จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 25 จินหยวนเป่า
บทที่ 25 จินหยวนเป่า
ผู้จัดการพูดขึ้นอย่างเกรงใจ: “ครับ กรุณารอสักครู่นะครับ ผมจะคืนเงินให้คุณผู้ชายอีกท่านนะครับ!”
หลินหยุนมองไปที่ผู้จัดการคนนั้น แล้วพูดอย่างเย็นชา: “แล้วถ้าผมไม่ยอมล่ะ?”
ถึงแม้ว่าผู้จัดการจะซ่อนไว้ได้ดี แต่หลินหยุนก็มองจากสายตาของเขาออก ถึงความเคารพที่เขามีต่อเว่ยเทียนหมิง
“ผู้หญิงของฉันซื้อของ คนนอกมีสิทธิ์อะไรมาจ่ายแทน” หลินหยุนมองไปทางเว่ยเทียนหมิง สีหน้าเย็นชา
หลี่เหยนพูดขึ้น: “หลินหยุน นายอย่าไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเลย คุณชายเว่ยยอมจ่ายแทนนาย นั่นเป็นเรื่องที่นายต้องภูมิใจนะ นายควรจะขอบคุณเขาตั้งหาก!”
“ใช่แล้ว ครั้งนี้ให้คุณชายเว่ยออกไปก่อนเถอะ!เงินนั่นหลินหยุนนายหามาอย่างยากลำบากตั้งนาน ประหยัดหน่อยก็ดีนะ!” หวางเสี่ยวซีพูดเหน็บแนม
เซี่ยหยู่เวยก็พูดกล่อม: “หลินหยุน เอาเงินคืนไปเถอะ เงินแค่นั้นของนาย อย่าพยายามเลย อย่าทำให้คุณชายเว่ยไม่พอใจ”
หลินหยุนมองเซี่ยหยู่เวยอย่างเย็นชา แล้วถามกลับ: “พวกเธอสนใจแต่ว่าเขาจะไม่พอใจ แล้วมีใครเคยถามฉันบ้างมั้ยว่าพอใจหรือเปล่า?”
หลินหยุนสีหน้าเย็นชา ไม่ได้กลัวสายตาขุ่นมัวของเว่ยเทียนหมิง แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “เขาจะพอใจหรือไม่พอใจฉันไม่สน ฉันพอใจก็โอเคแล้ว”
“พูดได้ดี!” อยู่ๆ ก็มีเสียงที่ฟังดูตื่นเต้นดังขึ้น
ชายผู้นึงสวมเสื้อเชิ้ตลายดอก ราวกับชายหนุ่มในทุ่งดอกไม้ กำลังยืนโอบสาวสวยคนนึง ยืนอยู่ด้านหลังของหลินหยุนเล็กน้อย
หลินหยุนมองไปทางคนที่เพิ่งมา ก็จำได้ในทันที ชายหนุ่มผู้นี้คือลูกชายของจินซื่อหรง จินหยวนเป่า
ดูจากใบหน้าที่มีเลือดฝาดของเขาแล้ว เขาน่าจะดีขึ้นมากแล้ว
“ฉันคืออยู่ใครนะที่ว่างมากกล้ามายุ่งเรื่องของคุณชายเว่ย? ที่แท้เป็นจินหยวนเป่านี่เอง คุณชายจิน!” หลี่เหยนถือว่าเว่ยเทียนหมิงอยู่ เลยพูดเหน็บแนมขึ้น
พ่อของเว่ยเทียนหมิงคือรองนายกเมืองหลินโจว ส่วนพ่อของจินหยวนเป่าคือจินซื่อหรงนักธุรกิจที่มีอิทธิพลที่สุดของเมืองหลินโจว จะพูดยังไงก็มีบทบาทในมณฑล
ทั้งสองอยู่ในแวดวงสังคมที่สูงที่สุดของหลินโจว แต่ว่าในแวดวงนี้เว่ยเทียนหมิงเป็นคนมีเกียรติ แต่ว่าจินหยวนเป่านั้นเป็นคนเสเพล กลายเป็นเรื่องน่าขำในแวดวงสังคม และคนนอกก็ให้ฉายาแก่จินหยวนเป่า
ตอนนี้กล้าโผล่มายืนข้างหลินหยุน มาเป็นศัตรูกับเว่ยเทียนหมิงอย่างไม่รู้ถึงผลที่ตามมา ก็คงจะมีแต่คนดื้อด้านอย่างจินหยวนเป่า
จินหยวนเป่าโมโห ชี้หน้าด่าหลี่เหยนอย่างไม่สำรวม: “ไอ้ลูกหมาหลี่ ลองพูดอีกคำฉันจะให้คนของบริษัทชิรงกรุ๊ปหยุดให้ความร่วมมือกับบริษัทของตระกูลนาย!”
