จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 304 ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
ได้ยินพี่ดาวหักหลังเย่เทียนเหา ในที่สุดชายหนุ่มคนนั้นก็เข้าใจแล้ว
ไม่รอให้หลินหยุนถาม ก็แย่งตอบทันที “คุณหลิน เป็นเย่เทียนเหาให้ผมแกล้งป่วย เพื่อมาหาเรื่องคุณ จริงๆแล้วไม่ว่าคุณจะรักษาหรือไม่รักษาผม ผมก็จะหาข้ออ้างในการทำให้คุณลำบาก”
“คิดไม่ถึงเลยว่าคุณเหมือนมีตาทิพย์ เพียงแวบแรกก็มองออกว่าผมนั้นแกล้งป่วย ดังนั้นผมก็แสดงต่อไปไม่ได้ ทำได้เพียงให้พี่ดาวมาช่วยผม”
สายตาของหลินหยุนกวาดมองไปที่ชายหนุ่มหนึ่งรอบ สุดท้ายไปหยุดอยู่บนร่างของพี่ดาว
พี่ดาวพยักหน้า “คุณหลิน เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตามผมสาบานได้เลย ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนที่เขาจะให้มาจัดการก็คือคุณ!”
หลินหยุนมองไปทางเย่เทียนเหา กล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “นายทำเป็นใจดีเลี้ยงข้าวขอโทษ จริงๆแล้วก็เพื่อจะหาคนมาจัดการฉันนอกมหาวิทยาลัยใช่มั้ย?”
ตอนนี้เวลานี้ เย่เทียนเหารู้ว่าตัวเองนั้นไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลย ทำได้เพียงยืดอกยอมรับ
“ใช่ เรื่องทั้งหมดฉันเป็นคนวางแผน ฉันแค่ต้องการสั่งสอนนาย!”
“วันนี้ช่วงเช้านายกล้าที่จะพูดต่อหน้าคนตั้งมากมาย ว่าฉันไตพร่อง หากฉันไม่จัดการนาย ต่อไปหน้าของเย่เทียนเหาจะเอาไปไว้ที่ไหน!”
ได้ยินกับหูว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการวางแผนของเย่เทียนเหา เหล่านักศึกษาก็เสียใจกับการกระทำในตอนแรกทันที
ที่แท้การขอโทษทั้งหมด ล้วนเป็นเรื่องไม่จริง เป็นการกระทำที่เย่เทียนเหา ทำเพื่อให้หลินหยวนดูแปลกแยก
ต่อให้หลินหยุนขอโทษชายหนุ่มคนนั้น เย่เทียนเหากับชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่มีทางปล่อยหลินหยุน
หลินหยุนต้องมองจุดนี้ออกอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงได้แสดงพฤติกรรมที่เผด็จการแบบนี้
แค่คิดถึงเมื่อกี้ พวกเขาที่คิดว่าหลินหยุนเผด็จการ ถึงขนาดตำหนิหลินหยุน นักศึกษาทุกคนต่างรู้สึกละอายใจ อายจนไม่รู้ว่าควรจะไปซ่อนตัวที่ไหน
“เย่เทียนเหา นายมันคนชั้นต่ำ เมื่อกี้เสียแรงที่ฉันเข้าใจว่านายนั้นขอโทษอย่างจริงใจ ที่แท้นายเพียงต้องการใส่ร้ายอาจารย์หลิน!” นักศึกษาชายคนหนึ่งกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ใช่ เย่เทียนเหา คนชั้นต่ำ!” นักศึกษาคนอื่นๆก็ตะโกนตำหนิเย่เทียนเหา ระบายความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ข้างใจ
เย่เทียนเหามองดูทุกคนด้วยใบหน้าที่ดูแคลน หัวเราะอย่างเย็นชา “พวกแกมันโง่ ไปฉี่แล้วมองส่องดูเงาของตัวเอง คนอย่างพวกแกคู่ควรให้ฉันขอโทษด้วยเหรอ? อย่าฝันอีกเลย!”
