จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 23 ทำให้เป็นเรื่องยาก
บทที่ 23 ทำให้เป็นเรื่องยาก
หลินหยุนเดินไปที่ด้านหน้ารถของเว่ยเทียนหมิง เซี่ยหยู่เวยนั่งคันนี้ เขาก็ต้องนั่งคันนี้
แต่ว่า เซี่ยหยู่เวยก็พูดขึ้น: “นายไปนั่งรถคันอื่นเถอะ!”
เมื่อได้ยินเซี่ยหยู่เวยพูดแบบนั้น หลี่เหยนที่อยู่ด้านหลังก็รีบชะโงกหน้าออกมาแล้วพูด: “รถฉันเต็มแล้ว”
บนหน้าของหวางเสี่ยวซีก็มีรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้น: “รถฉันก็นั่งไม่ได้แล้ว ถ้างั้นนายกลับไปเถอะ!”
“พวกเธออย่าทำแบบนี้สิ!” อีหลิงเริ่มทนดูไม่ไหว เห็นๆ อยู่ว่าที่นั่งเหลืออีกตั้งเยอะ
“หลินหยุน นายมานั่งกับฉันนี่มา!” อีหลิงช่วยหลินหยุน
ถึงแม้อีหลิงดูภายนอกจะเหมือนผู้หญิงเย็นชา ที่จริงแล้วเธอเป็นคนที่ใจดีมาก ไม่ชินกับการที่เห็นพวกหลี่เหยนรังแกหลินหยุน
เมื่อเห็นอีหลิงโกรธ หวางเสี่ยวซีจึงต้องยอมแพ้ไป
หลี่เหยนก็ไม่กล้าทำให้อีหลิงไม่พอใจ จึงทำได้แค่พูดอย่างไม่สบอารมณ์: “ขึ้นมา!”
หลินหยุนมองไปที่อีหลิง แล้วรีบผงกหัวให้เล็กน้อย: “ขอบคุณสำหรับความหวังดีของเธอนะ!แต่ว่าถึงยังไงฉันก็จะนั่งกับภรรยาของฉัน!”
หลินหยุนพูด เขายืนอยู่ด้านข้างรถ แล้วมองเข้าไปมองเซี่ยหยู่เวยที่นั่งอยู่ในรถอย่างนิ่งๆ
“ฉันรับปากน้าเฟินแล้ว ว่าจะดูแลเธอให้ปลอดภัย ไม่ว่ายังไง ฉันควรจะนั่งกับเธอ” สีหน้าของหลินหยุนเรียบเฉย น้ำเสียงมีความแน่วแน่
เซี่ยหยู่เวยจ้องไปที่หลินหยุนอย่างเย็นชา และดูด้วยสีหน้าเย็นชา: “ความปลอดภัยของฉันไม่จำเป็นต้องให้นายมาดูแล”
เว่ยเทียนหมิงที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับก็หรี่ตาลง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา จากนั้นหันหน้าไปคุยกับหลินหยุน: “นายคิดว่าฉันปกป้องเซี่ยหยู่เวยไม่ได้?”
หลินหยุนมองเว่ยเทียนหมิง แล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง ตอบว่า: “ใช่แล้ว”
ถึงแม้เมื่อชาติที่แล้วหลินหยุนไม่ได้พาเซี่ยหยู่เวยไปงานวันเกิดของหวางเสี่ยวซี แต่ว่าหลังจากนั้นเขาก็ได้ยินว่าเรื่องครั้งนี้
เหมือนว่าคนพวกนี้ไปยั่วยุบุคคลท่านหนึ่ง แม้แต่เว่ยเทียนหมิงก็ไม่ไว้หน้า อีกฝ่ายล้มคนพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นเหมือนว่ารองนายกเว่ย ของเมืองหลินโจวต้องขอร้องบุคคลท่านนั้นด้วยตัวเอง ถึงจะปล่อยพวกเว่ยเทียนหมิงกลับมา
ประโยคที่หลินหยุนบอกว่าใช่แล้ว ไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกเว่ยเทียนหมิง แต่แค่พูดออกไปตามจริง
แต่ เห็นได้ชัดว่าเว่ยเทียนหมิงไม่ได้คิดแบบนั้น เขาคิดว่าหลินหยุนกำลังดูถูกเขา
ตาของเว่ยเทียนหมิงเหมือนกับมีควันฟุ้งออกมา: “ไอ้หนู อย่ามาทดลองความอดทนของฉัน ไม่งั้น ผลที่ได้นายจะรับไม่ไหว!”
