จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 301 พูดให้ร้าย
บทที่ 301 พูดให้ร้าย
น้ำเสียงของเย่เทียนเหานั้นธรรมดามาก ราวกับว่าไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย ก็แค่เชื่อใจทักษะทางการแพทย์ของหลินหยุนเท่านั้น ดังนั้นจึงได้แนะนำผู้ป่วยมาให้หลินหยุนทำการรักษา
ในห้องอาหาร นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้คิดไปในทิศทางอื่นเลย มีเพียงแต่จงเฟยหยู่กับเซี่ยหยู่เวย ยังมีจางเหยียนและเพื่อนร่วมชั้นบางคน มีความสงสัยแวบเข้ามาในแววตาของพวกเขา
แววตาของเซี่ยหยู่เวยแฝงไว้ด้วยความสะใจ “หลินหยุน ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้ว เย่เทียนเหาไม่มีปล่อยนายไปง่ายๆหรอก แม้แต่คุณชายเย่แห่งเจียงหนานนายยังกล้าที่จะล่วงเกิน นายก็รอให้เขาเอาคืนเถอะ!”
สำหรับฐานะของเย่เทียนเหานั้นจงเฟยหยู่กับจางเหยียน ไม่ได้รู้ลึกเหมือนเซี่ยหยู่เวย พวกเขาเพียงแต่สงสัยพฤติกรรมของเย่เทียนเหา รู้สึกว่าเย่เทียนเหาไม่น่าที่จะแนะนำผู้ป่วยให้กับหลินหยุนอย่างจริงใจ น่าจะมีแผนการอย่างอื่น
ฉู่หมิงเฉิงกับซ่างกวงชิงฉันและคนอื่นๆ แอบมองหลินหยุนโดยที่ไม่พูดไม่จา แววตาแฝงนั้นไว้ด้วยความเย้ยหยัน
นักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจวที่ไม่รู้ความจริง ยังตะโกนด้วยความภาคภูมิใจ “อาจารย์หลินออกโรงเอง ด้วยทักษะการแพทย์ที่ล้ำเลิศก็ต้องรักษาได้อยู่แล้ว!”
“ใช่ อาจารย์หลินมีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม มีเขาลงมือรักษา ก็ต้องรักษาได้อย่างแน่นอน!”
นักศึกษาคนอื่นก็ร่วมส่งเสียงตาม
เย่เทียนเหามองดูหลินหยุน กล่าวด้วยใบหน้าที่เคารพนับถือ “อาจารย์หลิน ยังต้องขอให้คุณช่วยลงมือรักษาเอง!”
ชายหนุ่มที่บุกเข้ามาอย่างกะทันหัน ก็กรีดร้องอย่างให้ความร่วมมือ “โอ๊ย หมอเทพ รีบช่วยผมเถอะ ผมเจ็บจะตายอยู่แล้ว”!
หลินหยุนเหลือบมองเย่เทียนเหาอย่างเย็นชา ก็กล่าวอย่างเรียบเฉย “ให้เขาเข้ามา”
เย่เทียนเหามองชายหนุ่มคนนั้นแวบหนึ่ง แววตากะพริบผ่านไปด้วยแสงของการสมรู้ร่วมคิด
ชายหนุ่มพยักหน้าโดยไม่ให้คนอื่นสังเกตเห็น ก้มตัวเดินไปทางหลินหยุน
มือข้างหนึ่งของหลินหยุนไปวางอยู่บนข้อแขนของชายหนุ่ม ออกแรงเพียงเล็กน้อย ทันใดนั้นชายหนุ่มคนนี้ก็ร้องเหมือนหมูถูกเชือด
“โอ๊ย เจ็บๆๆๆ รีบปล่อยมือ”!
หลินหยุนไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยมือ กลับจ้องมองชายหนุ่มคนนี้โดยไม่กะพริบสายตา ถามอย่างเรียบเฉย “พูดมา ใครเป็นคนส่งนายมา?”
ในห้องอาหาร คนจำนวนมากก็อึ้งกันไปทันที
“คำพูดของอาจารย์หลินหมายความว่ายังไง?”
