จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 238 คำพูดที่ชั่วร้าย
“ผู้ช่วยหลิว นี่คือเพื่อนของผม!” ฉินโส่วชี้ไปที่จางซื่อจู่และคนอื่นๆ แนะนำให้ผู้ช่วยหลิวรู้จัก
หลิวเสี่ยวเกอพยักหน้า กวาดสายตาไปที่หลินหยุนและคนอื่นๆ
“ไม่เลว ทุกคนสู้ๆ!” หลิวเสี่ยวเกอยิ้มและให้กำลังใจ
“ขอบคุณผู้ช่วยหลิว ไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายขนาดนี้!” จางซื่อจู่ประจบสอพลอ
“ผู้ช่วยหลิว นี่เป็นน้ำใจเล็กน้อยจากนักศึกษาอย่างพวกเรา คุณต้องรับมันไว้นะ!” จางซื่อจู่ยื่นของขวัญไว้ข้างหน้าหลิวเสี่ยวเกอแล้วพูดอย่างเอาใจ
เดิมทีคิดว่าหลิวเสี่ยวเกอจะบอกปัดออกไป ปรากฎว่าหลิวเสี่ยวเกอรับไว้ด้วยรอยยิ้ม
หยางเทียนโย่วเทพฟ้าผ่าและไอ้หินพวกเขาทั้งสามคน รีบใช้โอกาสนี้ในการมอบของขวัญ แต่หลินหยุนและอีหลิงไม่ได้เคลื่อนไหว
ฉินโส่วยังคงขยิบตาให้หลินหยุนตลอด หลินหยุนทำราวกับว่ามองไม่เห็น หรี่ตาลงเล็กน้อย และไม่ค่อยอยากสนใจผู้ช่วยหลิว
หลิวเสี่ยวเกอยิ้มเล็กน้อย ดูไม่ออกว่ามีความสุขหรือโกรธ
ฉินโส่วรีบอธิบาย “ผู้ช่วยหลิวอย่าโกรธเลยนะ เพื่อนของฉันคนนี้สมองมีปัญหาเล็กน้อย ถ้าคุณมีสคริปต์ของคนโง่ ก็มอบให้เขา เขาเหมาะสมที่สุด!”
“ไม่เป็นไร คนหนุ่มค่อนข้างเจ้าอารมณ์ ฉันเข้าใจ!” หลิวเสี่ยวเกอทำตัวใจกว้าง ราวกับว่าทัศนคติของหลินหยุนที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เธอไม่ได้นำมาใส่ใจเลย
“เอาล่ะ พวกนายสู้ๆ ฉันจะเดินไปดูรอบๆ!” หลังจากหลิวเสี่ยวเกอพูดจบ ก็เดินไปเขตอื่น
ก่อนที่กู้ซิวหรั่นจะไป ก็ยิ้มอย่างเย็นชาให้กับหลินหยุนและอีหลิง รอยยิ้มของเขามีกลิ่นของการประชดประชัน
“หลินหยุน เกิดอะไรขึ้น?” ฉินโส่วถามด้วยความสงสัย
หลินหยุนพูดอย่างแผ่วเบา “ไม่มีอะไร แค่ไม่ชอบใบหน้าเจ้าเล่ห์ของเธอ”
“เฮ้ย นิสัยอย่างนายนี่ ในอนาคตจะต้องเสียเปรียบแน่นอน! คนที่ด้อยกว่าคนอื่น ไม่ก้มหัวไม่ได้!” จางซื่อจู่เกลี้ยกล่อม
อีหลิง ทำไมคุณถึงไม่มอบของขวัญ ?” ฉินโส่วขมวดคิ้ว
อีหลิงยิ้มและพูดว่า “ฉันคิดว่าตัวละครที่ได้จากการต้องให้ของขวัญ ไม่เอาก็ได้!”
“คุณ……ไม่น่าแปลกใจที่คุณทั้งสองจะกลายเป็นคู่กัน ในที่สุดฉันก็เข้าใจ!” ฉินโส่วหมดคำจะพูด
“ไม่ต้องห่วง ฉันและหลินหยุนไม่ได้ให้ของขวัญ ผู้ช่วยหลิวก็ไม่ได้กล่าวโทษพวกเรานี่? ฉันเชื่อว่าการออดิชันครั้งนี้ต้องแข่งขันกันอย่างยุติธรรม!” อีหลิงยังคงไร้เดียงสาและน่ารัก
หลิวเสี่ยวเกอเดินไปรอบๆ และกลับไปที่เวที
จากนั้น พนักงานสองคนก็เข้ามาหาหลินหยุนและคนอื่น ๆ
“ขอโทษนะทุกท่าน ภาพลักษณ์ของพวกคุณไม่เหมาะกับตัวละครของเรา เชิญพวกคุณออกไปได้!”
จางซือจู่และคนอื่นๆสับสนทันที!
“ไม่ ทำไมพวกนายมีสิทธิ์อะไร! พวกเราไม่เหมาะสมตรงไหน?”
