จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 275 ตอบโต้
สิ่งเย้ายวนใจที่หวางซูเฟินเสนอออกมา ดึงดูดผู้คนจำนวนมากอย่างไม่ต้องสงสัย
ในใจหลินหยุนแอบปรบมือให้หวางซูเฟิน “ในชาติที่แล้วคุณแม่คนเดียวสามารถประคองบริษัทตงหวางกรุ๊ปที่ใหญ่โต ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ! ช่วงเวลาสำคัญ เพื่อต้องกันปกป้องสิ่งหนึ่งจนต้องละทิ้งอีกสิ่งหนึ่ง นี่ต้องใช้ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวมาก!”
แม้ว่าแนวทางนี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเปลี่ยนเจ้าของของบริษัทตงหวางกรุ๊ป แต่วิกฤตของบริษัทตงหวางกรุ๊ปในปัจจุบัน การกระทำของหวางซูเฟินนั้นถูกต้องที่สุดโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ
เมื่อได้ฟังเสียงของการหายใจที่สิ้นหวังในห้องโถง ใบหน้าของส้งหัวอันเคร่งเครียดขึ้นมา
นักธุรกิจแสวงหาผลกำไร ในหัวใจของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีศัตรูนิรันดร์ มีแต่ผลประโยชน์นิรันดร์
ในโลกธุรกิจ หากข้อเสนอของคุณไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายทรยศได้ ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งภักดี แต่เพราะผลประโยชน์ที่คุณให้นั้นไม่เพียงพอ
ตอนนี้ ผลประโยชน์ที่หวางซูเฟินให้นั้นทำให้นักธุรกิจของตระกูลส้งเหล่านั้นหวาดผวา
ถ้ามีคนเป็นผู้นำในการสนับสนุนบริษัทตงหวางกรุ๊ป ถ้างั้นเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ทันที
ดังนั้น ส้งหัวอันจะไม่ยอมให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นแน่นอน
ส้งหัวอันก้าวไปข้างหน้า และเงารัศมีที่มองไม่เห็นได้กดทับทุกคนในห้องโถงทันที
ทั่วทั้งห้องโถง รู้สึกถึงบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัวกำลังจะมา
“วันนี้ฉันขอประกาศที่นี่ว่า ถ้าใครกล้าสนับสนุนบริษัทตงหวางกรุ๊ป เขาจะเป็นศัตรูกับตระกูลส้งของฉัน!”
“สำหรับศัตรู ตระกูลส้งของเราถ้าไม่ตายจะไม่ยอมปล่อย!”
บ้าอำนาจ! เด็ดเดี่ยว!โหดเหี้ยม!
เสียงของส้งหัวอันราวกับฟ้าร้อง และดังต่อหน้าทุกคนในห้องโถง
ทั่วทั้งจงโจว คงมีเพียงส้งหัวอันเท่านั้น ที่กล้าพูดเช่นนี้
มีใครกล้าทำเพื่อผลประโยชน์ แล้วเป็นศัตรูกับตระกูลส้ง ถ้าอย่างนั้นก็รอการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งของตระกูลส้ง!
ทันใดนั้น เสียงหายใจแรงๆเหล่านั้นก็ค่อยๆอ่อนลง
เมื่อเทียบกับการแก้แค้นของตระกูลส้ง ครึ่งหนึ่งของหุ้นบริษัทตงหวางกรุ๊ป มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากนัก
ฉินหลันตกใจมาก “ท่านประธาน ตระกูลส้งตั้งมั่นจะทำลายล้างพวกเรา!”
หวางซูเฟินสีหน้าซีดเซียว มองส้งหัวอันด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ตระกูลส้งของคุณนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ว่า คุณไม่ควรประมาทวีรบุรุษของโลก!”
“วันนี้ หวางซูเฟินกำลังมองหาหุ้นส่วนร่วมลงทุน ใครที่สามารถช่วยฉันแก้ไขวิกฤตในวันนี้ได้ ฉันยินดีมอบหุ้นร้อยละ51%ของบริษัทตงหวางกรุ๊ปให้!”
โอ้พระเจ้า
ร้อยละ51%
แม้จะมากกว่าแค่ร้อยละหนึ่ง แต่ความหมายระหว่างทั้งสองนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
ฉินหลันรีบเกลี้ยกล่อมด้วยความตกตะลึง “ท่านประธาน นี้คุณเหมือนกำลังมอบบริษัทตงหวางกรุ๊ปให้เขาแล้วนะ!”
หวางซูเฟินยิ้มเล็กน้อย สัมผัสความแน่วแน่บนใบหน้าของเขา “ฉินหลัน คนที่จะทำการใหญ่ ถึงเวลาตัดก็ต้องตัดทิ้ง! คุณคิดว่าถ้าฉันไม่ทำเช่นนี้ จะสามารถประคองบริษัทตงหวางกรุ๊ปได้เหรอ
“แทนที่จะถูกตระกูลส้งยึดไป สู้ตายยังจะดีกว่า!”
