว่ามันผิดถึงจะมีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นก็เปลี่ยนความคิดนั้นไม่ได้!
แปะๆๆเสียงตบมือ!
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก!”
เสียงปรบมือที่มีจังหวะดังมาจากประตู
ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาว เดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องสองคน
“น้องหยู่เวย พูดได้ดีมาก!” ชายหนุ่มยกนิ้วโป้งให้เซี่ยหยู่เวย
ดวงตาของชายหนุ่มดูก้าวร้าวมาก จ้องไปที่หน้าอกของเซี่ยหยู่เวย ราวกับเสือชีตาห์ที่กำลังมองเหยื่อ
เซี่ยหยู่เวยถูกมองจนรู้สึกโมโหในใจ และตะโกนอย่างเย็นชา “ใครเป็นน้องหยู่เวยของนาย! นายเป็นใคร?”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย หันไปมองเซี่ยเจี้ยนโก๋ ใช้สองมือประสานกันเพื่อทำความเคารพและพูดว่า “คุณอาเซี่ย ผมคนรุ่นหลังกู่เซิงยู่!”
หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มก็มองเซี่ยเจี้ยนโก๋อย่างแปลกๆ ราวกับว่ากำลังรออะไรบางอย่าง
กู่เซิงยู่? ไม่รู้จัก!” ในความรู้สึกของเซี่ยหยู่เวย ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
เพียงแต่ว่าเซี่ยเจี้ยนโก๋มีสีหน้าค่อนข้างแปลกใจ และเขามองกู่เซิงยู่อย่างสงสัย “นายแซ่กู่?”
กู่เซิงยู่หัวเราะ “ดูเหมือนว่าคุณอาเซี่ยจะจำอะไรได้แล้ว!”
“กู่เชียนซานเป็นอะไรกับนาย?” สีหน้าของเซี่ยเจี้ยนโก๋เริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา สายตาจับจ้องไปที่กู่เซิงยู่
กู่เซิงยู่พูดอย่างไม่โอ้อวดและไม่ดูถูกตัวเอง “เป็นพ่อของผมเอง!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋ยิ่งแปลกใจมากขึ้น เขาเหลือบมองกู่เซิงยู่ จากนั้นก็มองเซี่ยหยู่เวย และถามว่า “วันนี้นายมาหาฉัน ต้องการอะไร?”
มุมปากของกู่เซิงยู่ยกสูง และพูดว่า “คุณอาเซี่ยนี่เป็นคนที่สูงส่งแต่ขี้ลืมจัง! ข้อตกลงระหว่างสองตระกูลของเรา คุณอาลืมไปแล้วเหรอ แต่ท่านพ่อของผมยังจำได้เสมอ! ทุกเวลาไม่เคยลืม”
“นี่ก็ วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบห้าสิบปีของคุณอาเซี่ย ดังนั้นจึงให้ผมมาทำตามข้อตกลงการเดิมพันในปีนั้น”
สีหน้าของเซี่ยเจี้ยนโก๋เคร่งเครียด “ในตอนนั้นนั่นเป็นแค่เรื่องตลกของนายท่านทั้งสอง ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง! นอกจากนี้ ฉันถูกขับไล่ออกจากตระกูลเซี่ยนานแล้ว และไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลเซี่ยอีกต่อไป”
“เดิมพันนั้น อย่าพูดถึงมันเลย!”
กู่เซิงยู่หัวเราะ “คุณอาเซี่ยพูดผิด! เนื่องจากนายท่านทั้งสองคนได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับการเดิมพันไว้ แล้วพวกเราที่เป็นคนรุ่นหลังก็ควรทำตามสัญญา!”
“เว้นแต่ คุณอาเซี่ยจะยอมจำนน จากนั้น ตามที่ตกลงกันไว้ ให้น้องหยู่เวยแต่งงานกับผม”
กู่เซิงยู่มองไปที่เซี่ยหยู่เวย ด้วยดวงตาที่ร้อนแรง
เซี่ยหยู่เวยตกใจและโกรธมาก มองไปที่เซี่ยเจี้ยนโก๋และถามว่า “คุณพ่อ เดิมพันอะไร? เขาเป็นใคร? ทำไมถึงมาพูดไร้สาระที่นี่!”
เว่ยเทียนหมิงก็จ้องไปที่กู่เซิงยู่ และพูดอย่างเย็นชาว่า “หยู่เวยเป็นแฟนของฉัน พวกเราจะหมั้นกันในไม่ช้า โปรดให้เกียรติกันหน่อย มิฉะนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน!”
กู่เซิงยู่หัวเราะ และพูดว่า “เว่ยเทียนหมิง คุณชายหลินโจวลูกของเว่ยเต๋อหลงรองนายก โอ้ไม่ใช่ ควรจะเป็นลูกชายเว่ยเต๋อหลงนายกแห่งหลินโจว ตำแหน่งนี้ไม่เล็ก แต่ว่า ควบคุมฉันไม่ได้”
ดูเหมือนกู่เซิงยู่จะไม่เห็นเว่ยเต๋อหลงอยู่ในสายตาเลย
เว่ยเทียนหมิงหรี่ตา และถามด้วยน้ำเสียงขรึม “นายมีฐานะตัวตนมาจากไหน?”
