จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 30 ให้นาย
บทที่ 30 ให้นาย
จินหยวนเป่ามองหลินหยุนอย่างไม่เข้าใจ แล้วถาม: “ทำไมล่ะ? นี่เป็นหินที่เปาเสินทั่นกับเซียนครึ่งซุนจ้องเอาไว้อยู่นะ!”
จินหยวนเป่าคิดว่าหลินหยุนไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของสองคนนั้น แล้วพูดเสริมให้อีกครั้ง: “พวกเขาสองคนเป็นคนฝีมือดีในแวดวงพนันหินอัญมณี สายตาเฉียบแหลม หินที่พวกเขาจับจ้อง ธรรมดาแล้วได้กำไรทั้งนั้น!”
หลินหยุนไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ยังคงทำสีหน้านิ่งเฉยเช่นเดิม แล้วพูด: “ถ้าหากนายเชื่อฉัน ก็ไม่ต้องเพิ่มแล้ว!”
จินหยวนเป่ามองไปที่หินผิวสีเขียวก้อนนั้น และหันกลับมามองหลินหยุนที่สีหน้านิ่งเฉย
สุดท้าย จินหยวนเป่าก็เลือกที่จะเชื่อหลินหยุน: “ได้ นายคือไอดอลของฉัน ฉันเชื่อนาย!”
“แต่ก็ จะให้ไอ้โง่หลี่เหยนได้ไปแบบถูกๆ ไม่ได้!” ที่จริงแล้วในความคิดว่าจินหยวนเป่า เชื่อเปาเสินทั่นกันเซียนครึ่งซุนมากกว่า
ที่ฟังหลินหยุน นั่นเพราะว่าก่อนหน้านี้ที่กาสิโนหลินหยุนทำให้จินหยวนเป่าถึงกับอึ้ง
หลินหยุนสีหน้าไร้อารมณ์ และมองไปที่หินก้อนนั้นอย่างนิ่งๆ
ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจเรื่องพนันหินอัญมณี แต่ว่า อาศัยที่เขาเป็นผู้บำเพ็ญเซียนการรับรู้ถึงพลังสวรรค์และโลก หลินหยุนก็พอจะรู้สึกได้ว่าด้านในหินก้อนนี้มีพลังที่อ่อนมาก
แต่ว่าในบรรดาหินที่วางเรียงกันอยู่นั้น มีหินอยู่บางก้อนที่รู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งมากๆ
หลินหยุนตัดสินจากสิ่งนี้ อัญมณีล้ำค่าพวกนั้น น่าจะอยู่ในหินก้อนที่มีพลังพวกนั้น
แตกต่างกันแค่คุณลักษณะ เพราะงั้นจึงออกมาในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน
อย่างเช่นธาตุไฟ นั่นก็จะเป็นอัญมณีสีแดง ธาตุไม้ ก็จะเป็นหยกจักรพรรดิ์เป็นต้น
แต่หินพวกนั้นถูกเรียงอยู่ด้านนอก ภายนอกดูเหมือนหินธรรมดาทั่วไป ไม่ได้ออกสีเขียว เพราะงั้นจึงไม่ถูกสนใจ
อย่างเช่นหากมีหยกจักรพรรดิ์ซ่อนอยู่ในหิน ถ้างั้นหินก้อนนั้นภายนอกจะต้องมีสีเขียวลอดออกมา นี่คือสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ใช้วิเคราะห์ราคาของหิน
แน่นอน ว่ามีคนเก่งที่สามารถวิเคราะห์ได้จากวัสดุของหิน แต่ว่าคนแบบนั้นมีน้อยมาก และปกติคงจะไม่มาเล่นพนันหินอัญมณีแบบนี้ ส่วนใหญ่พวกเขาคงได้รับการว่าจ้างด้วยเงินเดือนสูงๆ เพื่อไปสำรวจเหมืองแร่
พวกหลี่เหยนยังคงเพิ่มราคากันต่อไป ชั่วพริบตาหินก้อนนี้ราคาก็ขึ้นมาอยู่ที่หกล้านสามแสนเหรียญ
แต่ ถ้าหากเปิดเจออัญมณีล้ำค่าจริงๆ ล่ะก็ ราคาก็จะเพิ่มขึ้นเป็นหลายสิบล้าน หรือแม้แต่ร้อยล้าน เพราะงั้น หินก้อนนี้ยังพอจะมีพื้นที่ให้เพิ่มราคาอยู่
เปาเสินทั่นยกมือขึ้น และบอกราคาอีกครั้ง: “หกล้านห้าแสน!”
เซียนครึ่งซุนจ้องไปที่เขา แล้วหึออกมา: “หินก้อนนี้อย่างมากราคาก็อยู่ที่เจ็ดล้าน ถ้าหากเพิ่มอีกจะมีความเสี่ยงสูง ถ้าเกิดเปิดเจอของไม่ดี นั่นคงเข้าเนื้อ”
“ฉันให้หกล้านหกแสน!”