“เหรอ? ฉันก็อยากจะเห็นจริงๆ ว่าจะเป็นยังไง” พูดจบ หลินหยุนก็มองเว่ยเทียนหมิงอย่างยั่วยุ
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูตั้งแต่อดีตชาติ ถึงแม้ในชาตินี้หลินหยุนจะไม่เอาเขามาใส่ใจก็ตาม แต่ว่าในใจของเขาก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่
หลินหยุนไม่สบายใจ แน่นอนว่าจะให้เว่ยเทียนหมิงอยู่อย่างสบายใจไม่ได้เช่นกัน
“รนหาที่ตาย!” เว่ยเทียนหมิงทำท่าเหมือนจะลงจากรถ
เซี่ยหยู่เวยรีบพูดขึ้น: “เทียนหมิง!ให้เขาขึ้นมาเถอะ ยังไงเขาก็มากับฉัน ถ้าหากนายทำร้ายเขากลับไปฉันก็อธิบายให้แม่ฟังลำบาก!”
เว่ยเทียนหมิงจ้องหลินหยุนตาเขม็ง น้ำเสียงเย็นยะเยือก: “ไอ้หนู หยู่เวยขอร้องแทนนาย ครั้งนี้ฉันจะปล่อยนายไป ถ้ามีครั้งต่อไป นายได้เห็นดีแน่!”
หลินหยุนยักไหล่ แล้วยิ้มนิ่งๆ เอาไม่ได้ใส่ใจเว่ยเทียนหมิงเลย
พอขึ้นรถ หลินหยุนกับเซี่ยหยู่เวยก็นั่งอยู่เบาะหลัง
เซี่ยหยู่เวยขยับชิดด้านข้าง พยายามอยู่ให้ห่างหลินหยุน แล้วมองไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่พูดอะไรสักคำ
หลินหยุนเอนหลังพิงเบาะ แล้วหลับตา เพราะเขาตอบรับคำน้าเฟินไปแล้ว ว่าจะดูแลความปลอดภัยของเซี่ยหยู่เวย เขาจึงไม่อยากเสียเวลาไปกับคนพวกนี้
“เมืองศตวรรษต้าฮัว พวกฉันไปก่อนและน้า!” หวางเสี่ยวซีตะโกนบอกรถสองคันที่อยู่ด้านหลัง
จ้าวกางผิวปาก ก่อนจะเหยียบคันเร่งมิดเท้า เสียงออกตัวของรถสปอร์ต และควันดำที่ฟุ้งออกมา รถก็ได้แล่นออกไป
“เหอะ อยากจะทิ้งห่างพวกเรา ประตูยังไม่มีเลย!” หลี่เหยนอยากจะโชว์เท่ต่อหน้าอีหลิง เขาตบไปที่พวงมาลัยอย่างแรง และขับแซงหน้ารถของเว่ยเทียนหมิง ตามคันหน้าไป
“คุณชายเว่ย พวกเราไปก่อนนะ!ฮ่าๆ !” หลี่เหยนหัวเราะ
เว่ยเทียนหมิงมองหลินหยุนผ่านกระจกหลัง จู่ๆ ก็พูดขึ้น: “หยู่เวย จับให้แน่น”
“อืม” เซี่ยหยู่เวยได้ยิน ทันใดนั้นก็คาดเข็มขัด และจับที่จับด้านบนไว้แน่น
เมื่อเห็นทั้งสองร่วมมือกันดี สีหน้าของหลินหยุนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา
ชาติก่อนวันที่เขาตายถึงจะได้รู้เรื่องที่เซี่ยหยู่เวยหักหลังเขา แต่เมื่อกี้จากที่ได้เห็น พวกเขาทั้งสองคนทำเรื่องชั่วๆ มาตั้งนานแล้ว
