จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 312 ฉันดูแลเอาใจใส่หญิงอันเป็นที่รักไม่เป็น
การโจมตีอย่างกะทันหันของป๋ายรุ่ยเหวิน เป็นการลอบโจมตีอย่างไร้ข้อกังขา
เหมือนกับว่าด้านหลังของหลินหยุนมีตา หมุนตัวกะทันหัน ยื่นมือออกมาข้างหนึ่งอย่างสงบนิ่งไม่ร้อนรน คว้าหมัดที่โจมตีมาของป๋ายรุ่ยเหวินอย่างแม่นยำ
หมัดที่รวดเร็วและรุนแรง ก็ถูกหลินหยุนจับได้ง่ายๆเช่นนี้ ทำให้สลายไปไร้ร่องรอย
ป๋ายรุ่ยเหวินมองใบหน้าของหลินหยุนที่อยู่ใกล้ชิด สีหน้าประหลาดใจ: “นี่เป็นไปได้อย่างไร!”
หมัดนี่แข็งแกร่งมากเพียงไหน ป๋ายรุ่ยเหวินกระจ่างกว่าผู้ใด เขาใช้แรงกำลังทั้งหมดของทั่วร่างกาย ผลสุดท้ายนึกไม่ถึงว่าจะถูกหลินหยุนสกัดไว้ได้อย่างง่ายดาย!
นอกจากอาจารย์ของเขา ทั้งสำนักก็หาบุคคลที่สามารถสกัดหมัดของเขาอย่างง่ายดายเช่นนี้ ไม่ได้แล้ว
สำหรับความสามารถที่แท้จริงของหลินหยุน ป๋ายรุ่ยเหวินทำได้เพียงใช้คำว่าน่าประหลาดใจมาเปรียบเปรย!
หลินหยุนไร้สีหน้าท่าทางความรู้สึก เสียงเย็นชา แต่ ในเสียงที่ราบเรียบนั้น กลับทำให้คนเกิดความหวาดกลัวขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ฉันเคยบอกแล้ว ฉันไม่ใช่คนที่คุณยั่วยุได้!”
พูดจบ หลินหยุนฝ่ามือหนึ่งตีเข้าไป
ป๋ายรุ่ยเหวินร้องอย่างน่าสังเวชเสียงหนึ่ง กระเด็นสูงออกไป ทั้งคนร่วงตกลงบนพื้นอย่างสะบักสะบอม
“พี่คะ พี่ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ!” ป๋ายรุ่ยซินรีบวิ่งเข้าไปอย่างกังวล นั่งยองลงข้างกายของป๋ายรุ่ยเหวิน ถามอย่างร้อนใจ
“ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร” ป๋ายรุ่ยเหวินพักหายใจ มองหลินหยุน สีหน้าตกตะลึง
ได้ยินป๋ายรุ่ยเหวินบอกว่าไม่เป็นไร ป๋ายรุ่ยซินรีบยืนขึ้นทันที หมุนตัวจ้องไปทางหลินหยุนด้วยความโกรธ ตะโกนเสียงดังว่า: “สารเลว แกกล้าตีพี่ชายของฉันเชียวหรือ! ตอนนี้ฉันจะโทรศัพท์ไปที่บ้าน แกตายแน่!”
หญิงสาวที่ถูกตามใจจนเสียคนผู้นี้ ขวางหน้าของหลินหยุนไว้อย่างคิดไม่ถึง เริ่มโทรศัพท์แล้ว
มุมปากของหลินหยุนปรากฏรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา เดินมาทางป๋ายรุ่ยซินทีละก้าวทีละก้าว พูดด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด: “ก่อนที่จะข่มขู่ฉัน เหมือนว่าเธอจะลืมไปเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ พวกเธอถึงจะเป็นนักโทษ!”
ป๋ายรุ่ยซินในเวลานี้ เหมือนเพิ่งจะตระหนักได้ว่าพวกเธอพี่น้องอยู่ในจุดที่เสียเปรียบ ในใจตระหนกทันที มองไปทางหลินหยุนที่เดินเข้ามาไม่หยุด เริ่มหวาดกลัวแล้ว ถอยหลังทีละก้าวทีละก้าว
“แก แกคิดจะทำอะไร? แกอย่าข้ามานะ!”
