จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 280 หลู่ฉางหลินมาถึง
บุคคลพวกทหาร คนในสถานที่แห่งนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จักมักคุ้น เพราะว่าพวกเขาเป็นนักธุรกิจ
แต่ว่า ดาวที่ระยิบระยับหลายดวงบนบ่าของคนผู้นี้นั้น ทุกคนต่างก็คุ้นเคยกันดี
นี่คือนายทหารยศพันเอก!
ทางการทหาร อย่างน้อยก็คือระดับผู้บัญชาการทหาร
เมื่อดูจากอายุของพันเอกผู้นั้นแล้ว อย่างมากก็น่าจะสี่สิบปี ยังจะอ่อนกว่าส้งหัวเหลียงเสียอีก
แต่ อายุน้อยขนาดนี้มียศเป็นถึงพันเอกแล้ว หากเลื่อนขั้น นั่นก็คือระดับนายพลเลยทีเดียว!
นายพลที่มีอายุน้อยขนาดนี้ ต่อไปตำแหน่งหน้าที่ทางการทหาร คงจะมีอนาคตสดใสอย่างแน่นอน!
ส้งหัวอันโอบไปที่ไหล่ของนายทหารผู้นั้น แล้วก็กวาดสายตามองไปยังทุกคนในห้องโถง พูดขึ้นว่า: “ผู้นี้คือน้องชายสามของข้า ส้งหัวเฉียง ผู้บัญชาการทหารราบที่ 3 เขตทหารเตียนหนาน! ”
ทุกคน ต่างตกตะลึงกันอีกครั้งแล้ว!
ด้านบุ๋นมีส้งหัวเหลียง ด้านบู๊มีส้งหัวเฉียง วงการธุรกิจมีส้งหัวอัน
ตระกูลส้งวางแผนโดยมองการณ์ไกลอย่างมากจริง ๆ
เวลานี้ การขาดแคลนในด้านการเมืองและการทหารของตระกูลส้ง ต่างก็ได้เติมแต่งจนครบสมบูรณ์แล้ว
อิทธิพลทั้งหมดของตระกูลส้ง ยกระดับขึ้นไม่เพียงแค่เล็กน้อย!
ถ้าหากให้เวลาตระกูลส้งอีกไม่กี่ปี แม้ว่าตระกูลส้งจะไม่สามารถที่จะรายงานโดยตรงต่อผู้นำสูงสุดได้อย่างควีนจิน ครอบครองทั้งมณฑล แต่อิทธิพลทั้งหมดก็มิอาจดูแคลนได้!
ฉินหลันมองไปยังพี่น้องตระกูลส้งทั้งสามคนด้วยอาการที่ตกตะลึง พูดอย่างหนักแน่นว่า: “ท่านประธาน ส้งหัวอันปกปิดซ่อนเร้นอย่างลึกลับเลยจริงเชียว! ”
หวางซูเฟินถอนหายใจด้วยความไม่พึงพอใจ: “ใช่สิ ตระกูลส้งปกปิดลึกลับขนาดนี้ และก็ปกปิดได้เป็นอย่างดีด้วย นานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่มีผู้ใดรับทราบเลย! ”
มิน่าล่ะต่อให้พวกผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีทั้งสิบแปดเมืองของหลิงหนาน แสดงตัวออกมาพร้อมกันเพื่อสนับสนุนหลินหยุน ทางส้งหัวอันเองก็ยังคงไม่เห็นอยู่ในสายตา
มิน่าล่ะที่ตระกูลส้งสามารถมีอิทธิพลครอบครองจงโจวได้มานานหลายปี ซึ่งไม่มีใครสามารถมาทดแทนได้
ที่จริงแล้วนี่ต่างหากคืออิทธิพลที่แท้จริงของตระกูลส้ง!
ครั้งนี้ ส้งหัวอันจงใจที่จะแสดงตัวของส้งหัวเหลียงและส้งหัวเฉียง ก็เพราะต้องการที่จะข่มขู่พวกผู้มีอิทธิพลอำนาจและพวกเศรษฐีทั้งสิบแปดเมืองของหลิงหนาน ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าหลินหยุนกับพวกผู้มีอิทธิพลเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์กันในระดับไหน?