เว่ยเทียนหมิงยิ้มชั่วมุมปาก แล้วเหยียบคันเร่งลงอย่างแรง รถก็ได้พุ่งทะยานออกไปข้างหน้า
ถึงเว่ยเทียนหมิงจะเตือนเซี่ยหยู่เวยไว้ก่อนแล้ว แต่เธอก็ยังจับไม่อยู่จนร่างเซไปด้านหน้าอย่างแรง ถ้าหากไม่ได้เตรียมตัวก่อน ตัวเธอคงจะพุ่งไปอยู่เบาะด้านหน้าเลยก็ได้
แต่ว่า กลับกัน หลินหยุนก็ยังนั่งอยู่อย่างนิ่งๆ ไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
เว่ยเทียนหมิงสีหน้าย่ำแย่ สายตาของเซี่ยหยู่เวยเผยให้เห็นความประหลาดใจ
“ไม่ต้องมาแกล้งฉันด้วยเรื่องหลอกเด็กพวกนี้ ไม่งั้นคนที่แย่จะเป็นพวกนายเอง” หลินหยุนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“เหอะ!” เว่ยเทียนหมิงทำหน้าบึ้ง แล้วขับรถไปดีๆ
เมืองศตวรรษต้าฮัวเป็นห้างฯ ที่รวบรวมทุกอย่างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลินโจว ด้านบันเทิง อาหาร แหล่งช้อปปิ้ง ฟิตเนสใจกลางธุรกิจรวมอยู่ที่นี่
ตามแพลนที่หวางเสี่ยวซีวางไว้ อย่างแรกพวกเขาจะเดินช้อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้าสวยๆ เยอะๆ
ผู้หญิงรักสวยรักงามมาตั้งแต่เกิด และชอบช้อปปิ้ง พอมาถึงห้างฯ เมื่อผู้หญิงทั้งสามคนได้เห็น ชุดสีสันสดใส และเสื้อผ้าเทรนด์ใหม่ ก็ตาเป็นประกายกันหมด แม้แต่จอมเย็นชาอย่างอีหลิงก็ห้ามใจไม่ได้
“เสื้อแบบใหม่เยอะเลย เวยเวย หลิงหลิง วันนี้พวกเราช้อปกันให้กระจุยไปเลย อย่างน้อยคนละห้าชุดนะ!” หวางเสี่ยวซีพูดอย่างตื่นเต้น
“เธอรวยนี่ แต่พวกเราไม่ได้รวยแบบเธอนะ!” เซี่ยหยู่เวยพูดอย่างเจ็บปวด
ด้านหลังผู้หญิงทั้งสามจู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะแปลกๆ ดังขึ้นจากหลี่เหยน เขาพูด: “ฉันมีข้อเสนอ สาวสวยทั้งสามตั้งใจช้อปไป พวกเราผู้ชายรับหน้าที่จ่ายเงิน เป็นยังไง?”
จ้าวกางใจเข้าความหมายของหลี่เหยนในทันที แล้วพูดพลางหัวเราะ: “นั่นมันแน่นอน ทุกครั้งที่เสี่ยวซีของฉันช้อปปิ้งฉันก็ออกให้ทุกครั้ง เป็นผู้ชายหากออกเงินให้ผู้หญิงไม่ได้ งั้นผู้ชายคนนั้นก็ไร้ประโยชน์ดิว่ะ”
หวางเสี่ยวซีกลอกตาไปมา แล้วยกนิ้วโป้งให้จ้าวกาง: “พูดได้ดี!จ้าวกางของฉันใจป้ำที่สุดเลย กลัวแต่ว่ามีบางคนไม่กล้าอ่ะ!”
