จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 270 สนามของส้งหัวอัน
ส้งหัวอันถ่อมตัวไปตลอดทาง และถูกทุกคนยกขึ้นบนเวที
พิธีกรสาวสวยรีบส่งไมโครโฟนให้ส้งหัวอัน
ส้งหัวอันพูดอย่างสุภาพกับพิธีกร “ขอบคุณ!”
พิธีกรสาวหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น ประธานส้งที่มีชื่อเสียงแห่งจงโจวถึงกับขอบคุณเธอ!
เกียรตินี้ เพียงพอสำหรับการกลับไปอวดเพื่อนๆของเธอเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ทุกคนมองดูส้งหัวอันบนเวทีอย่างกระตือรือร้น
ส้งหัวอันประพฤติดี ค่อยๆชำเลืองมองดูฝูงชน แล้วพูดเสียงดังว่า “ทุกท่าน ผมไม่มีความสามารถ ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติ ถ้างั้นผมขอพูดสองสามคำ หากมีอะไรผิดพลาด ขอให้ทุกท่านให้คำชี้แนะด้วย!”
“โอเค!”
เพี๊ยะๆๆ
มีคนเป็นผู้นำ ทันใดนั้นด้านล่างก็มีเสียงปรบมือดัง
ส้งหัวอันใช้สองมือทำสัญญาณมือ เพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ
อารมณ์ของทุกคนสงบลงอย่างรวดเร็ว และมองไปที่ส้งหัวอัน
เสียงของส้งหัวอันเต็มไปด้วยพลัง “ทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ในวันนี้ ส่วนมากเป็นนักธุรกิจใหญ่ในจงโจว แน่นอน ยังมีบุคคลสำคัญที่มาจากมณฑลใกล้เคียง ที่นี่ ผมอยากจะบอกกับทุกท่านว่า ขอบคุณครับ!”
ส้งหัวอันคำนับทุกคนอย่างสุดซึ้ง
จากนั้นเขาก็พูดว่า “จงโจวสามารถมีความเจริญรุ่งเรืองในวันนี้ได้ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับผม และไม่ใช่บริษัทหัวอันกรุ๊ปของผม แต่เป็นความพยายามของนักธุรกิจทุกท่านในที่นี้!”
ทันใดนั้นเสียงของส้งอันหัวก็ดังขึ้นทันที “พวกคุณ คือตัวเอกของการประชุมสุดยอดจงโจว!”
เพี๊ยะๆๆ!
เสียงปรบมือจากด้านล่างดังขึ้นอีกครั้ง
ฉินหลันเต็มไปด้วยความชื่นชม “ส้งหัวอันสามารถเป็นผู้นำธุรกิจจงโจวมาหลายปี น่าทึ่งจริงๆ!”
ประธานหูตื่นเต้นจนใบหน้าแดงก่ำ อยากที่จะไปพึ่งพาอาศัยส้งหัวอันเดี๋ยวนี้
หวางซูเฟินถอนหายใจ ใบหน้าแสดงความชื่นชม “ปฏิเสธไม่ได้ว่า วิธีการของส้งหัวอันนั้นร้ายกาจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการชนะใจผู้คน!”
“ถ้าเอาคนเช่นนี้เป็นศัตรู มันจะปวดหัว!”
หลินหยุนอมยิ้มเล็กน้อย “มันแค่เสแสร้งแกล้งทำ ต่อหน้าอำนาจเบ็ดเสร็จ ทุกแผนการเป็นแค่เรื่องตลก”
เหยียนต้าวหมิงเหลือบมองหลินหยุนอย่างดูถูก และพูดเยาะเย้ย “ขี้โม้แบบไม่ละอายใจเลยเหรอ!”
ประธานหูและอีกคนยังดูถูกเหยียดหยาม “แค่บอดี้การ์ดจิ๊บจ๊อยคนหนึ่ง กล้าที่จะดูถูกตระกูลส้งผู้ควบคุมอำนาจใหญ่ในจงโจว! ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ตลก!”
หวางซูเฟินขมวดคิ้ว ค่อยๆส่ายหัว รู้สึกผิดหวังกับหลินหยุนมาก
เธอไม่ต้องการพูดอะไร เพราะตอนนี้สำหรับเธอหลินหยุนเป็นเพียงคนนอกเท่านั้น
เพียงแต่ว่า ทุกครั้งที่หวางซูเฟินเห็นหลินหยุน มีความรู้สึกเหมือนอยากใกล้ชิด
นั่นคือการเชื่อมโยงระหว่างสายเลือดที่มีต่อกัน
ดังนั้น หวางซูเฟินจึงตัดสินใจเตือนหลินหยุนสักครั้ง
“คุณหลิน คุณยังหนุ่มยังแน่น ก็หยิ่งยโสขนาดนี้ แม้ว่าคุณจะมีอาจารย์ที่ดี เกรงว่าจะไม่สามารถปกป้องคุณได้ตลอดเวลา!”