หลินหยุนไม่สนใจ เดินเข้าไปข้างกายของป๋ายรุ่ยซินโดยตรง มือข้างหนึ่งหิ้วป๋ายรุ่ยซินที่ตะโกนเสียงดังโวยวาย กล่าวว่า: “ฉันไม่ใช่พ่อของเธอ จะไม่ตามใจเธอ คราวนี้ สั่งสอนเธอสักหน่อยก่อน ให้เธอจดจำไว้”
พูดจบ หลินหยุนเหมือนหิ้วลูกไก่ตัวเล็กๆเช่นนั้น หิ้วป๋ายรุ่ยซิน เดินไปทางถังขยะใบหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าไม่ไกล
ป๋ายรุ่ยเหวินตะโกนเสียงดังอย่างหวาดกลัว: “เจ้าหนุ่ม แกคิดจะทำอะไร? รีบปล่อยน้องสาวของฉัน!”
ป๋ายรุ่ยซินคุณหนูใหญ่ที่ถูกเลี้ยงอย่างตามใจโดยทะนุถนอมตั้งแต่เด็กมาโดยตลอดประเภทนี้ แทบจะโดนทำให้ตกใจจนเซ่อไปแล้ว ตะโกนอย่างหวาดกลัว: “สารเลว แกคิดจะทำอะไร! รีบปล่อยฉัน ฉันเป็นคนของตระกูลป๋ายแห่งเจียงหนาน แกกล้าไม่เคารพฉัน พ่อของฉันจะต้องฆ่าแกแน่!”
หากคนอื่นได้ยินว่าตระกูลป๋ายแห่งเจียงหนาน จะต้องรู้เป็นแน่ ตระกูลป๋ายเป็นตระกูลใหญ่ที่รองมาจากตระกูลอีแห่งเจียงหนาน เปรียบได้กับตระกูลเย่แห่งเจียงหนาน
น่าเสียดาย หลินหยุนไม่ใช่คนของเจียงหนาน ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลป๋ายมาก่อน อีกทั้ง แม้จะได้ยินมาก่อน หลินหยุนก็จะเพิกเฉยโดยตรง
หลินหยุนไม่ได้สนใจการข่มขู่ของป๋ายรุ่ยซิน เดินไปถึงข้างถังขยะ เอาป๋ายรุ่ยซินทิ้งเข้าไปในถังขยะทันที
ร่างกายเล็กๆบอบบางของป๋ายรุ่ยซิน ใส่ไปเต็มถังขยะพอดี
“แหวะ……เหม็นมาก! แกไอสารเลว นึกไม่ถึงว่าแกจะเอาฉันทิ้งลงถังขยะ แกจะต้องไม่ตายดี!” ป๋ายรุ่ยซินขมวดคิ้ว ร้องเสียงดังอย่างเจ็บปวด
เมื่อเปิดปาก ถูกกลิ่นที่แสบจมูกพุ่งเข้าในปากทันที ทำให้หล่อนคลื่นไส้อีกรอบ
หลินหยุนสีหน้าเย็นชา กล่าวอย่างเรียบๆ: “ครั้งนี้เท่ากับเป็นการสั่งสอนพวกเธอนิดหน่อย คราวหน้ามาหาเรื่องฉันอีก จะเอาชีวิตพวกเธอ!”