ทันใดนั้นเหล่านักศึกษาต่างโกรธมาก
“แกพูดอะไรนะ!”
อย่านึกว่าแกเป็นคนที่มาจากเมืองหลวง พวกเราก็จะทำอะไรแกไม่ได้ วันนี้หากแกไม่ขอโทษพวกเรา แกอยากคิดไปจากที่นี่เลย!
เหล่านักศึกษาใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ เย่เทียนเหาเห็นพวกเขาเป็นตัวตลกก็ช่าง ตอนนี้ยังมาเหยียบหยามพวกเขา
เรื่องแบบนี้ยังทนได้ ก็ไม่มีอะไรที่จะทนไม่ได้อีกแล้ว!
อย่างไรก็ตาม เมื่อกี้เหล่านักศึกษาก็ได้ยินกันทั่วแล้ว เย่เทียนเหาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเย่แห่งเมืองเจียงหนาน พวกเขาไม่กล้าที่จะล่วงเกิน!
“ผู้อำนวยการซู คุณก็เห็นแล้ว เหล่าอัจฉริยะที่มาจากเมืองหลวงทำตัวเกินไปแล้ว!”
“คุณต้องช่วยพวกเรา ทวงความยุติธรรมให้พวกเราด้วย!”
ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเย่เทียนเหา ทำได้เพียงให้ซูชิงเหยียนออกหน้า
ซูชิงเหยียนแอบขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะเป็นผู้อำนวยการ แต่เย่เทียนเหาเป็นคนของมหาวิทยาลัยการแพทย์กรุงปักกิ่ง ไม่ได้อยู่ในความดูแลของเขาเสียหน่อย!
ซูชิงเหยียนทำได้เพียงมองไปทางหลินหยุน หวังว่าหลินหยุนจะมีวิธี
หลินหยุนเหลือบมองใบหน้าที่เย่อหยิ่งของเย่เทียนเหาไปหนึ่งที ก็ได้นำสายตามอยู่หยุดอยู่บนร่างของพี่ดาว แล้วถาม “เขาเตรียมการให้นายทำยังไงกับฉัน?”
พี่ดาวก้มหน้า มีความกลัวเล็กน้อย พูดอ่ำๆอึ้งๆ “เขาให้ผมทำร้ายคุณจนกว่าคุณจะคุกเข่าอยู่บนพื้น อีกทั้ง………”
พูดถึงตรงนี้ พี่ดาวไม่กล้าที่จะพูดต่อแล้ว
“อีกทั้งอะไร?” หลินหยุนถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เย่เทียนเหาหัวเราะเยาะ แล้วพูดต่อ “อีกทั้งจะให้นายยอมรับกับทุกคนว่าไตพร่อง
“เสี่ยวดาว ฉันไม่เข้าใจจริงๆ คนที่เป็นลูกน้องคนสนิทของท่านเจี่ยง นายกลับกลัวคนที่ไม่มีตัวตนและชื่อเสียงทางสังคมคนนี้!”
“ฉันผิดหวังในตัวท่านเจี่ยงจริงๆ!”
ด้วยฐานะคุณชายใหญ่ตระกูลเย่แห่งเจียงหนาน ฐานะทางสังคมของเย่เทียนเหานั้นสูงกว่าเจี่ยงสง มีสิทธิ์ที่จะทระนงตัว
พี่ดาวมองหลินหยุนด้วยความลำบากใจ กล่าวอย่างจำยอม “คุณหลิน ตระกูลเย่แห่งเจียงหนาน เป็นรองแค่ตระกูลอีแห่งเจียงหนาน แม้กระทั่งท่านเจี่ยงยังไม่กล้าที่จะล่วงเกิน ผมก็จนปัญญา ขอท่านโปรดอภัยด้วย!”