กู่เซิงยู่หัวเราะ แต่ไม่ตอบ
“ทำไม? พูดไม่ได้หรือไง? คนต่ำต้อยที่ซ่อนตัวไม่กล้าเปิดเผย!” เว่ยเทียนหมิงเยาะเย้ย
รอยยิ้มของกู่เซิงยู่เคร่งขรึม และมองไปที่เว่ยเทียนหมิงด้วยสายตาที่ดุร้าย เว่ยเทียนหมิง ชื่อพ่อของนาย อาจจะข่มขู่ผู้คนธรรมดาในโลกมนุษย์ได้ แต่มันไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน!”
“เหตุการณ์วันนี้ เป็นเรื่องของตระกูลกู่และตระกูเซี่ย ใครก็ตามที่กล้าเข้ามาแทรก ก็คืออยากมีปัญหากับตระกูลกู่ ถ้าอย่างนั้นก็อย่าโทษว่าตระกูลกู่ไม่ให้ความเกรงใจ!”
ทัศนคติของกู่เซิงยู่นั้นเย่อหยิ่งมาก ราวกับว่าไม่เห็นใครอยู่ในสายตาสักคน แม้แต่รองประธานถังและหมอเทพเย่ เขาก็แค่เหลือบมองอย่างไม่ใส่ใจ
“ไอ้หนุ่มคนนี้ มีประวัติมาจากไหน? จองหองขนาดนี้!”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะสงสัย
เซี่ยหยู่เวยจ้องมองเซี่ยเจี้ยนโก๋อย่างโกรธจัด และตะโกน “คุณพ่อ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เขาเป็นใคร!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋ถอนหายใจ “เฮ้อ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะปกปิดก็คงปิดไม่อยู่แล้ว ถ้างั้นฉันจะบอกเธอ!”
“เขาไม่ใช่คนธรรมดาในโลกมนุษย์ เธอยังจำตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนที่ฉันเคยเล่าได้ไหม? เขาเป็นคนในตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน”
ทุกคนในห้องโถงตกใจ!
“ในโลกนี้มีตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนจริงๆหรือ!”
“โอ้พระเจ้า ตำนานนี้เป็นความจริง!”
หมอเทพเย่และรองประธานถังไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ พวกเขารู้ว่าตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนมีอยู่จริง
เพียงแต่ว่า เว้นแต่บุคคลเหล่านี้จะแสดงตัวตนออกมาเอง มิเช่นนั้นจะหาพวกเขาไม่เจอ
เว่ยเทียนหมิงดูงุนงง เขาไม่รู้จักตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนเลย และเขายังไม่เคยได้คลุกคลีกับความลับเหล่านี้
เซี่ยหยู่เวยตกใจ และถามต่อว่า “แม้ว่าเขาจะมาจากตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตระกูลเรา?”
เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดว่า “เรื่องนี้ควรเริ่มต้นพูดจากคุณปู่ของลูกก่อน”
“คุณปู่ของลูกและนายท่านของตระกูลกู่ เดิมพันที่โต๊ะอาหารค่ำ เมื่อลูกของกู่เชียนซานโตขึ้นถึงอายุสิบแปดปี ทั้งสองตระกูลจะมีการแข่งขันกัน”
“ถ้าลูกแพ้ ก็ต้องแต่งงานกับคนในตระกูลกู่”
เซี่ยหยู่เวยหายใจหอบ นึกไม่ออกจริงๆว่ามันยุคสมัยไหนแล้ว ยังมีการเดิมพันที่ไร้สาระเช่นนี้!
“เดิมพันนี้กำหนดขึ้นเมื่อไหร่? ทำไมหนูถึงนึกไม่ออกเลย?” เซี่ยหยู่เวยถาม
“ตอนนั้นพ่อยังไม่รู้จักแม่ของลูก? ลูกไม่รู้อยู่แล้ว!” เซี่ยเจี้ยนโก๋ยิ้มอย่างขมขื่น
เซี่ยหยู่เวยยิ้มอย่างโกรธเคือง “ไร้สาระ! ถ้าพ่อและแม่ให้กำเนิดลูกชายล่ะ? จะแต่งงานกันอย่างไร”
เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดว่า “ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย และตระกูลกู่เป็นลูกสาว ผู้ชายก็ต้องเปลี่ยนนามสกุลเข้าไปอยู่บ้านผู้หญิง ถ้าทั้งสองตระกูลเป็นทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงเหมือนกัน ผู้ที่แพ้ต้องไปเป็นทาสของอีกฝ่ายเป็นเวลาสามปี!”
เซี่ยหยู่เวยรู้สึกอยากอาเจียนเป็นเลือด การพนันชนิดนี้เป็นเรื่องที่น่าตลกสิ้นดี!