นักศึกษาหลายคนไม่เข้าใจ ทำไมหลินหยุนถึงได้ปฏิบัติกับผู้ป่วยเช่นนี้
จงเฟยหยู่กับจางเหยียนและคนอื่นๆ ก็มองเย่เทียนเหาด้วยสีหน้าที่เย็นชาทันที พวกเขาคิดไว้แต่แรกแล้ว จุดประสงค์ที่เย่เทียนเหาเลี้ยงข้าวนั้นต้องไม่บริสุทธิ์ คนผู้นี้ คาดว่าน่าจะเป็นคนที่เย่เทียนเหาจ้างมา
ฉู่หมิงเฉิงกับซ่างกวงชิงฉันและคนอื่นๆ สายตาที่มองหลินหยุน เผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ คิดไม่ถึง เพียงเวลาไม่นานหลินหยุนก็รู้ว่าผู้ป่วยคนนี้มีปัญหา
สีหน้าของเย่เทียนเหาดิ่งลง แต่พริบตาเดียวก็กลับสู่ปกติ กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “อาจารย์หลิน คำพูดของคุณหมายความว่าอย่างไร? เขาก็เป็นเพียงผู้ป่วยคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”
ซูชิงเหยียนและกลุ่มอาจารย์ ก็มองหลินหยุนอย่างไม่เข้าใจ พวกเขานั้นมองไม่ออกว่าชายหนุ่มคนนี้มีความผิดปกติอะไร
ชายหนุ่มคนนี้เจ็บจนเหงื่อออก รู้สึกเพียงว่ามือของหลินหยุนเหมือนคีมเหล็ก จะหนีบข้อมือของเขาขาดแล้ว
“ปล่อยมือ!” ชายหนุ่มกัดฟันแล้วตะโกนลั่น
หลินหยุนที่ใบหน้าไร้ความรู้สึก มุมปากมีรอยยิ้มที่เย็นชา “พวกเราสังสรรค์กันอยู่ตรงนี้ เขาที่เป็นคนนอก ทำไมถึงรู้ว่าที่ตรงนี้มีคุณหมอ?”
ใช่ คนอื่นทำไมถึงรู้ว่าที่ตรงนี้ของเรามีหมอ?
คำพูดเพียงประโยคเดียวของหลินหยุน ก็ได้กระตุ้นความสงสัยของนักศึกษาหลายคน
เย่เทียนเหาพูดด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์หลิน ไม่ว่ายังไง เขาก็เป็นผู้ป่วยคนหนึ่ง คุณปล่อยเขาก่อนแล้วค่อยคุยกันเถอะ!”
ซูชิงเหยียนก็กล่าวเตือน “ใช่ หมอเทพหลิน ต่อให้เขาไม่ใช่ผู้ป่วย ก็ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ไม่ดี ยังไงคุณก็ปล่อยเขาก่อนแล้วค่อยคุยกันเถอะ!”
ในสายตาของซูชิงเหยียน หลินหยุนทำแบบนี้ มันคือการก่ออาชญากรรมอย่างไม่ต้องสงสัย
หลินหยุนมองหน้าผากของชายหนุ่มที่ไหลเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ จึงได้ปล่อยมือ
ชายหนุ่มคนนี้รีบถอยไปอยู่ข้างๆทันที จ้องมองหลินหยุนอย่างดุร้าย “ไอ้หนุ่ม แกรออยู่ตรงนี้เลย!”
พูดจบ ชายหนุ่มก็รีบถอยไปโทรศัพท์ด้านข้าง พลางจ้องมองหลินหยุนอย่างระมัดระวัง เหมือนกลัวว่าหลินหยุนจะวิ่งบุกเข้ามาอย่างกะทันหัน
หลังจากที่โทรศัพท์เสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็เดินเข้ามา ยิ้มอย่างชั่วร้าย “ไอ้หนุ่ม แรงแกไม่เบาเลยนะ ตอนนี้หากแกคุกเข่ากราบรับผิดกับฉัน เดี๋ยวลูกพี่ฉันมาแล้ว ฉันจะช่วยแกขอร้อง ไม่อย่างนั้น แกตายแน่!”
มีนักศึกษาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ “เมื่อกี้เขาบอกว่าลูกพี่ เขาไม่ใช่ผู้ป่วยจริงๆด้วย!”
“อาจารย์หลินช่างเก่งมากนัก แวบเดียวก็มองออกว่าไอ้หมอนี่มีจุดประสงค์ที่ไม่ดี!”
นักศึกษาชายคนหนึ่งชี้ไปที่ชายหนุ่ม ตะโกน “นายเป็นใคร? เข้ามาที่นี่ต้องการอะไร!”
ชายหนุ่มคนนี้เหลือบมองนักศึกษาชายไปแวบหนึ่ง สายตาเหมือนงูเห่า ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไสหัวไปเลย ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!”
นักศึกษาชายไม่เคยเห็นสายตาที่ดุร้ายแบบนี้มาก่อน ก็ตกใจจนถอยหลังไปก้าวใหญ่ ใบหน้าก็แดงขึ้นมาทันที
ชายหนุ่มคนนี้ก็หัวเราะอย่างลำพองใจทันที
ใบหน้าของเย่เทียนเหานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ชี้ไปที่ชายหนุ่มคนนี้แล้วตะโกน “นายเป็นใครกันแน่? พวกเราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจว ไม่ได้มีความแค้นกับนาย นายแอบเข้ามาในนี้ต้องการอะไร!”
ชายหนุ่มหัวเราะแฮ่ๆ จ้องมองไปที่หลินหยุน “วางใจเถอะ ฉันแค่มาหาไอ้หนุ่มคนนี้คนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับพวกแก”
“แต่ว่าหากพวกแกมีใครกล้ามาแส่เรื่องนี้ ก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจ”
เย่เทียนเหากล่าว “พูดแบบนี้ก็เท่ากับนายมีความแค้นส่วนตัวกับอาจารย์หลิน?”