จัดการพี่น้องตระกูลป๋ายเรียบร้อย หลินหยุนขวางแท็กซี่คันหนึ่งไว้ เดินทางไปคฤหาสน์เฉี่ยนหลงที่ตระกูลอีอยู่
คฤหาสน์เฉี่ยนหลงตั้งอยู่ในเขตชานเมืองเมืองเซียงเฉิง เป็นคฤหาสน์ที่หรูหราที่สุดในเมืองเซียงเฉิงทั้งหมด
และมีเพียงตระกูลอีแห่งเจียงหนานเท่านั้น ถึงจะมีความสามารถที่แท้จริงและคุณสมบัติเข้าอยู่ที่คฤหาสน์เฉี่ยนหลง
วันนี้เป็นวันเกิดของอีหลิง และเป็นวันสำคัญของการยอมรับบุตรสาวของอีหยุ่น
คุณอีได้เอาข่าวสารนี้เผยแพร่ออกไปก่อนครึ่งเดือนแล้ว บุคคลที่มีชื่อเสียงทุกคนทั้งเจียงหนาน ล้วนมาเพื่อกล่าวแสดงความยินดีกับคุณอีในวันนี้ และฉลองวันเกิดให้กับคุณหนูอีหลิง
เพื่อทำให้วันนี้เปลี่ยนเป็นวันที่ครึกครื้นยิ่งใหญ่ไร้ที่เปรียบ คุณอีได้มอบหมายด้วยตนเอง เพียงแค่เป็นคนที่มาฉลองวันเกิดให้กับคุณหนูอีหลิง ปล่อยให้ผ่ายเข้ามาได้ทั้งหมด
สำหรับปัญหาความปลอดภัย ตระกูลอีไม่กังวลโดยสิ้นเชิง มองดูทั้งเจียงหนาน มีใครกล้าปะปนเข้ามาก่อเรื่องในวันสำคัญที่คุณอียอมรับบุตรสาวได้เช่นนี้ นอกซะจากว่าจะไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
ทั้งเจียงหนาน ก็มีเพียงตระกูลอีถึงกล้ามีความมั่นใจชนิดนี้
แต่ แน่นอนว่ามาตรการความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่สุดก็ไม่ขาด
ยามรักษาความปลอดภัยสองคนยืนอยู่ด้านหน้าประตูใหญ่คฤหาสน์เฉี่ยนหลง ยืนตัวตรงร่างกายสูงหนึ่งร้องเก้าสิบเซนติเมตร ห้าวหาญที่สุด
ด้านหน้าประตูใหญ่คฤหาสน์เฉี่ยนหลงรถหรูเต็มไปหมด ที่แย่ที่สุดก็สามล้านขึ้นไป แต่ว่า เวลานี้กลับมีแท็กซี่คันหนึ่งจอดหน้าประตู
หลินหยุนเดินลงจากแท็กซี่ รับรู้ถึงสายตาแปลกประหลาดโดยรอบที่ยิงมาทางเขาทันที
“คิดไม่ถึงจริงๆ งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณหนูอีหลิง ยังจะมีคนนั่งแท็กซี่มาจริงๆ”
“เหอะๆ คาดว่าเป็นเพื่อนนักเรียนจนๆเหล่านั้นของอีหลิง คิดจะมากินฟรีดื่มฟรีในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของอีหลิง!”
สำหรับการหัวเราะเยาะเย้ยของคนเหล่านั้น หลินหยุนไม่ได้ถือสา มองดูไปรอบๆ มีบุคคลที่ประสบความสำเร็จแต่งตัวอย่างสง่างามมากมาย จูงคนที่อายุน้อยกว่าตัวเองสิบยี่สิบปี ภรรยาอายุน้อยที่สะสวยงดงาม เดินเข้าประตูใหญ่
ยามรักษาความปลอดภัยสองคนที่หน้าประตู แม้แต่จะถามก็ไม่ถาม ทำความเคารพอย่างนอบน้อม ปล่อยให้ผ่าน
หลินหยุนตามคนที่มา เดินไปทางประตูใหญ่
แต่ทว่า เมื่อหลินหยุนเดินถึงหน้าประตูใหญ่ ยามรักษาความปลอดภัยสองคนนั้นเรียกไว้อย่างฉับพลัน: “หยุดก่อน!”
“คุณทำงานอะไร?”
หลินหยุนเห็นอย่างชัดเจน ด้านหน้าคนเข้าไปมากมาย ยามรักษาความปลอดภัยสองคนนี้ล้วนไม่ได้สอบถามอะไร จนถึงเขาผู้เดียวเท่านั้น ยามรักษาความปลอดภัยทั้งสองคนจึงได้เปล่งเสียงถาม
ดูท่าแม้แต่ยามรักษาความปลอดภัยของตระกูลอี ก็ไม่สามารถยกเว้นการถือปฏิบัติตามประเพณีได้
แต่ว่า หลินหยุนจะไม่มีเรื่องกับคนที่มีความรู้น้อยเหล่านี้เป็นธรรมดา ตอบอย่างราบเรียบ: “ฉันเป็นเพื่อนนักเรียนของอีหลิง มาฉลองวันเกิดให้เธอ”
ยามรักษาความปลอดภัยสองคนทั้งสองยังคงเต็มไปด้วยความระมัดระวัง หนึ่งในนั้นถามต่อ: “งั้นคุณสามารถบอกโรงเรียนและระดับชั้นของคุณหนูอีหนูออกมาได้ไหม?”