“ใช่ ของขวัญพวกคุณก็รับไปแล้ว ตอนนี้ให้พวกเราออกไปมันหมายความว่าไง”
“แล้วทำไมพวกเขาไม่ออกไป!”
เพื่อนร่วมชั้นทุกคนที่อยู่รอบๆ แสดงท่าทางว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองเลย โยนมันไปอีกทาง และยังมองพวกเขา ด้วยใบหน้าเย็นชาราวกับมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่น
ยังไง ถ้าขาดไปหนึ่งคน ก็หมายถึงคู่แข่งลดลงไปหนึ่งคน นักศึกษาหลายคนมีความสุขที่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้
กู้ซิวหรั่นและคนอื่นที่อยู่ไม่ไกล ก็ภูมิใจ
“คุณชายกู้ พี่สาวร้ายกาจมาก!” เสิ่นหย่งพูดพร้อมยกนิ้วโป้ง
“ใช่สิ เมื่อกี้ฉันยังได้ยินพวกเขาพูดว่า พี่มีความยุติธรรมมากและไม่เห็นแก่เรื่องส่วนตัว มีทัศนคติเข้าถึงได้ง่าย ฉันเดาว่าพวกเขาคงคาดไม่ถึง จะถูกไล่ออกไปซะอย่างนี้!” หวางหยู่หันดูพอใจ
“อีหลิงเอ้ยอีหลิง เธอเป็นดาวประจำมหาลัยไม่ใช่เหรอ แต่ละวันแสร้งทำเป็นเป็นนางในฝันที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ทำให้คุณชายกู้หลงเสน่ห์จนหัวปักหัวปำ
คราวนี้เธอกำลังหาที่ตาย เพื่อยาจกหลินหยุนคนนั้น ทำให้คุณชายกู้ขุ่นเคือง มิฉะนั้น ในการออดิชันครั้งนี้ฉันคงจะสู้เธอไม่ได้นานอน!”
“ฮ่าๆ ไปกันเถอะ พวกเราไปซ้ำเติมคนพ่ายแพ้กัน!” เหยียนเสวเหวินพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
หลายคนเดินไปหาหลินหยุน
จางซือจู่พูดด้วยความโกรธ “พวกคุณนี่มันเป็นการแก้แค้นส่วนตัว! เดิมทีพวกเรายังคงคิดว่าผู้ช่วยหลิวเป็นคนดี คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้!”
“พวกเราน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว ว่าเธอกับกู้ซิวหรั่นเป็นคนประเภทเดียวกัน!”
พนักงานพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “สิทธิ์ในการคัดเลือกตัวละครครั้งนี้อยู่ที่ผู้จัดงานอย่างพวกเรา พวกคุณไม่มีสิทธิ์ตั้งคำถาม และเชิญพวกคุณออกไปเดี๋ยวนี้!”
“มิฉะนั้น ฉันจะจัดการกับคนที่ก่อกวน!”
ฉินโส่วเกลี้ยกล่อม “ช่างมันเถอะ แม่งเอ้ย ครั้งนี้ถือว่าเป็นคราวซวยของพวกเรา!”
อีหลิงพูดด้วยความโกรธ “แม้ว่าสิทธิ์การตัดสินใจจะอยู่ที่พวกคุณ แต่พวกเราควรมีอำนาจสิทธิ์ที่ควรจะรู้ มีสิทธิ์อะไรมาบอกพวกเราว่าไม่เหมาะสมอย่างไร้เหตุผล!”
“ถ้าพวกคุณไม่บอกเหตุผลให้พวกเรายอมจำนนด้วยดี พวกเราจะไปฟ้องหยางหยิง! ฉันเชื่อว่า หยางหยิงจะต้องให้ความยุติธรรมแก่พวกเรา!”
จางซือจู่ตะโกน “ใช่ ผู้ช่วยหลิวคนนั้นเมื่อกี้เพิ่งรับของขวัญจากพวกเรา แม้ว่าเธอจะบ่ายเบี่ยงก็บ่ายเบี่ยงไม่ได้แล้ว!”
ในเวลานี้ ทันใดนั้นบนเวทีก็มีเสียงของผู้ช่วยหลิวดังขึ้น “นักศึกษาทุกท่าน น้ำใจจากพวกเราทุกคน ฉันได้รับแล้ว! ขอบคุณในความรักที่มีให้อย่างล้นหลาม
“อย่างไรก็ตาม เพื่อแสดงความยุติธรรมในการออดิชันครั้งนี้ ของขวัญเหล่านี้ฉันจะวางไว้ที่นี่ เมื่อการออดิชันจบลง ใครเป็นเจ้าของ คนนั้นก็มาเอาคืนไป!”
ทันใดนั้นจางซือจู่ก็ตกตะลึง
“บัดซบ เธอ ทำอย่างนี้ได้ยังไง! เป็นผู้ที่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้เหรอ?”