“ใช่ ฉันมาให้เขารักษาด้วยความจริงใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะประณามฉัน ฉันจะยอมเรื่องนี้ได้ยังไง!” ชายหนุ่มมองหลินหยุน ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“นี่……….” เย่เทียนเหามองหลินหยุนอย่างลำบากใจ อาจารย์หลิน ผมขอพูดตรงๆเลย เมื่อกี้เป็นคุณที่ทำไม่ถูกจริงๆ คุณก็ขอโทษน้องชายคนนี้ แล้วให้เขาไปจากที่นี่จะดีกว่า!”
ดูเหมือนว่าเย่เทียนเหาจะคิดแทนหลินหยุน จริงๆแล้วในใจนั้นรู้อยู่แล้วว่าหลินหยุน ไม่มีทางที่จะขอโทษ
ที่เขาทำแบบนี้ ก็เพื่อจะทำให้หลินหยุนนั้นแปลกแยก ทำให้เรื่องราวต่อจากนี้เหมือนเป็นเรื่องที่สมเหตุผล
นักศึกษาที่ไม่รู้เรื่อง รู้สึกว่าเย่เทียนเหานั้นพูดมีเหตุผล ต่างก็พูดโน้มน้าวขึ้นมา “ใช่ครับอาจารย์หลิน เมื่อกี้อาจารย์ทำไม่ถูกจริงๆ อาจารย์ไม่ควรลงมือก่อน อาจารย์ขอโทษเขาเถอะ!”
ชายหนุ่มคนนี้ยิ้มอย่างได้ใจ “ไอ้หนุ่ม ขอโทษเถอะ!”
หลินหยุนกวาดมองนักศึกษาเหล่านี้ด้วยสายตาที่เย็นชา “พวกเธอเรียนหนังสือจนสมองฝ่อไปแล้วหรือเปล่า”
ได้ยินหลินหยุนพูดแบบนี้ เหล่านักศึกษาก็หน้าแดง มีความโกรธเล็กน้อย
“อาจารย์หลิน พวกเราก็แค่หวังดี อาจารย์จะไม่รับก็ไม่เป็นไร ทำไมถึงว่าพวกเราแบบนี้!” นักศึกษาชายคนหนึ่งพูดอย่างคับข้องใจ
“ใช่ค่ะ อาจารย์หลิน ทุกคนต่างก็หวังดี ต่อให้อาจารย์ไม่รับความหวังดีนี้ ก็ไม่ควรที่จะว่าพวกเราแบบนี้!” นักศึกษาหญิงคนหนึ่งก็ก้าวออกมาพูด
ในมุมมองของนักศึกษาเหล่านี้ ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาโหดเหี้ยม หากไม่จำเป็นก็อย่าไปล่วงเกินเลย
ซูชิงเหยียนไม่อยากให้ความน่าเชื่อถือของหลินหยุนที่เกิดขึ้นใจของนักศึกษาอย่างไม่ง่าย ต้องมาหมดลงเพราะเรื่องเล็กแบบนี้
ซูชิงเหยียนรีบยืนขึ้น มองชายหนุ่มคนนั้นแล้วกล่าว “เรื่องนี้หมอเทพหลินคิดไม่รอบคอบจริง เอางี้ ผมขอโทษคุณแทนเขา เรื่องนี้ก็ให้มันจบแค่นี้เถอะ เป็นไง?”
ซูชิงเหยียนหวังดีจริง แต่ว่าการที่เขาลุกขึ้นมาแบบนี้ ก็เท่ากับว่าทำให้หลินหยุนนั้นกลายเป็นคนผิดจริง
หลินหยุนเหลือบมองซูชิงเหยียนอย่างเย็นชา กล่าวด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด “ผู้อำนวยการซู เหล่านักศึกษาคือไม่รู้ความ แม้แต่คุณก็เลอะเลือนไปด้วยเหรอ?”
ซูชิงเหยียนก็หน้าแดงทันที กระซิบกล่าว “หมอเทพหลิน ผมเพียงแต่ไม่อยากให้คนมีปัญหา!”
ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มอย่างเย็นชา “แกขอโทษไม่นับ ฉันต้องการให้ไอ้หนุ่มคนนี้ขอโทษฉัน! ไม่อย่างนั้น เรื่องนี้ไม่จบ!”
หลินหยุนเงยหน้า แลเขาด้วยหางตา ในปากก็พูดออกมาอย่างเรียบเฉย “ไสหัวไป!”
“แก หาที่ตาย!” ชายหนุ่มคนนั้นตะโกนออกมา สีหน้านั้นมืดมนถึงขีดสุด
ลูกตาของเย่เที่ยนเหาหมุนไปหนึ่งที กล่าวด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ “อาจารย์หลิน กิริยาแบบนี้ของคุณ มันเกินไปหน่อยแล้วนะ!”
“หากแพร่งพรายออกไป จะทำให้คนอื่นเข้าใจว่าคนที่จบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจว จะเป็นคนที่ไม่มีคนคุณภาพแบบนี้?”