หวังว่าพวกเขาจะไม่เกรงกลัวตระกูลส้งจนถอนตัวกลับออกไป!
เจี่ยงสงกับเส้เทียนหัวและคนอื่น ๆ ต่างก็ตะลึงบ้างที่ตระกูลส้งได้แสดงอิทธิพลอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของตนเองออกมา
แต่ ต่อให้ตระกูลส้งมีอิทธิพลยิ่งใหญ่มากแค่ไหน แล้วจะสามารถเอาชนะปรมาจารย์หลินหยุนที่ยิงธนูปราบผี จุดไฟเพลิงเผาไหม้หุ่นศพได้อย่างนั้นเหรอ?
เมื่อเปรียบเทียบกับปรมาจารย์หลินแล้ว พวกอำนาจทรัพย์สินเงินทองในโลกมนุษย์ทั่วไปนี้ ก็เปรียบได้กับดอกไม้ไฟที่สว่างไสว โดยหลังจากที่ส่องสว่างความงดงามแล้ว ก็หลงเหลือเพียงฝุ่นละอองทิ้งไว้ มีเพียงแค่ตนเองเท่านั้นที่ต้องแข็งแกร่ง เสาะแสวงหาความลึกลับของชีวิต จึงจะเรียกได้ว่าอมตะตลอดกาล!
หลิวเหอหมิงเห็นว่าตระกูลส้งได้แสดงไพ่เด็ดใบสุดท้ายออกมาแล้ว ก็แอบดีอกดีใจขึ้นโดยพลัน: “ยังดีที่ว่าฉันเฉลียวฉลาด เลือกที่จะพึ่งพิงตระกูลส้ง คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าไพ่เด็ดใบสุดท้ายของตระกูลส้งจะยิ่งใหญ่ได้ถึงขนาดนี้! ”
มองไปยังหวางซูเฟินและคนอื่น ๆ ที่กำลังตกตะลึงอยู่นั้น หลิวเหอหมิงจึงหัวเราะเสียงดังขึ้น:“ไอ้หนุ่มน้อย ลำพังแค่นายก็กล้าคิดที่จะเป็นปรปักษ์กับตระกูลส้ง นายยังขาดคุณสมบัติอีกเยอะ! ว่าอย่างไร ตอนนี้เกรงกลัวแล้วใช่ไหม? ”
ซูเหลียงจื่อมองไปยังหลิวเหอหมิงอย่างเย็นชา หากไม่ใช่หลินหยุนที่กังวลใจว่าการลงมือในที่แห่งนี้ จะส่งผลกระทบอย่างมากกับโลกมนุษย์ธรรมดา จะทำให้ภาครัฐของจีนไม่พึงพอใจ หาไม่แล้วต่อให้หลิวเหอหมิงจำนวนนับร้อยคนก็คงจะถูกซูเหลียงจื่อตบตายเกลี้ยงกันไปหมดแล้ว!
หลินหยุนไม่ได้สนใจหลิวเหอหมิง สีหน้าท่าทางไร้อารมณ์ และมองไปยังส้งหัวอันที่กำลังกระหยิ่มยิ้มย่อง
ชาติที่แล้ว หลินหยุนจำได้แม่นว่า การประชุมสุดยอดจงโจวนี้ ตระกูลส้งไม่ได้แสดงไพ่เด็ดใบสุดท้ายของตนเองออกมา
ครั้งนี้ ได้รับการข่มขู่จากหลินหยุน ในที่สุดตระกูลส้งจึงได้แสดงไพ่เด็ดใบสุดท้ายของตนออกมาแล้ว
“แท้จริงแล้วตระกูลส้งมีอิทธิพลอำนาจมากกว่าที่ตนเองแสดงออกมามากมาย ชาติที่แล้ว มิน่าล่ะที่ข้าถูกตระกูลส้งกดขี่ข่มเหงโดยตลอด! จนสุดท้ายก็ยังไม่ได้เห็นอิทธิพลอำนาจที่แท้จริงของตระกูลส้ง”
“แต่ว่า ในชาตินี้ ต่อให้นายมีอิทธิพลอำนาจล้นฟ้า ร่ำรวยเงินทองมากแค่ไหน ข้าก็ไม่มีความเกรงกลัวอันใดเลย! ”
เวลานี้ ที่ประตูมีเสียงหัวเราะดังสนั่นผ่านเข้ามาโดยพลัน: “ฮ่าฮ่า บรรยากาศคึกคักมากเลยทีเดียว! หากไม่ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดจงโจวในครั้งนี้ คงเป็นความสูญเสียของข้าเลยเชียวล่ะ! ”
จากเสียงที่ดังขึ้นนั้น หลู่ฉางหลินก็พาหยู่ลั่วจินไซที่สวยงดงามดูดีมีสง่า ในชุดสูทสตรีสีดำ พร้อมกับบอดี้การ์ดสองคน เดินเข้ามายังด้านใน
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปโดยพร้อมเพรียงกัน!