เย่เทียนเหายิ่งลำพองใจเข้าไปใหญ่ “ไอ้หนุ่ม ที่หลินโจวแม้จะไม่ใช่เจียงหนาน แต่ตระกูลเย่ที่อยู่ที่นี่ ก็ไม่มีคนกล้าล่วงเกินเหมือนกัน!”
“แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่านายใช้วิธีอะไร ทำให้ลูกน้องของเจี่ยงสงกลัวนาย อย่างไรก็ตามวันนี้ต่อให้เจี่ยงสงอยู่ตรงนี้ ก็ไม่กล้าทำอะไรฉัน!”
เย่เทียนเหานั้นโอหังอย่างหาอะไรมาเปรียบไม่ได้อีก ทำราวกับว่า ต่อให้นายรู้ว่าฉันกำลังวางแผนทำร้ายนาย แล้วนายจะทำอะไรฉันได้?
ใบหน้าของหลินหยุนไร้ความรู้สึก ทำราวกับว่าไม่เคยได้ยินตระกูลเย่แห่งเจียงหนานมาก่อน มองพี่ดาว กล่าวอย่างเรียบเฉย “เขาให้นายทำอะไรฉัน ตอนนี้นายก็ทำกับเขาอย่างนั้น”
สีหน้าของเย่เทียนเหาเปลี่ยนไปทันที “ไอ้หนุ่ม แกกล้าเหรอ!”
พี่ดาวหวาดกลัวไปทั้งใบหน้า กล่าวด้วยเสียงต่ำ “คุณหลิน เขาเป็นคุณชายของตระกูลเย่แห่งเจียงหนานนะ!”
หลินหยุนสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียที่ไม่มีความปรานีแม้แต่นิดเดียว “แล้วยังไง?”
พี่ดาวมองสายตาที่เฉยชาของหลินหยุน ราวกับว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปในแววตาของเขา
พี่ดาวรู้สึกว่า หากเข้าไม่ทำตาม วินาทีต่อไป เขาต้องตายอย่างไม่มีที่ฝัง
พี่ดาวตัดสินใจ มองเย่เทียนเหาด้วยใบหน้าที่มืดมน “คุณชายเย่ อย่าโทษผม หากจะโทษก็จงโทษตัวคุณที่ล่วงเกินคนที่ไม่ควรจะล่วงเกิน”
เย่เทียนเหาตกใจ “แก แกจะทำอะไร! แกกล้าแตะต้องฉัน ตระกูลเย่ของฉันไม่มีทางปล่อยพวกแกอย่างแน่นอน! ต่อให้เจี่ยงสงก็คุ้มกะลาหัวพวกแกไม่ได้ พวกแกคิดให้ดี!”
พี่ดาวไม่ได้สนใจ สั่งการกับลูกน้องทั้งสี่คน “ลุย!”
“แกกล้าเหรอ!” เย่เทียนเหากลัวแล้ว ถอยหลังไม่หยุด พริบตาเดียวได้ถอยไปถึงด้านหลังของพวกฉู่หมิงเฉิง
ทันใดนั้นเซี่ยหยู่เวยก็ลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าที่มืดมน มองไปทางหลินหยุน กล่าวอย่างเย็นชา “หลินหยุน อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนาย ตระกูลเย่แห่งเจียงหนาน มีฐานะเสมือนกับควีนจินหนันหลิน หากวันนี้นายทำร้ายเขา ต่อให้ควีนจินก็ปกป้องนายไม่ได้!”