หลินหยุนตอบ: “สถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว สาขาการแสดงห้องหนึ่ง”
“เข้าไปเถอะ!” ยามรักษาความปลอดภัยผู้นั้นกล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่เต็มใจ
หากว่าไม่ใช่งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของคุณหนูอีหลิง พวกเราได้รับประกาศของคุณอี เหมือนคนที่แต่งตัวกระจอกแบบนี้ ทั้งยังเป็นคนไม่มีชื่อเสียงที่นั่งแท็กซี่มาอีก ไม่มีคุณสมบัติเข้าประตูใหญ่คฤหาสน์เฉี่ยนหลงโดยสิ้นเชิง
เข้ามาในคฤหาสน์ ทันใดนั้นก็มีคนรับ นำทางหลินหยุน มาถึงห้องจัดงานเลี้ยงใหญ่
จินตนาการได้ยากมาก ภายในคฤหาสน์ มีห้องโถงใหญ่โตโอ่อ่าเพียงนี้ห้องหนึ่งอย่างไม่คาดคิด แม้ว่าจัดงานเลี้ยงสิบกว่าโต๊ะ ก็ไม่เห็นถึงความแออัด
บางที นี่เป็นการออกแบบเพื่อเชิญแขกมางานเลี้ยงของตระกูลอีโดยเฉพาะ
ห้องโถงใหญ่คนนับร้อย ก็ไม่ได้เอะอะวุ่นวาย แม้ว่าทุกคนล้วนกำลังพูดคุยกัน แต่ล้วนพยายามกดเสียงต่ำอย่างเต็มที่ เป็นกิริยาท่าทางที่แสดงออกอย่างสุภาพ
หลินหยุนเพิ่งเข้ามา ก็มีคนรับใช้โดยเฉพาะผู้หนึ่งเดินเข้ามา โค้งตัวทำความเคารพต่อหลินหยุน: “สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย ขออนุญาตสอบถามว่าคุณเป็นเพื่อนนักเรียนของคุณหนูอีหลิงใช่ไหมคะ?”
หลินหยุนพยักหน้า
“ขออภัยนะคะคุณผู้ชาย เนื่องจากแขกที่มาค่อนข้างมาก เพื่อทำให้งานเลี้ยงเป็นระบบระเบียบ พวกเราดำเนินการแยกกันต้อนรับแขก เพื่อนๆและเพื่อนนักเรียนของคุณหนูอีหลิง ล้วนอยู่ทางนั้นทั้งหมดค่ะ”
คนรับใช้กล่าวและชี้ตำแหน่งตรงมุมตะวันออกเฉียงใต้ของห้องโถงใหญ่ ตรงนั้นวัยรุ่นชายหญิงรวมตัวกันมากมายแล้ว ผู้ชายหล่อเหลา ผู้หญิงสะสวยงดงาม
วัยรุ่นหนุ่มสาวเหล่านี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกหลายของคนในพื้นที่เจียงหนานที่มีฐานะร่ำรวย นอกจากนี้ส่วนน้อยคือรีบมาจากหลินโจวโดยเฉพาะ เพื่อนนักเรียนหรือเพื่อนๆที่มาเพื่อฉลองวันเกิดให้อีหลิง
แน่นอน คนส่วนใหญ่ในนั้น ล้วนไม่ได้ถูกอีหลิงเชิญมา แต่เพราะหลังจากที่ได้ยินฐานะของอีหลิงแล้ว เริ่มมาประจบประแจงอีหลิงด้วยตัวเอง
ด้านในนี้ มีคนที่หลินหยุนรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดีคนหนึ่ง กู้ซิวหรั่น