ในใจฉินหลันรู้ดี ภายใต้การบีบบังคับของตระกูลส้ง บริษัทตงหวางกรุ๊ปถึงทางตันแล้ว หากไม่มีผลประโยชน์เพียงพอที่จะล่อ จะไม่มีใครที่จะเสี่ยงต่อการตกเป็นศัตรูของตระกูลส้ง
แนวทางของหวางซูเฟิน เป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดอย่างไม่มีข้อกังขา
หลินหยุนชื่นชมแม่ของเขา ถึงจุดสุดยอดแล้ว
“เมื่อเผชิญกับอันตรายไม่โกลาหล หาทางแก้ไขที่เหมาะสมที่สุดในยามวิกฤต นี่คือแผนการของคนที่สามารถตัดสินใจได้ควรจะมี!”
ในห้องโถง เสียงหายใจที่สงบ เริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัว
หวางซูเฟินได้ยอมปล่อยมือจากบริษัทตงหวางกรุ๊ป ถ้าหากได้บริษัทตงหวางกรุ๊ปกลับมาอีกครั้ง ไม่แน่อาจสามารถสู้กับตระกูลส้งได้
ยิ่งไปกว่านั้น คงจะเหนือกว่าตระกูลส้ง!
แม้แต่บางคนที่นั่งในโต๊ะเบอร์หนึ่ง ก็เริ่มมีสายตาแพรวพราว
ส้งหัวอันมองไปที่หวางซูเฟิน และในที่สุดก็แสดงอารมณ์หวั่นไหวออกมา “ท่านประธาน ฉันประเมินค่าคุณต่ำไปจริงๆ!”
“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเกมที่กำลังจะตาย คุณก็เกือบจะพลิกมันกลับมาได้!”
“แต่ว่า ฉันจะไม่ให้โอกาสนี้แก่คุณแน่นอน!”
ส้งอันหัวค่อยๆเดินขึ้นไปบนเวที หยิบไมโครโฟนจากพิธีกร และเหลือบมองฝูงชนที่อยู่ด้านล่างอย่างบ้าอำนาจ
“วันนี้ฉันจะทำลายล้างบริษัทตงหวางกรุ๊ป ใครกล้าแทรกแซง ฉันจะทำลายมันพร้อมกัน!”
เสียงที่เย็นชา ดังก้องในห้องโถง ด้วยเจตจำนงที่ไม่ที่ยอมถอย
สำหรับคนที่ตื่นตากับความโลภจนทำให้เสียสติสัมปชัญญะ ชั่วขณะก็กลับเข้าสู่ความสงบ
ผลประโยชน์ของบริษัทตงหวางกรุ๊ปนั้นมากพอสมควร แต่ก่อนอื่นต้องรักษาชีวิตให้รอดเพื่อไปตักตวง!
หากทำสงครามกับตระกูลส้ง กลัวว่าพวกเขายังไม่ทันได้ผลประโยชน์จากบริษัทตงหวางกรุ๊ป ก็คงจะถูกตระกูลส้งทำลายล้าง
เมื่อรับรู้ถึงเสียงหายใจที่ค่อยๆเงียบลง หวางซูเฟินก็มีสีหน้าตกตะลึง
“บริษัทตงหวางกรุ๊ป ครั้งนี้คงแย่แล้วจริงๆ!”
“ฉันก็ยังประเมินอำนาจของตระกูลส้งงในจงโจวต่ำเกินไป!”
ยอมปล่อยมือจากบริษัทตงหวางกรุ๊ป ถือเป็นไพ่ต่อรองที่ใหญ่ที่สุดของหวางซูเฟิน แต่ว่า ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ
ถึงเวลานี้ หวางซูเฟินก็ไม่มีแผนการอะไรอีกแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางที่หดหู่ของหวางซูเฟิน ฉินหลันก็รีบปลอบใจ “ท่านประธาน คุณอย่าท้อแท้ไปเลย แม้ว่าจะไม่มีบริษัทตงหวางกรุ๊ปคุณยังมีบ้าน! ยังมีคุณชายน้อยที่ยังหาไม่พบ คุณต้องเข้มแข็งไว้!”
ใบหน้าหวางซูเฟินเริ่มกลับมามีความหวัง “ถูกต้อง ฉันยังหาลูกไม่เจอ ฉันต้องเข้มแข็ง! แต่ว่าถ้าไม่มีบริษัทตงหวางกรุ๊ป ถึงแม้ว่าจะหาลูกเจอ ฉันจะมีอะไรให้เขาล่ะ?”
ฉินหลันเกลี้ยกล่อม “ท่านประธาน ขอเพียงคุณมีสุขภาพแข็งแรง นั่นคือของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณมอบให้คุณชายน้อย! เพราะว่า ท่านคือคนเดียวในโลกนี้ เป็นมารดาโดยกำเนิดโดยไม่มีใครสามารถแทนที่ได้!”