“หลู่ฉางหลิน! ”
ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างก็เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในแต่ละวงการของจงโจว สำหรับบุคคลเบอร์หนึ่งแห่งเขตเมืองพิเศษนี้แล้ว แน่นอนว่าคงจะให้ความสนใจอยู่เป็นประจำ ต่อให้พวกผู้มีอำนาจและพวกเศรษฐีทั่วทั้งหลิงหนานเอง ต่างก็คุ้นเคยกับหลู่ฉางหลินเป็นอย่างดี
รวมไปถึงคุณชายหลี่กับคุณชายเฉินพวกลูกเศรษฐีเหล่านั้น ก็ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเจ้าเมืองหลู่ท่านนี้
หวางซูเฟินออกอาการตกตะลึง เมื่อครู่ที่รองนายกส้งปรากฏตัวนั้น เธอก็กำลังคิดถึงเจ้าเมืองหลู่ท่านนี้อยู่พอดี
คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาในงานนี้ด้วย!
และยังจะมาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้!
ส้งหัวอันรีบเดินเข้าไปต้อนรับ: “ท่านพี่หลู่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดจงโจว นับว่าเป็นการให้เกียรติกับพวกเราอย่างมากเลยทีเดียว! ”
รองนายกส้งเห็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชาของตน สีหน้าท่าทางอึดอัดขึ้นแวบหนึ่ง ยิ้มและพูดว่า: “สวัสดี ท่านพี่หลู่! ”
หลู่ฉางหลินพนมมือไปทางส้งหัวอันและพูดขึ้นว่า: “ประธานส้งเกรงใจกันเกินไปแล้ว! ”
จากนั้น มองไปยังส้งหัวเหลียงที่อยู่ด้านข้าง สายตาแสดงอาการตะลึงขึ้นแวบหนึ่ง: “หัวเหลียงก็อยู่ด้วยเหรอเนี่ยะ! ”
“ทุกคนไม่ต้องเกรงใจ ฉันมาที่นี่เพื่อมาคารวะคนผู้หนึ่ง สักครู่ก็กลับแล้ว พวกคุณก็ประชุมกันต่อได้เลย! ”
คำพูดของหลู่ฉางหลิน ทำให้ทุกคนในที่แห่งนี้ตกตะลึงขึ้นอีกครั้ง!
“หลู่ฉางหลินมาการประชุมสุดยอดจงโจวด้วยตนเอง เพียงเพื่อมาคารวะคนผู้หนึ่ง? ”
“คนผู้นี้เป็นใครกัน? ทำไมถึงมีเกียรติมากถึงขนาดนี้! ”
ทุกคนต่างก็แอบครุ่นคิด สายตาก็เสาะแสวงหาไปในกลุ่มคน
หวางซูเฟินกับฉินหลันมองหน้าซึ่งกันและกัน
“สามารถที่จะให้หลู่ฉางหลินมาคารวะด้วยตนเอง ตกลงเป็นใครผู้ยิ่งใหญ่ผู้ใดกันแน่? ”
สายตาของทุกคนเสาะแสวงหาในกลุ่มคน ท้ายที่สุด สายตาของทุกคนก็ไปหยุดอยู่ที่ตัวของส้งหัวอัน
ทุกคนในที่แห่งนี้ มีเพียงส้งหัวอันเท่านั้นที่มีสถานะสูงศักดิ์ที่สุด แต่ว่า ต่อให้เป็นส้งหัวอัน ก็มิอาจให้หลู่ฉางหลินมาคารวะด้วยตนเอง!