ด้วยนิสัยอย่างจินหยวนเป่า ถ้าหากต้องแกร่งแย่ง ถึงจะได้อยู่รอด ก็คงจะไม่มีใครรัก ใครสนใจ
แต่ว่า เขาดันเป็นลูกชายคนเดียวของจินซื่อหรง ในอนาคตทุกสิ่งของตระกูลจินก็จะเป็นของเขา ดังนั้นถ้าหากจินหยวนเป่าต้องการจะยุติความร่วมมือกับตระกูลของหลี่เหยน จินซื่อหรงยังไงก็ยอม
หลี่เหยนถึงจะเป็นลูกเศรษฐี แต่ว่าอย่างมากก็แค่ชนชั้นที่สองของแวดวงสังคมในหลินโจว ถึงแม้มีเว่ยเทียนหมิงคุ้มกะลาหัวอยู่ เขาก็ยังไม่กล้าทำจินหยวนเป่าทายาทรุ่นที่สองนี้ขุ่นเคืองใจ
หลี่เหยนหน้าแดง หลบอยู่หลังเว่ยเทียนหมิง ไม่กล้าพูดอะไร
จินหยวนเป่าทำหน้าพอใจ กวาดสายตาดูถูกมองเว่ยเทียนหมิงกับหวางเสี่ยวซีและพรรคพวก และพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ : “ชิชิ พวกนายนี่น่าขายหน้าจริงๆ นะ!ฉันมองดูอยู่นาน รู้สึกละอายใจกับการกระทำของพวกนายมาก!”
“น่าเสียดายที่นายเป็นถึงชายหนุ่มที่มีหน้ามีตาในแวดวงสังคมระดับสูงที่สุดของหลินโจว กลับต้องมารังแกคนธรรมดาคนนึง ไม่ว่าวิธีการอะไรก็เอาออกมาใช้ได้”
“ตอนแรกพวกนายก็คิดไว้แล้วว่าเขาไม่มีเงิน เพราะงั้นจึงจงใจให้เขาจ่าย ถือโอกาสทำให้เขาขายหน้า”
“แต่พวกนายคิดไม่ถึงว่าเขามีเงินใช่มั้ย เพราะงั้นไอ้หมอเว่ยหน้าไม่อายนั่น รอให้เขาจ่ายเสร็จแล้วค่อยเสนอหน้าออกมาแย่งจ่าย ทำให้ตัวนายดูดีขึ้นมาใช่มั้ยล่ะ!”
“แต่ว่าผู้หญิงของชาวบ้านเขา นายมีสิทธิ์อะไรไปออกเงินแทนล่ะ? นายไปเกี่ยวอะไรกับเขา!ตอนที่พวกเขาทั้งสองคนทำกิจกรรมบนเตียง หรือว่านายเข้าไปยืนดูอยู่ด้วย?”
คำพูดของจินหยวนเป่านั้นชัดเจนมาก ทำเอาผู้หญิงทั้งสามคนหน้าแดง
เซี่ยหยู่เวยรีบมองไปทางเว่ยเทียนหมิง ราวกับกำลังอธิบายให้เขารู้ว่ายังไม่เคยร่วมหลับนอนกับหลินหยุน
เว่ยเทียนหมิงส่งสายตาปลอบโยนกลับไปให้เธอ เห็นได้ชัดว่าเชื่อเซี่ยหยู่เวย
ทั้งสองที่กำลังส่งสายตาแลกเปลี่ยนกันทั้งหมดอยู่ในสายตาหลินหยุน เขาพูดในใจ: “เห็นที่ที่เว่ยเทียนหมิง” คอยตามจีบภรรยาคนอื่นไม่ยอมเลิก นั่นต้องเป็นเพราะว่าเซี่ยหยู่เวยเอาเรื่องของทั้งสองไปบอกเว่ยเทียนหมิง”
“ถ้าหากน้าเฟินไม่ได้บังคับเธอ ชาติที่แล้วก็คงจะทิ้งฉันออกจากวงโคจรนานแล้ว”
ถึงแม้เว่ยเทียนหมิงจะเชื่อใจเซี่ยหยู่เวย แต่ว่าในฐานะที่เป็นคุณชายระดับสูงของหลินโจว ถูกจินหยวนเป่าทำให้ขายหน้า แน่นอนว่าเว่ยเทียนหมิงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“จินหยวนเป่า นายกับฉันเราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันมากนัก แต่ว่าวันนี้จู่ๆ นายก็โดดออกมาต่อต้านฉันเพื่อคนแปลกหน้าคนนึง นายคิดถึงผลที่จะตามมามั้ย?”