“พ่อหนุ่ม ไม่ว่าจะทำการสิ่งไหน จงถ่อมตัวไว้ดีที่สุด!”
ฉินหลันจ้องมองหลินหยุนอย่างดุเดือด เธอรู้สึกถึงความผิดหวังของหวางซูเฟินที่มีต่อหลินหยุนแล้ว
เดิมทีฉินหลันยังอยากแนะนำหลินหยุนให้หวางซูเฟิน และอบรมพัฒนาเขา บางทีในอนาคตอาจจะเป็นคนที่มีความสามารถ
แต่ว่า หลินหยุนไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ฉินหลันยังไม่ทันแนะนำ ก็ทำให้หวางซูเฟินไม่มีความประทับใจในตัวเขาแล้ว
เพียงแต่ว่า หลินหยุนดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลย ใบหน้าไม่แยแส
หากคนอื่นกล้าเตือนหลินหยุนเช่นนี้ หลินหยุนจะต้องโต้กลับอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่า ฝั่งตรงข้ามคือแม่ของเขา หลินหยุนทำได้เพียงเหมือนคนที่โง่เขลาเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นท่านประธานหวาง พวกรอดูกันต่อไป” หลินหยุนมองที่หวางซูเฟิน อมยิ้มเล็กน้อย และไม่ยอมพูดอะไร
ส้งหัวอันเสแสร้งพูดแต่เรื่องดีๆ แล้วก้าวลงจากเวทีอย่างรวดเร็ว ปรุงแต่งให้สวยงาม กับงานประชุมสุดยอดในวันนี้ คืนให้กับตัวเอกของวันนี้
ส้งหัวอันนั่งลงที่โต๊ะเบอร์หนึ่งด้านหน้า
โต๊ะเบอร์หนึ่งคือโต๊ะที่เหลือไว้โดยเฉพาะ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับคนใหญ่คนโต แน่นอนว่า นี่เป็นสิ่งที่ส้งหัวอันจงใจจัดเตรียมไว้
สักครู่ถ้าใครโชคดีได้นั่งโต๊ะเบอร์หนึ่ง จะต้องกลายเป็นจุดสนใจของการประชุมสุดยอดจงโจวในปีนี้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นส้งหัวอันนั่ง ผู้คนในห้องโถงก็เริ่มสนทนาขึ้น
ทุกคนเริ่มพูดคุยกัน สร้างความสัมพันธ์ และเจรจาธุรกิจ
ท่ามกลางฝูงชนหลินหยุนเห็นเจี่ยงสงและเส้เทียนหัว
ผู้มีอิทธิพลสิบกว่าเมืองในมณฑลหลิงหนาน เกือบจะมาที่นี่กันหมด!
“โดยไม่คาดคิดว่าการประชุมสุดยอดจงโจวจะได้รับความสนใจขนาดนี้ แม้แต่ผู้มีอิทธิพลในมณฑลหลิงหนานก็ยังมาเข้าร่วม”
ชายวัยกลางคนในวัยสี่สิบ เดินไปที่โต๊ะเบอร์หนึ่งที่ส้งหัวอันนั่งอยู่
เพียงแต่ว่า มีระยะห่างจากโต๊ะเบอร์หนึ่งอยู่ห้าเมตร ชายคนนั้นก็หยุด
จากนั้น ชายคนนั้นก็โค้งคำนับส้งหัวอันอย่างสุดซึ้ง “ฝูหลินกรุ๊ปหลิวเหอหมิง ขอสวัสดีท่านส้ง!”
ฝูหลินกรุ๊ป เป็นบริษัทที่ใหญ่อันดับหนึ่งอันดับสองในจงโจว หลิวหมิงเหอเป็นประธานบริษัทฝูหลินกรุ๊ปอยู่ต่อหน้าส้งหัวอันยังถ่อมตัวขนาดนั้น!
ทุกคนตะลึงกับพลังอำนาจของส้งหัวอัน!
“ที่แท้ก็คือน้องหลิวนี่เอง เชิญนั่งเร็ว!”
“ขอบคุณพี่ส้ง!” หลิวเหอหมิงดีใจ เมื่อนั่งข้างๆส้งหัวอัน สายตาที่มองดูคนอื่นๆ ชั่วขณะก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก ดูเหมือนว่าการได้นั่งข้างๆส้งหัวอัน มันเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
และผู้มีอิทธิพลในจงโจวคนอื่นๆ มองไปที่หลิวเหอหมิงด้วยความอิจฉาริษยา
ต่อจากนั้น ก็มีอีกสองคนเดินผ่านมา
“หยางหัวแห่งบริษัทชิงหยวนกรุ๊ป สวัสดีท่านประธานส้ง!”