เปาเสินทั่นส่ายหน้า แล้วพูด: “ฉันกับนายมองไม่เหมือนกัน พนันหินอัญมณี ที่เพิ่งก็คือคำว่าพนัน ถ้าหากเปิดเจอหยกจักรพรรดิ์ขึ้นมาจริงๆ นั่นก็ได้กำไรมากเลยไม่ใช่เหรอ?”
“แต่ว่ามากสุดฉันเพิ่มให้อีกแค่หนึ่งแสน หกล้านเจ็ดแสน!”
เซียนครึ่งซุนพูด: “หึ ให้นายแล้วกัน ด้านหลังจะต้องมีที่ดีกว่านี้!”
หลี่เหยนมองไปทางเว่ยเทียนหมิง แล้วถาม: “คุณชายเว่ย คิดว่าจะยังเพิ่มได้มั้ย?”
เว่ยเทียนหมิงมองไปที่หินก้อนนั้น คิดหนักอยู่ครู่ แล้วพูด: “ถึงยังไงมันก็คือการพนัน แน่นอนว่าต้องเอาให้สุด อีกอย่างหลายรอบที่ผ่านไปเมื่อกี้จินหยวนเป่าไม่ได้เรียกเลย ฉันคิดว่าเขารอให้ถึงรอบสุดท้าย ประมูลเป็นคนสุดท้าย!”
หลี่เหยนพยักหน้า ชูมือแล้วตะโกน: “ฉันให้หกล้านแปดแสน!”
ผู้คนรอบข้างมองไปที่หลี่เหยน บางคนส่ายหน้า บางคนถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าตัดสินใจยอมแพ้แล้ว
เปาเสินทั่นกับเซียนครึ่งซุนก็ยอมแพ้เช่นกัน
“หกล้านแปดแสนเหรียญครั้งที่หนึ่ง หกล้านแปดแสนเหรียญครั้งที่สอง มีคนให้มากกว่านี้มั้ยครับ?”
ทันใดนั้น จินหยวนเป่าก็ยิ้มร้ายที่มุมปาก จู่ๆ ก็ชูมือขึ้น แล้วพูดขึ้นอย่างขี้เกียจ: “เจ็ดล้าน!”
ทุกคนหันไปมองจินหยวนเป่า มีคนรู้ถึงฐานะของจินหยวนเป่า
“นั่นคุณชายตระกูลจินไม่ใช่เหรอ? ลูกชายของจินซื่อหรงที่แท้รวยแบบนี้นี่เอง!”
“เจ็ดล้าน ถ้าเกิดเขาเปิดไม่เจอหยกจักรพรรดิ์ นั่นก็เข้าเนื้อแล้ว!”
“เหอะๆ เจ็ดล้านสำหรับคนอื่นอาจจะเข้าเนื้อ แต่สำหรับคุณชายจิน ไม่เท่าไหร่ เสียก็เสียสิ เขาไม่ได้สนใจมันเลย!”
สีหน้าของหลี่เหยนย่ำแย่ เขาจ้องจินหยวนเป่าตาเขม็ง หินก้อนนี้โอกาสที่จะเปิดเจออัญมณีล้ำค่านั้นสูงมาก
แต่ว่า โอกาสที่จะเสียเปล่าก็มีไม่น้อย
“คุณชายเว่ย เอาไงดี?” หลี่เหยนไม่อยากปล่อยหินก้อนนี้ไป หรือแม้แต่ยอมจินหยวนเป่า
เว่ยเทียนหมิงลูบคาง สายตาเพ็งไปที่หินก้อนนั้น แล้วพูด: “ปล่อยหินก้อนนี้ไปไม่ได้ แต่ว่าต้องมีกลยุทธ์ในการเพิ่มราคา”
“ถ้าหากแต่ละครั้งเพิ่มแค่หนึ่งแสน แน่นอนว่าจินหยวนเป่าจะต้องเพิ่มทีละแสนตาม แบบนี้จะทำให้ราคาของหินก้อนนี้มันสูงขึ้นไปอีก!”
หลี่เหยนมองจินหยวนเป่าทำหน้ายียวนอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วพูดขึ้นอย่างรีบร้อน: “งั้นทำไงดี? เห็นได้ชัดว่าจินหยวนเป่ามันจะแข่งกับเรา!”
เว่ยเทียนหมิงพูด: “นายเรียกแปดล้านเลย เรียกเพิ่มทีละหนึ่งล้าน ถึงแม้จะเป็นจินหยวนเป่าก็ต้องคิดบ้างแหละ”
หลี่เหยนถาม: “ถ้าหากจินหยวนเป่าเรียกเพิ่มล่ะ?”
“ถ้าหากจินหยวนเป่าเรียกเพิ่ม ก็ให้มันไป!”