พนักงานสองคนยิ้มเย้ยหยัน “ตอนนี้พวกคุณมีอะไรจะพูดอีกไหม?”
ฉินโส่วดูโกรธจัด ผู้ช่วยหลิวคนนี้เป็นนางจิ้งจอกแก่จริงๆ เธอคงจะรู้ล่วงหน้าแล้วว่าพวกเราจะเอาเรื่องของขวัญที่เธอรับไปมาพูด ดังนั้นเธอจึงลงมือก่อน ซึ่งดูเหมือนเธอจะยุติธรรม และตัดปัญหาทำให้พวกเราไม่อาจฟ้องเธอในเรื่องการรับของขวัญ”
“เยี่ยมมาก ผู้หญิงคนนี้อายุไม่มากนัก วางแผนการได้เก่งเกินไป! ขอชื่นชมขอชื่นชม!” หยางเทียนโย่วถอนหายใจ
“ทุกท่าน เชิญ!” พนักงานพูดอย่างเย็นชา
“ฮึ่ม ไปก็ไป! ไม่เลือกฉันเป็นการสูญเสียของพวกคุณ!” จางซือจู่หันตัวและจากไปด้วยความโกรธ
หลินหยุนเดินตามจางซือจู่และคนอื่นๆ สายตาเริ่มมีความสนใจ คิดไม่ถึงว่าผู้ช่วยคนนี้ จะมีฝีมือและเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้
เพียงแต่ว่า ก้าวไปได้เพียงสองสามก้าว ก็ถูกกู้ซิวหรั่นและคนอื่นๆหยุดไว้
“โอ้ นั่นไม่ใช่ดาวประจำมหาลัยของพวกเราหรือไง? ทำไมเธอถึงจากไปอย่างน่าสมเพชอย่างนี้” หวางหยู่หันไม่ค่อยมีโอกาสเยาะเย้ยอีหลิง คราวนี้มีโอกาสนั้น ก็เลยไม่ยอมให้พลาดแน่นอน
ใบหน้าของอีหลิงแดงขึ้น และมองไปที่หวางหยู่หันอย่างเย็นชา “ตัวละครที่ได้รับจากการติดสินบน แม้ว่าจะได้แสดง ก็คงจะไม่มีอนาคตที่ดี”
หวางหยู่หันเย้ยหยันอย่างมีชัย “ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะมีอนาคตที่ดีหรือไม่ แค่การออดิชันก็ยังไม่ผ่าน ฉันรู้ว่าไม่มีอนาคตที่ดีแน่นอน คุณคิดว่าไง? ดาวมหาลัย!”
อีหลิงทำเสียงเย็นชา “คนชั้นต่ำครองอำนาจ”
หวางหยู่หันไม่โกรธ และเยาะเย้ย “ใช่ ฉันเป็นคนชั้นต่ำครองอำนาจ แล้วยังไงล่ะ? ตัวละครนางร้ายเป็นของฉัน แล้วเธอล่ะ?”
“อย่าโกรธ ใครให้เธอไม่เคยเปิดหูเปิดตา เพราะยาจกคนหนึ่งจนทำให้คุณชายกู้ขุ่นเคือง? ต้องโทษที่ตัวเองมีตาแต่หามีแววไม่!”
เถียนชุ่ยชุ่ยยิ้มเล็กน้อย และพูดด้วยท่าทางอ่อนโยน “อีหลิง เธอมันไร้เดียงสาเกินไป และง่ายต่อการถูกหลอกด้วยคำหวานของผู้ชาย เดิมทีมีใครบางคนเอาเงินที่ทำงานมาหนึ่งปีกว่าให้ฉันใช้ ซึ่งเกือบจะทำให้ฉันประทับใจ”
เพียงแต่ว่า โชคดีที่ฉันได้พบกับเสิ่นหย่ง และตระหนักได้ว่าแม้ใครบางคนจะมอบเงินในการทำงานทั้งชีวิตให้ฉัน ก็คงไม่เท่ากับเงินค่าขนมหนึ่งเดือนของเสิ่นหย่ง”
ดังนั้นอีหลิง เป็นผู้หญิงต้องลืมตาให้โตๆ อย่าหลงกลกับคำพูดหวานๆชั่วขณะ”
จางเหมิงก็พูดด้วยท่าทางดูถูก “ชุ่ยชุ่ยพูดถูกแล้ว อีหลิง ยังดีที่เธอและฉันยังเป็นสี่ดาวประจำสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว ถึงกับเก็บเอาเศษเดนที่เถียนชุ่ยชุ่ยโยนทิ้ง ฉันยังละอายใจกับชื่อเสียงที่เท่าเทียมกับเธอ”
อีหลิงพูดอย่างโกรธจัด “ทุกคนไม่ว่ายังไง ก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ทำไมพูดจาโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้!”
กู้ซิวหรั่นหัวเราะเยาะ “สิ่งที่พวกเขาพูดเป็นเรื่องจริง มันโหดร้ายตรงไหน?”