ในคำพูดของเว่ยเทียนหมิงแฝงไปด้วยคำข่มขู่ ถึงแม้ตระกูลจินจะใหญ่ แต่ตระกูลเว่ยของเขาก็ไม่น้อยหน้า ถ้าจะต้องแข่งกันขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลจิน
จินหยวนเป่าถึงแม้จะดื้อรั้น แต่ก็ไม่ได้โง่ เขาสามารถทำให้เว่ยเทียนหมิงไม่พอใจได้ แต่คงไม่เปิดสงครามกับตระกูลเว่ย
“ฮี่ฮี่ คุณชายเว่ย ฉันก็แค่พูดความจริงแค่นั้นเอง ฉันไม่ได้อยากจะทำให้คุณชายเว่ยไม่พอใจเลย ฉันจะไปกล้าได้ยังไง?” จินหยวนเป่าพูดพลางยิ้มร้าย
เว่ยเทียนหมิงโมโหกัดฟันกรอด พวกคู่ต่อสู้ที่เดายาก หรือฉลาดเขาไม่กลัว แต่ว่าพวกคนอย่างจินหยวนเป่าที่ไม่เล่นตามเกม และหน้าไม่อายแบบนี้ ทำให้เขาปวดหัวสุดๆ
“คุณชายจินเข้าใจ นั่นก็ดีแล้ว” จินหยวนเป่าถึงกับหลีกไม่อยากเปิดศึกกับเขา เว่ยเทียนหมิงก็ไม่อยากทะเลาะกับจินหยวนเป่าต่อไป
เขามองไปทางผู้จัดการคนนั้น เว่ยเทียนหมิงพูดเสียงเข้ม: “คิดเงินเถอะ!”
ผู้จัดการหันไปมองจินหยวนเป่าที่โอบสาวสวยอยู่ เห็นว่าเขามองขึ้นเพดานทำเป็นไม่สนใจและไม่มีคำแนะนำอะไร จึงรีบพยักหน้า และพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง: “คะ…ครับ ผมจะคืนเงินให้คุณผู้ชายท่านนั้นเดี๋ยวนี้ครับ!”
แต่ว่า อยู่ๆ จินหยวนเป่าก็พูดขึ้นเสียงดัง: “นี่นายตาบอดเหรอ? แหกตาดูบัตรบนโต๊ะให้ดีๆ !”
ผู้จัดการสะดุ้งเฮือก แล้วรีบหันไปมองที่โต๊ะบนเคาน์เตอร์
เว่ยเทียนหมิงกับอีหลิงและพรรคพวก ก็สงสัยจึงมองตามไปที่บัตรทองม่วงบนโต๊ะนั่น
เซี่ยหยู่เวยเคยเห็นหลินหยุนควักบัตรทองม่วงออกมาใช้ในร้านไห่หลาน รู้ว่าเป็นบัตรที่จินซื่อหรงให้เขา และมันมีค่ามาก
แต่เธอไม่รู้ว่าบัตรใบนี้ข้างในนั้นมีเงิน!
“นี่มัน?” ตอนแรกหน้าของผู้จัดการก็มีความสงสัย แล้วก็มองไปที่จินหยวนเป่าที่กำลังโมโห ทันใดนั้นก็ได้คำตอบข้อข้อสงสัยในใจ
“แม่เจ้า นี่มันบัตรทองม่วงสูงศักดิ์ของท่านประธานจินนี่!” ผู้จัดการตกใจจนร้องเสียงหลงออกมา
เพื่อบัตรสามใบนี้ จินซื่อหรงจึงเปิดประชุมครั้งใหญ่สำหรับพนักงาน เพื่อให้พนักงานทุกคนได้รู้จักบัตรใบนี้
อีกอย่างจินซื่อหรงเคยสั่งเอาไว้ คนที่มีบัตรใบนี้ ไม่ว่าจะใช้จ่ายอะไรภายใต้เครือของบริษัทชิรงกรุ๊ป นั้นฟรีหมด
ห้างฯ นี้ เปิดภายใต้เครือบริษัทชิรงกรุ๊ป
“บัตรทองม่วงสูงศักดิ์!เป็นไปได้ไง!” เว่ยเทียนหมิงก็ร้องเสียงหลงออกมาเหมือนกัน จากนั้นก็มองหลินหยุนด้วยสีหน้าสงสัย
หลี่เหยนถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ: “อะไรคือบัตรทองม่วงสูงศักดิ์?”
เว่ยเทียนหมิงพูดด้วยสีหน้าเข้ม: “เป็นบัตรที่จินซื่อหรงตั้งใจทำขึ้นมา ทั้งหมดมีอยู่สามใบ ใบนึงให้เจี่ยงสง อีกใบให้ท่านายกเมืองหลินโจว!”
“จินซื่อหรงเคยพูด ว่าจะมอบบัตรใบที่สามให้กับคนที่เขาเคารพที่สุด!”
“อะไรนะ!” ทันใดนั้นหลี่เหยนถึงกับช็อก!
คนที่จินซื่อหรงเคารพที่สุด ที่เห็นทั้งเมืองหลินโจว ก็มีท่านนายกกับเจี่ยงสง
ตอนนี้จินซื่อหรงถึงกับมอบบัตรใบที่สามให้กับหลินหยุน นั่นไม่ได้หมายความว่าจินซื่อหรงเอาหลินหยุนกับท่านนายก และก็เจี่ยงสงขึ้นมาเทียบเท่ากัน?