แต่ว่า นอกจากส้งหัวอันแล้ว ทุกคนก็คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีใครที่เหมาะสมที่จะให้หลู่ฉางหลินมาคารวะด้วยตนเอง
จิตใจของส้งหัวอันตื่นเต้นไม่หยุด แอบครุ่นคิดว่า: “หรือว่าหลู่ฉางหลินทราบล่วงหน้าก่อนว่า หัวเหลียงกับหัวเฉียงต่างเป็นคนจากตระกูลส้ง ให้ความสำคัญกับศักยภาพความสามารถในอนาคตของตระกูลส้ง ดังนั้นจึงมาเพื่อสานสัมพันธ์กับตระกูลส้ง? ”
“คงเป็นอย่างนี้แน่นอน มิเช่นนั้นข้าเองก็คิดไม่ออกเช่นกันว่า จะมีใครที่คู่ควรถึงขนาดให้หลู่ฉางหลินมาหาด้วยตนเอง! ”
คิดถึงตรงนี้ ส้งหัวอันก็มีอาการตื่นเต้นขึ้นโดยพลัน
แม้ว่าเขาเป็นถึงผู้มีอำนาจในวงการธุรกิจแห่งจงโจว แต่สำหรับนายกที่มาจากตระกูลหลู่ในตระกูลสูงศักดิ์นับร้อยปีของมณฑลตงซานแล้ว ก็คิดต้องการที่จะสานสัมพันธ์มาโดยตลอด
แต่ หลู่ฉางหลินเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์และยุติธรรม แต่ไหนแต่ไรก็จะรักษาระยะห่างกับส้งหัวอันและพวกนักธุรกิจ ดังนั้น ต่อให้ส้งหัวอันมีใจที่จะสานสัมพันธ์ แต่ก็ไม่เคยสมหวังเสียที
แต่ว่า ตอนนี้หลังจากที่ตระกูลส้งได้เปิดเผยไพ่เด็ดใบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่หลู่ฉางหลินเองก็ยังมาเพื่อคารวะ ทำให้ส้งหัวอันจิตใจฮึกเหิมเร่าร้อนขึ้นทันที นอกจากข้าแล้วจะเป็นใครไปได้อย่างไร!
ด้านล่างเวที คุณชายหลี่กับพวกลูกเศรษฐีอื่น ๆ แต่ละคนต่างก็ย่อเอวลง และมองไปที่ส้งอันหมิงด้วยท่าทางประจบสอพลอ
“คุณชายใหญ่ส้ง คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า แม้แต่เจ้าเมืองหลู่เองก็ยังต้องมาคารวะพ่อของนายด้วยตนเอง! นี่ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากเลยทีเดียว! ”
“ครั้งนี้ไอ้หนุ่มหลินหยุนนั้นคงจะเกรงกลัวขึ้นบ้างแล้วล่ะสิ! ”
“ฮึ ไอ้หนุ่มนั่นคิดว่าตนเองรู้จักกับพวกคนในหลิงหนาน ก็คิดที่จะมาทำอวดดีในจงโจวเขตอาณาของพวกเรา เขามองข้ามดูถูกคุณชายใหญ่ส้งของพวกเราเกินไปแล้ว! ”
ส้งอันหมิงไม่พูดไม่จาอะไร แต่ในใจกลับตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก เขาก็คิดไม่ถึงว่าสถานะที่สูงศักดิ์ระดับหลู่ฉางหลิน จะมาคารวะพ่อของตนด้วยตัวเขาเอง!
“ดูเหมือนว่าการวางแผนของคุณพ่อในตอนนั้น ช่างฉลาดแยบยลยิ่งนัก! เมื่อไพ่เด็ดใบสุดท้ายของตระกูลส้งได้เปิดเผยขึ้น จะทำให้คนจำนวนมากตื่นตระหนกตกใจเป็นอันมากอย่างแน่นอน! ”
“หลู่ฉางหลินเป็นเพียงแค่คนแรก ต่อไปยังจะมีคนอีกจำนวนมากยอมก้มศีรษะให้กับตระกูลส้ง!