หลี่เหยนพยักหน้า วิธีนี้ใช้ได้
อีกฝั่ง จินหยวนเป่ามองหลี่เหยน ทำหน้าอวดดีแล้วพูด: “หลี่เหยน เรียกเพิ่มสิ ไม่ว่านายจะเรียกเพิ่มเท่าไหร่ ฉันก็จะเรียกให้สูงกว่า จะฉันสูงกว่านายหนึ่งขั้น!”
หลี่เหยนยิ้มอย่างเย็นชา ชูมือขึ้นแล้วตะโกน: “แปดล้าน!”
อะไรนะ!
ไอ้หมอนี่บ้าหรือว่าโง่ไปแล้วเหนี่ย? เพิ่มทีละล้าน!
เมื่อรู้สึกถึงสายตาช็อกของผู้คนรอบข้าง หลี่เหยนก็ภูมิใจเล็กน้อย มองไปที่จินหยวนเป่าแล้วยิ้มอย่างเย็นชา: “คุณชายจิน ถ้าหากนายเรียกเพิ่ม ฉันจะยกให้!”
อยู่ๆ จินหยวนเป่าก็หัวเราะออกมาเสียงดัง พูดพลางมองบน: “คนโง่ถึงจะซื้อหินไม่ดีก้อนนั้น ฉันแค่อยากจะขูดเนื้อนายอีกหน่อยแค่นั้นเอง!ฮ่าๆ ……”
“นาย……” หลี่เหยนเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองติดกับเข้าแล้ว จินหยวนเป่าไม่ได้ตั้งใจจะแย่งหินก้อนนี้ ถึงแม้เขาจะเพิ่มอีกแค่หนึ่งแสน จินหยวนเป่าก็จะไม่เรียกเพิ่มแล้ว
ครั้งนี้ โดนขูดเงินไปล้านกว่าเหรียญ!
หลี่เหยนโมโหจนอยากกระอักเลือด
เว่ยเทียนหมิงหน้าแดงก่ำ ครั้งนี้ก็เป็นเขาที่คำนวณพลาด แต่ว่าจากที่เขารู้จักจินหยวนเป่ามา จินหยวนเป่าจะต้องไล่บี้หลี่เหยนจนสุดทาง ทำไมจู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนวิธีล่ะ?
เว่ยเทียนหมิงมองไปที่หลินหยุนที่นั่งอยู่ข้างๆ จินหยวนเป่า นัยน์ตามีความขุ่นเคือง แน่นอนว่าหลินหยุนจะต้องพูดอะไรกับจินหยวนเป่าแน่ๆ ถึงทำให้จินหยวนเป่าเปลี่ยนไป จึงทำให้เขาวิเคราะห์พลาด
หลี่เหยนมองเว่ยเทียนหมิง ด้วยสีหน้าน้อยใจ: “คุณชายเว่ย จินหยวนเป่ารังแกกันเกินไปแล้ว!”
เว่ยเทียนหมิงพูดเสียงเข้ม: “ไม่ต้องโอดโอยแล้ว เปิดเถอะ!ถ้าหากเปิดเจออัญมณีล้ำค่าขึ้นมาจริงๆ ก็ทำให้พวกนั้นเสียดายได้พอดี!”
“ใช่!เปิด!” หลี่เหยนพยักหน้าแรงๆ
หวางเสี่ยวซีเห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนแลบลิ้น จับมือเซี่ยหยู่เวย แล้วพูด: “หินโง่ๆ ก้อนนึง มีราคาแปดล้านเหนี่ยนะ?”
ในใจของเซี่ยหยู่เวยก็ไม่สามารถสงบได้เลยเช่นกัน เธอมาที่พนันหินอัญมณีเป็นครั้งแรก ในใจเธอนั้นตกใจไม่ได้น้อยไปกว่าหวางเสี่ยวซีเลย
“ดูต่อไปเถอะ ไม่ว่าจะจ่ายไปเท่าไหร่ ขอแค่ได้เงินคืนมาก็พอ”
อีหลิงถึงแม้จะตกใจเหมือนกัน แต่ความนึกคิดของเธอครึ่งนึงอยู่ที่ตัวของหลินหยุน เธอสนใจทุกการกระทำของหลินหยุนเป็นอย่างมาก
“เขาเหมือนปริศนาจริงๆ เห็นๆ อยู่ว่าเขาเป็นแค่คนธรรมดา แต่ต่อหน้าการแลกเปลี่ยนเงินเป็นสิบๆ ล้าน เขากลับไม่มีท่าทีตกใจเลย!”
“สีหน้าท่าทีที่ดูสงบนิ่งๆ ขอเขา ราวกับเขาไม่แคร์สิ่งใดในโลกเลย ท่าทางแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่เสแสร้งได้อย่างแน่นอน”
“เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่?”