ในอีกด้านหนึ่ง คุณชายหลี่ยิ้มอย่างมีความสุข “ไอ้หนุ่ม เห็นหรือยัง? บริษัทตงหวางกรุ๊ปจบสิ้นลงอย่างถาวร! ฮ่าๆ คุกเข่าลงและกราบอ้อนวอนฉันสิ ฉันสามารถรับนายไว้!”
หลินหยุนไม่แยแสคุณชายหลี่ มองไปที่หวางซูเฟินด้วยดวงตาที่ร้อนแรง ในหัวใจเหมือนมีความอบอุ่นค่อยๆไหลเวียน
“ที่แท้ คุณแม่ไม่เคยล้มเลิกตามหาฉัน!”
มีความคิดแวบหนึ่ง หลินหยุนอดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นและยอมเปิดเผยเรื่องแม่ลูกกัน
แต่ว่า หลินหยุนก็บังคับตัวเองอดทนไว้
การเกิดใหม่ของเขา ได้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไปมากมาย เช่น การประชุมสุดยอดจงโจวในครั้งนี้
จากผลลัพธ์เมื่อชาติที่แล้ว หวางซูเฟินควรได้รับความช่วยเหลือจากบริษัทฉางเหอกรุ๊ป ให้พ้นวิกฤติ
แต่ว่า คราวนี้ประธานหลี่ของบริษัทฉางเหอกรุ๊ปกลับยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับตระกูลส้ง
หลินหยุนรู้สึกว่า ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเกิดใหม่ของเขา
คุณชายหลี่มองเห็นหลินยุนและไม่พูดอะไร คิดว่าหลินหยุนสะเทือนจิตใจ และพูดอย่างภาคภูมิใจมากขึ้นว่า “ไอ้หนุ่ม ทำไมไม่พูดอะไรแล้วล่ะ? ตกใจแล้วใช่ไหม? บริษัทตงหวางกรุ๊ปจบเห่แล้ว นายไม่มีที่พึ่งพิงแล้ว!”
ทันใดนั้นหลินหยุนก็ยื่นมือออกไปตบ คุณชายหลี่โดนตบจนกระเด็นออกไปไกล
เลือดพุ่งออกมาจากปากกลางอากาศ และฟันหลุดออกมาหลายซี่
“ไอ้หนุ่ม นายกล้าตบฉันเหรอ! บริษัทตงหวางกรุ๊ปจบเห่แน่ๆ ด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียวนายก็ตายแน่!” คุณชายหลี่จ้องมองหลินหยุนด้วยสายตาที่เคร่งขรึมน่ากลัว
หลินหยุนมีสีหน้าไร้ความรู้สึก และพูดอย่างไม่แยแส “มีฉันอยู่ บริษัทตงหวางกรุ๊ปไม่มีทางจบเห่”
หลังจากพูดจบ หลินหยุนก็ก้าวเดิน และค่อยๆเดินไปทางหวางซูเฟิน
ท่ามกลางฝูงชน ทันใดนั้นเจี่ยงสงและคนอื่นๆก็เห็นหลินหยุน ชั่วขณะ ผู้มีอิทธิพลในมณฑลหลิงหนานต่างก็ตกใจ
จากนั้น ทุกคนก็ค่อยๆเคลื่อนตัวจากทุกมุมของห้องโถง
หลินหยุนเดินมาถึงข้างหลังหวางซูเฟิน และนั่งลงที่โต๊ะใกล้ๆ
ทันใดนั้น สายตาของทุกคน ก็ถูกดึงดูดและจ้องไปที่หลินหยุน
“ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใคร? ในเวลานี้มานั่งข้างหลังหวางซูเฟิน เขาต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลส้งหรือ?”
“ทำไมเป็นไอ้หมอนี้?” เศรษฐีหนุ่มที่เคยเข้าร่วมการประชุมสุดยอดขนาดเล็ก มองไปที่หลินหยุน และแสดงความประหลาดใจ
“คุณรู้จักเขาเหรอ?” คนรอบข้างถามด้วยความสงสัย
เศรษฐีหนุ่มเยาะเย้ยดูถูก “รู้จักสิ? เขาเป็นบอดี้การ์ดที่ฉินหลันจ้างมา ฝีมือไม่เลว ตัวตนเย่อหยิ่ง ไม่รู้ว่าจะอยู่หรือตายอย่างไร!”
ผู้มีอิทธิพลในจงโจวท่านหนึ่งยิ้มอย่างดูถูกและพูดว่า “ฉันคิดว่าคนใหญ่คนโตมาจากไหน? ที่แท้ก็เป็นบอดี้การ์ดจิ๊บจ๊อยคนหนึ่ง! ในเวลานี้เขายังกล้ามายืนอยู่ข้างหลังหวางซูเฟิน คงไม่รู้จริงๆว่าจะอยู่หรือตายอย่างไร!”