“หลี่หมิงว่านแห่งบริษัทจินเซิ่งกรุ๊ป สวัสดีพี่ส้ง!”
ส้งหัวอันยิ้มและพูดว่า “พี่และน้องทั้งสองคนเชิญนั่ง ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้!”
ขณะที่ส้งหัวอันพูด ดูแล้วเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีและเป็นกันเองมาก เพียงแต่ว่า ไม่มีใครมองว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ
ส้งหัวอันสามารถได้รับเลือกให้เป็น(ประธานคนสี่ของหอการค้าจงโจว) และสามารถสร้างบริษัทหัวอันกรุ๊ปให้เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในจงโจว เขาจะเป็นคนดีได้อย่างไร?
เมื่อเห็นหลี่หมิงว่านและหยางหัวทั้งสองคนนั่งข้างๆส้งอันหัว คนอื่นๆดวงตาแดงก่ำ
เพียงแต่ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่กล้าริเริ่มไปทักทายส้งหัวอัน
วันนี้มีเศรษฐีและผู้มีอิทธิพลสูงสุดในจงโจวและมณฑลใกล้เคียงมารวมตัวกัน ถ้าหากว่าส้งหัวอันไม่ถูกใจตัวเอง ถูกเขาเพิกเฉย ก็จะกลายเป็นตัวตลก และจะถูกทุกคนหัวเราะเยาะ
ในอนาคตอยู่ในจงโจวและแม้แต่มณฑลใกล้เคียงก็คงไม่มีใครให้เกียรติ
เพียงแต่ว่า ผู้อิทธิพลทั้งหมดที่เคยมีความสัมพันธ์กับริษัทหัวอันกรุ๊ป ต่างเดินมาทักทายทำความเคารพส้งหัวอัน
ผู้ที่มีคุณสมบัติ ส้งหัวอันก็จะเชิญไปนั่งที่โต๊ะเบอร์หนึ่ง และผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติก็จะกลับไปนั่งที่เดิม หรือถูกจัดไปนั่งโต๊ะเบอร์สองในบริเวณใกล้เคียง
แม้ว่าส้งหัวอันจะพูดตลอดว่าตัวเอกของการประชุมสุดยอดจงโจวเป็นของทุกคน แต่ว่า ตัวเอกที่แท้จริงก็คือเขา
เมื่อเห็นว่าโต๊ะเบอร์หนึ่งกำลังจะนั่งเต็มแล้ว ฉินหลันก็เดินไปหาหวางซูเฟิน และเตือนเบาๆ “ท่านประธาน พวกเราไปกันเถอะ
หวางซูเฟินพยักหน้า แม้ว่าเขาจะรู้ว่าตระกูลส้งกำลังมุ่งร้ายไปที่บริษัทตงหวางกรุ๊ป แต่หวางซูเฟินก็ยังต้องเสแสร้งพูดดี
ท้ายที่สุด อยู่ในจงโจว บริษัทหัวอันกรุ๊ปเป็นเจ้าผู้ควบคุมอำนาจอย่างแท้จริง
แม้ว่าช่วงนี้บริษัทตงหวางกรุ๊ปจะรุ่งโรจน์ แต่ว่า ก็ยังไม่สามารถเป็นศัตรูและต่อต้านบริษัทหัวอันกรุ๊ปได้
นอกจากนี้ หวางซูเฟินก็อยากถาม ทำไมตระกูลส้งต้องทำร้ายบริษัทตงหวางกรุ๊ปด้วย?
หลินหยุนมองดูแม่ตัวเองและพี่ฉินหลันพาเหยียนต้าวหมิงและคนอื่นๆ เดินไปหาส้งหัวอัน ก่อนที่จะไป ฉินหลันก็ทำตาเหลือกให้หลินหยุน ราวกับเตือนหลินหยุน ไม่ให้สร้างปัญหา
หลินหยุนยกมุมปากขึ้น ไม่ตอบสนองใดๆ แต่ดูหวางซูเฟินและคนอื่นๆเดินไปทางส้งอันหัวอย่างสงบ
สายตาของทุกคนในห้องโถง แทบทั้งหมดมองไปยังโต๊ะเบอร์หนึ่ง
ในเวลานี้ จู่ๆหลินหยุนก็ได้ยินเสียงร้องที่เซอร์ไพรส์จากด้านข้าง “ฮ่าๆ ไอ้หนุ่มคนนี้ที่แท้ก็ซ่อนตัวอยู่ที่นี่! ฉันเดาไว้แล้วว่าเขาจะต้องมาที่การประชุมสุดยอดจงโจว และในที่สุดฉันก็หานายเจอ!”