หลินหยุนไม่มองเซี่ยหยู่เวยแม้แต่หางตา กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “ฉันไม่ต้องการให้ใครมาปกป้อง อีกอย่างฉันได้พูดตั้งแต่แรกแล้ว คนที่ดูยิ่งใหญ่ในสายตาของเธอ อยู่ในสายตาของฉันก็เป็นเพียงมดเท่านั้น”
หน้าอกของเซี่ยหยู่เวยกระพือขึ้นลงอย่างรุนแรง กล่าวอย่างโมโห “นายสามารถที่จะหยิ่งทะนงตน แต่ฉันหวังว่านายจะไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน”
แม้ว่าเซี่ยหยู่เวยได้ประกาศหย่ากับหลินหยุนไปแล้ว ไม่ว่ายังไงหลินหยุนก็ยังเป็นคนในครอบครัวของเธอ เธอกังวลว่าการกระทำของหลินหยุน จะนำปัญหามาสู่ครอบครัวของเธอ
หลินหยุนที่ใบหน้าไร้ความรู้สึก “วางใจเถอะ ทุกการกระทำของฉัน ไม่เกี่ยวกับตระกูลเซี่ย ไม่ทำให้เธอลำบากหรอก”
“หวังว่านายจะจำคำพูดของตัวเองเอาไว้” เซี่ยหยู่เวยที่ใบหน้ามืดมน นั่งกลับไปในตำแหน่งเดิม
พี่ดาวได้ตัดสินใจไปแล้ว ตะโกนสั่งกับลูกน้อง “เลิกอึ้งได้แล้ว ทำตามที่คุณหลินบอก!”
“ครับ!”
ลูกน้องสี่คน ก็ได้บุกไปทำร้ายเย่เทียนเหาทันที
อ๊า! โอ๊ย………..
เย่เทียนเหาถูกซ้อมจนปานตาย มุมปากมีเลือดซึม ด่าอย่างโกรธแค้น “เสี่ยวดาว แกใจกล้ามาก ฉันไม่มีทางปล่อยแกอย่างแน่นอน!”
“หลินหยุน แกรอเลยนะ ฉันจะไม่ได้นายได้ตายดี!”
พี่ดาวสีหน้ามืดมน ในเมื่อทำไปแล้ว ก็เท่ากับล่วงเกินตระกูลเย่แห่งเจียงหนานไปแล้ว ในเมื่อเลือกได้เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ก็ควรจัดการเย่เทียนเหาให้หนักหน่อย ของเพียงสามารถทำให้ปรมาจารย์หลินพอใจก็พอแล้ว
พี่ดาวตะโกนเสียงดัง “เอาให้หนักเลย ซ้อมจนมันคุกเข่าขอร้อง!”
ฉู่หมิงเฉิงทนดูต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ลุกขึ้นยืน จ้องมองหลินหยุนด้วยใบหน้าที่มืดมน “อาจารย์หลิน คนที่เป็นอาจารย์ปฏิบัติกับนักศึกษาแบบนี้เหรอ?”
หลินหยุนมองเขาไปแวบหนึ่ง กล่าวอย่างเรียบเฉย “ทนดูไม่ได้? งั้นนายก็มาถูกซ้อมเป็นเพื่อนเขาสิ!”
“คุณ…………” ฉู่หมิงเฉิงกำหมัดทั้งสองอย่างแน่น ทันใดนั้นก็ไม่กล้าออกเสียงอีก
ไม่นานเย่เทียนเหาก็ทนไม่ไหวแล้ว คุกเข่าลง กราบขอร้องให้หยุด “อาจารย์หลิน ผมผิดไปแล้ว ปล่อยผมไปเถอะ!”
พี่ดาวมองไปทางหลินหยุน หลินหยุดไม่พูด พี่ดาวก็ไม่กล้าให้ลูกน้องหยุดซ้อม
“เหมือนนายจะลืมคำพูดอะไรไปนะ?” หลินหยุนมองไปที่เย่เทียนเหา ใบหน้าไร้ความปรานี
ใบหน้าของเย่เทียนเหาบวมเหมือนหัวหมู เผยให้เห็นความอัปยศ กัดฟันแล้วตะโกน “ฉันเป็นไตพร่อง ฉันเป็นไตพร่อง! ฮ่าๆๆๆๆ……….”