หวางเสี่ยวซีตั้งใจลากเสียงยาว แล้วมองไปที่หลินหยุนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
อีหลิงมองเป้าหมายของคนพวกนี้ออก
เว่ยเทียนหมิงไม่ต้องพูดถึง บ้านของหลี่เหยนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ามากกว่าพันล้าน บ้านของจ้าวกางก็มีหลายสิบล้าน ตัวเขาเองก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ เงินเดือนก็ไม่น้อย ไม่ใช่คนที่จะขาดเรื่องเงิน
แต่ว่า กลับกัน หลินหยุนใส่เสื้อผ้าธรรมดา ถึงแม้หน้าตาจะใช้ได้ แต่เห็นได้ชัด99%ว่าหลินหยุนซื้อเสื้อผ้าในร้านนี้ไม่ได้
“แบบนี้ไม่ดีมั้ง?” ถึงยังไงอีหลิงก็ยังใจดี ไม่อยากให้หลินหยุนดูแย่เกินไป
“เสี่ยวหลิงหลิง!” หวางเสี่ยวซีดึงอีหลิงไว้ แล้วมองหลินหยุน พูดอย่างอวดดี: “ถ้าหากผู้ชายคนหนึ่งไม่มีความกล้าที่จะซื้อของให้ผู้หญิงของตัวเอง นั่นยังจะเป็นผู้ชายอยู่อีกเหรอ!”
เว่ยเทียนหมิงพยักหน้า พูด: “ฉันเห็นด้วยกับเสี่ยวซี”
ในกลุ่มคนพวกนี้ ฐานะของเว่ยเทียนหมิงนั้นสูงที่สุด เขาเอ่ยปากพูด อีหลิงก็ไม่กล้าแย้ง
เซี่ยหยู่เวยมองไปที่หลินหยุน ถึงแม้เธอจะไม่เห็นหลินหยุนอยู่ในสายตา แต่ไม่ว่ายังไงหลินหยุนก็ยังเป็นสามีในนามของเธอ
ผู้หญิงทุกคนก็อยากให้ผู้ชายของตนเอาใจ เวลาช้อปปิ้งก็อยากให้ผู้ชายของตนออกให้ ตอนฝนตกกลางร่มให้ เซี่ยหยู่เวยก็ไม่ต่างกัน
แต่ในความเป็นจริง ทุกทั้งไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งหรือกินข้าว ก็เป็นเซี่ยหยู่เวยที่จ่ายเองตลอด
พอนึกถึงตรงนี้ สีหน้าของเซี่ยหยู่เวยก็เริ่มบึ้งตึง สายตาที่มองไม่ยังหลินหยุน มันดูรังเกียจยิ่งกว่าเดิม
“หยู่เวยสนใจแค่เลือกเสื้อผ้าเถอะ ไม่ว่าเธอชอบอะไร ก็ซื้อได้หมด ฉันจะจ่ายให้เอง”
เว่ยเทียนหมิงที่อ่านสีหน้าเก่ง เมื่อเห็นเซี่ยหยู่เวยเงียบ จึงพูดขึ้นทันที
หน้าสวยๆ ของเซี่ยหยู่เวยก็เผยให้เห็นความรู้สึกขอบคุณ มองไปทางเว่ยเทียนหมิงด้วยความหลงใหล พูดพลางพยักหน้า: “ขอบคุณนะ!”
“ไม่ต้องลำบากหรอก ผู้หญิงของฉันซื้อของ จะให้คนนอกมาจ่ายเงินให้ได้ไง?”
น้ำเสียงนิ่งๆ ของหลินหยุนดังขึ้น บอกอย่างชัดเจนว่าเว่ยเทียนหมิงเป็นคนนอก และขณะเดียวกันก็ประกาศกับคนนอก ว่าเซี่ยหยู่เวยเป็นผู้หญิงของเขา